ตอนที่ 5

1526 Words
ตอนที่ 5 Talk ฟางลี่ ตั้งแต่ที่ชายคนนั้นเดินจากไป ข้าก็ไม่กล้าออกจากรอยขีดนี่เลย...ข้ากลัวว่าจะเป็นอันตราย พอแต่งตัวเสร็จข้าก็ยังอยู่ ณ จุดนั้น รอเขามาทำลายวงกลมนี่ทิ้ง “เจ้านั่น...บังอาจมาจูบข้า หากฝ่าบาทรู้พระองค์จะต้องไม่พอใจมากแน่ๆ ข้าเป็นถึงฮองเฮาแห่งวังหลัง ราชวงศ์หยวน แต่กลับถูกผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาจูบเข้าได้ ข้าอาจจะถูกถอดยศ แล้วก็ถูกประหารแน่ๆ!” ข้านั่งคิดไม่ตกอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปนาน ชายคนนั้นและลูกน้องของเขา ควบม้ามาทางข้า พร้อมปิดบังใบหน้ากันจนหมด ข้าเห็นหน้าเขาเพียงครั้งเดียว นั่นก็คือตอนที่เราจูบกัน “รออยู่ที่เดิมไม่ไปไหนดีนี่!” ลูกน้องของเขาพูดอะไรบางอย่าง ข้าอยากจะรู้ภาษาเขายิ่งนัก เผื่อว่าเขาอาจจะด่าข้า ข้าจะได้ฟังรู้เรื่อง “จะไปไหม? ถ้าจะไปก็มา!” เสียงของชายที่สบตากับข้าดังขึ้นเชิงขู่ ไม่สิ! ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นชายที่จูบข้า แต่ข้าว่าเรียกเหมือนเดิมดีกว่า เดี๋ยวจะพากันสับสนเอาได้ “.....” “ฟังข้าไม่รู้อีกล่ะสิ!” พรึบ! ร่างสูงกระโดดลงจากม้า เขามุ่งตรงมายังตัวข้า ก่อนที่จะอุ้มข้าพาดบ่าขึ้นม้าไป เจ้ามัน...ไอ้นินจาผู้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! คอยดูข้าจักสั่งตัดหัวเจ้าให้ได้เลย! “อื้อ! จะทำอะไรอะ!” เขาพยายามเอาผ้าสีดำมาปิดตาข้า เสมือนว่าจะพาข้าไปฆ่าอย่างนั้น “ไม่เอา! ข้าไม่ปิดนะ!” “อย่าขัดขืน! ไม่งั้นข้าจะปล่ำเอ็งเสียตรงนี้!” เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเชิงขู่ สายตาดุโหดและหน้ากลัว สมแล้วที่เป็นนินจา! “อ..อื้อ!” ร่างบางหยุดนิ่ง ยอมให้เขาผูกผ้าปิดตาแต่โดยดี ก่อนที่เขาจะตีหน้าผากข้าเบาๆ เพี๊ยะ! “โอ๊ย!” “ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะฆ่าเอ็งหรอก...ข้าจะพาเอ็งกลับซุ้มโจรกับข้า แล้วเอ็งก็จะค่อยๆ กลายร่างเป็นเมียข้าอีกคน! พวกเอ็ง! ไป!” “....” ข้าฟังเขาไม่รู้เรื่อง แต่น้ำเสียงเหมือนจะเป็นคำสั่ง สิ้นเสียงเขาก็ควบม้าออกจากป่านั้นทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนินจาที่อาจเป็นศัตรูกับฮ่องเต้ แต่อย่างน้อยที่เราอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะปลาย่างและห่อข้าวของเขา แม้ว่าอาหารจะแปลกตาแต่มันก็อร่อยมากๆ ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️ “ตื่น! ตื่นได้แล้ว!” “อื้อ~” ร่างบางสะดุ้งตื่นทันควัน ผ้าปิดตาถูกเปิดออก เขาพาเรามายังสถานที่แห่งหนึ่ง ยิ่งเดินทางก็ยิ่งแปลกตา ข้าไม่รู้เลยว่าจะมีที่นี่ใช่แผ่นดินที่ข้าอยู่ด้วย “ถึงแล้วเหรอ?” “พูดอะไรของเธอ! ลงไปได้แล้ว!” เขาตวาดใส่ ภาษาของเขานี่มันยากเสียจริง ข้าคงจะต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกนาน “ลงสิ!” “.....” เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ สงสัยคงจะต้องการให้ข้าลงจากม้า เขาเอาม้าไปเก็บและพาข้าไปยังที่ที่นึง สังเกตจากท้องฟ้าแล้ว อีกไม้นานก็คงค่ำ เขาพาข้ามายังลานกว้าง เสมือนกับตอนที่ข้าอยู่ที่วังหลวง เวลามีงานสำคัญทุกๆ คนจะมารวมตัวกันที่ลานกว้าง เช่นเดียวกันกับที่ข้าได้อภิเษกและขึ้นเป็นฮองเฮา “เจ้าพาเข้ามาที่นี่ทำไมเหรอ?” ข้าถาม แต่เขากลับเงียบไม่ตอบอะไร ไม่รู้ว่าจงใจเงียบหรือเพราะฟังข้าไม่รู้เรื่องกันแน่ ทุกคนในที่แห่งนี้มารวมตัวกัน ไม่นานนักก็มีชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปี เดินออกมา ทุกคนต่างพากันยกมือไหว้เขา หรือว่า...เขาจะเป็นหัวหน้าของที่นี่ หัวหน้าพวกนินจา! “อยู่เงียบๆ” เขาหันมาพูดกับข้า มือหนากุมมือร่างบางไว้แน่น สายตาของชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านบนมองมาที่เราอย่างประหลาดใจ “เอ็งไปพาตัวอะไรมาไอ้เมฆ!” ชายวัยกลางคนพูดถาม แต่ข้าก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี “ฉันเจอในป่า เธอแอบมาขโมยเสบียงอาหารของพวกฉันจ้ะพ่อ ฉันท่องคาถาบังตาไว้แต่ยัยนี่กลับเข้ามาขโมยปลาย่างได้ ฝ่าอาคมของฉันได้ ฉันเลยพามา” “หึ! การแต่งตัวและหน้าตาของมันช่างแปลก มันคงจะไม่ใช่คนที่นี่ ดูจากของที่หัวก็น่าจะได้ราคาแพงไม่เบา เอ็งชื่ออะไร! กูชื่อพสุเป็นพ่อของไอ้เมฆ แล้วก็เป็นหัวหน้าของที่นี่!” ชายวัยกลางคนหันมาถามข้า แต่ข้าฟังไม่รู้เรื่อง เขาจึงตวาดใส่ข้าดังลั่น น่ากลัวมากๆ “กูถาม!” “นี่...ตอบพ่อพสุไปสิ!” ร่างสูงดึงมือข้าเบาๆ เขาเองก็ไม่ต่างกัน ทำอย่างกับข้าพูดภาษาเขาได้อย่างงั้นน่ะ “ชื่ออะไร!” “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร” ข้าพูดตอบชายวัยกลางคนคนนั้นกลับไป ทันทีที่ได้ยินภาษาของข้า เขาก็ตะลึงเล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือขึ้นปรบมือ แปะๆ! “อีนี่มันเป็นคนจีนนี่หว่า เหอะ! มันพูดจาอะไรของมัน!” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะพ่อ พูดภาษาอย่างเราๆ ไม่ได้เลย” ร่างสูงกล่าวตอบชายวัยกลางคนคนนั้นไป “เอาเถอะ...มันอยู่นี่ได้ไม่นานมันก็คงจะพูดภาษาของพวกเราได้ ข้าจะให้มันอยู่ที่นี่ในฐานะทาส! ข้าจะให้นังชบา นังรำยงช่วยดูแลก็แล้วกัน” “จ้ะพ่อ ส่วนเรื่องของที่ปล้นมาได้ ฉันให้คนเอาไปเก็บที่ถ้ำแล้วจ้ะ” เขาสองคนสนทนากัน นี่...สนใจข้าหน่อยสิ! ข้ายังไม่รู้เลยว่าชะตาของข้าจะเป็นเช่นไรน่ะ! “ก็ดี! แยกย้ายได้!” ชายวัยกลางคนพูดจบ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้าย เขาดึงมือข้าขึ้นไปที่ที่หนึ่ง น่าจะเป็นตำหนักของเขา แต่มันเล็กกว่าตำหนักของข้าเอามากๆ “พี่เมฆ!” ขึ้นมายังตำหนักของเขา ก็มีหญิงสาวเดินมากอดแขนของเขา ไม่พอแค่นั้นหญิงพวกนั้นก็ยังผลักดันตัวของข้าออกอีก นี่มันอะไรกัน! นางสนมของชายคนนี้งั้นเหรอ? “นี่พอเลย! ข้าเหนื่อย! ข้าจะไปอาบน้ำ ยังไงเอ็งสองคนก็ช่วยดูแลยัยนี่ด้วยก็แล้วกัน หาผ้าหาผ่อนให้มันเปลี่ยน ขืนให้มันใส่ชุดนี้ไปตลอด มีหวังหนักหัวตาย!” ว่าจบร่างสูงก็ปล่อยมือข้าและเดินเข้าห้องไป “ยัยจีน!” “เอ็งปิดบังใบหน้า!” “เอ็งคงจะไม่สวยสินะ!” นางทั้งสองเดินวนรอบๆ ตัวข้า พร้อมพูดภาษาของพวกเขา ข้าก็ไม่รู้ว่าที่ทั้งสองพูดนั้นเป็นคำพูดธรรมดา คำด่า หรือว่าคำชม “ข้าขอแนะนำ ข้า! ชบา! เป็นเมียของพี่เมฆ!” หญิงฝั่งซ้ายชี้ที่ตัวเองและพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา “พูดสิ ชบา! ชบา!” “ชาบา” “ชบา!!! ชบา!!!” หญิงฝั่งซ้ายตวาดใส่ข้าอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ นี่ข้าทำอะไรผิดงั้นเหรอ “พูดใหม่! ชบา!!!” ” “ชาบา” “โอ๊ย! เอ็งนี่มันโง่เสียจริงๆ ก็สมควรแล้วล่ะที่จะได้เป็นนางทาสให้กับพวกข้า และจำใส่ใจเอาไว้ว่าเอ็งอยู่ที่นี่ในฐานะทาส อย่าได้ริอาจเสนอตัวเป็นเมียพี่เมฆเด็ดขาด!” ชาบากล่าวพร้อมกับเชิ่ดใบหน้าใส่ข้าอย่างแรง “ส่วนข้า ก็เป็นเมียของพี่เมฆ หรือเหนือเมฆ หรือเสือเมฆ! ข้าชื่อรำยง ที่สำคัญข้าก็มีลูกสาวกับพี่เมฆแล้วด้วย!” หญิงฝั่งขวาพูดต่อขึ้นมาในทันที “เรียกสิ รำ! ยง!” “รำวง” “555 ข้าล่ะสงสารเอ็งเสียจริงนังรำยง หนักกว่าข้าเสียอีก 555!” ชาบาหัวเราะลั่น ก่อนที่จะถูกรำวงหยิกแขนจนเกิดรอยแดง “หน๋อย! เอ็งหุบปากไปเลย! เรียกใหม่! รำ! ยง! ยงอะยง!” “รำ...” “ยง!!!” “รำวง” “โอ๊ย! ข้าอยากจะฆ่าเอ็งเสียจริง แต่ข้าคิดว่าข้าคงไม่ต้องห่วงอะไรแล้วล่ะ สมองแบบเอ็งพี่เมฆเขาไม่เหลียวตามองหรอก!” “เมะ?” สำเนียงและภาษาของที่นี่ช่างยากนัก ข้าคงต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกนานเลยล่ะ “เมฆ! เหนือเมฆ! ชื่อของผู้ชายคนเมื่อกี้ ผัวข้ากับนังรำยง!” ชาบาพูดพร้อมชี้ไปที่ห้อง ที่ชายที่สบตากับข้าพึ่งเดินเข้าไป เขาชื่อเมะเหรอ? “เมะ?” “เมฆ! เมฆอะเมฆ! เมฆฝนอะ!” รำยงพูด “เมะ” “เออ! เมะก็เมะ! ข้าอยากจะเสียพรหมจรรย์อีกรอบเลยจริงๆ!” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน ข้าผิดอะไร...ก็ข้ายังไม่ชินกับภาษาของพวกเจ้านี่นา~
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD