ตอนที่10 ไปหาของป่าขายอีกครั้ง
สามวันผ่านไปรั้วไม้ไผ่ที่ล้อมรอบกระท่อมหลังน้อยก็เสร็จตามคาดการณ์ รั้วไม้ไผ่ขนาดสูงเท่าอกล้อมรอบอาณาเขตของบ้านหลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งสามวัน วันนี้ทั้งสองก็พักเหนื่อยกันไปหนึ่งวันโดยไม่ทำอะไรเลย เเค่นอนเล่นพักผ่อนใต้ต้นใหม่ใหญ่ข้างบ้านแทน
เช้าวันต่อมา...วันนี้ที่ไป๋ซือซือชวนสามีไปหาของป่าไปขายเพราะ ร่างบางอยากจะซื้อข้าวของเข้าบ้านอีกครั้ง รถเข็นของบ้านถูกเข็นไปตามถนนด้านบนรถมีตะกร้าสานใบใหญ่ด้านในเต็มไปด้วยน้ำดื่มเเละอาหารเที่ยง วันนี้ไป๋ซือซือเดินไปอีกทางตามนายพรานหนุ่มอย่างถังซานผู้เป็นสามี
"เหนื่อยหรือไม่"
"ไม่เจ้าค่ะ"
"รอตรงรถเข็นละอย่าไปไหนไกล"
"เจ้าค่ะท่านพี่"
ร่างหนาเอ่ยกับภรรยาอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหยิบกับดักสัตว์จากรถเข็นแล้วเดินเข้าป่าไปเพื่อวางที่ดักสัตว์ไว้ทุกๆ ตลอดทางร่างบางรอไม่ถึงหนึ่งจิบชา ชายหนุ่มก็เดินกลับมาหาผู้เป็นภรรยาสาว ก่อนจะพากันเดินเข้าป่าไป ทั้งสองร่างเดินไปประมาณสองเค่อ (30นาที) ก็เดินไปถึงบริเวณทุ่งหญ้ากว้างบริเวณรอบๆ ก็มีบ่อโคลนบ่อดินที่พวกสัตว์ป่าชอบมากิน ถังซานก็ไม่รู้เช่นกันมันมากินดินกันทำไมแทนที่จะกินหญ้ากินผักป่า
"ท่านพี่ทำไมสัตว์พวกนั้นถึงกินดินตรงนั้นกัน"
"ข้าก็ไม่รู้"
"แปลกจริงๆ"
"ใช่ข้าเห็นมันกินตลอดบางทีมันอาจจะเบื่อหญ้าละมั้ง ฮ่าๆๆ"
"เราไปหาของป่าเถอะเจ้าค่ะ"
"อืมเสียดายธนูข้าดันมาพังได้ วันนี้ข้าจะจับปลาเจ้าก็เก็บผักรอบๆ สระเถอะ"
"เจ้าค่ะ เราขายของได้ก็ซื้อธนูเถอะเจ้าค่ะ"
"ตามใจเจ้า"
"เจ้าค่ะท่านพี่"
สองสามีภรรยาเดินไปตามทางกว้าง ก่อนจะจอดรถเข็นข้างก้อนหินใหญ่ หนองน้ำขนาดใหญ่กลางป่าอีกฝั่งเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่มาดื่มกินน้ำ ถังซานได้แต่รู้สึกเสียดายก่อนจะเบือนหน้าหนี แล้วถอดเสื้อออกเหลือไว้แค่กางเกงสั้นตัวตัวใน ก่อนจะบอกภรรยาจะดำน้ำล่าปลา
"มีอะไรก็เรียกข้า"
"เจ้าค่ะท่านพี่ท่านไม่ต้องห่วง"
"อืม"
ไป๋ซือซือมองสำรวจรอบๆ บริเวณข้างๆ หนองน้ำเต็มไปด้วยผักป่าที่มีดอกสีม่วงเเซมขาวเลื้อยอยู่เต็มบริเวณไปหมด ร่างบางไม่รอช้าไปหยิบมีดเล็กๆ ขนาดเมาะมือตามด้วยตะกร้าไม้ไผ่เพื่อใส่ผักป่าอย่างคงซินช่าย (ผักบุ้ง) ที่เกิดเต็มบริเวณรอบสระแห่งนี้
"เยอะขนาดนี้น่าจะขายได้หลายอิแปะ"
"เย็นนี้ก็ผัดใส่ไข่น่าจะอร่อย"
ร่างบางลงมือตัดผักคงซินช่ายอย่างตื่นเต้นลำต้นอวบๆ เท่านิ้วก้อยเวลาตัดก็ได้ยินเสียงดังของลำต้นของต้นซินช่าย สองสามีภรรยาช่วยงานกันอย่างขยันขันแข็งอีกคนหาปลาอีกคนเก็บผัก ช่วยกันไม่นานกองผักก็เต็มตะกร้าไป๋ซือซือยกตะกร้าไปวางไว้บนรถเข็นก่อนจะมองหาผู้เป็นสามีที่กำลังจับปลาอยู่ไม่ไกล
ผ่านไปหนึ่งเค่อ (15นาที)
"ได้ไหมเจ้าคะท่านพี่"
"ได้อยู่ห้าตัว"
"ท่านไปล้างตัวก่อนเถอะเราค่อยไปหาที่ทานข้าวเที่ยงกัน"
"ได้ๆ "
หลังจากที่ถังซานนำปลามาไว้บนรถเข็น ก็แยกตัวไปล้างตัวอีกครั้ง ส่วนร่างบางก็จัดแจงของบนรถเข็นให้เข้าที่รอผู้เป็นสามี วันนี้ทั้งสองคนโชคไม่ค่อยจะดีเท่าไรนัก ปลาก็หาได้น้อยเห็นทีโครงการหาของป่าไปขายต้องพับไว้เสียแล้ว ถังซานที่ล้างตัวเสร็จแล้วก็รีบเดินมาสวมเสื้อผ้าจนเรียบร้อย แล้วเอ่ยชวนภรรยาสาวไปหาที่นั่งทานข้าวมื้อกลางวัน
"ไปกันเถอะ"
"เจ้าค่ะตรงโขดหินข้างหน้าก็ดีนะเจ้าคะ มีร่มไม้อยู่ด้วย"
"อืมรีบไปกันเถอะแดดร้อนเสียจริง"
อาหารการกินง่ายๆ ถูกห่อมาทานโดยภรรยาสาวอย่างไป๋ซือซือ มีข้าวมีกับข้าวไม่กี่อย่างพอประทังความหิวได้ ทั้งสองนั่งทานกันเงียบๆ ใต้ตนไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาปกคลุมทั่วบริเวณอาหารที่นำมาถูกทั้งสองทานหมดไปไม่น้อย ถังซานที่กินจนอิ่มก็ลูบท้องเบาๆ ก่อนจะมองหน้าภรรยาแล้วชวนพูดคุยรออาหารย่อย
"เสียดายวันนี้โชคของพวกเราไม่ดีเอาเสียเลย"
"ข้าว่าเราไปเก็บหน่อไม้ก็ได้นะเจ้าคะท่านพี่ อาจจะได้น้อยกว่าขายเนื้อแต่ก็ยังดีที่ได้เงินอยู่"
"งั้นตามใจเจ้ากินข้าวเสร็จก็พักสักสองเค่อค่อยกลับไปเข้าป่าไผ่"
"เจ้าค่ะ ท่านก็นอนงีบเสียสิข้าจะดูที่ทางให้"
"ไม่ต้องหรอกไม่ได้เหนื่อยอะไร"
"ตามใจท่านเจ้าค่ะ"
ทั้งสองร่างนั่งพักกันใต้ต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่น ไม่ถึงหนึ่งจิบชาบรรยากาศต่างๆ ในป่าก็แปรเปลี่ยน ถังซานที่รับรู้ถึงความผิดปกติก็รีบลุงขึ้นแงนหน้ามองไปท้องฟ้าก็เจอเข้ากับหมู่ก้อนเมฆที่ดำมืดอย่างน่ากลัวชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีก็รีบเรียกภรรยาสาวที่กำลังนั่งพักอยู่อย่างสบายใจ
"ซือซือลุกเถอะฝนจะตกแล้ว"
"ทำไมอากาศถึงเปลี่ยนเร็วนักเมื่อกี้ยังแดดอยู่ดีๆ"
"ข้าไม่รู้ลุกเถอะรีบกลับบ้านกัน"
"เจ้าค่ะ"
ทั้งสองร่างก้าวเท้ายังไม่ถึงสิบก้าวห่าฝนเม็ดใหญ่และเเรงก็ตกกันอย่างต่อเนื่อง ถังซานสงสารภรรรยาสาวยางนัก ก่อนจะใช้ไหวพริบมองหาที่หลบภัยห่าฝนนี้ ก่อนจะเจอเข้ากับถ้ำที่อยู่ทิศเหนือของป่า ถังซานไม่รอช้ารีบเข็นรถเข็นและพาภรรยาเข้าไปหลบฝนในถ้ำทันที