ตอนที่ 2

1455 Words
ตอนที่ 2   “แค่กๆ” ร่างบางตื่นขึ้นมาสถานที่แถวนี้ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย เต็มไปด้วยป่าไม้ แถมข้ายังนั่งอยู่ที่โขดหินอีก... ที่นี่มันที่ไหนกัน   “เย่หลิน! ท่านพี่! ฮ่องเต้ ทหาร! ข้าอยู่ตรงนี้...มีใครได้ยินข้าบ้าง” ข้าตะโกนเรียกเสียงดังกึกก้องไปทั่วป่า แต่ก็ไม่มีใครตอบรับอะไรมา แม่น้ำสายนั้นพาข้ามายังน้ำตกแห่งนี้ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ “เฮ้ย...เสียงผู้หญิงว่ะ แต่พูดจาแปลกๆ” (พูดภาษาไทย)   “อ๊ะ!” ชายกำยำผู้หนึ่ง เดินตรงมาทางข้า ร่างบางรีบหลบหลังโขกหิน ข้าไม่สามารถเดาได้ว่าเขาพูดว่าอะไร ภาษาที่เขาใช้ข้าไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย “ข้าได้ยินมาจากทางนี้!” ไม่ใช่เพียงแต่มีคนเดียว แต่มีผู้ชายนับสิบกำลังเดินสำรวจ เพื่อตามหาข้า ชายพวกนั้นน่ากลัวมาก แถมการแต่งตัวของพวกเขาก็แปลกประหลาด ข้าไม่คุ้นตาเลย “อะไรของเอ็งวะไอ้ขาม ข้าไม่เห็นใครเลยนอกจากพวกเรา” ชายอีกคนพูด พวกเขาปิดหน้าไว้เหมือนกับพวกนินจาที่ข้าเคยเห็น พวกนินจาก็มักอำพลางตัวกันด้วยวิธีนี้ แต่ภาษา...ข้ายังคงฟังไม่รู้เรื่อง “ข้าว่าพวกเรารีบไปกันเถอะพี่เมฆ อย่าไปสนใจไอ้ขามมันเลย เดี๋ยวจะไม่ได้ปล้นกัน” ชายอีกคนหันไปพูดกับชายผู้หนึ่ง เขายืนเงียบไม่ได้ตอบอะไร สายตากวาดมองไปทั่ว จนเผลอมาสบตาเข้ากับข้าจังๆ   “อึก!” ร่างบางรีบหลบหลังโขดหินทันควัน ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า คนพวกนี้คงจะเป็นนินจาไม่น่าใช่พวกแม่ทัพ “มันคงไม่มีอะไรหรอก เอ็งคงจะหูฟาดไป” ชายที่สบตาเข้ากับข้าหันไปพูดกับชายที่เหลือ “แต่ฉันได้ยินจริงๆ นะพี่ เป็นเสียงผู้หญิงแต่พูดห่าอะไรของมันข้าก็ไม่รู้” “เอ็งอย่าไร้สาระเลยไอ้ขาม อย่าสนใจเรื่องไร้สาระเลยจ้ะพี่เมฆ พวกเรารีบไปปล้นกันเถอะจ้ะ!” ชายอีกคนพูด ชายที่สบตากับข้าพยักหน้าก่อนที่จะพากันเดินจากไป “ฟู่ว~ เกือบไปแล้วสิ คนพวกนี้เป็นใครกันข้าไม่เข้าใจในภาษาของเขาเลย”   ช่วงดึก   ร่างบางนั่งมองพระจันทร์บนท้องฟ้าอยู่ที่ริมแม่น้ำ ตั้งแต่ที่ข้าฟื้นขึ้นมาข้าก็ไม่ได้ทานอะไรเลย แถมบาดแผลที่ข้าถูกแทงในตอนนั้นก็ไม่มี ข้าเหมือนคนปกติ ที่พลัดตกน้ำ แต่ข้ายังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าที่นี่มันคือที่ไหน...   จากแม่น้ำ มาฟื้นที่ป่าข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ข้าคิดว่าข้าจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ แถมยังเจอกับพวกนินจา แต่งตัวพิลึก ภาษาพิลึกนั่นอีก ป่านนี้วังหลวงจะเป็นยังไงบ้างนะ...ฝ่าบาทจะรู้บ้างไหมว่าข้าอยู่ที่นี่...   “ถึงแม้ข้ากับท่านพี่ฟางฉีเราจะเหมือนกันมาก แต่มันก็มีหลายอย่างที่เรานั้นต่างกัน...ข้าก็ได้เพียงแต่หวังว่าฝ่าบาทจะรู้ว่านางที่อยู่ข้างพระองค์ ไม่ใช่ข้า”   กลิ่นควันไฟลอยมาจากที่หนึ่ง มันไม่ได้ห่างไกลมาก ด้วยความหิวข้าจึงเดินตามกลิ่นควันหอมของอาหารนั่นไป แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่โชคดี เพราะกลิ่นอาหารพวกนั้นมาจากเจ้าพวกนินจาพวกนั้น! ข้าจึงเพียงได้แต่แอบดูพวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย ท้องของข้าก็ร้องขึ้นเรื่อยๆ หากข้ามีความรู้ในการอยู่ป่า ข้าก็คงได้กินปลาย่างไปนานแล้ว   “พวกเอ็งกินกันให้เต็มที่ รุ้งเช้าข้าจะพาไปปล้นที่อื่นต่อ เราจะอยู่ปล้นกันอีกสามวันแล้วค่อยกลับ” ชายที่สบตากับข้าพูดขึ้น แต่ข้าก็ยังฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี และข้าก็มั่นใจแล้วละว่าคนพวกนี้คือนินจา และชายที่กำลังพูดก็คือหัวหน้านินจา!   “ดีเหมือนกันพี่ พวกเรามากันตั้งไกล อยู่ปล้นกันอีกเสียให้คุ้มก็แล้วกัน” ชายอีกคนพูด “เออ แล้วเสบียงอาหารยังมีเหลืออยู่ใช่ไหม?” ชายที่สบตากับข้าพูดอีกครั้ง ข้าอยากเข้าใจในภาษาของพวกเขาจัง ข้าจะได้รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน “เหลือยู่จ้ะพี่ เหลือพอที่จะเก็บไว้กินวันกลับเลยจ้ะ” “ก็ดี อิ่มแล้วพวกเอ็งก็นอนพักซะ ไม่ต้องกลัวว่าพวกตำรวจมันจะตามมาเจอ ข้าลงคาถาอาคมไว้แล้ว ไม่มีใครเห็นพวกเราแน่นอน” ชายที่สบตากับข้าพูด คาถา...?   “คะทะ...คะ..ขะทะ” ข้าพยายามพูดตามภาษาของชายกลุ่มนั้น แต่มันช่างยากเสียจริง ภาษาอะไรกันเนี่ย! เป็นนินจามาจากแคว้นไหน เมืองใดกัน!   ด้วยกลิ่นหอมของปลาย่างไม่อาจทำให้ข้าปล่อยวางได้ โชคดีของข้าที่ชายพวกนั้นไม่ได้ทานจนหมดยังเหลือปลาย่างไว้อยู่สองสามตัว ข้ารอจนพวกเขาหลับและค่อยๆ ย่องเข้าไปหยิบปลาย่าง   “งั่มๆ ~” ข้าชิมเล็กน้อยให้รับรู้ราชาติ ปลาย่างมันช่างอร่อยนัก ถึงแม้จะไม่ได้อร่อยเหมือนที่วังหลวง แต่มันก็พอประทังชีวิตของข้าได้บ้าง “มีอยู่สามตัว ข้าอยากจะนำไปทั้งหมด แต่ฮองเฮาที่ดีควรแบ่งปันมากกว่า ฉะนั้นข้าจะแบ่งปลาของข้า (เหรอ) ไว้ให้พวกเจ้าหนึ่งตัว”   ข้าหยิบปลาย่างมาสองตัวและเดินจากมาก่อนที่จะมีคนตื่น พวกเขาคงจะไม่ระวังตัว เป็นนินจากันแบบไหน ถึงได้สับเพร่าเช่นนี้ แต่ก็ดีข้าคงจะได้กินปลาย่างไปอีกหลายวัน โดยที่ไม่ต้องออกแรงไปจับเลย 555   วันต่อมา   Talk เหนือเมฆ   ข้า! เหนือเมฆ หรือ...เสือเมฆ! เป็นลูกของพ่อพสุหัวหน้าซุ้มโจร ข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าออกปล้นครั้งนี้ ตื่นขึ้นมาแต่รุ่งเช้าเตรียมออกปล้น แต่ก็ดันพบว่าปลาที่ย่างเหลือไว้เมื่อคืนหายไป! เป็นไปได้ยังไง!   “มันต้องมีคนมาขโมยไปแน่ๆ เลยพี่” ไอ้ขามลูกน้องที่อายุน้อยที่สุดพูด พร้อมจ้องปลาย่างที่ยังเหลือเขม็ง “แต่มันก็แปลก...ก็ในเมื่อพี่ร่ายคาถาบังตาไว้แล้วนี่” “ใช่! ข้าก็ว่าแปลก...ไม่ใช่ว่าเอ็งแอบมากินยามดึกหรอรึไอ้ขาม!” ส่วนนี่ไอ้คอย ลูกน้องของข้าอีกคน ฝีมือดีไม่แพ้กัน “ข้าเปล่านะพี่! ให้ข้าสาบานเลย ข้าไม่ได้กิน!” ไอ้ขามยกมือขึ้นสาบาน “ข้าไม่ได้กินจริงๆ นะพี่เมฆ” “หรือว่าคนคนนั้นจะมีวิชาเหมือนกันพี่” และนี่ไอ้ชิด ลูกน้องคนสนิทของข้าอีกคน คู่หูไอ้คอย   “ข้าว่าไม่น่าใช่ ถ้ามันมีอาคมเหมือนข้า...มันคงไม่มาขโมยแค่ปลาย่าง ทรัพย์สินเงินทองที่เราปล้นมาก็มีตั้งมากมาย ถ้าข้าเป็นมัน ข้าคงไม่เอาไปแค่ปลาย่าง” “มันก็จริงอย่างที่พี่พูด ปัดโธ่! ข้าอุตส่าห์จะเก็บไว้กินรุ้งเช้าเสียหน่อย! ถ้าจะเหลือให้ไว้แค่ตัวเดียว! คราวหลังถ้ามันมาขโมยอีกเอาไปให้หมดเถอะ!” ไอ้ชิดโวยวายอย่างหัวเสีย   สายตาคมกริบของร่างสูงเหลือบไปเห็นเครื่องประดับสีทองบางอย่าง มือหนาหยิบขึ้นมาดู เป็นต่างหูประหลาดตา ดูท่าจะไม่ใช่ของคนที่นี่ คล้ายกับของพวกชาวจีนในตัวเมือง แปลก...   ข้ากับคุ้นตาต่างหูคู่นี้ยิ่งนักเหมือนกับว่าข้าจะเคยเห็นผ่านๆ ตา สีทองแบบนี้มันทำให้ข้านึกถึงหญิงผู้นั้นที่ไอ้ขามได้ยินเสียง...!   “หรือว่า!”   “อะไรหรอพี่” ไอ้คอยถามขึ้น   “เปล่า...ไม่มีอะไร กับอีแค่ปลาย่าง พวกเอ็งอย่าไปสนใจเลย เงินทองที่รอพวกเราไปปล้นต่างหากล่ะ! พวกเอ็งพร้อมหรือยัง” ข้าหันไปถามลูกน้องที่เหลือ พวกมันพยักหน้าเตรียมพร้อม “ดี! ไป! ไปปล้นกัน!”   ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️   เผื่อใครที่ งง นะคะ ก็คือ ณ ตอนนี้นางเอกยังคงพูดภาษาจีน ส่วนพระเอกพูดภาษาไทยนะคะ    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD