หิวข้าวหรือเจ้าคะ?

1273 Words
"อือ...." ฉันงัวเงียรู้สึกตัวเมื่อรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างกำลังรบกวนการนอนของฉันอยู่ "เฮือก!! ทะ...ท่าน.."ฉันสะดุ้งตื่นตาโตเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเจอหน้าของโจวตงหยางที่อยู่ใกล้ในระยะประชิดเขานอนตะแคงมองฉันพร้อมกับยื่นมือมาเขี่ยแก้มฉันเล่น "เจ้านี่ช่างขี้เซาและช่างอ้อนเหมือนแมวเสียจริง" เขาพูดขึ้นพลางยกยิ้มที่มุมปาก "เอ่อ...ขะ...ข้าต้องกลับตำหนักแล้วเจ้าค่ะ" ฉันบอกเขาและพยายามลุกออกจากเตียง "ข้าอนุญาตแล้วหรือ?" เขาเอ่ยถามพร้อมกับกดไหล่ฉันลงนอนที่เดิมก่อนจะเปลี่ยนมาคร่อมฉันไว้เพื่อไม่ให้ลุกได้และมองหน้าฉันอย่างเจ้าเล่ห์ "ปล่อยข้ากลับตำหนักเถิดเจ้าค่ะข้าหายมาทั้งคืนแล้วเดี๋ยวชิงชิงจะเป็นห่วง" ฉันพยายามหาเหตุผลมาอ้างเพื่อที่จะออกไปจากที่นี่ "เมื่อคืนข้าให้บ่าวไปตามเจ้านางย่อมรู้ว่าเจ้าอยู่กับข้านางจะเป็นห่วงเรื่องใดอีก?" เขาเอียงคอถามพลางโน้มใบหน้าลงมาแทบจะชิดหน้าของฉัน เออจริง! ในจวนนี้เขาใหญ่สุด แต่ด้วยนิสัยของเขาที่ชิงชิงเคยเล่าให้ฟังว่าโหดเหี้ยมนั้น ชิงชิงอาจจะคิดว่าฉันโดนเขาฆ่าไปแล้วก็ได้มั้ง แต่พอได้ใกล้ชิดจริงๆ ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีแบบนั้นกันนะ? ฉันยังคงนอนจ้องหน้าเขาพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนเพื่อให้เขาปล่อยฉันกลับอยู่แต่เขาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจเลยเขาเอาแต่จ้องมาที่ฉันแล้วก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่อย่างนั้น "ทะ...ท่านจะปล่อยข้าได้หรือยังเจ้าคะ?" ฉันตัดสินใจถามเขาอีกรอบนึงหลังจากที่จ้องหน้ากันมาสักพัก นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันไม่ท้องแล้วเรอะจ้องขนาดนี้ "ขึ้นอยู่ที่ว่าเจ้าจะทำให้ข้าพอใจที่จะปล่อยเจ้ากลับหรือไม่"เขาตอบออกมาพลางทำสีหน้าเจ้าเล่ห์รอบที่ล้านแปด มายก็อดดดด~ยิ่งเขาทำหน้ายิ้มแบบนี้เขายิ่งเซ็กซี่และน่ามองสุดๆ เขามีเสน่ห์มากจนบางทีฉันก็เคลิ้มตามอย่างขัดขืนไม่ได้ "ข้าต้องทำอย่างไรเจ้าคะ?" ฉันรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไปทั้งที่ในใจแอบหวั่นว่าเขาจะคิดให้ฉันทำอะไรที่มันพิเรนทร์ๆ ไหม "งั้นเรามาทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุกกันดีไหม?" เขาเอียงคอพูดพร้อมกับจ้องมาที่ฉันอย่างเจ้าเล่ห์ "ทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุก? ท่านอ๋องหิวข้าวหรือเจ้าคะ? ได้เจ้าค่ะข้าจะไปโรงครัวไปหุงข้าวให้ท่านเดี๋ยวนี้เลย" ฉันพูดออกไปตามความคิดทันที อยากกินข้าวก็บอกกันดีๆ ก็ได้ป่ะ แค่หุงข้าวฉันทำได้อยู่แล้ว สบ๊ายยยยย "เจ้านี่สงสัยจะเลอะเลือนแล้วจริงๆ" เขาดึงฉันที่กำลังลุกออกจากเตียงให้กลับมานอนที่เดิมอีกครั้ง "ทะ...ทำอะไรเจ้าคะท่านหิวไม่ใช่หรือข้าก็จะรีบไปหุงข้าวให้ท่านไงเจ้าคะ" ฉันรีบบอกเขาหน้าตาตื่นเมื่อเขาดึงฉันกลับมาตรึงบนเตียงอีกครั้งพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามา "ข้าต้องการให้เจ้าปรนนิบัติข้าต่างหากเล่า" เขาก้มมากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าทำให้ฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัว "ปรนนิบัติ? ได้สิเจ้าคะท่านปวดเมื่อยที่ใดข้าจะนวดให้เจ้าค่ะ หรือท่านอยากดื่มน้ำเจ้าคะข้าจะไปรินมาให้ ระ...หรือท่านร้อนมั้ยเจ้าคะเดี๋ยวข้าจะพัดให้" ฉันทวนคำของเขาแค่จะให้ปรนนิบัติพัดวีนี่จำเป็นต้องกระซิบเสียงเซ็กซี่ขนาดนี้เลยหรอพ่อคู๊ณณณ~ "เห้อ~ ข้าหมดอารมณ์แล้วเจ้ากลับตำหนักไปเถอะ" เขาบอกกับฉันพร้อมกับทำหน้าเซ็งก่อนจะลุกขึ้นนั่งปล่อยตัวฉันเป็นอิสระฉันจึงรีบดีดตังลุกขึ้นนั่งทันที "งั้นข้าขอลาเจ้าค่ะ"ฉันหันไปยิ้มให้เขาทันทีเมื่อตัวเองได้รับอิสระ "เดี๋ยวก่อน!" เขารั้งตัวฉันไว้ในตอนที่ฉันกำลังจะลุกออกจากเตียงของเขา จนทำให้ฉันเซตัวลงมาในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งทันที จะลุกทีก็ดึงทีเมื่อไหร่จะได้กลับค๊าาาา "ทะ...ท่านไม่ได้ว่าจะปล่อยข้าไปหรือเจ้าคะ?" ฉันถามขึ้นพลางจ้องมองหน้าเขาอย่างสงสัย ใจน้อยๆ ของฉันก็เต้นรัวขึ้นมา "ข้าย่อมปล่อยเจ้าไปอยู่แล้วเพียงแต่..."เขามองหน้าฉันแล้วเงียบนิ่งไป "เพียงแต่อะ....อื้อออ!!" ฉันโดนเขาจู่โจมปิดปากอีกแล้วแม่!! อีตานี่เผลอเป็นไม่ได้เอะอะจูบอย่างเดียวเลย "อื้อ!!" ฉันประท้วงเขาในลำคอพลางยกมือขึ้นทุบอกเขาเล็กน้อยเพราะเขาบดขยี้ริมฝีปากเข้ามาอย่างแรงจนตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกเจ็บ "อืมมม..."เขาส่งเสียงในลำคอออกมาเล็กน้อยก่อนจะรวบมือของฉันไว้ในมือเขาและเปลี่ยนจากการกระแทกจูบอย่างรุนแรงเป็นจูบที่อ่อนโยนและแสนหวานนั่นทำให้สมองของฉันเริ่มขาวโพลนไปหมด เขายกมือข้างหนึ่งของเขาขึ้นมาประครองหน้าฉันไว้พร้อมกับบดริมฝีปากเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ แต่ฉันก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรเขาได้เลยทำได้เพียงหลับตายอมรับสัมผัสนั้นและปล่อยให้เขารุกล้ำเข้ามาภายในโพรงปากของฉันได้ตามใจ "ท่านอ๋องขอรับ!!!" เสียงของบุคคลที่เข้ามาใหม่ที่เปิดกับประตูพรวดเข้ามาทำให้ฉันรีบผลักเขาออกอย่างตกใจ สีหน้าของโจวตงหยางเองก็เหวอไม่น้อยกับเหตุการณ์นี้ก่อนที่เขาจะปรับสีหน้าเป็นปกติและหันไปจ้องมองผู้ที่เข้ามาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์นัก "เอ่อ...ขออภัยขอรับงั้นเดี๋ยวข้าค่อยมาหาท่านใหม่ขอรับ"ชายคนนั้นก้มคารวะให้เขาก่อนทำท่าจะเดินออกไป "ไม่ต้องหรอกเจ้าคุยกับท่านอ๋องเถิด ขะ...ข้าต้องกลับตำหนักแล้ว"ฉันพูดออกไปอย่างสั่นๆ พร้อมกับรีบออกจากห้องของโจวตงหยางมาโดยที่ไม่ลืมหยิบเสื้อคลุมที่โดนถอดออกเมื่อคืนมาใส่ก่อนจะออกจากห้องมา ฟู่วววว~ ให้ตายเถอะอีตานี่จ้องจะกินฉันอีกแล้วแล้วฉันก็ดันเคลิ้มตามด้วยนะ น่าโมโหตัวเองชะมัด!! ...... "มีเรื่องอันใดว่ามา!" ข้าเอ่ยขึ้นเมื่อจินเยว่ออกไปจากตำหนักแล้ว หนานจิ้งเดินไปปิดประตูพร้อมกับเดินกลับมายืนตำแหน่งเดิมอีกครั้ง "ข้าสืบเรื่องภายในวังได้ความว่าบัดนี้อัครเสนาบดีโจวกำลังซ่องสุมกำลังทหารขอรับ แต่หากตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนและสถานที่ซ่องสุมท่านอ๋องจะให้ข้านำเรื่องนี้แจ้งแก่องค์รัชทายาทด้วยหรือไม่ขอรับ" หนานจิ้งเอ่ยขึ้นสีหน้าวิตกเพราะตอนนี้สถานการณ์ภายในวังไม่แน่นอน ภายนอกนั้นดูเหมือนสงบร่มเย็นแต่ภายในกลับมีแต่การแย่งชิงอำนาจระหว่างกันซึ่งข้ากับมู่เฉินหาได้ต้องการไม่ มู่เฉินแม้จะเป็นน้องชายต่างมารดาของข้าและได้ครองตำแหน่งองค์รัชทายาทที่มันควรเป็นของข้าไปแต่ข้าก็ไม่ได้ขุ่นเคืองสิ่งใดเลยแม้เแต่น้อย กลับกันมู่เฉินต่างหากที่จะต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการปกครองแคว้นในอนาคตแทนข้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD