เมขลาตักข้าวรินน้ำให้เจ้านายเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบเลี่ยงออกมาในทันที เพราะถ้าวันไหนจิรดาไม่พอใจขึ้นมาเธออาจจะเจ็บตัว โดนจานเขวี้ยงใส่ก็เจอมาแล้ว
“เบื่อสองแม่ลูกนี่จริงๆ ค่ะพี่องศา” หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จิรดาก็พาองศามาเดินเล่นเพื่อย่อยอาหาร
“เขาก็ไม่เห็นทำอะไรเลยนี่ครับ”
“แม่ของมันอ่อยแล้วก็ยั่วคุณพ่อ ปล้ำกันในห้องทำงานให้คุณแม่ไปเห็นจนตกบันได ยังไม่ทำอะไรอีกเหรอคะ พี่องศาไม่เห็นสายตาของคุณพ่อเหรอคะ มองนังเอยตาเป็นมัน นี่ถ้าดาไม่ปรามเอาไว้ คุณพ่อได้เอามันมาเป็นเมียยกย่องเชิดชูแน่ๆ มันยิ่งบ้าผู้ชายเหมือนแม่มันอยู่ด้วย”
“เขามีพฤติกรรมแบบนั้นเหรอครับ” เขาก็เคยเห็นว่าเมขลามีผู้ชายมาส่งถึงบ้าน หรือขับรถผ่านหน้ามหาวิทยาลัยก็เห็นว่ายืนคุยกับผู้ชายอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากคิดในแง่ลบ แม้เขาจะไม่ชอบการนอกใจ ไม่ชอบพวกผัวน้อยเมียน้อย แต่ก็ไม่อยากปลักปลำใครว่าทำอะไรไม่ดีหากจับไม่ได้คาหนังคาเขา
“น้อยไปสิคะ ผู้ชายมาหาหัวกะไดบ้านไม่แห้ง ดีนะไม่ท้องโย้ตั้งแต่ม.หก นี่พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็เอาใหญ่ ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวพ่อมาส่งก็มีนะคะ ดาไม่อยากคิดหรอกนะคะว่ายายเอยมันไปทำงานอะไรหรือรับจ๊อบอะไรนอกบ้านมา”
“เราคุยเรื่องของเรากันดีกว่าครับ อย่าไปคุยเรื่องคนอื่นเลย” องศาตัดบทด้วยว่าไม่ชอบเรื่องการนินทาหรือพูดเรื่องคนอื่นลับหลัง
“ก็ดีค่ะ แต่อย่าให้ดารู้นะคะว่าพี่องศาก็หลงเสน่ห์มัน อยากได้มันเหมือนผู้ชายคนอื่นด้วย”
“พี่ไม่ใช่คนชอบคบซ้อนหรือนอกใจใคร น้องดาก็รู้นี่ครับ” การที่เขาต้องหมั้นและแต่งงานกับจิรดาจะเป็นเพราะผู้ใหญ่ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายน้ำใจคู่หมั้นของตัวเองเลยสักครั้ง อยู่ด้วยกันเธอก็ดูแลเอาใจใส่เขาอย่างดี แม้จะเอาแต่ใจตัวเองไปบ้างเพราะจิรภพตามใจแต่เธอก็ไม่ได้ทำผิดนอกกายนอกใจ เขาจึงให้เกียรติจิรดาเสมอ แม้จะมีผู้หญิงคนไหนๆ มาอ่อยมายั่วเขาก็ไม่เคยเล่นด้วย แม้ลึกๆ ในใจของเขาจะแอบพึงใจเมขลาอยู่มาก แต่เขาก็เก็บเอาไว้ในส่วนลึกเพราะมันไม่เหมาะไม่ควร
“เรื่องแต่งงานของเราพี่องศาพร้อมแล้วใช่ไหมคะ” เธอยิ้มหวานให้เขา เธอเรียนจบแล้วก็อยากแต่งงานกับเขาสักที องศาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อม ทั้งหน้าตาฐานะการศึกษาและชาติตระกูล
“พร้อมครับ พี่จะให้ผู้ใหญ่มาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยนะครับ อีกสามเดือนเป็นยังไงครับ” องศาเอ่ยถามคู่หมั้นสาว แม้ผู้เป็นอาของเขาจะล่วงลับไปแล้ว แต่เขาก็ยังอยากทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้กับท่านก่อนตาย ท่านจะได้นอนตายตาหลับ
“ขอบคุณนะคะพี่องศา” เธอหอมแก้มเขาฟอดใหญ่อย่างดีใจ กอดแขนของเขาซบหน้าที่ไหล่กว้างของเขาอย่างมีความสุข
คนทั้งสองไม่รู้เลยว่าอีกคนที่แอบรักใจช้ำเพียงใด เมื่อเมขลาได้ยินว่าองศาจะให้ผู้ใหญ่มาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจัดงานแต่งงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เธอก็แทบเข่าทรุด เธอควรจะตัดอกตัดใจจากเขาให้ได้สักที แต่ใจเจ้ากรรมก็ยังไปหลงรักเขาอยู่ได้
หลงรักคนคนอื่นที่เขาไม่รักว่าแย่แล้ว แต่ไปหลงรักคนมีเจ้าของยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“เป็นอะไรน่ะลูก” น้ำเสียงของมารดาและมือของท่านที่สัมผัสมายังไหล่บอบบางทำให้เมขลาถึงกับสะดุ้ง
“ปะ... เปล่าจ้ะแม่”
“ร้องไห้ทำไม”
“ไม่มีอะไรจ้ะ”
“ตัดใจเสียเถอะ”
“แม่!” เมขลาอุทาน
“แอบรักเขาข้างเดียวก็ว่าเจ็บแล้ว แต่เขามีคู่หมั้นแบบนี้เราไม่ควรไปยุ่ง”
“หนูไม่เคยคิดจะไปยุ่งกับเขาเลยนะคะ”
“ดีแล้ว จำได้ใช่ไหมวันนั้น” น้ำเสียงของมารดาทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดหวั่น
“ค่ะแม่” แล้วเรื่องราวเมื่อปีก่อนก็ย้อนเข้ามาในห้วงความทรงจำอีกครั้ง
หลังจากที่องศากลับไปแล้ว จิรดาก็ตามมาชากผมของเธอและตบซ้ายตบขวาจนหน้าบวมไปหมด
“คุณดาตบเอยทำไมคะ”
“แกไปรู้จักคู่หมั้นของฉันได้ยังไงกันห้ะ แกไปรู้จักเขาได้ยังไง แกบอกฉันมา”
“คุณดาใจเย็นๆ ก่อนนะคะเอยเจ็บ”
“ทำไมแกถึงพาเขามาที่บ้านได้ แกไปอ่อยเขามาใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะ เอยเจอเขาด้วยความบังเอิญ มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาทำมิดีมิร้าย คุณองศาเลยมาช่วยเอาไว้ค่ะ”
“ผู้ชายที่ไหน ก็คงผัวแกสักคนนั่นแหละ แกก็เหมือนแม่ของแกนั่นแหละ สำส่อนไม่สนใจว่าลูกใครผัวใคร”
จิรดาจิกผมของเมขลาขึ้นมาก่อนจะจิ้มจนหน้าหงาย
“พอแล้วค่ะคุณดา อย่าทำอะไรเอยเลยนะคะ” จินดายกมือไหว้ปลกๆ ในขณที่เมขลาเองถึงกับลุกไม่ขึ้นเพราะโดนตบจนหน้าหันแบบไม่ทันตั้งตัว
“แกสองแม่ลูกจำใส่กะโหลกกลวงๆ ของพวกแกเอาไว้ ว่าอย่าได้มายุ่งกับคู่หมั้นของฉันอีก แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือน”
“ได้ยินไหม”
“ได้ยินแล้วค่ะ อย่าทำอะไรเอยอีกเลย” จินดารีบรับคำ พยายามขอร้องให้จิรดาแกะมือออกจากการจิกผมของบุตรสาว
“เขามาก็อย่าได้เสนอหน้ามาอีกไม่อย่างนั้นฉันฆ่าแกแน่นังผู้หญิงชั้นต่ำเอ๊ย!” จิรดาจิกหน้าผากสองแม่ลูกอย่างเกลียดชัง จินดารีบกอดร่างบุตรสาวเอาไว้
“ทำไมแม่ยังทนอยู่ที่นี่อีกล่ะจ๊ะ เราน่าจะออกไปจากที่นี่กันได้แล้วนะคะ” เรื่องราวแต่หนหลังทำให้เธอเอ่ยถามมารดาอีกครั้ง หลายครั้งที่เธออยากออกไปจากที่นี่ แต่เพราะมารดาไม่ยอมไป เธอเลยต้องทน
“ครอบครัวของคุณภพมีบุญคุณกับแม่มาก ยิ่งคุณภพเคยช่วยแม่เอาไว้จากพวกอันธพานที่มาดักฉุด แม่เลยยิ่งทิ้งท่านไปไม่ได้จ้ะ”
“แล้วแม่จะให้เขาย่ำยีอยู่แบบนี้เหรอคะ โดนตราหาว่าเป็นเมียน้อย”
“แม่ไม่ได้เป็นเมียน้อยคุณภพนะ แม่ไม่ได้ยินยอมเพราะสำนึกว่าท่านกับแม่มันคนละชั้นกัน”
“บุญคุณที่เขามีให้เราทดแทนไม่หมดเหรอจ๊ะแม่”
“เอาไว้ให้หนูเรียนจบก่อนนะ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ออกไปจากบ้านหลังนี้เราจะไปอยู่กันที่ไหน อยู่ที่นี่มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ไม่ต้องเช่าไม่ต้องซื้อ แค่ทำงานแลกเงินเอง”
“หนูสัญญากับแม่ตรงนี้เลยนะจ๊ะว่าถ้าหนูเรียนจบ หนูจะหางานทำและพาแม่ออกไปจากบ้านนรกหลังนี้”
“ทนไปก่อนนะลูก แม่เรียนมาน้อยแก่แล้ว จะไปทำงานอะไร ทรัพย์สินบ้านช่องที่ดินก็ไม่มี แม่ห่วงแค่หนูนะลูก”
“หนูรู้ค่ะ แต่ถ้าเราออกไปอยู่ข้างนอก หนูทำงานไปเรียนไปก็ได้นะคะ”
“หนูก็จะลำบากเข้าไปอีก แค่ทุกวันนี้ยังลำบากเลย การออกไปอยู่เองข้างนอกมันลำบากจริงๆ นะ” ท่านเปิดปากเล่าให้บุตรสาวฟังว่าเคยคิดออกไปอยู่คนเดียวข้างนอก สุดท้ายก็โดนพวกนักเลงอันธพานมาข่มเหง ดีที่ จิรภพไปช่วยเอาไว้ ท่านเลยคิดว่าข้างนอกโหดร้ายมาก จึงไม่อยากพาบุตรสาวไปอยู่ในห้องเช่าแคบๆ สถานที่ที่ไม่ดี เติบโตมาในที่ที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายหรือมีอันตรายรอบตัว
“เอาเถอะจ้ะ หนูจะระวังตัวไม่เข้าไปยุ่งกับคุณดาให้มาก”
“ดีแล้วลูก” จินดาดึงร่างบุตรสาวมากอดแนบอก
แล้ววันที่จิรดาไม่อยู่บ้านเพราะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับองศาก็มาถึง จิรภพที่สบช่องโอกาสจึงเรียกเมขลามารับใช้
เด็กในบ้านนั้นทั้งสาวทั้งสวยทำให้เขานึกจินตนาการช่วยตัวเองไปหลายรอบแล้ว วันนี้เขาจะต้องได้เมขลามาเป็นเมีย โดยจิรภพหนุ่มวัยห้าสิบห้าได้วางแผนการใช้ให้จินดาออกไปซื้อของข้างนอก ไปซื้อของที่ต้องเดินทางไปไกลๆ กับคนขับรถ และกว่าจะกลับมาเมขลาก็ตกเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว
“คุณภพต้องการอะไรเหรอคะ” เมขลาเอ่ยถาม เธอยอมรับว่าระแวงจิรภพอยู่พอสมควร แต่เช่นไรเขาก็คือเจ้านาย