ตอนที่6 แนวร่วมช่วยถอนหมั้น2

1564 Words
หลัวลี่ลี่มีนิสัยติดตัวชนิดหนึ่งคือชอบพกพายา ไม่ว่าจะยาสลบ ยาสลายกำลัง ยาสั่ง ยาห้าม ไม่เว้นแม้แต่ยาปลุกกำหนัด หรือยาลุ่มหลง เพียงแต่ก่อนหน้านี้นางไม่เคยได้ใช้กับใครเลยสักคน ยามยั่วยวนเฉินเจียหมิงคิดว่าต้องใช้แต่กลับไม่เคยได้ใช้ เพราะเฉินเจียหมิงเป็นบุรุษที่โปรยเสน่ห์ใส่ได้ผลง่ายดายยิ่ง แต่วันนี้หลัวลี่ลี่จับจังหวะเหมาะได้ใช้กับไป๋เว่ยซิน แต่เพราะอีกฝ่ายตั้งใจจะถอนหมั้นกับเฉินเจียหมิง และไม่คิดระรานหรือทำตัวเป็นศัตรูกับนาง สาวน้อยจึงใช้เพียงยาสลบชนิดอ่อน มิคิดใช้ยาพิษชนิดร้ายแรง แม้การตายของไป๋เว่ยซินจะทำให้เฉินเจียหมิงตัดใจ แต่การฆ่ามิใช่ทางออกที่ดี นางย่อมถูกตามสืบจนต้องเข้าคุก หมดอนาคตที่งดงาม กระนั้นวิธีที่ทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็นและเฉินเจียหมิงย่อมตัดใจจากไป๋เว่ยซินยังคงมี หลัวลี่ลี่อาศัยช่วงที่ไป๋เว่ยซินมีสติกำลังสะลึมสะลือ นางจึงพยุงอีกฝ่ายให้เดินไปด้วยกันเพื่อเปิดห้องในโรงเตี้ยม แล้วพาเข้าไปนอนได้ง่ายๆ จากนั้นนางก็หายไปจากในห้อง ทิ้งไว้เพียงความเงียบงัน บนเตียงนอน ไป๋เว่ยซินยังมีสติเล็กน้อยมิทันสลบไสล จึงพยายามครองสติเอาไว้สุดกำลัง นับว่าโชคดีที่นางมิได้ดื่มน้ำชามากเกินไป แค่จิบเบาๆ ไม่ถึงอึกเท่านั้น ผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป เสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น ไป๋เว่ยซินหรี่ตาเพ่งมองไร้ใครสังเกต นางนอนนิ่งเหมือนสลบ ยามนี้จึงได้เห็นบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมสตรีผู้หนึ่ง “เจ้าทำตามที่ข้าบอกแล้วเงินในถุงจะเป็นของเจ้า” “เชิญคุณหนูสั่งมา” “ยามข้าเปิดประตูห้องเข้ามาอีกครั้งต้องได้เห็นภาพที่ยากปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับนาง” บุรุษแปลกหน้าค้อมกายนอบน้อมยกยิ้มเหี้ยมเกรียม ส่วนฝ่ายสตรีปิดหน้า ทว่าน้ำเสียงที่เอ่ยนั้นไป๋เว่ยซินจำได้ หลัวลี่ลี่! เมื่อสั่งการเสร็จหลัวลี่ลี่ก็เปิดประตูออกจากห้องไป คงเหลือเพียงผู้ชายที่ลูบคางอย่างหมายมาดในบางสิ่ง เขาพึมพำ “แค่ทำให้เหมือนมิสู้ทำให้สมจริงไปเลย เนื้อเข้าปากเสือขนาดนี้แล้ว ไม่เคี้ยวแล้วกลืนลงท้องอิ่มหนำได้อย่างไร” ว่าพลางหันมาจับจ้องร่างบางบนเตียงนอน ไป๋เว่ยซินได้ยินชัดเจน รับรู้ได้ถึงแววตาหื่นกระหาย ลำตัวหญิงสาวชาวาบ นึกแค้นที่ตัวเองใจดีเกินไป หลัวลี่ลี่เลวกว่าที่นางคิดเอาไว้ สตรีที่คบชู้ สตรีที่ถูกย่ำยี จะมีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไร อย่าว่าแต่ในยุคโบราณเลย ยุคศตวรรษที่21 ก็ใช่ว่าจะง่าย มันคือฝันร้าย คือคนหนึ่งคนต้องตายทั้งเป็นตลอดไป จังหวะชายกักขฬะเริ่มโน้มกายทำท่าคร่อมตัวลงมา ไป๋เว่ยซินรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย ม้วนตัวพลิกไปอีกด้านของเตียงนอน ก่อนวิ่งไปเปิดประตูหลังห้องออกไปที่ระเบียง นางคงต้องทิ้งตัวลงไปจากตรงนี้ มิเช่นนั้นก็อย่าหวังว่าจะหนีรอดเงื้อมมือปีศาจราคะ ทว่าความคิดนั้นพลันต้องหยุดลง เมื่อระเบียงตรงนี้คือชั้นสาม ก้มหน้ามองลงไป คาดว่าหากกระโดดคงไม่พ้นกระดูกหักตาย หญิงสาวเกาะรั้วระเบียงแน่น เหงื่อแตกพลั่ก “โอ้! ฤทธิ์เยอะเสียด้วย หึหึ! ข้าชอบแบบนี้” ชายกักขฬะยกมือลูบปากเดินย่างสามขุมมาหา มั่นใจว่าคนงามหนีไม่รอดแน่นอน ใครจะกล้ากระโดดกันเล่า เสี้ยวเวลานั้น ไป๋เว่ยซินไม่คิดอะไรแล้ว นางกัดฟัน เค้นพลังทั้งหมดปีนระเบียงข้ามไปอีกห้องหนึ่งที่ติดกันทันที “เฮ้ย! เจ้า! บัดซบนัก!” ไป๋เว่ยซินได้ยินชายผู้นั้นสบถ ต่อด้วยคำด่าทอรุนแรง ซึ่งนางไม่เสียเวลาฟัง เมื่อข้ามระเบียงมาได้สำเร็จ ไป๋เว่ยซินรีบเข้าห้อง ปิดประตูฉับ มิคาดว่าเจ้าของห้องจะเป็นชายร่างใหญ่ เปลือยกายท่อนบน เผยเนื้อหนั่นแน่น ปล่อยผมแผ่สยายประบ่า ยืนมองนางนิ่ง “...!?” รอบด้านเงียบงัน มีเพียงกลิ่นอายน่ากลัวปกคลุมไปทั่วชั้นบรรยากาศ ชายผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ มองคล้ายนักรบโบราณ ใบหน้ามีหนวดครึ้มเต็มสันกราม ชวนครั่นคร้ามอย่างมาก ทั่วเรือนร่างกระทั่งเส้นผมที่แผ่สยายเคลียบ่าของเขาแผ่ซ่านความเคร่งขรึมเย็นชาชวนเหน็บหนาวจับขั้วหัวใจ เขายืนถมึงทึง น่าสะพรึงอย่างมาก ไป๋เว่ยซินไม่อาจตะลึงได้นาน นางวิงวอนทั้งน้ำตา “ท่านผู้กล้า...ช่วยข้าด้วย” หวังว่าตนเองคงไม่โชคร้ายมากไปกว่านี้ อย่างน้อยชายตรงหน้าก็มิได้ถูกว่าจ้างมาทำร้ายนาง อีกทั้งมิได้มีความแค้นอันใดกับนาง หญิงสาวกะพริบตา คลี่ยิ้มอ่อนหวานในความอ่อนแรงให้เขา นางไม่มีความคิดถอยห่าง ช่างน่าแปลกเหลือเกินที่กลิ่นอายอำมหิตแลดูป่าเถื่อนของเขาทำให้นางรู้สึกปลอดภัย หาใช่หวาดกลัว ไป๋เว่ยซินเริ่มทรงตัวไม่อยู่ นางทรุดฮวบ จังหวะนั้น ฝ่ามือแกร่งพลันเข้ามาประคองไว้ หญิงสาวเงยหน้าน้ำตาไหล “ท่าน...ได้โปรด ช่วย...” ในขณะที่ดวงตาใต้ม่านหมอกเริ่มหรี่ปรือแทบสิ้นสติ ไป๋เว่ยซินรับรู้ได้ถึงฝ่ามืออุ่นของคนตัวโตที่จับข้อมือนาง เขากำลังตรวจชีพจร อึดใจก็เคลื่อนลงต่ำไปที่เอวนาง เขากดจุดบางอย่าง คล้ายทำการกระตุ้นเลือดลมให้ ก่อนนำยาลูกกลอนใส่ปาก กุมคางมนให้นางกลืนยา ไม่นานสติสัมปชัญญะของไป๋เว่ยซินก็เริ่มกลับมาช้าๆ และแล้วก็ค่อยๆ แจ่มชัด นางกะพริบตาไล่น้ำสีใสที่เอ่อคลอ ไม่นานภาพตรงหน้าก็กระจ่างใส นางฟื้นคืนพลังทั้งหมด หลังบานประตูที่ปิดสนิท ไป๋เว่ยซินนั่งนิ่งแหงนหน้ามองชายปริศนาไม่วางตา เขาเองก็มองนางไม่วางตาเช่นกัน ดวงตาคมเฉี่ยวคู่นั้น มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด “ดีขึ้นหรือไม่?” เขาถามเสียงขรึม หากแต่ไป๋เว่ยซินลืมกระทั่งพยักหน้าแล้ว ใบหน้าคมคายของเขาดุดันน่ายำเกรง นางจ้องลึกที่ดวงตาคมเฉี่ยวของเขาอย่างต้องการค้นหา โดยที่ชายหนุ่มแค่นั่งมองนางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าหนีอะไรมาหรือ?” หญิงสาวรีบดึงสติของตนกลับมา “ข้าหนีโจรราคะมาจากห้องนั้น” นางชี้นิ้วสั่นๆ ไปทางห้องเดิมที่หนีมา บุรุษหนุ่มมองตาม ดวงตาของเขาสงบนิ่งลุ่มลึกหากแต่เย็นเยียบราวก้นทะเลสาบน้ำแข็ง เขาหรี่ตาลงอย่างอันตราย “มันสมควรตายหรือไม่?” ถึงแม้ว่าไป๋เว่ยซินจะอยากให้เจ้าชั่วในห้องนั้นถูกสับเป็นหมื่นชิ้น แต่น้ำเสียงข่มขวัญจากชายตรงหน้าที่ไร้วี่แววล้อเล่นนี้กลับทำนางรู้สึกเวทนาเจ้าคนถ่อยผู้นั้นขึ้นมาแล้ว หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ ค่อยๆ เอ่ยอย่างลังเล “แค่...แค่สั่งสอนให้สำนึกก็พอกระมังเจ้าคะ” ชายปริศนาพยักหน้าขรึม ก่อนหันไปมองทางมุมห้อง ส่งสายตาเลือดเย็นแทนคำสั่งด้วยคำพูด คนชุดดำผู้หนึ่งพลันปรากฏกายแล้วพรางตัวหายวูบ ประหนึ่งภูตพรายจากปรโลก ไป๋เว่ยซินเบิกตาโต เจ้าของห้องลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หมุนกายเชื่องช้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่ข้างโต๊ะ ไป๋เว่ยซินมองเขา มองใบหน้า กวาดสายตาระเรื่อยลงมาที่กล้ามเนื้อหนั่นแน่นซึ่งเปลือยเปล่าครึ่งลำตัวของเขา “ท่าน...ใส่...ใส่เสื้อก่อน” นางชี้นิ้วสั่นๆ บอกอย่างเขินอาย “ข้ากำลังทำแผล” ชายหนุ่มปรายตามองแผงอกตน ก่อนชำเลืองมองกล่องไม้ใส่ยาบนโต๊ะ เปล่งวาจาเรียบนิ่ง “แม่นางช่วยทำแผลให้ข้าได้หรือไม่?” น้ำเสียงของเขาที่มิใช่การขอร้องอ้อนวอนแต่เหมือนคำสั่งมิให้ปฏิเสธนี้เหมือนมีแรงดึงดูดทำใจคนฟังหวั่นไหว ไป๋เว่ยซินพยักหน้ารับ ก่อนลุกขึ้นอย่างไม่อิดออด “เพื่อตอบแทนท่านที่ช่วยเหลือ ข้าจะทำให้อย่างดีเจ้าค่ะ” ชายบนเก้าอี้พยักหน้าเนิบๆ ในแววตาดำจัดค่อยๆ สะท้อนภาพเงาร่างของหญิงสาวที่เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ ไป๋เว่ยซินนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเขา นางหลุบตา ใบหน้าแดงซ่าน เพียรสนใจแค่แผลบนกล้ามหน้าอกตึงแน่น นางจึงไม่อาจรับรู้ได้ถึงสายตาดุดันที่เร่าร้อนของเขา ยิ่งไม่มีทางเห็นรอยยิ้มที่กำลังกดลึกตรงมุมปากบางเบาอย่างหาได้ยากยิ่งของชายปริศนา ไป๋เว่ยซินไม่มีทางรู้ว่าบุรุษท่าทางดุดันเย็นชาผู้หนึ่งกำลังรู้สึกปั่นป่วนในหัวใจราวเกิดพายุในอกอย่างบ้าคลั่ง ฝ่ามือของเขาสั่นเทาเบาๆ อย่างไม่อาจควบคุมได้ *** พระเอกมาแล้วค่ะ พ่อเนื้อแน่นมาพร้อมกล้ามงามๆ ชวนรุ่มร้อน ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD