ทันที่ร่างสูงในอาภรสีดำสนิทเดินเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่
“คาราวะท่านประมุข”
“ไหล่ของท่านมันดันท้องข้าจนข้าจุกไปหมดแล้ว!”
ทหารระดับต่ำผู้เฝ้าหน้าประตูเห็นประมุขเดินตรงเข้ามาทางนี้ก็รีบประสานมือคารวะท่านประมุขในทันที เสียงหวานใสของหญิงสาว ทำให้พวกมันกวาดสายตามองร่างบางที่ถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำถึงแม้กระนั้นทั้งเสื้อคลุมที่ถูกเปียกชุ่มไปด้วยน้ำทำให้มันเรียบติดเนื้อเนียนผ้าโผยให้เห็นสัดส่วนเย้ายวนกับหน้าอกคู่โต เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ทำให้ช่วงขาเรียวสวยนั้นโผล่พ้นแก่สายตา
พวกมันรอบกลืนน้ำน้ำลายคำโต
กึก
อยู่ๆ ประมุขพรรคมารหยุดชะงักเท้าของเขาลง พวกมันไม่รับรู้เลยว่าตอนนี้ชะตาที่ไม่อาจรับรู้ได้กำลังมาเยือน ทันทีที่หันไปสบตากับชายตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าประมุขพรรคมารสายตาสีเทาแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ท่านประมุขกำลังมีโทสะ!
ฉับพลันพลังสีดำสายหนึ่งก็ซัดเข้ากับพวกมันทั้งสองคน
อั้ก! เสียงกระอักเลือดกองโต ทำให้เหม่ยฮวาต้องตกใจหันไปมองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที นางทำได้แค่อ้าปากค้างมองภาพเบื้องหน้าที่โหดร้ายตรงหน้า
“ท่าน! โหดร้ายไปหรือไม่เจ้าคะ”
“เพราะเจ้ามันน่าไม่อายอย่างไรเล่า”
“ข้าทำอะไรเจ้าคะ”
“เจ้าให้ท่าพวกมันรึ”
“ท่านประสาทกลับหรือเจ้าคะ!” นางไม่เข้าใจว่านางทำสิ่งใดผิดนางไม่ได้ทำสิ่งใดเลยแล้วนางก็โดนเขาอุ้มมาอยู่แบบนี้นางจะไปให้ท่าผู้ใดกัน
“ถ้าอยากให้ทหารทั้งวังตายเจ้าก็ส่งเสียงดังให้ข้ารำคาญอีกสิ!”
“ขะ เขาจะตายไหมเจ้าคะ”
“ไม่ แค่ต้องนอนพักสักสองสามเดือนเพียงเท่านั้น”
ร่างสูงตอบหน้าตายก่อนจะเดินย่ำเข้าไปโดยไม่หันไปมองสองร่างที่นอนแน่นิ่งไปแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเหม่ยฮวาเม้มปากแน่นมิกล้าส่งเสียงใดอีกพลางนึกขอโทษทหารเฝ้าหน้าวังสองคนนั้น ในหัวก็ตีกันวุ่นว่าพระรองของนางเป็นอะไรไปเดี่ยวดีเดี่ยวร้ายคนสวยตามไม่ทัน!
ร่างสูงเปลี่ยนเป็นอุ้มนางแทนที่จะพาดบ่าไว้ในตอนแรก เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่เห็นพวกมันสองตัวมองนาง นางเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาเขาย่อมต้องมีโทสะเป็นธรรมดาใช่หรือไม่ที่มีผู้ใดมาจ้องของเขาอย่างหื่นกระหายเยี่ยงนั้น ทั้งที่คนพานางมาเป็นข้าประมุขมารเฉินฉือผู้นี้ ทหารพวกนี้คงห่างจากมือเท้าข้าไปนานกระมังถึงไม่เกรงกลัวเขาเลย!
เขาก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่เงียบมาตลอดทาง ท่าทางนางตอนไม่ดื้อไม่โวยวายนั้นดูไปดูมาก็น่ารักน่าเอ็นดูมิใช่น้อย หากแต่ได้อ้าปากพูดออกมาเมื่อไหร่ไม่โวยวายก็หาทางเกี้ยวเขาท่าเดียว เมื่อมาถึงภายในห้องเขาก็ปล่อยนางลงทันที
ตุบ
“วางลงเบาๆ ไม่ได้หรือไง” เขาโยนนางลงเตียงลงมาอย่างไม่ใยดีทำให้ก้นของนางกระแทกเข้าที่เตียงเต็มจนจุกไปหมดทำได้แค่บ่นอุบอิบเบาๆ
“เมื่อสักครู่เจ้าว่าอย่างไร”
“ข้าไม่ได้ว่าสิ่งใดเจ้าคะ”
นางรีบปฏิเสธทันทีพร้อมหันหน้าไปทางอื่นกลบเกลื่อนความผิดปกติ แต่มีหรือที่ประมุขพรรคมารอย่างเขาจะไม่ได้ยิน หากแต่เขาก็ไม่ได้ว่าสิ่งใดเพียงปล่อยผ่านไปเท่านั้น พลางนึกสงสัยสิ่งที่นางเข้ามาภายในพื้นที่ของเขาได้ยิ่งช่วงเวลานั้นเขายิ่งไม่อยากให้มีผู้ใดพบเจอ ถึงมันจะไม่ใช่ความลับสำคัญอะไรมากนักแต่มีน้อยคนรู้จะยิ่งดีกับตัวเขาที่มีศัตรูนับพันมากกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่ลมปราณของเขาแปรปรวนเป็นอย่างมาก
“เจ้าลอบเข้ามาในบ่อน้ำแห่งนั้นได้อย่างไร”
“คือข้า” นางไม่อยากบอกว่าถังช่ายเป็นผู้พามาเมื่อรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรกับคนที่ขัดคำสั่งของเขา
“เจ้าอะไร”
“ข้ารู้มาว่าท่านต้องแช่ตัวที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นทุกๆ คืนวันพระจันทร์เต็มดวง ข้าเลยอยากมาดูให้เห็นกับตา”
หมับ!!
“จ้าวเซี่ยส่งเจ้ามางั้นรึ”
ร่างสูงเค้นเสียงรอดไรฟันกรามปูดขึ้นอย่างโมโหเมื่อนึกถึงศัตรูมือหน้าบีบคอนางรงขึ้นจนคนตัวเล็กน้ำตาเล็ดนางพยายมดึงมือของเขาออกแต่เรี้ยวแรงของนางมีไม่ถึงเศษเสี้ยวของเขาเลยสักนิด นางดิ้นเมื่อรู้สึกว่าขาของนางตอนนี้ลอยอยู่เหนือพื้น
“ป ปล่อยข้า อึก” นางรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เห็นนางดิ้นทุรนทุรายเขาก็ได้สติรีบปล่อยคอนางให้เป็นอิสระทันที
แค้ก แค้ก แค้ก
เหม่ยฮวาไอจนตัวโยนตาแดงก่ำดวงหน้าเปียกด้วยหยาดน้ำตาเพราะคิดว่าตัวเองจะตายไปอีกรอบแล้ว นางคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่ตามเขามา นางไม่อยากตายด้วยน้ำมือของจ้าวเซี่ยแต่ก็ไม่อยากถูกพระรองที่ตนเองชื่นชอบนั้นฆ่าตายหรอกนะ ในนิยายบรรยายไว้ว่าตัวละครนี้จะเป็นตัวละครที่รักนางเอก เป็นพระรองผู้แสนดี ร้ายกับคนทั้งโลกแต่ดีกับนางเอกแค่คนเดียว หรือข้าจะหวังสูงไปกันนะ
“ฮึก เขาไม่ได้ส่งข้ามาข้ามาด้วยความสมัครใจของข้าเอง ท่านฟังไม่รู้ความหรือเจ้าคะ ตั้งแต่ครั้งแรกข้าก็บอกท่านแล้วว่าข้าพึงพอใจในตัวท่าน ถ้าหากท่านจะระแวงสงสัยในตัวข้าใยท่านไม่สงสัยในตัวฮุ่ยหลิงที่แสนดีของท่านบ้างละเจ้าคะ ฮึก ฮือออออ”
เหม่ยฮวาเอ่ยยาวเหยียดเสียงตัดพ้อเดี่ยวแม่นางเอกก็จะไปบอกความลับนี้กับพระเอกอยู่ดีพร้อมกับที่พระเอกจะตามมาแก้แค้นและฆ่าเขาได้อย่างไรละคนโง่!
เฉินฉือยืนมองดวงหน้าที่มีหยดน้ำใสหล่นมาเป็นสายด้วยใจรู้สึกผิด แต่อีกใจก็ไม่อาจยินยอมให้ตัวเองปลอบใจนางได้เขาจึงทำได้แค่ยืนนิ่งพร้อมกับพูดจากลบกลื่นความคิดที่จะปลอบใจนาง
“ฮุ่ยหลิงไม่ใช่สตรีเช่นนั้น” แม้เขาจะไม่ได้อยู่กับนางมาเนิ่นนานแต่ความคิดบางอย่างเหมือนบังคับให้เขาคิดเช่นนั้น
“ท่านโง่เง่า ไม่อยากคุยกับท่านแล้วเสียเวลา!”
ร่างสูงพลันคิ้วกระตุกอีกครั้งเขากระชากแขนนางขึ้นมาพลางจ้องมองนางที่จ้องเขม็งมาที่เขาอย่างไม่วางตา ท่าทางขัดขืนนี่ทำให้เขาแปลกใจที่สตรีตัวเล็กตรงหน้านี้กล้าต่อว่าเขาหลายครั้งหลายครา!
“เจ้าคงลืมตัวกระมังว่าเจ้าเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงของข้าเท่านั้น”
“ไม่เป็น!” จะเป็นเมีย!
คนตัวเล็กยังคงเถียงคอเป็นเอ็นอย่างไม่เกรงกลัวตัวนี้เขาเห็นเหมือนแมวตัวน้อยที่ตอนนี้กำลังขู่ฟ่อใส่เจ้าของของมัน และเป็นเขาเองที่ต้องยอมแพ้
“เถียงกับเจ้าไปก็เท่านั้น สรุปแล้วเจ้าเข้ามาหาข้าด้วยเหตุใดถ้าหากไม่มีเหตุผลที่ดีพอข้าจะจับเจ้าไปให้อ่าวชุนกิน”
เขากำลังพูดถึงมังกรทมิฬของเขา
“ข้า ข้าแค่อยากเจอหน้าท่าน ท่านทิ้งข้าไว้ตำหนักนอกแถมยังกักบริเวณข้าส่งทหารยามมาเฝ้าอย่างแน่นหนาข้าอึดอัดดดดมากกกก ข้าจึงขอร้องให้ถังช่ายพาข้าเข้ามาเจ้าคะ”
“คิดว่าข้าจะเชื่องั้นรึ มานี่”
เฉินฉือเดินไปนั่งที่เตียงใหญ่พลางตบตักตัวเองเบาๆ เป็นสัญญาณเรียกให้คนตัวเล็กให้เดินเข้ามาหาเขา นางมองท่าทางของเขาที่เหมือนจะสงบลงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินไปช้าๆ แบบกล้าๆ กลัวๆ เฉินฉือที่เห็นว่านางทำท่าทางเหมือนไม่อยากเข้ามาหาเขาจึงดึงนางเข้ามาทีเดียวนางก็อยู่บนตักของเขาทันที เขาก้มมองนาง
“ทำไมเจ้าตัวเล็กยิ่งนัก”
“ข้าก็ปกตินี่เจ้าคะ” นางสูงเท่ามาตรฐานหญิงทั่วไปที่ประมาณ 160-165 แต่เป็นเขาเองมากกว่าที่สูงใหญ่เกินไปด้วยรูปร่างกายกำยำ ส่วนสูงเขาน่าจะถึง 190 ได้ นางคิดพลางลอบสำรวจคนตรงหน้า พลันสายตาก็สบกับดวงตาสีเทาที่มองหน้านางอยู่ก่อนแล้ว
ตึก ตัก ตึก ตัก
“ถะ ถ้าท่านไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านแล้วเจ้าค่ะ ข้าพูดเรื่องจริงนี่”
นางพูดเสียงสั่นพลางหันหน้าไปมองทางอื่นพร้อมบีบตาแน่นกลั้นเสียงกรี๊ดในใจ เมื่อกี้หน้าใกล้มาก! หล่อมาก กรี๊ดดด อยากกรี๊ดน้ำหวานอกจะแตก การได้เข้ามาแล้วได้ใกล้ชิดตัวละครที่ชอบขนาดนี้ทำให้นางใจเต้นอย่างรุนแรง เฉินฉือมองใบหน้าสวยที่ขึ้นสีระเรื่อก็ยิ้มอย่างพอใจที่เห็นนางเขินอายเพราะเขา สิ่งที่นางแสดงออกมามันไม่ได้เสเสร้งอย่างแน่นอน
“ข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี เรียกถังช่ายมาลงโทษดีหรือไม่”
“ไม่ได้นะเจ้าคะ”
นางหันขวับมาค้านเขาเสียงแข็ง หึ ไม่ว่าสตรีใดก็ไม่เคยขัดใจเขาหรือกล้าว่าเขาสักนิดนับว่านางเป็นสตรีที่กล้าหาญมิใช่น้อย ทางด้านเหม่ยฮวาแล้วนั้น แม้นางจะเกรงกลัวเขาอยู่มากแต่นางก็ไม่อยากให้ใครมารับผิดแทนนางก็นางเป็นคนสร้างเรื่องเองนางรู้ตัว แง
“คนทำผิดย่อมได้รับโทษ มิเช่นนั้นข้าจะเป็นผู้นำของพวกเขาได้เยี่ยงไร”
“แต่ข้าเป็นคนบังคับถังช่ายเอง ท่านลงโทษข้าแทนเถอะ ท่านอย่าลงโทษถังช่ายเลยนะเจ้าคะ นะ”
“ลงโทษเจ้า ...เหมือนเมื่อสักครู่งั้นหรือ”
“ทะ ท่านประมุขท่านเป็นพวกบ้ากามหรือเจ้าคะ”
นางรีบยกมือขึ้นปิดปากคนตรงหน้าทันทีที่ใบหน้าคมคายโน้มลงมาคล้ายจะชกชิงปากของนางอีกครั้ง แค่นี้ปากนางก็บวมปูดแล้วเขาจะกินนางอีกนางคงปากบานแล้วแหละ และในสภาพเช่นนี้ในห้องนอนของเขาแบบนี้ นางจะรอดไปได้ไหม
จุ้บ
“อ้ะ”
นางชักมือออกทันทีเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ใบหน้าสวยเห่อร้อนแดงจนถึงใบหูเมื่อคนตรงหน้าจูบแผ่วเบาลงบนฝ่ามือนุ่มของนาง พร้อมยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ที่ทรงเสน่ห์ใส่นางไม่พักนางไม่อยากสบสายตาเขาตอนนี้เลย ใจของนางไม่อาจจะทนรับแรงดาเมจนี้ไหวนะ อ้าก!
“ถ้าอย่างนั้นข้าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี เหม่ยฮวา”
“อ่า”
เหม่ยฮวาเหมือนนิ่งค้างไปเมื่อเขาเรียกชื่อของนาง เขาไม่เคยเรียกชื่อนางเลย ชื่อของนางที่แม้จะเป็นชื่อของเหม่ยฮวาแต่มันก็ยังคงเป็นชื่อของนางตอนนี้ ชื่อของนางที่เขาเอ่ยออกมามันฟังไพรเราะหูข้ายิ่งนัก
“เป็นอันใดไป”
“ป เปล่าเจ้าค่ะ”
“ต่อจากนี้จงอยู่ข้างกายข้า ปรนนิบัติข้ามิให้ขาดตกบกพร่องทำได้หรือไม่”
ถึงแม้การแสดงของนางจะดูเหมือนไม่เสเสร้างแต่เขาก็ยังไม่อาจวางใจได้ อย่างน้อยนางก็มีประโยชน์กับเขาอยู่บ้าง เขาคิดพลางนึกถึงตอนในบ่อน้ำภายในร่างกายของเขาที่ถูกคำสาปทำให้ปราณภายในพลุ่งพล่านและอาจจะระเบิดออกมาได้ทำให้ข้าต้องไปแช่ตัวในทุกคืนวันพระจันทร์เต็มด้วงนั้น ทันทีที่ร่างกายเขาสัมผัสกับนางความเจ็บปวดจากลมปราณของเขาก็ทุเราลงไปหลายส่วน การให้นางอยู่ข้างกายนับเหมือนยิงนกทีเดียวได้สองตัว เขาสามารถจับตามองได้อย่างใกล้ชิด และใช้ประโยชน์จากร่างกายของนางได้
“จริงเหรอท่านประมุข ท่านมิได้ล้อข้าเล่นใช่มั้ย ท่านหลงรักข้าแล้วหรือเจ้าคะ!”
นางพูดเสียงใสพลางถามคำถามที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเพราะรู้ยังไงเขาก็คงยังไม่ได้รักนางแน่ แต่อาจจะสนใจละมั้ง ละมั้งนะ!
“เจ้านี่มันสตรีที่ช่างเพ้อเจ้อ คิดเข้าข้างตัวเองเก่งเสียจริง”
“คิกคิก”
“ไม่เจ็บแล้วใช่หรือไม่” เขาพูดพร้อมกับลูบไล้ไปที่คอขาวที่มีรอยแดงอยู่ นึกไม่พอใจที่มีรอยแดงอยู่ที่คอขาวๆ ของนาง
“จะ เจ็บสิเจ้าคะ”
“...”
“ทำอะไรเจ้าคะ”
“อยู่นิ่งๆ”
เหม่ยฮวานั่งนิ่งๆ มองเขาที่ยื่นมือออกมาแสงสีแดงวาบออกมาจากฝ่ามือหนา ทันใดนั้นตลับยาสีทองก็ปรากฏขึ้นมา เขาบรรจงเปิดกระปุกยานั่นก่อนจะป้ายของเหลวสีเหลืองทองลงบนรอบคอของนางอย่างแผ่วเบา นางนิ่งค้างมองการกระทำของเฉินฉืออย่างนึกสงสัยเหตุใดเขาถึงทายาให้นางกัน หรือว่าเขาจะใจอ่อนให้นางบ้างแล้ว!
พระรองของนาง ช่างน่ารักเสียจริง อร๊ายยย อย่างน้อยความพยายามของนางก็สำเร็จถึงจะเล็กน้อย! นางต้องเป็นสตรีที่อึด ถึก ทน เพื่อผู้ชายที่หล่อ รวย เก่ง แซ่บแล้วนั้นนางจะยอมให้นางเอกได้อย่างไร ไม่มีทาง ยิ่งการกระทำที่น่ารักของเขาตอนนี้ยิ่งทำให้นางอยากเกาะติดเขาไปจนสุดขอบนรกเลยทีเดียว นางต้องเร่งเกี้ยวเขาให้ติดเร็วๆ สะแล้วสิ นางอยากเห็นเขาเป็นหมาน้อยของนาง!
“เสร็จแล้ว ยานี่จะช่วยให้เจ้า”
“น่ารักจัง”
ร่างสูงพูดพร้อมเงยหน้ามองนางที่นิ่งเงียบไปนาน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยคนางกลับพูดเสียงหวานหยดย้อยเอ่ยขัดเขาพร้อมมองเขาด้วยสายตาหลงไหลอย่างออกนอกหน้า ร่างสูงได้ยินคำพูดน่าไม่อายจากนางก็เด้งลุกตัวขึ้นทันทีทำให้นางร่วงลงไป
“เอาไปซะ! แล้วทาเองทุกวันห้ามขาด”
“ไม่ขาดไม่เกิน แต่รักท่านทุกวันเช่นเดิมได้ไหมเจ้าคะ”
“เจ้า!”
“เดี่ยวก่อนจะไปไหนเจ้าคะ นี่ห้องท่านนะเจ้าคะท่านประมุขขขขข”
เฉินฉือใจสั่นไหวเหมือนมีใครมาตีอยู่กลางอกใบหน้าหล่อเหลาแดงระเรื่อก่อนจะเดินหนีหายไป เหม่ยฮวาไม่แม้แต่จะปล่อยให้เวลาอันมีค่าไป นางต้องการคว้าใจเขาให้ได้ เมื่อผู้ชายมีใจให้เพียงเล็กน้อยนั่นก็เพียงพอต่อการเดินหน้าต่อแล้ว หึหึ คอยดูสินางจะเกี้ยวเขาทุกวัน ไม่หลงรักนางก็ให้มันรู้ไป และกฎข้อแรกของการจีบนั่นก็คือการพาหน้าสวยๆ ไปให้เขาเห็นทุกวันอย่างไรเล่า!