“ข้าจ้างให้ท่านไปขู่นาง มิใช่ไปไล่นาง!” ลั่วจินกั่วตวาดอย่างหัวเสีย “กะ...ก็นางปากดี ข้าก็เลยเผลอไป” ป้าจงแก้ตัว ลั่วจินกั่วเดินวนไปวนมาด้วยความร้อนใจ หากอวี่เยียนย้ายออกไปจริงๆ จะทำอย่างไร หากถึงขั้นย้ายออกจากหมู่บ้านไปเลยเล่า ลั่วจินกั่วคงต้องคลั่งตายแน่ๆ “คือข้าสงสัยน่ะ เห็นอยู่ว่านางอยู่ร่วมกับบุรุษตาบอดนั่น แล้วทำไมท่านถึงยังอยากได้นางอีก” ป้าจงเอ่ยถาม ลั่วจินกั่วเค้นเสียงหัวเราะ ปรายตามองป้าจง “หากข้าอยากได้ แม้นางจะตกเป็นของคนอื่นไปแล้ว ข้าก็ยังอยากได้” นี่เขาโง่หรือบ้าไปแล้วเนี่ย ป้าจงลอบคิด “แล้วจะทำอย่างไรต่อ” “ข้าต้องทำอะไรบางอย่าง... ไม่ให้นางย้ายออกจากเรือนหลังนั้น” อวี่เยียนไม่รู้เลยว่าจะยอมย้ายออกจากเรือนตามคำท้าของป้าจงหรือจะขายของบางอย่างในเรือนเพื่อมาเป็นค่าเช่าแทน ความจริงยังเหลือเวลาอีกเป็นอาทิตย์กว่าจะถึงกำหนดจ่าย ซึ่งผักที่อวี่เยียนปลูกไว้ก็จะโตเต็มที่พร้อมนำ