ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเด็กหญิงเขมิกา โชติกุลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชมแล้วว่าเธอนั้นมีความสามารถในการแสดงมากถึงเพียงใด สมแล้วที่เป็นหลานสาวของซุปตาร์สาวผู้ล่วงลับ โดยไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กน้อยเขมิกาคนนี้นั้นก็คือจิราภรที่กลับชาติมาเกิดใหม่นั่นเอง
“น้องเข็มแสดงละครเก่งจังเลยค่ะ ครูยังอินกับบทของหนูไม่หายเลย” คุณครูประจำชั้นเอ่ยชื่นชมเด็กหญิงวัยอนุบาลที่มากความสามารถเกินเด็กวัยเดียวกัน
“ใช่ๆ เข็มเก่งจัง” เพื่อนๆ ต่างมารุมล้อมเธอ เพราะตอนนี้ละครที่เธอแสดงกำลังออนแอร์ ทางด้านมิ้น ลลิตาเองก็เช่นกัน
“แต่เทอมหน้าน้องเข็มจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพวกเราแล้วนะ” เสียงครูประจำชั้นสร้างความงุนงงให้กับเด็กๆ ในห้องได้เป็นอย่างดี
“ทำไมคะคุณครู” เด็กๆ ต่างกรูกันเข้ามาถามคุณครูด้วยความสงสัย
“เพราะน้องเข็มจะย้ายไปเป็นพี่ประถมปีที่หนึ่งเทอมหน้าแล้วยังไงล่ะจ๊ะ” คุณครูสาวเฉลยให้เพื่อนร่วมห้องของเด็กหญิงเขมิกาฟัง ทุกคนจึงเข้าใจเพราะว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้นั้นพิเศษกว่าใคร ไม่ว่าครูจะสอนอะไร เขมิกาตอบได้แทบจะทั้งหมด
“ใช่ๆ เข็มเก่ง เข็มรู้หมดเวลาที่ครูสอน” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น
“จริงด้วย เข็มไปเป็นพี่น่ะถูกแล้ว” เพื่อนคนอื่นต่างเห็นด้วย เด็กหญิงเขมิกาได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ออกมา ในใจเธอโลดแล่นเป็นอย่างมาก เธอจะได้เรียนเร็วกว่าคนอื่นตั้งหนึ่งปี นั่นก็หมายความว่าเธอจะได้เวลาทำงานเพิ่มมาอีกหนึ่งปี
ละครเรื่องแรกของเขมิกากับลลิตาผ่านไปด้วยเรตติ้งที่ดี เด็กทั้งสองมีแฟนคลับคอยซัพพอตมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กหญิงเขมิกา ที่มีฐานแฟนคลับของผู้เป็นอามาคอยสนับสนุนเธอเช่นกัน เด็กทั้งคู่นั้นยังมีอีกหลายบทบาทที่เข้ามาติดต่อเด็กทั้งสองให้ไปแสดง ไม่ว่าจะเป็นละคร ถ่ายโฆษณา เดินแบบเสื้อผ้าเด็ก และงานพรีเซนเตอร์ ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกันบ่อยขึ้น ความสนิทสนมจึงเพิ่มขึ้นทีละน้อย ทางด้านของคุณแม่ก็เช่นกัน ทั้งสองคนสนิทกันเพราะลูกๆ ของตน
“คุณกาญนี่มือเบาจังเลยนะคะ ตอนนวดศีรษะให้ ดิฉันรู้สึกผ่อนคลายมากเลยค่ะ” ศศิภาเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังนั่งอยู่ในสปาของกาญจนา
“ขอบคุณค่ะ คุณทำงานเครียดๆ ต้องหาเวลาผ่อนคลายบ้างนะคะ การทำสปาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายเหมือนกันค่ะ” กาญจนาบอกเพื่อนใหม่ด้วยรอยยิ้ม
“น้องเข็มมีละครติดต่อเข้ามาอีกใช่ไหมคะ” ศศิภาเอ่ยถามถึงเด็กหญิงตัวน้อยเพื่อนใหม่ของบุตรสาว
“ใช่ค่ะ เห็นน้องยิ้มบอกว่ามีอีกสามเรื่องที่จ่อคิวอยู่ รอการตัดสินใจจากดิฉันด้วยว่าจะให้น้องรับหรือเปล่า” กาญจนาบอก
“น้องมิ้นก็ได้แสดงด้วยกันใช่ไหมคะ” กาญจนาถามอีกฝ่ายบ้าง
“ใช่ค่ะ เด็กสองคนนี้ชักจะตัวติดกันเกินไปแล้วนะคะ ยิ่งย้ายบ้านมาอยู่ใกล้กันยิ่งติดกันแจเลย” ศศิภาพูดไม่ผิด เด็กน้อยทั้งสองคนนั้นตัวติดกันมาก และเทอมหน้าน้องเข็มก็ย้ายขึ้นไปอยู่ป.1กับน้องมิ้นแล้วด้วย ยิ่งทำให้ความสนิทสนมของสองเด็กน้อยยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก
“คุณศศิไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูเข็มเห็นเป็นเด็กห้าขวบแต่เธอเก่งเกินกว่านั้นอีกค่ะ” กาญจนาเอ่ยถึงบุตรสาวอย่างภาคภูมิใจ เขมิกาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์และหัวไวไม่ว่าจะบอกจะสอนอะไร บุตรสาวของเธอเข้าใจและทำได้ไม่มีติดขัด จนผู้ใหญ่ที่ไปทำงานด้วยและครูที่โรงเรียนต่างเอ็นดู
“ค่ะ ดิฉันเป็นห่วงแค่จะพากันติดเล่นก็เท่านั้น” ศศิภาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“เราสองคนก็ช่วยๆ กันดูและคอยชี้ทางที่ถูกต้องให้พวกเด็กๆ กันนะคะ” กาญจนาบอก ศศิภายิ้มให้เพื่อนใหม่ที่ดูจะคุยถูกคอดี
สองเดือนผ่านไป
ตอนนี้เด็กหญิงเขมิกาได้เลื่อนชั้นมาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งซึ่งเป็นห้องเดียวกับเด็กหญิงลลิตา นั่นทำให้ห้องนี้เป็นที่นิยมของรุ่นพี่ เพื่อนๆ และรุ่นน้องที่มาขอถ่ายรูปคู่กับเด็กน้อยทั้งสองตอนพักกลางวันบ่อยๆ
“น้องเข็มพี่วิวขอถ่ายรูปคู่กับเราหน่อยได้ไหมจ๊ะ” วิว รุ่นพี่ป.6เอ่ยถามน้องป.1ที่กำลังมีชื่อเสียงจากละครที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ มารดาของเธอเป็นแฟนคลับของเด็กหญิงตัวน้อย
“ได้ค่ะพี่วิว” เขมิกาตอบพร้อมรอยยิ้ม วิวรีบบอกให้เพื่อนที่มาด้วยกันถ่ายรูปให้เธอกับน้องเข็ม ดาราตัวน้อย
“ขอบคุณค่ะ” เขมิกายกมือไหว้ คุณครูและรุ่นพี่ต่างมองเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู
“น้องมิ้นด้วยนะจ๊ะ” วิวหันไปบอกนักแสดงเด็กอีกคนที่เป็นเพื่อนกับน้องเข็ม
“ได้เลยค่ะ” มิ้น ลลิตาตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ และก็เป็นแบบนี้มาตลอดสองเดือนที่สองสาวถูกเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ มาขอถ่ายรูป หากแต่ลายเซ็นเด็กทั้งสองนั้นยังไม่มี เลยไม่มีใครขอ
เย็นวันนี้ขณะที่เขมิกาและลลิตากำลังนั่งดูเรวัตเตะฟุตบอล รอมารดาของตนมารับอยู่ที่สนามฟุตบอล ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือเพื่อนห้องอื่นที่เล่นกับห้องของเรวัตเตะฟุตบอลลอยละลิ่วมายังทั้งสองสาว แต่ฝีเท้าของเด็กชายวัย8ขวบก็เร็วเกินกว่าที่ลูกฟุตบอลจะลอยมาอัดใส่ใบหน้าสวยของเขมิกา ส่วนสูง135เซนติเมตรของเด็กชายนั้นสามารถบังลูกฟุตบอลเอาไว้ไม่ให้โดนเด็กน้อยได้ทันเวลา เสียงกรี๊ดตกใจดังขึ้นจากมิ้น ลลิตาและเพื่อนๆ แต่เขมิกานั้นได้แต่จ้องหน้าของเพื่อนพี่ชายที่วิ่งเข้ามาบังลูกฟุตบอลให้เธออย่างรู้สึกขอบคุณ
“พี่วิน..............” เสียงหวานของเด็กน้อยดังขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนพี่ชายทรุดลง
“เฮ้ย!!!!! ไอ้วิน เป็นไงบ้างวะ พวกมึงเตะฟุตบอลประสาอะไรวะ เกือบโดนน้องสาวกูแล้วเนี่ย” เรวัตรีบวิ่งเข้ามาดูน้องสาวและเพื่อนรัก ก่อนที่จะหันไปด่าเพื่อนๆ ที่มายืนรุมดูพวกเขาอยู่
“ขอโทษทีไอ้วิน กูไม่ได้ตั้งใจ น้องเข็มพี่ขอโทษนะครับ” เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“กูไม่เป็นไร แค่จุกๆ ไปเล่นกันต่อเถอะไป” ธาวินเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยน้องสาวของเพื่อนสนิท
“น้องเข็มไม่เป็นไรนะครับ” น้ำเสียงน่าฟังดังมาจากเพื่อนของพี่ชาย เขมิการู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ หากไม่ได้เขามาบังลูกฟุตบอลให้เธอ เธอคงเจ็บตัวไปแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ ธาวินได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ให้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะวิ่งเหยาะๆ กลับเข้าสนามไป
“เฮ้ย!!! มึงไหวหรอวะ” เพื่อนคนหนึ่งในทีมเอ่ยถามขึ้น
“ไหวๆ ไม่ต้องห่วง แค่จุก” ธาวินตอบก่อนที่จะมองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยที่มองมาที่เขาเช่นกัน เขาส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เขมิกาส่งยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนพี่ชายเช่นกัน
“พี่วินเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวในละครเลย คอยช่วยนางเอกไม่ให้เจ็บตัว” มิ้น ลลิตาเอ่ยขึ้นอย่างไร้เดียงสา เธอมองเหมือนเป็นการแสดงละครฉากหนึ่ง
“แต่นี่มันเรื่องจริงค่ะคุณหนู ไม่ใช่ละคร” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไรแน่นะเข็ม ดูสิหน้าซีดเลย” มิ้น ลลิตาเอ่ยถามเพื่อนที่สนิทกันมากในตอนนี้
“ไม่เป็นไรจ้ะ ขอบใจนะ” เขมิกาตอบก่อนที่จะสอดสายตามองหาพี่ธาวิน พระเอกขี่ม้าขาวของเธอ ชาติก่อนเธอไม่เคยมีความรัก เกิดมาชาตินี้เธอก็อยากลองใช้ชีวิตที่มีรักดูบ้าง เด็กน้อยคิดในใจก่อนที่จะยิ้มบางๆ ออกมา
เวลาผ่านไปไม่นาน มารดาของทั้งสองก็มารับบุตรของตน ทั้งเรวัตและเขมิกาไหว้ลาศศิภามารดาของลลิตา ส่วนลลิตาก็ไหว้ลามารดาของเพื่อนสนิทอย่างเขมิกาเช่นกัน
“คุณแม่ขา วันนี้เพื่อนพี่เรียวช่วยเข็มไม่ให้เจ็บตัวด้วยค่ะ” เขมิกาเล่าให้มารดาฟังด้วยน้ำเสียงสดใส
“หืม... ใครล่ะลูก แล้วใครจะทำให้เข็มเจ็บตัว เรียวบอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลย” น้ำเสียงหวานที่ถามบุตรสาวในตอนแรกเข้มขึ้นเมื่อเอ่ยถามบุตรชาย
“คือพวกเรียวเล่นฟุตบอลกันอยู่ที่สนาม แล้วน้องเข็ม น้องมิ้นกับเพื่อนๆ ก็ไปนั่งดูพวกเราอยู่ข้างสนาม ทีนี้ไอ้ห้องสองมันเตะฟุตบอลลอยไปหาน้องเข็ม เกือบโดนหน้า ดีที่ไอ้วินเพื่อนสนิทของเรียวไปช่วยน้องไว้ทัน ตอนนั้นเรียวยังไม่ทันมองเลย เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ” เรวัตหรือเรียวเล่าเรื่องราวให้มารดาฟัง กาญจนาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ที่บุตรสาวของตนไม่เป็นอะไร ต้องขอบคุณเพื่อนสนิทของบุตรชายที่ช่วยน้องเข็มไว้ได้ทันเวลา
“น้องเข็มได้ขอบคุณเพื่อนพี่เรียวไหมคะลูก” กาญจนาเอ่ยถามบุตรสาว
“ค่ะ พี่วินเป็นพระเอกขี่ม้าขาวของเข็มเลยค่ะ ถ้าไม่ได้พี่วินเซฟเข็มไว้ เข็มคงต้องเจ็บตัวแน่ๆ” คำตอบที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาสำหรับมารดาและพี่ชาย กลับเป็นคำตอบที่มาจากความรู้สึกนึกคิดของเด็กหญิงเขมิกาจริงๆ
“ดีแล้วล่ะค่ะ เวลาที่พวกพี่ๆ หรือเพื่อนๆ หรือไม่ว่าใครก็ตามที่เขาทำอะไรให้กับเรา เราต้องขอบคุณเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ฐานะเป็นแบบไหน เราไม่ควรเลือกปฏิบัติกับใครนะลูก” กาญจนาเอ่ยชมบุตรสาว ก่อนที่จะสั่งสอนเพิ่มเติมไปอีกนิดหน่อย เธอรู้ว่าบุตรสาวและบุตรชายนั้นเข้าใจอะไรง่ายๆ โดยที่เธอไม่ต้องอธิบายมาก
“ครับ/ค่ะ” สองเสียงของพี่น้องขานรับคำสั่งสอนของมารดา
รถคันหรูเคลื่อนเข้าสู่บ้านโชติกุล ก่อนที่รถจะจอดอยู่ที่หน้าบ้าน สามคนแม่ลูกต่างพากันงุนงงกับการที่บิดากลับบ้านเร็ว
“พี่ภูมิ ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วล่ะคะ” เสียงหวานเอ่ยถามสามี
“เพื่อนพี่จะมาทานข้าวเย็นที่บ้านของเราค่ะ พ่อของเพื่อนเจ้าเรียวน่ะ เจ้าของโรงพยาบาลแถวรังสิตน่ะ” เสียงทุ้มของเผ่าภูมิเอ่ยบอกภรรยาก่อนที่เขาจะกดจมูกลงบนแก้มนุ่มของเธอ
“ฟอด...............หืม ชื่นใจ หายเหนื่อยเลย” เผ่าภูมิถอนจมูกออกจากแก้มนุ่มก่อนที่จะเอ่ยออกมายิ้มๆ
“เพี๊ยะ!!........พี่ภูมิ ทำอะไรไม่รู้จักอายลูกๆ บ้าง” มือบางฟาดลงบนแขนล่ำ ก่อนที่เสียงหวานแว้ดใส่สามีอย่างไม่จริงจังนัก
“ตามสบายครับคุณพ่อ เราสองคนพี่น้องชินแล้วฮ่าๆๆ คิกๆๆๆ” เรวัตเอ่ยบอกบิดาก่อนที่สองเสียงใสๆ ของสองพี่น้องจะขำออกมาจนมารดาอดที่จะค้อนให้ทั้งลูกๆ และสามีไม่ได้
“ลูกรักของพ่อทั้งสองรู้ใจพ่อที่สุด ไปครับไปอาบน้ำ เดี๋ยวพ่อจะแนะนำให้รู้จักคุณลุงกรกับคุณป้าจิน รู้สึกว่าลูกชายเขาก็รุ่นเดียวกับเจ้าเรียวนะ เอ จะเป็นเพื่อนกันหรือเปล่าเรียนโรงเรียนเดียวกันซะด้วยสิ” เผ่าภูมิชูนิ้วโป้งให้บุตรทั้งสองก่อนที่จะบอกให้ไปเตรียมตัวต้อนรับแขกของเขาที่จะมาในเย็นนี้
“เดี๋ยวมาก็รู้เองแหละค่ะ ไปเด็กๆ ไปอาบน้ำเตรียมตัวกันนะคะ เดี๋ยวคุณแม่ขอไปดูในครัวก่อน” กาญจนาบอก เด็กน้อยทั้งสองจึงเดินจูงมือกันขึ้นห้องไปทันที ส่วนตัวเธอก็เข้าครัวไปโดยที่มีเผ่าภูมิเดินตามหลังภรรยาไปติดๆ