ตอนที่ 1-2-3
ตอนที่ 1
"ลงไป! " คนอายุมากกว่าออกปากไล่ดาราวัยรุ่นชื่อดัง
"ไม่เอา จะบ้าหรือไง" เมธาวีแว้ดกลับทันที
"ถ้าเธอไม่ลงไปฉันจะไล่ไอ้เปี้ยกออก" ชี้นิ้วไปที่ช่างภาพประจำกายที่มักตามติดพวกเธอไปทุกที่ ความจริงอลินก็คือดารา อดีตดารา นางเอกมากความสามารถ แต่พอกาลเวลาผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยน เธอจึงตกกระป๋องมีเาราหน้าใหม่ ค่าตัวถูกกว่า และเรื่องน้อยกว่ามาแทนที่ ส่วนคนที่เธอเพิ่งไล่ลงจากรถ เมธาวี คือเด็กปั้น เป็นความภูมิใจของเธอ
"แต่ตอนนี้มัน มัน...เห้อ" เมธาวีเลิ่กลั่ก แต่ก็ยอมเปิดประตูลงรถไปยืนกลางสะพานที่มีรถวิ่งสวนไปสวนมา การจราจรแสนจะคับคั่งเวลานี้ เสียงแตรบีบไล่เธอเป็นระยะๆ ที่ลงมาสร้างความวุ่นวาย ไม่นานเจ้าเปี๊ยก ช่างภาพก็รีบวิ่งตาม และจัดแจงถ่ายภาพให้หล่อนกลางสะพาน ภายในร้อนรนสุดขีดและอยากจะกระโดดลงสะพานให้รู้แล้วรู้รอดด้วยความอับอาย แต่ตอนนี้เธอต้องพยายามปรับสีหน้าให้ปกติ
"แอ่นอีกย่ะ ทำหน้าให้มันเฟี้ยสหน่อยสิ" อลินออกปากสั่งทั้งที่ตนเองนั่งเปิดกระจกตะโกนออกมาจากภายในรถ ไม่สนใจผู้คนที่ก่นด่าและบีบแตรไล่โห่ สะพานโกลเดนเกต ตอนนี้กำลังชุลมุนวุ่นวายสุดๆ
'ติ้ง ติ้ง' เสียงข้อความของอลินดังขึ้นขัดจังหวะ
"ใครส่งอะไรมาตอนนี้เนี่ย" บ่นออกมาใบหน้าหงิกงอเพราะมันทำให้ต้องละสายตาจากเด็กปั้นของตัวเอง ควักโทรศัพท์เครื่องหรูออกมากดเปิดข้อความ ก่อนจะยกยิ้มออกมาด้วยความสะใจ กดปิดกระจก และขับรถออกจากตรงนั้น ลืมไปอย่างไม่ตั้งใจว่ามีสมาชิกที่มาด้วยอีกสองคนกำลังทำวิ่งตามรถเธออย่างกระหืดกระหอบ
"พี่ดาว ตื่นเถอะ ขึ้นข้างบนกันค่ะ" นั่งลงกับพื้น เอ่ยเรียกคนรักที่นอนอยู่บนโซฟาเสียงไม่ดังนัก พิมพ์ดาวงัวเงียลืมตาตื่นค่อยๆ ขยับ เตรียมจะลุกตามที่พิณตราปลุก
"กลับมาแล้วเหรอ อยากทานอะไรมั้ยคะ" ไม่วายอดห่วงคนที่เพิ่งจะกลับมาจากงานเลี้ยงปิดกล้องไม่ได้ โดยไม่ได้สนใจว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยาม ไม่บ่อยนักที่พิณตราจะกลับดึกดื่นหรือข้ามวันขนาดนี้หากอีวา ที่ผันตัวและลาออกขากงานครูมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพิณตราอย่างถาวร เธอบอกว่าอยากจะตักตวงเงินทองจากหล่อนให้มากที่สุดและเธอก็สามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่าด้วยซ้ำ และมีหรือที่พิณตราจะกล้าปฏิเสธ คืนนี้อีวาบังคับให้เธอไปดื่มที่บาร์เป็นเพื่อนโดยไม่ดูเวล่ำเวลา สำหรับพิณตราเธอนั่งไม่ติดตั้งแต่สี่ทุ่ม แต่ก็ทิ้งอีวาให้เมาเละเทะในบาร์ไม่ได้
"ไม่ค่ะ ทานมาแล้ว" ตอบก่อนจะก้มลงหมายจะหอมแก้มพิมพ์ดาว แต่
"อย่าค่ะ เหม็น" พิมพ์ดาวเบี่ยงตัวหลบ ดันตัวคนรัก และเอ่ยปฏิเสธ
"ดื่มมาเยอะใช่มั้ย" คงเพราะกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้ง แต่พิมพ์ดาวไม่ได้ออกเสียงดุหรืออย่างไร เธอเข้าใจแค่ถามเพื่อความแน่ใจ
"เพราะอีวาค่ะ ทำให้พิณต้องดื่มแถมยังอ้วกเลอะเทอะเต็มเสื้อพิณอีก" แอบบ่นหน้าง้ำและโทษผู้จัดการส่วนตัวของตนเอง
"งั้นรีบไปอาบน้ำเลยค่ะ เหม็นเพราะอ้วกคุณอีวานี่เอง" ทำท่าปิดจมูกอย่างจริงจัง
"ค่ะ คุณแม่" สรรพนามนี้ 'คุณแม่' ถูกนำมาใช้เรียกคนรัก อย่างพิมพ์ดาว ซึ่งเธอก็ไม่ขัดแม้แรกๆ จะแปลกใจอยู่บ้างในทีแรกที่ได้ยิน แต่ยิ่งพอพิณตราพูดบ่อยเข้า มันฟังดูน่ารักแทนน่าโมโห เด็กสาวรีบวิ่งขึ้นบ้านไปทันที
"อยากอาบด้วยกันมั้ยคะ" พิณตราเอ่ยถามคนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างเจ้าเล่ห์
"ไม่ค่ะ พี่จะนอนแล้ว" รีบเดินออกจากตรงนั้นเข้าห้องนอนตัวเองทันที เด็กสาวได้แต่มองตามนึกขำท่าทางของคนรักแทนก่อนจะเปิดประตูเข้าห้อง พิมพ์ดาวดูแลเธออย่างดีราวกับเธอเป็นลูกอีกคนนึงก็ไม่ปาน วันนี้เหมือนอย่างทุกวันคือพิมพ์ดาวจะคอยเตรียมน้ำอุ่นให้เธออาบเกือบทุกวันที่กลับดึก พิมพ์ดาวเชื่อว่าจะทำให้พิณตราที่ทำงานมาหนักผ่อนคลายได้ อบอุ่นที่สุดสำหรับเด็กสาว ไม่เคยมีใครที่พยายามทำให้เธอทุกอย่าง อย่างดี อย่างเต็มใจเท่ากับผู้หญิงคนนี้ มันเป็นความจำเจที่ไม่เคยทำให้พิณตราเบื่อเลย มีแต่รักที่มากขึ้น เด็กสาวแทรกตัวเข้าผ้าห่มผืนเดียวกันกับพิมพ์ดาว เอื้อมมือคว้าคนรักเข้ามากอดแน่นอย่างเคยไม่ลืมบรรจงกดจูบที่แก้มหล่อนเหมือนทุกคืน
"วันนี้พี่กลับดึกนะคะ" เอ่ยบอกคนรักขณะนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน พิณตราเงยหน้าขึ้นมองทันควัน น้อยครั้งที่พิมพ์ดาวจะกลับบ้านดึก
"กี่โมงคะ ให้ไปรับมั้ย" น้องนนท์ก็เงยหน้ามองพิณตราอย่างนึกแปลกใจ
"ไม่ต้องค่ะ" เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี
"จอนมาส่ง" ยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีก
"นั่นยิ่งต้องไปรับเลยล่ะ" พิณตราเริ่มไม่พอใจ
"ใช่ใช่" ลูกชายตัวดีช่วยเสริมบ้าง
"เห้อ พอกันเลยทั้งคู่ หยุดความคิดเดี๋ยวนี้ นี่ก็ผ่านมานานแล้วและแม่บอกแล้วไงว่าแม่กับอาจอน"
"เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว เหลือไว้แค่เพียงสถานะเพื่อนที่ดีต่อกัน" เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทั้งคู่รับฟังอย่างตั้งใจใบหน้าจ๋อยๆ เวลาที่พิมพ์ดาวจริงจังทุกคนก็ต้องรับฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้
"น้องนนท์ครับ เข้าใจแม่ใช่มั้ย" หันถามลูกชาย เขาพยักหน้าหงึกๆ รีบคว้ากระเป๋าเดินออกจากบ้านทันที ได้เวลารอรถโรงเรียนอย่างรู้งาน ไม่เหมือนกลับทุกๆ วัน ที่พิมพ์ดาวต้องเคี่ยวเข็ญ ทิ้งไว้ให้คนพี่ได้แต่เจ็บใจ ที่ถูกคนที่เข้าใจว่าอยู่ข้างเดียวกันทิ้งไว้กลางทางแบบนี้
"โหย ไอ้แสบ" ได้แต่บ่นไล่หลัง แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อหันกลับไปเจอพิมพ์ดาวที่นั่งมองเธออย่างคาดโทษ ได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งไปอย่างสำนึกผิด
"ก็พิณหึงและก็หวงพี่นี่ เลิกคบเขาเป็นเพื่อนได้มั้ย ที่ทำงานไม่มีคนอื่นให้คบแล้วหรือไง" เธอเริ่มพาล บ่นกระปอดกระแปด พิมพ์ดาวได้แต่ส่ายหน้าอยากจะโกรธแต่ก็ทำไม่ลง
"งั้นก็บอกเหตุผล หรือข้อเสียของจอนมาค่ะ ว่าทำไมพี่ถึงต้องเลิกคบเขา ถ้ามันฟังขึ้น พี่จะเลิกติดต่อกับเขาตามที่พิณบอก" กอดอกเอ่ยถามคนรักด้วยความใจเย็นและจริงจัง
"ก็..." พิณตรานึกไม่ออก
"จอนเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ และก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ ทำไมพี่ต้องเลิกคบ" เอื้อมมือลูบแก้มใสๆ ของเด็กสาวอย่างเบามือและพยายามจะเอาใจ พิณตรารีบตระครุบจับไว้อย่างนั้น
"ขอโทษค่ะ" เอ่ยออกไปเพราะรู้สึกผิดจริงๆ ที่ผ่านมาพิมพ์ดาวปฏิบัติต่อจอนนี่เหมือนเพื่อนจริงๆ หล่อนเว้นระยะห่างกับเขาอย่างชัดเจน
"ค่ะ" พิมพ์ดาวตอบแค่นั้นพร้อมกับอมยิ้มให้คนรักเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ
"ถ้าใส่ชุดแบบนี้ พิณต้องไปคุม" พิณตรายืนกอดอกพิงประตู มองพิมพ์ดาวที่เตรียมหยิบชุดออกงานโชว์สัดส่วนหลายตัวออกมาแขวนไว้เรียงรายเพื่อเลือก
"นี่พูดจริงเหรอคะ" หันมาถามคนรักที่อยู่ๆ ก็ตามขึ้นมายืนดูเธอเลือกเสื้อผ้าถึงบนห้อง ปกติพิณตราจะไม่ค่อยยุ่งกับการแต่งกายของเธอมากนักแต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน
"พิณว่าตัวนี้ดีกว่า" เปิดตู้หยิบเสื้อคอเต่าที่พิมพ์ดาวชอบใส่เป็นประจำส่งให้
"ค่ะ งั้นพี่ใส่ตัวนี้" หยิบมาพับใส่ถุงเตรียมถือติดไปที่ทำงานด้วย คืนนี้ที่บริษัทมีงานเลี้ยงเล็กๆ ต้อนรับเจ้านายคนใหม่ ดังนั้นการเลือกหยิบชุดสวยออกจากตู้เพื่อใส่ในค่ำคืนนี้ ถือเป็นการให้เกียรติเขา แต่การที่ทำตามพิณตราก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้คนรักเหมือนกัน เอาเป็นว่ามันก็ทำให้พิมพ์ดาวสบายใจไปด้วย
"อึดอัดหรือเปล่าคะ ที่พิณนิสัยแบบนี้" นั่งลงปลายเตียงข้างคนรักที่กำลังจัดข้าวของ เอ่ยถามเพราะทุกครั้งที่พิณตราขออะไรก็ตาม พิมพ์ดาวก็ไม่เคยขัดและทำตามอย่างว่าง่าย
"ไม่ค่ะ พี่ชอบที่พิณหึงพี่นะ" เธอคงโรคจิตกับการแสดงความรักของพิณตราในแบบนี้ ตอบไปโดนที่ไม่มองหน้าคนรัก
"แล้วพี่หึงพิณบ้างหรือเปล่า" เพราะการทำงานของเธอต้องพบเจอคนมากหน้าหลายตาทั้งหญิงทั้งชาย แถมว่าที่เธอทำก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใกล้ชิดกันต่างจากพิมพ์ดาวแต่เป็นเธอเองที่งี่เง่า
"ไม่ค่ะ"
"ทำไมล่ะ"
"เพราะพี่ไว้ใจพิณ"
ตอนที่ 2
"นนท์ ถ้าพี่ทำกับข้าว หนูว่าจะมีคนกินมั้ย" อยู่ๆ ก็หันบอกหนุ่มน้อยที่นั่งอยู่ข้างกันหน้าทีวีจอใหญ่
"ทำเลยพี่พิณ ผมจะกินแล้วผมจะช่วยทำด้วย" หนุ่มน้อยตาโตดีใจกระโดดโลดเต้น
ตอนนี้ในครัววุ่นวายไปหมด แค่ข้าวผัดอเมริกา ในสหรัฐอเมริกา ปกติโทรกริ้งเดียว อาหารจากภัตตาคารหรูก็มาส่งถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาทำ แต่แค่วันนี้เด็กสาวอยากจะทำให้คนรักทั้งสองได้ลองทานบ้าง
"พี่พิณ ไก่ไหม้! " ยิ่งทำให้พิณตราลนลาน ทิ้งจานใบโตให้ร่วงลงพื้น เพราะด้วยทั้งคู่กำลังตั้งหน้าตั้งตากันจัดจานจนลืมไปว่าทิ้งไก่ไว้ในกระทะ หากหนุ่มน้อยไม่หันไปมองบ้านคงไฟไหม้แต่มันอาจจะดูสายเกินไปเสียหน่อย เพราะตอนนี้ควันลอยฟุ้งแถมกลิ่นไหม้อีก
"ทำยังไงดี"
"น้ำๆๆๆ ใช้น้ำดับ" หนุ่มน้อยรีบคว้าถ้วยใบที่เห็นว่าโตสุดเปิดก๊อกรองน้ำแล้วสาดโครมไปที่กลุ่มควันทันที แต่ดันผิดเป้าเข้าหน้าพิณตราเต็มๆ เอ่ยขอโทษพี่สาวก่อนจะหันกลับไปเปิดน้ำใส่ถ้วยใหม่ น้ำเย็นๆ ทำให้พิณตรามีสติ รีบวิ่งออกจากครัว ไปยังมุมบ้านหอบถังดับเพลิงเข้าครัวใหม่ นึกขอบคุณคนรักที่รอบคอบ บ้านคนปกติคงจะไม่มีถังดับเพลิง
พ่นไปยังกลุ่มควันแบบไม่ลืมหูลืมตา ตอนนี้ทั้งห้องมีแต่ควัน ควันจากกระทะและควันจากถังดับเพลิง แต่ควันจากต้นเพลิงค่อยๆ มอดลงและภาพที่เห็นคือ สองแม่ลูกเสื้อผ้าขาวโพลน พิณตราตาโตด้วยความตกใจ
"ใครเป็นคนต้นคิด" เอ่ยถามลูกชายในอ่างอาบน้ำอย่างคาดโทษ
"ผมกับพี่พิณ" หนุ่มน้อยบอกปัด อย่างน้อยถ้าโดนแม่โกรธก็คนละครึ่งๆ กับพิณตรา
"แต่แม่ว่าต้องเป็นพี่พิณแน่ๆ " นึกอ่อนใจกับคู่นี้ที่ชอบแย่งกันรับผิด
วันนี้ทั้งสามต้องย้ายห้องทานข้าวจากในครัวเป็นห้องอาหารสุดหรูแทน ห้องอาหารที่อยู่ถัดจากห้องครัวไม่เคยเปิดใช้มานานแต่พิมพ์ดาวไม่เคยละเลยการทำความสะอาดในทุกวันหยุด ซึ่งวันนี้ก็เลยถือโอกาสเปิดใช้งานอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ทั้งคู่พยายามเอาใจคนแม่ และคนรัก ไม่หยุด เพื่อเป็นการชดเชยความผิด ระหว่างที่แม่ลูกขึ้นไปอาบน้ำพิณตราก็โทรสั่งอาหารมากมายจากภัตตาคารชื่อดังมาเรียงรายบริการคนรัก เพื่อลบล้างความผิดเพราะหลังจากจบอาหารมื้อนี้งานหนักของเจ้าของบ้านคือการเก็บกวาดทำความสะอาด
"พิณโทรเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดดีกว่าค่ะ" เห็นใบหน้าเหนื่อยอ่อนและท่าทางอิดโรยของพิมพ์ดาวแล้วก็รู้สึกผิด วันนี้พิมพ์ดาวตื่นแต่เช้าเหมือนทุกวันแต่กลับบ้านดึกเพราะงานเลี้ยงบริษัท แถมเมื่อกลับมาถึงยังต้องมาสะสางสิ่งที่คนรักและลูกชายทำไว้อีก
"ไม่เป็นไรค่ะ" บอกพิณตราไม่ได้มีสีหน้าโกรธแต่อย่างใด เธอเพิ่งจะลงมาจากห้องลูกชาย มองดูพิณตราที่เก้ๆ กังๆ เก็บของในครัว ก็อดไม่ได้ต้องเข้าไปช่วย
"พี่ไปนอนเถอะ โอ้ย! " ไม่ทันขาดคำเด็กสาวก็ร้องออกมา เพราะเท้าดันเหยียบเข้ากับเศษจานแตกที่เกลื่อนกระจานอยู่ในครัวอย่างไม่ทันระวัง พิมพ์ดาวรีบเดินเข้าครัวก้มดูคนรัก ไม่ลืมใส่รองเท้าซึ่งเธอก็ใส่เป็นประจำอยู่แล้วต่างจากสมาชิกที่เหลือ
"เสร็จแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีงานหรือเปล่า" พิมพ์ดาวอาสาทำแผลให้พิณตรา คนน้องตอบรีบเอาเท้าลงจากตักคนพี่ทันทีด้วยความเกรงใจ จนเผลอร้องออกมาเพราะกระแทกกับพื้นแรงไปหน่อย
"ไม่ค่ะ โอ้ย! "
"ระวังสิคะ" พิมพ์ดาวเอ่ยดุอย่างจริงจัง รุดขึ้นนั่งข้างคนน้องบนโซฟา
"ไม่ไว้ใจเลยจริงๆ ค่ะ เวลาอยู่กันแค่สองคน"
"พิณแค่อยากทำอะไรให้พี่บ้าง"
"แค่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ" บอกอย่างเข้าใจเอื้อมมือเก็บปอยผมให้คนรักอย่างเอ็นดู
"เห้อ" เด็กสาวถอนหายใจแถมยังทิ้งตัวพิงพนักอย่างหมดแรง
"พี่ทำได้ยังไง ตื่นแต่เช้า ทำอาหาร ทำงานบ้าน งานนอกบ้าน ดูแลน้องนนท์ดูแลพิณ แถมนอนดึกอีก พี่ไม่เหนื่อยเหรอ" พูดออกมาอย่างอัดอั้น
"แค่พิณทำอาหารมื้อเดียวยังวุ่นวายขนาดนี้ แต่พี่ทำทุกวัน พี่กำลังทำให้พิณเคยตัว"
"พี่คิดว่าพิณจะภูมิใจที่มีแฟนเป็นแม่ศรีเรือนเสียอีก"
"ภูมิใจสิคะ ภูมิใจที่สุดเลย" พิณตราโอบกอดคนรักที่นั่งตัวตรงอย่างเอาใจจากทางด้านหลัง กลิ่นกายพิมพ์ดาวยิ่งทำให้เด็กสาวไม่อยากไปไหน อยากตัวติดไปตลอดแบบนี้
"จะอ้อนเอาอะไรคะ เกือบจะเผาบ้านพี่แล้วเชียว ดีนะที่สัญญาณไฟยังไม่ทำงานไม่งั้นผู้คนแตกตื่น ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งแน่"
"ดาราชื่อดังทำบ้านไฟไหม้เพราะอยากทานข้าวผัดอเมริกัน น่าอายนะคะ" พิมพ์ดาวพูดขำๆ ไม่จริงจังนัก
"ก็อยากทำอะไรพิเศษๆ ให้พี่บ้าง แต่พิณควไม่มีพรสวรรค์เรื่องนี้ มีแต่พวงสวรรค์ โอ้ย! " ถูกฟาดเต็มแรงที่แขน
"ทะลึ่งใหญ่แล้วนะคะ" ขยับตัวจะหนีจากคนรัก
"เราลองมีอะไรกันตรงนี้บ้างดีมั้ยคะ" เอ่ยถามออกมาหน้าตาเฉย
"ไม่ค่ะ! " ตอบอย่างทันควันเหมือนกันไม่มีท่าทีว่าพูดเล่นเหมือนเด็กสาว
"พรุ่งนี้พิณไม่มีงาน และสภาพนี้คงต้องหยุดงานสักพักกว่าจะหายดี เดี๋ยวพิณจ้างแม่บ้านมาช่วยจัดการ จะทำให้ทั้งบ้านเลยค่ะ"
"แต่เอาจริงไ แล้วเราจ้างแม่บ้านทุกวันก็ได้นะคะ พี่จะได้ไม่เหนื่อย"
"ไม่ต้องค่ะ พี่ไม่เหนื่อยและชอบทำ แต่พรุ่งนี้พี่อนุญาตให้พิณเรียกแม่บ้านเข้ามาได้"
"เพราะคืนนี้อยากจะนอนเต็มทีแล้วสิ" เอ่ยบอกแต่ไม่ลืมหันไปสั่งคนรัก
"พิณก็อาบน้ำด้วยนะคะแล้วค่อยนอน ห้ามซกมกเด็ดขาด ไม่งั้นให้นอนพื้น"
"ค่า คุณแม่" ก้มลงหอมแก้มคนรักหลายครั้งไม่หยุดจนพิมพ์ดาวหน้าแดงด้วยความเขินอายไปหมด ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเด็กสาวโยนหมอนใส่หน้าหล่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ทิ้งให้พิณตราคิดไม่ตกว่าจะอาบน้ำอย่างไรไม่ให้แผลโดนน้ำ
ตอนที่ 3
เช้านี้พิมพ์ดาวต้องเป็นคนไปส่งลูกชายที่โรงเรียนเองเพราะตั้งใจพาเขาทานข้าวเช้าระหว่างทางก่อนถึงโรงเรียนเพราะ บริเวณครัวยังไม่เรียบร้อย เธอแทบจะเอาปิ้บคลุมหัวเวลาต้องเดินผ่านครัวไม่อยากจะเห็น ซึ่งปกติเธอไม่เคยปล่อยให้บ้านเละเทะขนาดนั้น ส่วนพิณตราก็ต้องจัดการกับครัวที่รับปากกับพิมพ์ดาวไว้และข้าวเช้าก็ต้องใช้บริการเดลิเวอร์รี่แทน
"ค่ะ" พิณตรากดรับโทรศัพท์ สายเรียกเข้าจากคนรักที่เพิ่งออกจากบ้านไปไม่ถึงชั่วโมง
"วันนี้ พี่จะเข้าบ้านตอนบ่ายนะคะ มีพิซซ่าที่พิณชอบด้วย" ด้วยกลัวคนรักจะสั่งอาหารจัดเต็มมาทานเหมือนเมื่อคืนจึงเบรกไว้ก่อน
"ร้านนี้ต้องต่อแถวยาวเป็นกิโลกว่าจะได้กิน นี่พี่ว่างขนาดนั้นเลยเหรอ" พิณตราเอ่ยกับคนที่จัดจานอยู่ภายในครัวหลังจากกลับจากที่ทำงานเวลาบ่าย ครัวสะอาดหมดจดรวมถึงบริเวณบ้านส่วนอื่นๆ ด้วย ด้วยฝีมือการจ้างแม่บ้านจากพิณตรา
"พอดีเจ้านายพี่เขาเป็นหุ้นส่วน ตอนพี่ไปซื้อเลยได้สิทธิพิเศษน่ะค่ะ"
"เจ้านายคนไหนคะ ใช่คนใหม่ที่เคยเล่าให้ฟังหรือเปล่า"
"ใช่ค่ะ พี่ว่าไปทานหน้าทีวีดีกว่า เดี๋ยวยกน้ำอัดลมไปให้ค่ะ" เอ่ยบอกคนรักให้ถือพิซซ่านำไปก่อน เธอไม่ได้ใส่ใจกับคำถามของคนรักมากนัก
"ปกติพี่ไม่ทานน้ำอัดลมนะคะ แต่วันนี้รู้สึกอยากทายขึ้นมา" นั่งลงข้างพิณตราและเอ่ยบอกออกมาอย่างสบายใจ
"ไม่ไปทำงานเหรอคะ" เธอเข้าใจว่าหล่อนแค่แวะเอาพิซซ่ามาฝาก
"ก็นานๆ พิณจะหยุดอยู่บ้าน พี่เลยอยากหยุดบ้าง"
"งั้นเดี๋ยวพิณบอกอีวาไม่รับงานสักเดือนดีกว่า พี่จะได้อยู่กับพิณทั้งเดือน"
"พี่ว่าไม่ดีค่ะ ทานเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด"
"พิณว่าพิณควรให้รางวัลพี่" หันหาคนพี่ส่งสายตาวิบวับ วางพิซซ่าในมือลง ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหาคนรัก พิมพ์ดาวอมยิ้มอย่างรู้ทันไม่ได้เอ่ยห้ามถดตัวค่อยๆ เอนหลังลงเบาะนุ่ม ส่วนพิณตราก็ตามไปติดๆ ฝังหน้าลงที่ซอกคอคนรัก มือปลาหมึกค่อยๆ ลูบไล้ก้นงอนๆ ของหล่อน ดันปลายกระโปรงพิมพ์ดาวให้สูงขึ้น หมายจะได้สัมผัสบางอย่างใต้กระโปรง
'ติ๊งต่อง' เสียงกริ่งหน้าบ้านดังติดกันหลายครั้ง จนพิณตราต้องผงกหัวขึ้นมาอย่างถูกขัดใจ ทั้งคู่มองไปยังต้นเสียง เด็กสาวโมโหที่ถูกขัดจังหวะเวลานี้
"พี่ต้องไปเปิดประตูค่ะ" เอ่ยบอกคนน้องพร้อมกับดันให้ออกห่าง
"เดี๋ยวพิณจะไปไล่มันเองค่ะ มาไม่ดูเวล่ำเวลาเลย" กัดฟันบ่นและอาสาคนพี่อย่างโมโห พิมพ์ดาวได้แต่ขำในใจ เพราะเรื่องอย่างว่าพิณตรามักจะไม่เคยหยุดง่ายๆ มองดูคนที่เดินกระผกกระเผลกไปหน้าประตู
พิณตราดึงประตูเปิดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
"ก็รู้ว่าตองเจออะนะ แต่ไม่คิดว่าจะไวขนาดนี้" อยู่ๆ คนมาใหม่ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย แทรกตัวเข้ามาภายในบ้านก่อนนจะเดินผ่านหน้าคนที่เพิ่งเปิดประตูให้อย่างถือวิสาสะไม่รอให้เอ่ยชวน ด้านพิณตราตกใจสุดขีดไม่คิดว่าจะได้เจอคู่อริเก่าอย่างอลินที่นี่อีก เจอกันครั้งสุดท้ายหล่อนก็ทำให้พิณตราเจ็บตัว คราวนี้ยังมาเจอกันในสภาพแข้งขาไม่ค่อยดีนัก อลินนี่คือตัวซวยชัดๆ
"สวัสดีค่ะ คุณพิณตรา ขอเข้าไปนะคะ" คนที่ตามมาด้วยคือเมธาวี เอ่ยขออนุญาตพิณตราด้วยด้วยความเกรงใจแทนอลิน
"เชิญค่ะ" พิณตราเปิดประตูกว้างขึ้นให้แขกคนที่มีมารยาทเข้ามาอย่างเต็มใจ
พิณตราเพียงนั่งอยู่ห่างๆ พิมพ์ดาวและแขกที่มาใหม่ทั้งสอง ไม่คิดอย่างจะรับรู้เรื่องราวที่ทั้งสามคุยกันอย่างออกรสภายในห้องนั่งเล่น พลางคิดไปว่าชีวิตต่อจากนี้ของเธอคงไม่ราบรื่นและเป็นปกติแน่ เพราะขนาดวันนี้เธอและพิมพ์ดาว นานๆ ทีจะได้อยู่ด้วยกัน กลับมีคนประสาทอารมณ์แปรปรวนอย่างอลินมาก่อกวน แถมยัยป้ามหาภัยนั่นยังแอบกินพิซซ่าของเธอไม่หยุดจนหมดอีก เธอเพิ่งกินไปไม่ถึงครึ่งชิ้นเอง พิณตราตัดสินใจเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างเงียบๆ
"นี่คุณดาว ไว้ใจยัยเด็กนั่นขนาดนั้นเลยเหรอคะ" อลินเริ่มเปิดบทสนทนาที่เอ่ยถึงบุคคลที่สาม เมื่อเห็นว่าพิณตราไม่ได้อยูาบริเวณนั้นแล้ว
"ค่ะ พิณเปลี่ยนไปแล้วนะคะ ไม่ใช่คนเดิมและเธอก็ไม่ได้ร้ายกาจเหมือนอย่างที่คุณอลินคิด" เธอตอบออกมาอย่างมั่นใจ ทำให้อลินไม่กล้าจะเอ่ยอะไรต่อเพราะเห็นสีหน้าจริงจังของคนตรงหน้า จึงทำเป็นเปลี่ยนเรื่องและพูดถึงธุระที่มาในวันนี้
"คือลินมีเรื่องอยากรบกวนคุณดาวน่ะค่ะ"
"ได้สิคะ ถ้าฉันพอจะช่วยได้นะ" แม้จะไม่รู้เรื่องที่อลินกำลังจะร้องขอแต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เหนือบ่าฝ่าแรงเธอก็เต็มใจ
"คุณดาวช่วยได้แน่นอนค่ะ เพราะตรงกับสายงานคุณร้อยเปอร์เซ็น" เธอบอกความต้องการของตัวเองให้พิมพ์ดาวรับรู้ก่อนจะขอตัวกลับ แต่กว่าจะกลับก็เล่นเอาเจ้าของบ้านปวดหัว แต่ก็ทำให้ชีวิตเธอมีสีสันขึ้นบ้าง
"นอนตอนนี้แล้วคืนนี้จะหลับได้เหรอคะ" พิมพ์ดาวนั่งลงบนเตียงนุ่มข้างคนรักที่นอนคลุมโปงอยู่ เวลานี้ก็บ่ายสามแล้วกว่าอลินจะยอมกลับ 'ฟรึ่บ' คนใต้ผ้าห่มรีบดึงผ้าผืนหนาลงทันทีที่ได้ยินเสียงคนรัก
"กลับไปแล้วเหรอคะ" เลือกถามในสิ่งที่อยากรู้แทนที่จะตอบ
"ค่ะ เพิ่งกลับไป"
"เห้อ" พิณตราถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเลื่อนตัวไปหนุมตักคนรักและกอดไว้แน่น
"จะอ้อนเอาอะไรคะ" ถามอย่างรู้ทัน
"แต่อยากอดเฉยๆ ค่ะ" เด็กสาวกลัวไปหมด กลัวจะเสียพิมพ์ดาวไป กลัวว่าอลินจะเล่าเรื่องที่เธอเคยทำกับพวกเค้าไว้ กลัวจะพิมพ์ดาวจะรับไม่ได้
"อลินได้เล่าเรื่องของพิณให้พี่ฟังบ้างหรือเปล่าคะ" น้ำเสียงเศร้าๆ
"ไม่นี่คะ มีเรื่องอะไรที่พี่ไม่รู้เกี่ยวกับตัวพิณหรือเปล่า ทำไมดูเครียด" พิณตราเงียบไม่ยอมตอบ ทำให้คนพี่ยิ่งอยากรู้
"ถ้าพิณไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรค่ะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าหรือถ้าไม่สบายใจจะเล่า พี่ก็ไม่อยากรู้" เธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ เรื่องบางเรื่องก็ไม่อาจจะเล่าให้ใครต่อใครฟังได้หมด
"ไม่ต้องเครียดหรอกค่ะ พี่ไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นนะ" ได้ยินอย่างนั้นก็ทำให้เด็กสาวยิ้มกว้าง แต่ก็หุบยิ้มทันทีก่อนจะนึกอะไรได้
"แล้วอลินกินพิซซ่าของพิณหมดเลยหรือเปล่า" เปลี่ยนเรื่องทันทีก็คนรักของเธออุส่าไปเข้าคิวซื้อมาฝากแท้ๆ
"พี่แยกไว้ให้แล้วค่ะ" ส่ายหัวอย่างอ่อนใจ กับเรื่องของโปรดพิณตรามักจะงี่เง่าเสมอ
"แล้ว อลินมาทำไมคะ" อยู่ๆ ก็กลับมาเรื่องคนที่มาขัดจังหวัอีก
"ที่พี่อยู่เวลานี้เพราะนัดกันไว้หรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ บังเอิญคุณอลินอยากมาเยี่ยมหาและก็มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อยน่ะค่ะ"
"เรื่องอะไรคะ"
"คุณอลินอยากจะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ค่ะ บริษัทพี่เป็นตัวแทนหาบ้านให้ทั้งคนที่อยากจะเช่าหรือซื้อ ซึ่งถ้าพี่ขายได้พี่ก็ได้เปอร์เซ็นไปด้วย"
"ตอนนี้ก็เท่ากับว่าคุณอลินเป็นลูกค้าพี่ ช่วงนี้พิณอาจจะต้องเจอคุณอลินที่บ้านบ่อยเสียหน่อย เพราะเธอไม่สะดวกจะไปเจอกันที่บริษัท" เด็กสาวหน้ามุ่ย
"มาวันไหนบอกด้วยนะคะ จะไม่ลงไปเลย"
"ได้ค่ะ"
"ถ้าถามพิณว่าทำไมถึงอยากให้พี่เลิกคบอลินบ้างก็ดีสิ เพราะพิณตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยล่ะ"
"พี่เลยไม่ถามไงคะ อะไรที่แล้วๆ มาก็ให้แล้วๆ กันไปค่ะ อยู่กับปัจจุบัน ถ้าไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่"
"พิณต่างคนต่างอยู่กับคุณเค้าอยู่แล้วล่ะต่ะ มีแต่เค้าที่คอยแต่จะว่าซ้ำเติมแล้วก็รังแกพิณ" พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เมื่อนึกถึงเรื่องคราวก่อนที่อลินทำเธอถลอกปอกเปิกทั้งตัว
"โถ แฟนพี่น่าสงสารจัง" ก้มลงประทับจูบลงที่หน้าผากเป็นการปลอบใจ
"ไม่อยากจะว่าอลินนะคะ แต่พี่รู้มั้ยผู้หญิงคนนั้นน่ะโคตรอันตราย ใครอยู่ใกล้ก็ซวย มีแต่ซวยกับซวย"
"พอค่ะ ต่อว่าคนอื่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ" พิมพ์ดาวเอ่ยดุไม่ชอบนักที่คนรักจะต่อว่าคนรู้จักให้ฟังแม้อาจจะมีความจริงอยู่บ้าง อต่มันก็ไม่ดีต่อพิณตรานักหากมีใครมาได้ยินเข้า
"เนี่ย เห็นมั้ยแค่พูดชื่อเค้า พิณก็ซวยแล้วเนี่ย อยู่ๆ พี่ก็ดุพิณเฉยเลย"
"เอ้อ! เมื่อกี้พี่บอกว่าเค้าจะซื้อบ้าน พี่ห้ามหาบ้านแถวนี้ให้เค้าเลยนะ ให้ไปอยู่ไกลๆ บ้านเราเลย" พิมพ์ดาวขำกับสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังของเด็กสาว ที่อยู่ๆ ก็ผลุดลุกขึ้นมาบอกเธอ
"ค่ะ" ตอบรับอย่างเข้าใจ หากบ้านพวกเธออยู่ใกล้กันพิณตราคงประสาทเสียเป็นแน่