งานแต่งงานถูกจัดขึ้นแบบไม่มีฝ่ายไหนเต็มใจ แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองก็ดูไม่ได้ดีใจมากนักเพราะสินสอดทองหมั้นที่ควรได้ลดลงไปมากกว่าครึ่ง พวกท่านแทบไม่มองหน้าของเธอด้วยซ้ำ คุณหญิงย่ากิ่งฉัตรที่เคยเอ็นดูนักหนาก็โกรธถึงขนาดไม่ยอมรดน้ำสังข์ให้เจ้าสาว ท่านรดน้ำสังข์ให้เพียงหลานชายตัวเองเท่านั้น
ถ้าฝืนใจกันขนาดนี้จะจัดงานนี้ขึ้นมาทำไมฮันนี่ไม่เข้าใจ ตอนเธอยืนกรานไม่แต่งงาน พ่อกับแม่แทบจะฆ่าแกงกัน ตัดเงินตัดบัตรทุกใบ จนเธอหมดหนทางต่อต้าน วันงานก็มาร่วมพิธีแบบส่ง ๆ อยากได้แค่สินสอดทองหมั้น คนอื่นไม่รดน้ำสังข์ให้ลูกสาวตัวเองยังยืนเฉย
มือเจ้าสาวแห้งสนิทเพราะไม่มีใครเดินมารดน้ำสังข์ให้สักคน ฮันนี่เวทนาตัวเองถึงที่สุด ขนาดพ่อแม่ตัวเองยังไม่คิดออกตัวปกป้อง หากตัดขาดลูกสาวคนนี้คงทำไปแล้ว คนมาร่วมงานมีเท่าหยิบมือ ประหนึ่งกลัวคนรับรู้ว่ามีการจัดงาน ทะเบียนสมรสก็ไม่มี
พิธีทุกอย่างเสร็จเธอกับไอศูรย์ก็ต้องมาอยู่ในเรือนหอข้าง ๆ ตึกใหญ่ บ้านหลังเล็กขนาดกำลังน่ารักสำหรับเธอ แต่มันกลับน่าอับอายสำหรับพ่อกับแม่ พวกท่านมองบ้านหลังนี้ราวกับเป็นบ้านเก่าผุพังที่อยู่ไม่ได้แล้ว
“พ่อกับแม่จะกลับหรือค้างที่นี่คะ อยู่ก่อนได้ไหม ฮันนี่ไม่อยากอยู่คนเดียว” เธอชวนเพราะไม่อยากอยู่กับไอศูรย์ตามลำพัง
“อย่ามามารยายัยฮันนี่ แกเหรอจะไม่อยากอยู่ที่นี่”
คุณสินีชักสีหน้าใส่ลูกสาว
“แม่คะฮันนี่พูดจริง สงสารฮันนี่เถอะนะคะ” เธอทำหน้าอ้อนแม่ผู้เคยตามใจนางร้ายมาตลอด ทว่าวันนี้กลับทำเหมือนเกลียดชังกันมาหลายภพชาติ
“พวกฉันไม่เชื่อแกหรอก อยู่ที่นี่อย่างสงบด้วย ให้แกจำใส่สมองเอาไว้ว่าบ้านเราถังแตก ต้องพึ่งพาบ้านนี้ ถ้าแกก่อเรื่องงามหน้าอีก แกไสหัวไปแล้วไม่ต้องมาเรียกฉันสองคนว่าพ่อแม่”
ผู้เป็นพ่อแสดงสีหน้ารำคาญชัดพร้อมกับข่มขู่ในคราวเดียวกัน
“คุณคะเรากลับกันเถอะ ถ้าคุณหญิงเปลี่ยนใจจะแย่เอา”
คุณสินีสะกิดสามี
พวกท่านมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะรีบออกจากเรือนหอของลูกสาว
“สมเป็นพ่อแม่นางร้ายจริง ๆ โคตรเห็นแก่ตัว”
เธอสบถตามหลังคนทั้งสอง บีบให้ลูกตัวเองแต่งงานเพราะอยากได้เงิน
หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะกลับเข้าห้องหอ ทว่าสภาพที่เห็นคือเจ้าบ่าวกำลังหอบเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ราวกับจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ ฮันนี่ยืนกอดอกมองเขาเก็บของใส่กระเป๋านิ่ง ๆ ไม่ได้โวยวายอะไร
“ทำอะไรคะ” ย้ายออกไปเลยยิ่งดี
“ฉันจะไม่นอนที่นี่ งานแต่งครั้งนี้เชิญเธอสุขใจไปคนเดียวเถอะ!” เขามองภรรยาด้วยหางตา ไอศูรย์บอกกับตัวเองเสมอว่าจะไม่หลงกลมารยายัยตัวร้ายอีก
“เดี๋ยว ๆ ฮันนี่ว่าคุณกำลังเข้าใจผิด คุณก็เห็นนี่คะว่าฮันนี่เองก็ไม่ได้อยากแต่งงาน” หน้าเธอเหมือนคนยินดีเหรอ ทำไมเขาถึงคิดว่าเธออยากแต่งงาน
“ไม่อยากแต่งแล้วทำเรื่องมากมายทำไม อย่าโกหกเลย ฉันไม่หลงกลคนอย่างเธอหรอก ที่งานแต่งเกิดขึ้นได้เพราะสัญญาที่คุณปู่เคยพูดไว้ ไม่ใช่พิศวาสอะไรตัวเธอ หนึ่งปีเท่านั้นที่เธอจะได้ใช้ชีวิตในฐานะสะใภ้บ้านนี้!”
หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจทุกอย่าง เกิดเป็นพระเอกก็ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย ต้องฝืนอยู่กับนางร้ายเพียงเพราะผู้ใหญ่บังคับ ถ้าเป็นเธอไม่ยอมให้ลูกหลานทำหรอก คุณปู่ตายไปตั้งแต่ชาติไหนแล้ว ทำไมยังต้องมารักษาสัญญากันอยู่
“เดี๋ยวค่ะ ก่อนไปช่วยรูดซิปให้ฮันนี่ก่อนได้ไหม ฮันนี่ทำเองไม่ได้” บ้านนี้มีแค่เธอกับเขา หากเขาไม่ช่วยคนลำบากก็คือเธอ ฮันนี่ไม่อยากนอนหลับไปทั้งชุดเจ้าสาวแบบนี้
เขาหันมามองตาขวางซึ่งฮันนี่ไม่ใส่ใจอะไร หันหลังให้แทนการถกเถียงให้มากความ