6

1549 Words
เจินเอ๋อชะงัก เงยหน้ามองสบตาฟางหรง “คุณชาย คุณหนูของข้าต้องเข้าไปคัดเลือกนางกำนัล แต่ข้า...” “ที่นี่มีที่กินที่นอนให้เจ้า แต่ข้าไม่สามารถเจียดค่าแรงให้ได้ หากเจ้าไม่รังเกียจ อยู่ช่วยทำงานที่เรือนครัวได้นะ” ไม่รู้อะไรดลใจ ทั้งที่ตัวเองอยู่ในเมืองอีกไม่นาน จวนสกุลโจมีคนทำงานไม่น้อย หากเพิ่มดรุณีที่น่าสงสารอีกคน ก็คงไม่เปลืองข้าวเปลืองน้ำสักเท่าไหร่ เจินเอ๋อยิ้มจางๆ ค้อมศีรษะแทบจรดพื้น “ขอบคุณ คุณชาย” “คุณหนูรอง ไม่ต้องห่วงข้าแล้ว” เจินเอ๋อเดินเร็วๆ เข้าไปหาเจียวลู่ที่สวมอาภรณ์เสร็จพอดี ฟางหรงตะลึ่งไปชั่วครู่ ดรุณีที่มอมแมมก่อนหน้านี้ พอเปลี่ยนอาภรณ์เท่านั้นแหละ นางงดงามจนแทบลืมหายใจ เจียวลู่ค้อมศีรษะให้ฟางหรงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูโรงเก็บฟืน “ข้าขอบคุณคุณชายอีกครั้ง ข้าสัญญา หากข้ามีที่ทางที่วางใจได้ ข้าจะมารับเจินเอ๋อไป” “เรื่องเล็กน้อย” ฟางหรงพึมพำ พลางหรี่เปลือกตาลง “ข้าเองก็ต้องเข้าวัง หากเจ้าจะไปด้วย เตรียมตัวไว้นะ” ฟางหรงเดินบ่นพึมพำไปตลอดทาง มีอะไรดลใจเขาหรือเปล่า หรือแม่นางน้อยสองคนนั่นมีอาคมดลใจคนได้ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ดรุณีน้อยสองคนนั้น เขาพลั้งปากออกไปบ่อยๆ “บ่นอะไรพึมพำ ใครขัดใจเจ้าอีกรึ ฟางหรง” ฟางซินหยิบกล่องไม้ เดินออกมาจากหลังม่านไม้ไผ่ ที่กันสายตาคนนอก “พี่ใหญ่ ข้า...” ฟางหรงย่นปลายจมูก “เจ้าเลอะเลือนบ่อยๆ เพราะไม่ค่อยได้ออกแรงใช่หรือไม่” ฟาง ซินกระเซ้าน้องชาย พลางยกกาน้ำชาเทใส่จอกดินเผาให้ตัวเอง “พี่ใหญ่ ข้ารับปากแม่นางสองคนนั่นไว้” ปลายหางคิ้วของฟางซินกระดกขึ้น “เจ้าว่าอย่างไรนะ!!” “คือ...ไหนๆ ท่านพี่กับข้าก็จะเข้าวังพอดี ข้าเลยอาสาพานางไปด้วย” “ฟางหรง!!” ฟางซินตวาด “ข้ายอมให้ท่านโบยสิบไม้เลยก็ได้ แต่ขอเถอะ ข้ารับปากนางแล้ว ข้าไม่อยากเสียหน้า” ฟางหรงโอดครวญ หากฟางซินจะลงโทษตามกฏทหาร เขาก็ไม่สนใจ “เจ้าจะเสียใจที่ทำแบบนี้” ทุกวันนี้สกุลโจถูกสกุลเฉินจับตามอง ฟางซินพยายามไม่สนใจ เขากับน้องชายอยู่นอกด่าน คอยเป็นแนวหน้าปกป้องชาวเมืองเสี่ยวเป้ย ต่อให้สกุลเฉินมีอำนาจ บารีมีแผ่ไพศาลไปไกลแค่ไหน ก็ไม่มีทางไปถึงนอกด่านที่หนาวเย็นได้ แต่เวลานี้ ฟางหรงเหมือนจะชักศึกเข้าบ้าน ต่อให้สกุลโจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันกับดรุณีสองนางนั่น แต่นางลงจากรถม้าสกุลโจ ก็เหมือนถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยแล้ว “พี่ใหญ่” “ช่างเถอะ เจ้าผิดคำพูดไม่ได้แล้วนี่” ฟางซินตัดบท บางที่ก็รำคาญความจุ้นจ้านของสกุลเฉินและพรรคพวกไม่ได้ อำนาจสูงสุดคือฮ่องเต้แท้ๆ แต่คนสกุลเฉินเหิมเกริม เพราะคิดว่ามีบารมีฮองเต้หนุน เพียงเพราะพระสนมผู่เยว่เป็นพระสนมที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด ตำหนักซินหัว ที่พักของไทเฮา เงียบสงบและเต็มไปด้วยพรรณไม้ที่ยืนต้นส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบริเวณ ธรรมดาแล้ว หากไทเฮายังไม่ตื่นจากบรรทม นางกำนัลจะไม่กล้าเข้าไปในห้องบรรทมของไทเฮา แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน ฝ่ายในที่เคยเงียบสงบครึกครื้นขึ้นผิดตา รวมทั้งตำหนักซินหัวด้วย “ตงเต๋อ วันนี้แล้วใช่ไหม?” ไทเฮาถามเสียงเรียบ สายตานางมองคันฉ่องทองที่สะท้อนเงาหญิงสูงศักดิ์ที่ยังคงความสง่างามไว้ “เพคะ” “ช่วยข้าแต่งตัวที วันนี้ข้าจะออกไปดูหน้านางกำนัลที่ผ่านคัดเลือกสักหน่อย” อาภรณ์ประดับดิ้นทองถูกสวมลงบนร่าง ไทเฮาแย้มสรวล รู้สึกยินดีแบบปิดแทบไม่มิด มีข้อความส่งถึงตัวไทเฮาตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน วันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากของดรุณีน้อยนางหนึ่ง แม้จะเป็นฤกษ์ดี แต่ที่ไทเฮาสะกิดใจ คือข้อความสุดท้าย เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อน ตราประทับลายดอกเหมย สัญญาลักษ์ของสกุลเจียว “ไทเฮาเพคะ” “ว่ายังไงตงเต๋อ” ไทเฮาตอบรับเสียงทุ้มนุ่ม “วันนี้พระสนมเฉิน เป็นคนออกหน้าเองนะเพคะ” ตงเต๋อไม่ อยากให้ไทเฮาอารมณ์เสีย หากต้องปะทะคารมกับสนมที่จองหองคนนั้น “นอกจากรับสั่งของฮ่องเต้แล้ว เราทำอะไรไม่ได้บ้างละ” ยังไงเสียไทเฮาก็คือมารดาของแผ่นดิน พระสนมที่ยังไม่มีทายาท ต่อให้ฮ่องเต้โปรดปรานแค่ไหน อำนาจของนางก็มีไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่ไทเฮามี เวลาผ่านมาสิบปี กับความหวังของนางที่ถูกปิดตาย ไทยเฮาไม่แปลกใจสักนิด ในบรรดาพระสนมนับร้อยชีวิต ไม่มีสักคนที่จะกำเนิดโอรสสวรรค์ได้เลย ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์ ไทเฮาพยายามหาวิธีเปิดโปง แต่บุตรชายหัวรั้นของนาง ก็ออกโรงขวางเต็มที่ “ผู่เยว่ไม่ใช่คนแบบนั้น เชื่อลูกเถอะเสด็จแม่” นั่นคือคำทัดทานจากฮ่องเต้ ความรัก ความเชื่อใจทำให้สายพระเนตรฮ่องเต้บอดสนิท ไทเฮาถอนใจแรงๆ ต้องมีสักวันที่ฟ้าเปิด ราชครูเฉินหยางซื้อตัวขุนนางในราชสำนักไปเกือบหมด ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไร ล้วนแล้วแต่ถูกขัดขวาง โชคดีที่สวรรค์ยังมีตา เปิดทางให้นางเจอคนที่ภักดิ์ดี “ไปเถอะ วันนี้เป็นวันที่ดีเชียวนะ” ตงเต๋อประคองไทเฮาเดินออกจากตำหนักซินหัว ตลอดทางที่เกี้ยวของไทเฮาผ่าน มีการเคลื่อนไหว ข่าวเรื่องการปรากฏตัวของไทเฮาถูกส่งถึงมือราชครูเฉินหยาง จิ้งจอกเฒ่าขยำกระดาษแผ่นเท่าฝ่ามือทิ้ง แล้วก็รีบเร่งออกจากจวนสกุลเฉินทันที “ปีนี้สกุลโจส่งคนมาร่วมคัดนางกำนัลด้วยหรือ” เสียงซุบซิบลอยมาเข้าหูสนมผู่เยว่ที่นั่งจิบน้ำชาอยู่หลังม่านไม้ไผ่ ผู่เยว่วางขนมกุ้ยฮวาลงบนจาน ทั้งที่เพิ่งยกแตะลิ้น ยังไม่ชิมเนื้อขนมสักนิดเดียว “เนี่ยนเจินเจ้าไปสืบมาสิ” เรียวปากสีกลีบบัวขยับเบาๆ เนี่ยนเจินน้อมกายถอยหลังออกมาจากหลังม่านไม้ไผ่ นางเดินไปหาหัวหน้านางกำนัลที่เป็นคนควบคุมการคัดเลือกครั้งนี้ “ข้าอยากทราบว่า ครั้งนี้สกุลโจส่งคนมาร่วมด้วยงั้นรึ?” เฟยฮุ่ยเงยหน้ามอง แล้วก็ตอบเสียงเรียบ “ไม่นี่ ไม่มีรายชื่อสกุลโจ” “แล้วทำไมนางกำนัลพวกนั้นถึงซุบซิบกันเรื่องนี้” เนี่ยนเจินเสียงเข้มขึ้น “ข้าไม่คิดว่าพระสนมจะติดใจกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง” เฟย ฮุ่ยติง เนี่ยนเจินเป็นคนสนิทของพระสนมผู่เยว่ ใครๆ ในที่นี้ก็รู้ดี การที่เนี่ยนเจินมาสืบข่าว น่าจะเป็นคำสั่งของพระสนมผู่เยว่โดยตรง “เจ้าแค่ตอบข้า มีหรือไม่มีแค่นั้นก็พอ” เฟยฮุ่ยยิ้มจางๆ “ข้าตอบเจ้าแล้ว แม่นางเนี่ยนเจิน” “เจ้ากำลังยั่วโมโหข้ารึ เฟยฮุ่ย” เนี่ยนเจินตะคอก “การที่เจ้าไปอยู่ข้างกายพระสนมนาน เลยทำให้เจ้าหย่อนยานกิริยาหรือไง” เฟยฮุยตำหนิเสียงเรียบ การที่นางกำนัลคนหนึ่งได้ดี เป็นที่วางใจของพระสนมคนโปรด แต่หากนับตามศักดิ์และตำแหน่งแล้ว เนี่ยนเจินก็แค่บ่าวรับใช้ ส่วนเฟยฮุ่ยคือหัวหน้านางกำนัลทุกคน เนี่ยนเจินฮึดฮัด แล้วก็กระแทกเท้าเดินหนีไป “ข้าคงช่วยเจ้าได้เท่านี่แหละ” เฟยฮุยพึมพำ ดวงหน้าดรุณีน้อยคนหนึ่งผุดขึ้นมา โครงหน้าแบบนี้คล้ายใครบางคนที่นางรู้จัก หากไม่อับจนวาสนา สตรีคนนั้นก็คงได้เข้ามาอยู่ในวังหลวงพร้อมนาง โชคร้ายที่เกิดกับคนสกุลเจียวครั้งนั้น อืออึ้งไปทั้งดินแดนเสี่ยวเป้ย แต่น่าแปลกที่ในเวลาไม่นาน ข่าวลือเรื่องสกุลเจียวก็หายไป เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ต้องมีผู้มากบารมีสักคนละที่ปิดข่าวเรื่องนี้ 6. เจียวลู่นั่งตัวเกร็ง ใบหน้างดงามก้มต่ำ นางมองแค่ปลายเท้า พยายามขืนตัวทุกครั้งที่เกิดแรงกระแทก บุรุษหนุ่มสองคนนั่งนิ่ง คนที่นางแอบมองเมื่อวานนั่งหลับตา ส่วนอีกคนก็มองเลยไปด้านนอก เจียวลู่เลยพยายามไม่ส่งเสียงให้หนึ่งในสองคนนี่เกิดความรำคาญ “เจ้าเป็นสตรีสกุลใด?” ฟางหรงพูดโพล่งออกมา ดูจากอาภรณ์ที่ดรุณีนางนี้สวม บ่งบอกความไม่ธรรมดา ฟางซินปรือเปลือกตาขึ้นมอง เขาเห็นด้วยกับน้องชาย ลายปักดอกเหมยนั่น หากคิดไม่ผิด หญิงผู้นี้เกี่ยวพันกับสกุลเจียวที่หายสาบสูญไปเป็นแน่ “ผ่านขายอาภรณ์ ช่วยให้รถม้าจอดสักนิดเถอะนะ” ก่อนถึงพระราชวังต้องผ่านย่านการค้า ฟางซินคิดถูก การปล่อยดรุณีนางนี้ผ่านเข้าไปในพระราชวัง หล่อนไม่มีทางผ่านไปถึงฝ่ายใน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD