เจ้าเจคจอมแสบจ้อทันทีที่เห็นว่าความผิดปกตินั้นขยายวงกว้างเกินกว่าที่เขาจะสามารถปล่อยให้มันเป็นอยู่ต่อไป และเจสสิก้าก็พยักหน้าเห็นด้วยในทันที
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะลูก แค่แด็ดดีโกรธมามี้นิดหน่อยจ้ะ” นิลอรตอบลูกไปตามจริง แต่เลือกที่จะเว้นความจริงบางส่วนไว้
“เธอไม่ควรเอาเรื่องไร้สาระไปบอกลูกนะแองจี้ เด็กยังไร้เดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจการกระทำที่ไร้สามัญสำนึกของผู้ใหญ่”
โจนาธานพูดออกไปราวกับอยากตอกย้ำความน่าละอายให้ผู้ใหญ่สองคนได้คิด และเขาก็ทำได้จริงๆ นิลอรส่ายหน้าอย่างเหลืออด เธอไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเจอกับสถานการณ์น่าอึดอัดปานนี้ ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด
“ไม่เอานะคะลูก ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เจคอยู่เงียบๆ เหมือนเจสซี่นะมามี้ขอร้อง” นิลอรอยากจะร้องไห้ ยิ่งเห็นหน้าลูกก็ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นจริงในสิ่งที่เธอไม่ควรทำ
“แด็ดดีโกดมามี้เรื่องไรค้า” เจสสิก้าเอ่ยขึ้นบ้างเพื่อไม่ให้ฝาแฝดของตนโดนดุอยู่ฝ่ายเดียว เด็กน้อยปีนขึ้นไปนั่งบนตักกว้างแล้วเงยหน้ามองผู้เป็นบิดา
“เปล่าครับลูก แด็ดดีไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจมามี้เท่านั้นเอง”
นิลอรรีบเสมองนอกหน้าต่างเมื่อได้ยินน้ำคำของสามี ชาร์ลส์ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยกัดริมฝีปากล่างจนแทบห้อเลือด เมื่อเห็นความทุกข์บนใบหน้าของเจ้านายที่รัก นี่เขาทำอะไรลงไป เขาทำบ้าอะไรจนครอบครัวที่เพิ่งจะได้พบกับความสุข ต้องมาเผชิญกับความทุกข์ ชั่วช้าสิ้นดี!
“อ้อ...” หนูน้อยพยักหน้าเข้าใจแล้วเอียงคอทำท่าตรึกตรอง “เจสซี่เข้าใจแล้วค่ะ แด็ดดีน้อยใจมามี้ที่มามี้ไปชื้อของนานใช่ปะค้า เจสซี่เข้าจายแล้ว แต่ว่า...ทีแด็ดดีให้มามี้ลอแด็ดดีที่บ้านตั้งน้านนาน มามี้ม่ายเห็นน้อยจายแด็ดดีเลย มามี้บอกว่าแด็ดดีไปทำงานตั้งแต่เจสซี่อยู่ในท้องมามี้ จนตอนนี้เจสซี่เดินได้แล้วเห็นไหมคะ แด็ดดีเก๊าะอย่าน้อยจายมามี้เลยน้า”
“ช่ายๆ เจสซี่พูดถูก มามี้เก่งที่ฉุด มามี้ไม่เคยน้อยจายแด็ดดีเลย”
เจคน้อยสำทับคำพูดของคู่แฝดให้ดูน่าเชื่อถือ และมันก็ทำให้หัวใจที่บวมเป่งเพราะความอึดอัดของโจนาธาน ผ่อนคลายลง ความผิดที่นิลอรได้กระทำยังไม่เท่ากับความผิดที่เขาเคยกระทำด้วยซ้ำ แล้วเขาจะโกรธเคืองหล่อนให้มันได้อะไรขึ้นมา อย่างน้อยพวกเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากเกินกว่าจูบเสียหน่อย เขาควรให้โอกาสหล่อน เหมือนอย่างที่หล่อนให้โอกาสเขาได้แก้ตัวถึงจะถูก
นิลอรพยายามเช็ดน้ำตา แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเช็ดก็ยิ่งไหล และทันทีที่ฝ่ามืออบอุ่นของโจนาธานวางลงบนไหล่ที่กำลังสั่นสะท้าน เธอก็ไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นและหยดน้ำตา
“ฮึกๆ ฉันขอโทษ! ฉันขอโทษ! ฮือออ...”
เจสสิก้ากับเจคน้อยเงียบเสียงลงในทันทีที่เห็นมารดาร้องไห้โฮ ทั้งสองเลื่อนกายไปนั่งอยู่ข้างประตูด้านซ้าย เพื่อให้บิดามารดาคุยกันได้โดยสะดวก
โจนาธานรีบรั้งร่างบางมากอดปลอบ ก่อนที่เด็กๆ จะร้องไห้ตามหล่อนไป
“ฉันขอโทษนะแองจี้ ฉันขอโทษที่ไม่ได้ให้โอกาสเธออธิบาย ฉันขอโทษที่รัก”
นิลอรได้ยินเช่นนั้นยิ่งสะอื้นฮักๆ จะอธิบายอะไรเล่า ในเมื่อเธอไม่มีอะไรให้อธิบาย ถึงจะไม่เต็มใจให้ชาร์ลส์จูบ แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น สมควรแล้วที่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง
“ไม่ต้องขอโทษฉัน! เพราะในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครบังคับฉันเลย แต่ฉันอยากให้คุณ และ...ชาร์ลส์” เธอผละจากแผ่นอกหนาเพื่อจะได้มองคนที่ขับรถอยู่ที่เบาะข้างหน้า ก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉันอยากให้คุณและชาร์ลส์อย่าได้ผิดใจกันเพราะฉันเลย ไม่มีใครอยากให้เรื่องบ้าๆ นี่เกิดขึ้นหรอก ฉันอยากให้คุณสองคนรู้ว่าฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น! มันเป็นแค่ความผิดพลาด เข้าใจไหมชาร์ลส์”
นิลอรร้องบอกคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ให้เขาได้เข้าใจชัดๆ เธอไม่มีวันคิดกับเขาเกินกว่าคำว่าเพื่อนอย่างแน่นอน และหวังว่าชาร์ลส์จะเข้าใจเสียที
“ครับ...นายหญิง”
ชาร์ลส์รับคำด้วยหัวใจที่ปวดร้าว แต่เชื่อไหมว่าท่ามกลางความปวดร้าวเขาก็โล่งใจอย่างประหลาดที่เห็นเจ้านายที่ตนบูชามีรอยยิ้มแต่งแต้มวงหน้าอีกครั้ง
“มันคือความผิดพลาดที่รัก มันเกิดขึ้นได้ ฉันจะให้อภัย ครั้งนี้ฉันจะให้อภัยพวกเธอ”
โจนาธานไล้นิ้วปาดน้ำตาให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะรั้งหล่อนมากอดอีกครั้ง นิลอรสอดมือเข้าโอบเอวของสามี แม้ว่าเธอจะทำผิดแต่เขาก็ยังเชื่อใจ เธอโชคดีเหลือเกินที่ได้รับการให้อภัยในครั้งนี้ สาบานว่าจะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
“เลิกร้องไห้นะคนดี ดูสิ เด็กๆ จะร้องตามแล้วนะ”
นิลอรกลั้นสะอื้นในบัดดล เธอกำลังทำให้ลูกน้อยทุกข์ใจไปด้วยใช่ไหม อย่าเลยนะ เธอไม่อยากให้เทวดานางฟ้าตัวน้อยๆ เป็นทุกข์เลยสักนาที
“ฉันขอโทษนะคะ ฉันขอโทษจริงๆ”
โจนาธานดึงร่างของคนที่สะอื้นไม่หยุดออกมาจากแผ่นอก ก่อนจะปาดเช็ดหยดน้ำตาให้หล่อนอีกครั้ง อย่างอ่อนโยนที่สุด
“ฉันเชื่อแล้วคนดี ฉันเชื่อแล้ว อย่าร้องไห้เลยนะ ยิ่งเธอร้องไห้ฉันก็ยิ่งไม่สบายใจ ฉันรู้แล้วว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ และนั่นมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันไม่อาจเอาผิดเธอได้ ฉันน่ะ...รักเธอแล้วก็ชาร์ลส์เกินกว่าจะลงโทษใครคนใดคนหนึ่งให้สาสม ถ้าพวกเธอทั้งสองเห็นใจคนแก่ๆ อย่างฉัน ก็ได้โปรดเถอะนะ ขอให้สิ่งที่ทั้งสองรับปากฉันในวันนี้ อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองเลย ชาร์ลส์เขารับปากฉันแล้ว แล้วเธอล่ะที่รัก จะรับปากฉันได้ไหม”
นิลอรพยักหน้าเร็วๆ พร้อมกับโผเข้ากอดสามี สองแขนหล่อนคล้องรอบคอแกร่ง ก่ายเกยคางมนบนไหล่ของเขาแล้วเอ่ยกระซิบเบาๆ
“ขอบคุณค่ะโจนาธาน รักคุณที่สุดเลย”
โจนาธานแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าเขาจะได้ยินคำนี้หลุดออกจากปากของแองจี้ที่รัก ไม่ว่าหล่อนจะพูดจริงจากหัวใจ หรือว่าจะพูดไปเพื่อให้สามีคนนี้สบายใจ เขาก็ดีใจเหลือเกินที่ได้ยินมันสักครั้ง ดีใจเหลือเกิน
มือหนาของสามีลูบหลังปลอบประโลมจนเสียงสะอื้นเงียบหาย ผู้ช่วยหนุ่มเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็เคลื่อนรถออกจากใต้อาคาร ชายหนุ่มบังคับพวงมาลัยให้รถยนต์คันใหญ่แล่นไปเรื่อยๆ พอถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเขาก็เบนพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าไปจอดเพื่อเติมน้ำมัน
เจ้าหนูตัวแสบสองคนขยับมานั่งบนตักของบิดามารดาฝั่งละคน และถือโอกาสนั้นเป็นตัวสมานรอยร้าวในหัวใจของบิดามารดาด้วยความเต็มอกเต็มใจ
ชาร์ลส์ยิ้มกับภาพความน่ารักของครอบครัวน้อยๆ ที่เขาเกือบทำลายไปด้วยความไม่เจียมตนของเขา แววตาแห่งความรักที่ผู้เป็นนายทอดมองต่อกันนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารักกันเข้าแล้วอย่างแน่นอน แล้วเขาจะเข้าไปแทรกกลางความรักของพวกเขาได้อย่างไร คงได้แต่อวยพรให้ความสุขอยู่คู่กับครอบครัวน้อยๆ ครอบครัวนี้ให้นานที่สุด อย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงสิงคโปร์
เพราะว่าที่นั่น อุปสรรคอันยิ่งใหญ่รอพิสูจน์หัวใจของคนทั้งคู่อยู่อย่างแน่นอน