ตอนที่ 3
Talk ฟางลี่
ข้าเฝ้ารอชายพวกนั้นออกไป เขาทิ้งเสบียงอาหารและสิ่งของต่างๆ ไว้เกลื่อนไม่กลัวมันหายเลย เขาคงจะเป็นนินจาที่มีชื่อเสียงมากแน่ๆ
ไม่งั้นคงไม่ทิ้งของไว้มั่วซั่วแบบนี้
“อาหารแปลกตา...ข้าไม่เคยเห็น” ร่างบางเปิดห่อเสบียงอาหารของชายพวกนั้น มีเสบียงอาหารเยอะแยะพอที่จะให้ข้าอิ่มไปหลายวัน “ถึงอย่างไร นินจาอย่างพวกเจ้าก็มีประโยชน์สำหรับข้า ไว้ข้ากลับวังหลังข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างงาม”
ว่าจบข้าก็เดินออกมาพร้อมห่ออาหารสองสามห่อ อืม...ถ้ามีผลไม้ด้วยก็คงจะดี ถึงแม้ว่าอาหารพวกนี้จะแปลกตา แต่ข้าก็เลือกกินไม่ได้ คิดถึงอาหารในวังจัง ไม่รู้ว่าที่วังหลวงจะเป็นยังไงบ้าง
ถ้าฝ่าบาดแยกตัวออก...ก็คงจะส่งทหารมาตามหาข้าแล้วล่ะ เห้อ....ข้านี่มันเป็นฮองเฮาที่ซื่อบื้อจริงๆ เราเป็นพี่น้องกัน ข้าก็ไม่ทันได้เอะใจเลยทำให้ถูกทำร้ายแบบนั้น
✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️
Talk เหนือเมฆ
หลังจากที่พวกข้าปล้นมาได้ ก็กลับมายังที่พักกลางป่า แล้วมันก็เป็นเช่นเดิม เสบียงอาหารที่วางไว้หายไป แต่ยังดีที่มันหายไปเพียงบางส่วน
มันทำให้ข้าอดสงสัยไม่ได้....ต่างหูของผู้หญิงคนนั้นข้ายังคงเก็บไว้อยู่ ก็ใช่ว่าจะไม่สงสัยเพียงแต่ผู้หญิงตัวแค่นั้นเนี่ยนะ! จะสามารถแหวกอาคมของข้าได้
“ไอ้คนทำนี่มันต้องการอะไรกันแน่วะ! จะเป็นพวกสัตว์ก็ไม่น่าใช่!” ไอ้ชิดพูดอย่างหัวเสีย เมื่อห่อข้าวห่อโปรดของมันถูกขโมยไป “มึงแหวกอาคมมาได้ขนาดนี้ ไม่ขโมยทองไปด้วยเลยวะ!”
“นั่นดิพี่...มันเป็นใคร? หรือมันก็แค่หิว?” ไอ้ขามถามซ้ำพร้อมเช็กสิ่งของรอบกายว่ามีอะไรหายไปหรือไม่ “พี่ท่องคาถาบังตาไว้ ไม่มีใครเห็นของของพวกเราแน่นอน จะเป็นพวกสัตว์ป่าข้าก็ว่าไม่น่าใช่”
“แต่ข้าพอจะรู้แล้วล่ะพี่เมฆ” ไอ้คอยพูดพร้อมชี้ไปที่พื้น มีเศษข้าวหล่นตามพื้นยาวเป็นทาง ไอ้คนที่มาขโมยคงจะเดินไปกินไปข้าวถึงได้หล่น
ตะกละ!!!
พวกข้าเดินตามเศษข้าวนั่นไป ไปเรื่อยๆ จนถึงธารน้ำ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทานห่อข้าวของพวกข้าอย่างเอร็ดอร่อย ชุดที่ใส่แปลกประหลาด ไหนจะไอ้ที่หัวนั่นอีก
อะไรจะยิ่งใหญ่ขนาดนั้น!
“ผู้หญิง...? แต่งตัวห่าอะไรเนี่ย!” ไอ้คอยพูดเตรียมจะเข้าไปทำร้าย มือหนายกขึ้นเบรกไว้
“ถึงยังไงก็เป็นผู้หญิง มันคงจะหิวเอ็งอย่าไปถือสามันเลย เสบียงอาหารยังเหลืออีกตั้งเยอะ”
“ได้ไงพี่! มันขโมยของโปรดข้านะ!” ไอ้คอยยังคงคิดจะไปทำร้ายผู้หญิงคนนั้นอยู่ สำหรับมัน...เรื่องกินน่ะเรื่องใหญ่!
“ช่างมันเถอะน่ะ! ค่อยๆ เดินกลับ...ให้เงียบที่สุด ไป!” ร่างสูงส่งสัญญาณบอกลูกน้อง ลูกน้องรับฟังและค่อยๆ ถอยออกมาจากผู้หญิงคนนั้น
พวกข้าเดินกลับมายังที่พักจุดเดิม ข้าจะอยู่ปล้นต่อพรุ่งนี้อีกวัน และจะเก็บของกลับบ้านทันที
“ผู้หญิง?” ไอ้ขามถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ มันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่มาขโมยข้าวจะเป็นผู้หญิง
“ข้าก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน ที่สำคัญ! มันแต่งตัวห่าอะไรของมันก็ไม่รู้ แต่ดูท่าทางจะรวยนะพี่เมฆ ที่หัวของยัยนั่นเต็มไปด้วยทอง” ไอ้คอยพูดต่อ
“ไม่ใช่ว่าทองปลอมนะเว้ย! เครื่องประดับแบบนั้น...คงจะไม่ต่างอะไรกับของนางละคร ขายไม่ได้หรอก!” ไอ้ชิดกล่าว “แล้วพี่จะเอายังไงต่อล่ะจ๊ะ”
“ข้าเพียงแค่อยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นฝ่าอาคมของข้าเข้ามาได้ยังไง คืนนี้...จะได้รู้กัน!”
ตกดึก!
ข้า ไอ้ชิดและไอ้คอย ก็คอยซุ่มดูอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ส่วนพวกที่เหลือก็ให้พวกมันนอนหลับกันปกติ ข้าให้คนทิ้งปลาย่างไว้สองตัวเพื่อล่อผู้หญิงคนนั้นออกมา
รอไม่นานนักผู้หญิงคนนั้นก็ย่องเข้ามา เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้
“มาแล้วพี่!” ไอ้คอยกล่าวขึ้นเมื่อเห็นร่างบางกำลังเดินเข้ามา ร่างสูงจ้องมองหญิงผู้นั้นแน่วแน่ แต่ก็ต้องตกตะลึง เมื่อเธอผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายได้ โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย! “ไอ้เหี้ย! นี่มันอะไรวะเนี่ย!”
“ผู้หญิงคนนี้...ดูท่าจะอันตรายกับพวกเรา” ร่างสูงพูด สายตายังคงจ้องเธอไม่ขาด หากเธอร่ายเวทย์ทำลายอาคมของข้า ข้าก็ต้องรู้ แต่นี่กลับไม่มีการทำลายอะไรเลย เดินเข้ามาเฉยๆ
“เอายังไงต่อดีล่ะพี่? พามันซุ้มโจรด้วยเลยไหมล่ะ?” ไอ้ชิดกล่าว
“เรื่องนั้นข้ายังไม่ได้คิด พวกเอ็ง! ไป!” ข้าตอบ
พรึบ!
“อ๊ะ!!!”
พวกข้าทั้งสาม กระโดดลงจากต้นไม้ โผล่หน้าให้ร่างบางเห็น เธอตกใจลุกขึ้นพรวดและทิ้งปลาย่างในมือลงพื้นทันที
“งื้อ! ข้าโดนจับได้เสียแล้ว!” ร่างบางพูดด้วยสีหน้าที่ตกใจ ภาษาที่เธอพูดมันไม่ใช่ภาษาเดียวกันกับพวกข้า ภาษาของเธอคล้ายกับภาษาของพวกคนจีนที่มาค้าขายในเมือง
“มันพูดอะไรของมัน?” ไอ้ชิดหันมาถามพร้อมจ่อปืนไปที่ร่างบาง ฝ่ายลูกน้องคนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงก็ลุกพรวดพราดคว้าอาวุธต่างๆ เพ่งเล็งไปที่เธอ
“ภาษาจีน”
“พี่ฟังรู้เรื่องด้วยรึ!” ไอ้คอยถาม ร่างสูงเงียบไปชั่วครู่ ลูกน้องทั้งหลายก็พากันตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบของข้า
“ไม่...ข้าก็ฟังมันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
“ปัดโธ่! ข้าก็คิดว่าพี่จะฟังรู้เรื่อง!” ไอ้ขามพูดขึ้น “ผู้หญิงคนนี้มันมาจากที่ใดกัน การแต่งตัวของมันประหลาดนัก ข้าไม่เคยเห็นใครแต่งแบบมันเลย”
“ฆ่ามันทิ้งเลยดีไหมพี่!” ไอ้ชิดชักดาบออกมา มันคงจะเเค้นเรื่องห่อข้าว
“ง้า! อย่าทำอะไรข้าเลย ข้าเพียงแค่หิวเท่านั้น” ร่างบางลูบท้องตัวเองเบาๆ ข้ารู้เพียงแค่มันคือภาษาจีน แต่ข้าไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร
“เอ็งท้องหรอ?” ไอ้คอยถาม
“เอ็งแน่ใจหรอว่ามันท้อง?” ไอ้ชิดถามไอ้คอยกลับ ผู้หญิงคนนั้นจ้องการสนทนาของสองโจรอย่างไม่ละสายตา พร้อมแสดงสีหน้างงงวย “ไม่ใช่มันแกล้งเพื่อที่จะเอาตัวรอดนะ!”
“ก็มันลูบท้อง ถ้ามันไม่ท้อง จะแปลว่าอะไรวะ?”
“ก็จริงของเอ็ง เอายังไงกับมันดีล่ะพี่” ไอ้ชิดตอบกลับไอ้คอย ก่อนที่จะหันมาหาข้า
“เอ็งเป็นใคร? มาจากที่ใดกัน?” ข้าตัดสินใจถามผู้หญิงคนนั้นไป เธอทำหน้างง เธอเองก็คงจะฟังภาษาข้าไม่รู้เรื่องเช่นกัน
“นังนี่! พี่เมฆถามทำไมเอ็งไม่ตอบ เดี๋ยวข้าก็ตะบันหน้าเสียหรอก!” ลูกน้องอีกคนพูดขู่
“งื้อ~ ข้าก็แค่หิว ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขโมยจริงๆ อย่าทำอะไรข้าเลย หากฝ่าบาทส่งคนมาตามข้ากลับวังหลวงเมื่อไหร่ ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างงาม”
“มันพูดอะไรของมัน” ไอ้ขามถามด้วยสีหน้าที่งุนงง
“เอ็งเป็นใครกันแน่! การแต่งตัวของเอ็งข้าไม่คุ้นตาเลยสักนิด แถมยังฝ่าอาคมข้าเข้ามาได้อีก หากเอ็งเป็นสายของไอ้พวกตำรวจ ข้าจักฆ่าเอ็ง!” ร่างสูงพูดขู่ร่างบางอีกครั้ง แต่เธอเงียบไม่ตอบอะไร ก่อนที่เธอจะดึงปิ่นปักผมออกมา
“ระวังนะพี่! ปิ่นปักผมนั่นอาจจะมียาพิษก็ได้!” ลูกน้องอีกคนพูด พร้อมเตรียมอาวุธกันครบมือ หากหญิงคนนี้จะทำร้ายข้า คงใจกล้ามากแน่ๆ สิบต่อหนึ่ง!
“ห...หะ หิว”
“.....” ทุกคนเงียบเมื่อเธอพยายามพูดภาษาเรา ร่างบางเดินไปหยิบปลาย่างอีกตัว พร้อมยื่นปิ่นปักผมอันนั้นมาให้ข้า
“อะไร?” ข้าถามเธอกลับ
“ข้าหิว....ข้ารู้ว่าการขโมยนั้นไม่ดี เป็นสิ่งที่ฮองเฮาอย่างข้าไม่ควรทำ ฉะนั้นข้าจะขอซื้อปลาย่างตัวนี้ด้วยปิ่นปักผมอันนี้”
“พูดอะไรของเธอ ข้าฟังไม่รู้เรื่อง พูดให้มันดีดีสิ!”
“.....” เธอไม่ได้พูดอะไร นอกจากยัดปิ่นปักผมอันนั้นใส่มือข้า และเดินจากไปพร้อมกับปลาย่าง
“ตามไปไหมพี่!” ไอ้คอยถาม
“ไม่ต้อง! ปล่อยเธอไปซะ” คำสั่งนี้ถือเป็นเด็ดขาด ข้าก้มมองปิ่นปักผมที่อยู่ในมืออันนั้น ข้าเองก็ไม่ใช่เซียนหรืออะไร แต่ก็พอมองออกว่าปิ่นปักผมนี่เป็นทองแท้
เธอเป็นใครกันนะ...