สองวันที่แล้ว
"เลิกยุ่งกับพิณตรา" น้ำเสียงเรียบนิ่งเชิงออกคำสั่ง ดังมาจากปากของคุณหญิงศศิ คนอายุมากโยนซองสีน้ำตาลไปยังกลางโต๊ะ ดูก็รู้ว่าภายในคงบรรจุธนบัตรไม่น้อย
"ไม่เปิดดูหน่อยล่ะ เงินแค่นี้เล็กน้อยสำหรับฉัน แต่สำหรับเธอคงจะสบายไปทั้งชาติ"
"ขอบคุณนะคะ แต่เก็บเงินของคุณไปเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการ"
"จองหอง" คนอายุมากเปรยออกมาพร้อมกับใบหน้าดูถูก อยากจะเอ่ยถามเหลือเกินหากว่านี่คือเงินเพียงน้อยนิดสำหรับหล่อนแล้วทำไมถึงปล่อยให้คนเป็นลูกอย่างพิณตราต้องลำบากอยู่คนเดียวแบบนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินคนรักเอ่ยถึงแม่สักครั้ง แถมยังไม่เคยเห็นการช่วยเหลือใดใดจากคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่
"ฉันจะไม่ไปไหนจากพิณค่ะ แต่ถ้าพิณไม่อยากอยู่กับฉันแล้วฉันก็จะไม่รั้งเธอไว้"
"จำคำพูดของเธอไว้นะ เพราะถ้าเธอผิดคำพูดแล้วล่ะก็ เธอจะได้รู้ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ"
"อ้อ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ลูกสาวฉันเป็นคนขี้เบื่อ ทนความจนได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวเธอก็จะถูกทิ้งเข้าสักวัน"
"เมื่อก่อนน่ะอาจใช่ค่ะ แต่ตอนนี้พิณเปลี่ยนไปแล้ว" พิมพ์ดาวกลั้นใจเอ่ยออกไปอย่างมั่นใจ เธออยากจะขัดทุกคำของคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่แต่ก็กลัวรังษีอำมหิตนี้
"เหรอ แล้วเรามาคอยดูกัน" พูดจบแค่นั้นก็เดินออกไปโดยที่ทิ้งซองเงินไว้บนโต๊ะ เป็นความตั้งใจของพิมพ์ดาวที่ออกจากบ้านมาเลือกซื้อสินค้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่าที่ได้มาเจอกับคุณหญิงศศิ เธอมาพร้อมกับผู้ดูแลข้างกาย หล่อนมาเชื้อเชิญเธออย่างสุภาพให้ขึ้นรถมาด้วยกันเพราะแม่ของคนรักต้องการจะคุยธุระสำคัญ เธอจึงยอมทำตาม ร้านกาแฟที่ไร้ผู้คนนอกจากพวกเธอคือที่นัดหมาย หลังจากพูดคุย พิมพ์ดาวก็เดินกลับบ้านด้วยร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงปราศจากข้าวของที่ลิสต์ไว้เพื่อจะซื้อ หล่อนกอดซองเงินไว้แน่นตั้งใจจะคืนให้เจ้าของเป็นแน่
"พี่ไม่สบายหรือเปล่า" หันมาเห็นสภาพพิมพ์ดาวเดินใจลอยแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้
"ค่ะ" เอ่ยตอบคนรักเมื่อเดินมาถึงบ้านเปิดประตูเข้ามาก็เจอพิณตรากำลังล้างจานอยู่ในครัวเลอะเทอะไปทั้งตัว หรือบางทีเธออาจจะต้องปล่อยเด็กสาวคนสวย กลับไปอยู่ในที่ที่เป็นของหล่อนตั้งแต่แรก ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวขึ้นมาจริงๆ ส่วนเมื่อคนน้องได้ยินอย่างนั้นก็รีบทิ้งข้าวของในมือลงอ่างล้างจานและเดินมาดูอาการคนพี่ทันที
"คงเป็นเพราะอากาศแปรปรวนแน่เลย พี่รีบขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะ เดี๋ยวพิณดูแลพี่เอง" เข้ารวบเอวคนรักก่อนจะพาขึ้นห้อง จัดที่นอนให้พิมพ์ดาวได้พัก
"ตัวไม่เห็นร้อนเลย" หล่อนเอามืออังที่หน้าผาก ข้างแก้มและลำคอเหมือนที่พิมพ์ดาวชอบทำ
"คราวหลังให้พิณไปด้วยนะคะ เผื่อเป็นอะไรขึ้นมาพิณจะได้อยู่ข้างๆ พี่"
"นอนพักสักนิดพี่คงดีขึ้น ตอนนี้ขอยาแก้ปวดก่อนสักเม็ดค่ะ" ตอบเด็กสาวออกไป
"แล้วอยู่ตรงไหนคะ" เอ่ยถามคนพี่เพราะเธอไม่เคยแม้แต่จะหายาทานเอง มีแต่พิมพ์ดาวที่คอยดูแล
"ตู้ยาในครัวค่ะ รู้จักยาแก้ปวดใช่มั้ย" ไม่ลืมถามคนรักกลัวว่าหล่อนจะเอายาผิดมาให้
"ค่ะ รู้ เดี๋ยวพิณเอามาให้" พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไปไม่นานก็กลับมา พร้อมกับแก้วน้ำและยา คนพี่รับมากินและล้มตัวลงนอน
"เย็นนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารและน้องนนท์นะคะ เดี๋ยวพิณดูแลเอง พี่นอนพักนะ" พิมพ์ดาวเพียงพยักหน้าและนอนหลับไป
การทำอาหารไม่ใช่งานถนัดของพิณตราแต่การใช้เงินเพื่อซื้ออาหารมาประทังชีวิตคืองานที่ทำได้ดี ไม่ต้องรอให้ถึงมื้อเย็น อาหารมางมายก็ถูกวางเรียงรายให้เลือกสรรค์ แต่ก็เกือบเป็นหมัน เพราะหนุ่มน้อยดันขออนุญาตไปนอนค้างบ้านเพื่อนอย่างมิกกี้กับมินนี่ เธอจึงถือโอกาส แบ่งให้ไป
"ทานข้าวค่ะ" ปลุกคนรักจากการหลับไหลให้ลุกขึ้นมาทานข้าว
"พี่ยังไม่หิวเลยค่ะ" เธองอแงพร้อมกับหันหนีไปอีกทาง ภาพแบบนี้พิณตราไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ทำไมช่างดูมีเสน่ห์
"อื้อ อย่าค่ะ พี่ไม่สบายอยู่นะ" คนน้องเลื่อนมือไปที่เสื้อตัวบางพยายามแกะกระดุมเสื้อคนพี่อย่างเบามือ กว่าพิมพ์ดาวจะรู้สึกตัวกระดุมก็ถูกแกะจนหมด เด็กสาวขึ้นคล่อมตัวคนรักไม่สนใจคนที่เอ่ยห้าม ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหล่อนอย่างนุ่นนวลอ้อยอิ่ง แต่พิมพ์ดาวกลับไม่ให้ความร่วมมือนัก พยายามเบี่ยงหน้าหนียิ่งเปิดโอกาสให้คนน้องมากขึ้นอีกจน
"บอกว่าอย่าไง! " พิมพ์ดาวใช้กำลังที่มีทั้งหมดดันตัวเด็กสาวออกเต็มแรง จนร่วงลงจากเตียง
"ขอโทษค่ะ พิณแค่ชอบตอนที่พี่งอแง ยังไงก็ทานข้าวนะคะ เดี๋ยวพิณเข้ามาเก็บจานให้" พิณตรารีบลุกขึ้นยืนเก้ๆ กังๆ เอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด นึกโทษตัวเองที่เอาแต่ใจคิดรังแกคนกำลังป่วย รีบเดินออกจากห้องทันที
"โกรธพี่หรือเปล่าคะ" ไม่ปล่อยให้คนน้องได้ออกจากห้องไปนาน เธอตามลงไปติดๆ พร้อมกับถาดอาหาร
"ไม่ค่ะ" พิณตราตอบตามตรง
"เอาไว้นั่นแหละค่ะ เดี๋ยวพี่ล้างต่อให้เอง" รู้สึกผิดที่เผลอใส่อารมณ์กับคนรัก ยืนดูพิณตราล้างจานอยู่ด้านหลัง
"พี่ไม่สบายอยู่จะทำทำไมล่ะ พิณทำเองน่ะดีแล้ว" พูดพลางขะมักเขม่นล้างจานไม่หยุด
"งั้นก็ใส่นี่ด้วยค่ะ" คว้าผ้ากันเปื้อนที่แขวนอยู่มาใส่ให้คนน้อง
"ดูซิเลอะเทอะหมดเลย แล้วเอาลูกชายพี่ไปเก็บไว้ไหนคะ" เอ่ยถามออกไปเพราะเวลานี้ลูกชายตัวแสบมักนอนแผ่หราดูทีวีอยู่ที่โซฟาแต่ตอนนี้กลับไม่เจอ
"พิณเอาไปเก็บไว้บ้านมิกกี้มินนี่ค่ะ เห็นว่ามีเรื่องต้องคุยกัน เรื่องของเด็กๆ น่ะ แล้วอีกอย่างพรุ่งนี้วันหยุด ก็เลยปล่อยให้ไปป่วนบ้านคนอื่นบ้าง"
"เหรอคะ เกรงใจฟีฟี่แย่เลย" เธอเอ่ยทีเล่นทีจริง การมีพิณตราเข้ามาอยู่ในชีวิตด้วยสถานะคู่ชีวิตโดยมีลูกชายเห็นชอบ ก็เท่ากับว่าคนรักของเธอก็มีสิทธิมีเสียงในการช่วยเลี้ยงดูอบรมลูกชายเธอไปด้วย ดังนั้นหากพิณตราเห็นว่าดีและมีเหตุผลเธอก็ว่าดี
"ทานข้าวเถอะค่ะ พิณทานแล้ว" พยักหน้ารับคำก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมและตักอาหารเข้าปาก
ปัจจุบัน
"น้องนนท์อยู่ข้างบนใช่มั้ยคะ" เมื่อมาถึงบ้านก็ถามหาหนุ่มน้อยจากพิมพ์ดาวทันที
"ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" เห็นท่าทีร้อนรนของคนรักจึงเอ่ยถามออกไป แต่พิณตรากลับรีบวิ่งขึ้นบ้านไปไม่ได้ฟังจนจบ พิมพ์ดาวได้แต่ส่ายหัวให้กับอารมณ์ปรวนแปรของหล่อน
เมื่อเข้ามาบริเวณโถงชั้นบนพบเด็กหนุ่มกำลังต่อจิ๊กซอก็โล่งอก เดินเข้าไปนั่งตรงข้ามและช่วยต่อ
"นนท์ วันนี้มีใครมาหา" เอ่ยถามออกไป
"พี่สาว เพื่อนของแม่พี่พิณ"
"ทำไมถึงเล่นกับเค้าแบบนี้" ยื่นรูปในโทรศัพท์ให้ดู หนุ่มน้อยถึงกับยกมือปิดปากขำทันทียิ่งสร้างอารมณ์ตึงๆ ให้พิณตรา
"ทำไมพี่พิณโกรธ" แต่ก็ต้องหยุดขำและเอ่ยถามออกมา
"คนนั้นเป็นคนไม่ดี ต่อไปนี้ห้ามอยู่กับเค้าสองคนตามลำพังเด็ดขาดนะ ถ้านนท์รักแม่และรักพี่"
"แต่พี่เค้าเป็นเพื่อนแม่พี่พิณนะ" เอ่ยถามด้วยความสงสัย
"งั้นพี่จะยกตัวอย่าง ระหว่างมิกกี้กับมินนี่ นนท์ชอบใครมากกว่า"
"ชอบมินนี่ เพราะมินนี่ใจดีชอบแบ่งของเล่นให้แต่มิกกี้ชอบหวง" รีบตอบทันควัน
"นั่นไงขนาดสองคนนั้นเป็นแฝดกันนิสัยยังไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นไม่จำเป็นว่าเพื่อนกันจะนิสัยเหมือนกัน แม่พี่อาจเป็นคนดีและพี่สาวคนนั้นอาจเป็นคนไม่ดี หรือบางที แม่พี่อาจเป็นคนไม่ดีแต่พี่สาวคนนั้นอาจเป็นคนดีก็ได้"
"ที่พี่จะบอกก็คือ ห้ามไว้ใจใครเด็ดขาดแม้จะเป็นคนที่เราเคยเจอมาก่อนก็ตาม" แต่เมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าหนุ่มน้อยจึงเอ่ยเสริมอีกอย่างรู้ทัน
"ยกเว้น แม่ดาว พี่พิณและน้าอีวา แค่สามคนนี้พอ" ทำให้คลายสงสัยและยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
"แล้วถ้าพี่เค้าไปหาที่โรงเรียนอีกล่ะ"
"ห้ะ! ไปที่โรงเรียนเลยเหรอ" หนุ่มน้อยพยักหน้าและเล่าว่าคนสนิทของแม่มักชวนขึ้นรถพาไปหาขนมกินและมาส่งหน้าบ้านเกือบทุกวัน ยิ่งทำให้พิณตราเครียดหนัก ชีวิตของสองแม่ลูกกกลังถูกคุกคามอย่างหนักแบะนี่คงเป็นการส่งสัญญาณเตือนจากแม่เธอ
"งั้นต่อไปนี้ห้ามไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนนั้นอีก ถ้าเธอมาหาให้วิ่งหนี หรือไปอยู่ตรงที่มีผู้ใหญ่หรือคนเยอะๆ เข้าใจมั้ยนนท์"
"เข้าใจครับ" หนุ่มน้อยพยักหน้ารับด้วยอย่างเข้าใจ