6.1

1589 Words
“ข้าไม่รู้หรอกนะ เจ้าเกี่ยวข้องกับสกุลเจียวยังไง แต่การสวมอาภรณ์เช่นนี้เข้าฝ่ายใน สิ่งที่เจ้าคิดไว้ ไม่มีทางสำเร็จ” ข่าวลือหน้าหูเรื่องดวงชะตาหญิงสกุลเจียว แพร่สะพัดอยู่ระยะหนึ่ง และข่าวลือนั่นฟางซินเองก็เคยได้ยิน เขาไม่เชื่อถือเรื่องโชคชะตาสักเท่าไหร่ เพราะหากไม่ลงมือทำ รอแต่วาสนา เขากับสกุลโจคงไม่มาถึงจุดนี้ เจียวลู่สะดุ้ง!! คิดไม่ถึงว่าบุรุษกระด้างคนนี้จะมองออก มือของนางกำชายเสื้อคลุมลายดอกเหมยแน่น เรียวปากสีคล้ายๆ เสื้อคลุมเม้มจนเป็นเส้นตรง “หากเจ้ายังไม่อยากเปิดเผยก่อนการใหญ่จะสำเร็จ เจ้าควรเปลี่ยนชุดนี้ และซ่อนไว้ให้ดี” คำแนะนำด้วยความหวังดี เจียวลู่ลังเล แต่นางไม่มีใครให้ปรึกษาเลย อาภรณ์ที่นำมาจากเรือนนารีมีแค่ไม่กี่ชุด นางอาจจะคิดน้อยไปหน่อย เลยคว้าชุดที่สวยถูกใจที่สุดมาสวม ลายปักทุกฝีเข็มบนเสื้อคลุมตัวนี้ เจียวเจี๋ยเป็นคนปักเองทุกฝีเข็ม “ข้าเชื่อท่าน” ในนาทีนี้อะไรก็ตามที่ขัดขวางภารกิจนี้ เจียวลู่ยอมตัดทิ้ง นางทำท่าจะถอดชุดคลุม จนฟางซินตกใจ “เดี๋ยว!!” เจียวลู่ช้อนสายตามอง ฟางซินรีบหลุบเปลือกตาลง ดวงหน้างดงามนั่นกำลังทำให้ความสุขุมของเขาสั่นคลอน อาการเช่นนี้เกิดขึ้น ตั้งแต่เผลอสบตาดรุณีน้อยที่เดินออกมาจากห้องเก็บฟืนแล้ว ฟางหรงก้มหน้ากลั้นหัวเราะจนไหล่กระเพื่อม แม้จะเก็บอาการ แต่ฟางซินไม่เคยเป็นเช่นนี้ พี่ชายของเขานั่งตัวเกร็งมาตลอดทาง การตัดสินใจก็เชื่องช้าอืดอาดเหมือนไม่ใช่ตัวเอง การสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทของสกุลเจียวก็เช่นกัน หากเป็นเมื่อก่อน ดรุณีน้อยสองนางนี้ ไม่มีทางได้ขึ้นมาเหยียบรถม้าสกุลโจอย่างแน่นอน “เจ้าใจเย็นก่อน” ฟางซินกล่าวเสียงแหบ เจียวลู่กะพริบเปลือกตาปริบๆ เมื่อนึกขึ้นได้ นางก็รีบกระถดตัวหนี ขยับไปจนเกือบถึงปากประตูรถม้า “ฟางหรง ลงไปจัดการแทนข้าที” ฟางซินยื่อห่อเงินให้น้องชาย ฟางหรงเลยรีบลงไปจัดการตามที่พี่ชายสั่ง “เจ้าน่ะ ไปกับข้าด้วย” ฟางหรงชวนเจินเอ๋อไปด้วย เขาไม่ถนัดเกี่ยวกับเสื้อผ้าอิสตรี เขาเดินดุ่มๆ เข้าไปในร้านค้าอาภรณ์สตรี มีเจินเอ๋อเดินตามมาติดๆ “หาชุดคลุมให้คุณหนูของเจ้าสิ” ฟางหรงยัดถุงเงินใส่มือเจินเอ๋อ แล้วก็ยืนกอดอกรอตรงนั้น แม้จะยังไม่เข้าใจ แต่เจินเอ๋อก็ทำตามที่ฟางหรงสั่ง ใช้เวลาไม่นาน อาภรณ์ชุดใหม่ก็มาอยู่ในห่อผ้าของนาง “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” เจินเอ๋อส่งถุงเงินคืนเจ้าของ ฟางหรงรับมาแง้มดูเหรียญเงินด้านใน แล้วก็อดบ่นไม่ได้ “แค่อาภรณ์ชุดเดียวทำไมแพงจัง” เจินเอ๋อไม่ได้พูดอะไร นางเดินตามฟางหรงออกจากร้าน “เจ้าน่ะ เข้าไปสิ” ฟางหรงกระซิบบอก เขานั่งแทนที่เจินเอ๋อ พอฟางซินเห็นเจินเอ๋อเข้ามาด้านใน เขาก็ลุกขึ้นยืน เดินออกมานั่งข้างๆ น้องชาย ผิวแก้มฟางซินขึ้นสีจัด ขนาดผิวคล้ำๆ ยังพอมองเห็นริ้วแก้มสีแดง “เกิดอะไรขึ้นหรือคุณหนู” เจินเอ๋อถามเจียวลู่ พลางยื่นห่อผ้าให้ เจียวลู่ข่มความอาย รีบสลัดเสื้อคลุมและเปลี่ยนใส่ชุดใหม่ที่เจินเอ๋อเลือกมาให้ “เปลี่ยนทำไมคุณหนู เสื้อคลุมนี้ฝีมือคุณหนูใหญ่เลยนะเจ้าคะ ทั้งเสี่ยวเป้ยตอนนี้ ไม่น่าจะมีช่างฝีมือคนไหนเทียบได้” “เพราะแบบนี้ไงข้าถึงต้องเปลี่ยน เจ้าไม่คิดบ้างหรือเจินเอ๋อ หากมีสักคนจำฝีมือปักของพี่ใหญ่ได้ ข้ามีหรือจะผ่านด่านครั้งนี้” แม้ยังไม่รู้ส้เหตุที่สกุลเจียวถูกฆ่าล้างบาง เจียวลู่ก็พอจะเดาออก บิดา มารดาคงไปขัดแข้งขัดขาผู้มีอำนาจสักคน เรื่องนั้นเจียวลู่ต้องสืบให้ชัด การเข่นฆ่าแบบไม่ให้เหลือทายาทสืบสกุลเช่นนี้ คนบงการต้องอำมหิตขนาดไหน “ข้าลืมคิดไป คุณหนูใหญ่เอง ก็คงคิดไม่ถึง” เจินเอ๋อพึมพำ นอกจากแผนการสืบแล้ว เจียวเจี๋ยแทบไม่พูดถึงเรื่องอื่นเลย เจียวลู่เร่งเปลี่ยนชุดคลุม แล้วก็นั่งสำรวมอยู่ที่เดิม ยิ่งใกล้เขตวังหลวง หัวจิตหัวใจของเจียวลู่ก็ยิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ข้าส่งเจ้าได้เท่านี้” ฟางซินโผล่หน้าเข้าไปในรถม้า เขากล่าวเสียงขรึม “ขอบคุณคุณชาย ไว้มีโอกาส ข้าจะไม่ลืมทดแทนแน่” เจียวลู่พึมพำ แล้วก็เดินผ่านฟางซินไป มือแข็งแรงยื่นมาให้จับ ขณะที่เจียวลู่ลังเล นางจะลงจากรถม้านี่ยังไง ในเมื่อไม่มีบันไดให้ลง นางอดคิดตอนที่ขึ้นมาบนรถม้าไม่ได้ อุ้งมือร้อนผ่าวของฟางซินช้อนอยู่ใต้แขน แล้วก็ยกนางขึ้นมาบนนี้ เจียวลู่หลุบเปลือกตาลง ตอนที่วางมือบนอุ้งมือนั้น ผิวแก้มของนางก็ร้อนฉ่าเหมือนเอาเปลวไฟมานาบ “ขอบคุณ คุณชาย” เสียงพึมพำนั่น ฟางซินอดอมยิ้มไม่ได้ “เจ้าขอบคุณข้า บ่อยเกินไปแล้ว” ฟางหรงแสร้งเบือนหน้าหนี เขากลั้นยิ้มจนปวดแก้ม ฟางซินมองตามแผ่นหลังของสองดรุณีน้อยนั่นไป เขาถอนใจแรงๆ ตอนที่สปริงตัวขึ้นมาบนรถม้า “ข้าคงต้องสั่งให้ลี่หยางทำบันไดสำหรับรถม้าไว้สักอัน ไม่อย่างนั้นท่านพี่ลำบากแย่เลย” เสียงเปรยลอยๆ ของน้องชายไม่ได้ทำให้สีหน้านิ่งๆ ของฟางซินสะเทือน เขาไม่ได้ปริปากพูด แถมความคิดยังตรงกันข้าม เพราะหากมีบันได เขาจะมีโอกาสได้แตะต้องมือนุ่มนิ่มของสตรีนางนั้นหรือ เจียวลู่พยายามยิ้ม และไม่แสดงพิรุธตอนที่ยืนเอกสารแสดงตัว “เจ้าเป็นคนสกุลโจหรือไม่” เจียวลู่กะพริบเปลือกตาปริบๆ หลังนางกำนัลฝ่ายในที่มีหน้าที่ตรวจเอกสารของสตรีทุกคนที่เข้ามาคัดเลือกถามนางแบบนั้น “ไม่เจ้าค่ะ” “แล้วทำไมเจ้าถึงลงมาจากรถม้าสกุลโจได้” “คุณชายฟางซินมีเมตตาให้ข้าอาศัยมาด้วยเจ้าค่ะ” เจินเอ๋อพูดสอด “อ้อ แบบนั้นเองรึ” “เจ้าค่ะ” “เอกสารเจ้าละ” นางกำนัลถามเจินเอ๋อ “ข้าไม่ได้มาคัดเลือก คุณหนูของข้าเท่านั้นที่มาคัดเลือกครั้งนี้” “หมดธุระของเจ้าแล้วก็ไปสิ ที่นี่ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาเดินเพ่นพ่าน” “คุณหนู ข้าจะรอฟังผลอยู่แถวนี้นะเจ้าคะ” เจินเอ๋อกระซิบบอก เจียวลู่พยักหน้า พยายามตัดทุกความกังวลทิ้ง นางจะต้องผ่านการคัดเลือกครั้งนี้ “รูปหน้าเจ้า เหมือนคุ้นตาข้าพิกล” นางกำนัลผู้นั้นเปรยลอยๆ “ข้าอาจจะหน้าคล้ายคนที่ท่านรู้จัก” เจียวลู่ตอบ แววตาเป็นปกติ ไม่ได้รู้สึกตระหนกอะไรเลย นางสงบมากกว่าทุกครั้ง เสียงของเจียวเจี๋ยดังอยู่ในหู ‘ความสามารถของเจ้า ผ่านด่านสามด่านนั้นได้อยู่แล้ว เพราะนอกจากพี่ คงไม่มีใครที่เอาชนะเจ้าได้นะลู่เอ๋อ’ ด่านแรกชงชา ด่านสองจัดดอกไม้ ด่านสามการพับผ้า ซึ่งทั้งสามด่านนั่น เจียวลู่ฝึกปรือมาอย่างดี แม้หลับตา นางก็เชื่อว่าตัวเองทำได้ดี “ไทเฮาเสด็จ” เสียงขันทีผู้เฒ่าตะโกนต่อกันเป็นทอดๆ เจียวลู่เม้มปาก ไทเฮาก็เป็นอีกคนที่เจียวลู่ต้องหาโอกาสเข้าใกล้ สนมผู่เยว่เดินออกมาจากหลังม่านไม้ไผ่ นางทำความเคารพตามพิธี ไทเฮาที่เพิ่งมาถึงปรายหางตามอง ก่อนจะเดินเลยไปนั่งที่เก้าอี้ตัวใหญ่ “ข้าคงไม่ได้มารบกวนเจ้าใช่ไหม สนมผู่เยว่” สุรเสียงแหบเครือแฝงความท้าทาย “เสด็จแม่มาเป็นเกียรติให้กับหม่อมฉันเสียมากกว่าเพคะ” ผู่เยว่กัดฟันพูด ไทเฮามาแทรกครั้งนี้ ต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ ผู่เยว่มองเลยไปที่สตรีหลายร้อยนางที่หมอบอยู่ด้านหลัง หนึ่งในนั้นอาจมีสักคนที่สะดุดตาฮ่องเต้ และทำให้ฐานะของนางสั่นคลอน “ครั้งนี้ มีแต่สตรีหน้าตาดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ” สายตาเฉียบคมมองปราดเดียว ก็สามารถเดาได้ แม้สตรีเหล่านั้นจะยังก้มหน้าอยู่ “เสด็จแม่พระเนตรยาวไกลมากเลยเพคะ” ผู่เยว่แอบเหน็บเล็กๆ “คนแก่อย่างข้า สายตาจะดีเท่าสาวๆ อย่างเจ้าได้ยังไงละสนมผู่เยว่” ไทเฮาตอบกลับ แล้วก็โบกพระหัตถ์เรียกขันทีผู้เฒ่ามาใกล้ “เจ้าน่ะ ลองหาสตรีหน้าตาอ่อนเยาว์ให้ข้าสักสามนางนะ ข้าจะให้ไปอยู่ที่ตำหนักซินหัว” สนมผู่เยว่เม้มปาก ไทเฮาคงกำลังมองหาสตรีที่มีดวงให้กำเนิดโอรสสวรรค์อยู่แน่ๆ หลายปีที่อยู่เคียงข้างฮ่องเต้ ไม่มีสนมนางไหนตั้งครรภ์ได้ ตราบใดที่นางยังให้กำเนิดทายาทฮ่องเต้ไม่ได้ ไม่ว่าจะสนมหรือนางกำนัลที่ถวายตัวคนไหนก็ไม่มีสิทธิ์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD