เจอผู้ชายขี่ม้าขาวมาช่วย

1213 Words
ตอนที่ 3 และอากาศช่างหนาวเหลือเกิน ในยามดึกเช่นนี้ ซึ่งปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งครึ่งแล้ว หากแต่ในเวลานี้ บริเวณบนท้องถนนเงียบ เสียงที่เคยครางกระหึ่มอึกทึกครึกโครมในบริเวณผับกึ่งเธคซึ่งมีอาณาเขตกว้างดังกล่าว ซาเสียงหายเงียบกริบไปแล้ว เมื่อวาดวลีเดินออกมาส่งพีรียาที่หน้าร้าน ยื่นสัมผัสกระชับมือเรียวนุ่มอย่างเป็นกำลังใจให้แก่พีรียาในระหว่างเดินทางกลับบ้าน “นิ่มขอเป็นกำลังใจให้เพี๊ยชนะ ขอให้สู้ๆต่อไปนะเพี๊ยช แล้วอะไร อย่าเก็บไว้กับตัว จะเครียดเปล่า มาบอกเราบ้าง จะได้ช่วยแก้ไข” นี่คือความหวังดีของวาดวลี “เพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นนุ่มบ้าง ก็คงไม่ชอบหรอก ที่จะมาบังคับกันแบบนี้” ครั้นล่ำลาแล้ว หลังจากนั้น เจ้ารถกระป๋องคันเล็ก ชองหล่อน กำลังจะแล่นลงจากบริเวณทางลงสะพานพระโขนง จากนั้นก็เบี่ยงซ้ายทันที เพื่อเข้าสู่ถนน และบนถนนอ่อนนุช นั้นก็ยังประดับไปด้วยดวงไฟสีฉูดฉาดหลากสีของร้านอาหารคาราโอเกะและผับบาร์ และหล่อนก็ขับไปเรื่อยๆ มองหาร้านอาหารดังว่า อยู่ช่วงกลางซอยของถนนอ่อนนุช ใกล้วัดแห่งหนึ่ง เอ๊ะ หญิงสาวนั้นทำท่าจะชะงักและชะลอรถลง เพราะรู้สึกกึ่งแปลกใจไม่น้อย รวมทั้งจำได้ด้วยว่า ต้องเป็นเขา ปัณรุจน์? อย่างแน่นอน แล้วทำไมเขาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน แถวนี้บ้านเขาหรือ เขาอาจจะพักอยู่บริเวณนี้ก็ได้ เธอไม่ทราบเหตุผล จึงขับแซงหน้าเขา เลยไปไม่กี่เมตรพร้อมกับบีบแตร แล้วคนขับสาวเปิดประตูลงมา “บอร์น นี่เธอเดินมาทำอะไรที่นี่ต่อล่ะฉันนึกว่า เธอกลับถึงบ้านแล้วนะเนี่ย ” ชายหนุ่มยืนตะลึงบนถนนสายเงียบ ท้องถนนโล่ง เขาออกมาหาอาหารกินแถวนี้ หลังจากเพิ่งแวะเข้าไปในเน็ตคาเฟ่ได้ครึ่งชั่วโมงจึงออกมา และพีรียาลงมายืนมองเขาเงียบๆ แล้วเขาเป็นฝ่ายถาม “คุณ นั่นเอง เอ้อ กำลังจะไปไหนต่อครับ” เขาเอ่ยพร้อมจ้องมอง อย่างนึกไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ แล้ว เขาก็ทำหน้าแบบไม่รู้ไม่ชี้ ถามเหมือนคนพูดไม่ออกบอกไม่เป็น อยากจะหลบหน้า เพราะมันมีความรู้สึกว่าไม่อยากจะตอแยดวงหน้าหวาน แต่ว่าอีกใจส่วนหนึ่ง นั้น อยากจะทำ “อ้าวฉันก็กำลังกลับบ้านนะสิคะถามแปลกๆ เพราะดึกอย่างนี้แล้ว หรือจะให้ฉันไปเที่ยวต่อ” พีรียาตอบ คิ้วเรียวดำขลับของหล่อนขมวดเข้าหากัน ถามอีก เป็นเพราะอะไรไม่ทราบถึงอยากถาม ปกติพีรียาไม่ชอบตอแยกับผู้ชาย “นายเพิ่งกลับบ้านหรือแล้วนี่ไปอยู่ที่ไหนมาล่ะ เพิ่งมาถึงเนี่ยนะ ตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะ นี่ถ้าเป็นฉันคงหลับสนิทไปนานแล้ว ” ปัณรุจน์ยิ้มอีกครั้ง “เข้าร้านเน็ตมาครับ เวลาผมไม่สบายใจ เครียดขึ้นมาบ้าง ก็จะเข้าไปดูข้างในเสิร์ชหาข้อมูลดูโน่นดูนี่ ธรรมชาติ ดูเพื่อนบ้าง แชทเอ็มเอสเอ็นบ้าง แบบประเภทหาเพื่อนหาแฟน” เขาตัดสินใจบอกหล่อน “ หาแฟน ?” ทำให้หญิงสาวตาโต “ใช่ครับ” เขาพยักหน้า “ นี่ นายเข้าไปแชทด้วยหรือ เล่นเน็ตเป็นด้วยหรือ ” เธอเอ่ยถาม ปัณรุจน์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นพยักหน้า “ได้สิครับ แต่ผมไม่ได้เล่นบ่อยครั้งหรอก กลัวจะติดเกินไป ผมอยากจะเก็บเงินเอาไว้มากกว่า มันต้องใช้เงินอย่างประหยัด” “ก็ดีแล้วล่ะจ้ะ ที่นายคิดได้อย่างนี้” พีรียานึกชมที่เขาประหยัดสตางค์ หลังจากที่ปัณรุจน์เอ่ยบอกเรียบๆและเรื่อยบนมุมปากหยักที่ดูมีเสน่ห์ จึงได้เข้าใจ “เพราะคิดว่าในช่วงระหว่างที่ผมยังไม่มีงานทำ ผมคิดว่า เอ้อคุณเพี๊ยชช่วยบอกเพื่อนของคุณให้รับผมเข้าทำงานชั่วคราวก่อนได้ไหมครับเพราะงานที่ผมอยากทำเป็นเวลากลางวันเท่านั้นกลางวันผมเป็นนักศึกษาไม่มีทางที่ผมจะไปที่อื่นได้ นอกจากอยู่ในสถาบัน ” เขาบอกเรื่องนี้ ซึ่งพีรียาทราบแล้ว จากคำพูดของเขา ที่บอกว่า ยังเรียนไม่จบ “ ทำไมนายไม่เรียนเต็มวัน” “ ผมเรียนเป็นช่วงครับ มีบ่ายกับเช้า แต่ปกติแล้ว มักจะอยู่บ่าย” พีรียาจึงสามารถเดาได้ว่า ตกค่ำจากนั้นเขาก็คงมารับงานพิเศษ อย่างที่หล่อนเห็นเป็นงานจ๊อบพาร์ทไทม์ แต่เมื่อเห็นเขาขยันอย่างนี้ ทำให้หล่อนก็นึกสนับสนุนด้วย “ งั้นก็ได้ ฉันจะลองพูดกับวาดดู ว่าที่ร้านว่างไหม ดีเสียอีก ถ้าเธออยู่ที่นั่น ฉันจะได้ตามหาตัวเธอง่ายๆหน่อย เผื่อมีธุระจำเป็นสำคัญให้ทำ ” ถึงแม้เขาฟังหล่อนแต่ว่าปัณรุจน์กลับไม่ตอบหล่อน เพราะเขายังคงเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น พยักหน้าเบา ก่อนที่พีรียาคิดว่าจะขอตัวกลับ หล่อนถามว่า “ดึกแล้วนะ ปาเข้าไปเกือบตีสามกว่าๆแล้ว เธอรีบเข้าไปนอนเถอะ พักผ่อนให้มาก สุขภาพจะได้ดี ” หล่อนเอ่ยบอกด้วยคำพูดที่ห่วงใย ชายหนุ่มแค่เพียงแย้มยิ้มที่มุมปากหนาเช่นเดิมกับไมตรี “งั้นวันหลังเจอกันไหมเธอ เอ้อ ฉันจะโทร.ไปหาเธอตามเบอร์ที่ให้ไว้ก็แล้วกัน กู๊ดไนท์นะคะสำหรับวันนี้ คุณปัณรุจน์ ” ตอบเขาแล้ว กำลังจะหมุนร่าง หากแต่แล้วหล่อนกลับชะงัก เพราะเมื่อคิดว่าตนเองกำลังจะหาอะไรทานนี่นา จึงเอ่ยชวนเขา “เอายังงี้ได้ไหมคะ คุณพลเมืองดีของฉันถามหน่อยเถอะค่ะ คุณหิวข้าวไหม? ถือว่าฉันได้โอกาสแล้วนะคะ ให้เกียรติสักมื้อ ได้ไหมคะ กรุณาด้วย ร้านอาหารอยู่ใกล้ๆตรงนี้เอง ฉันเลี้ยงเองค่ะ ” พีรียาตัดสินใจปุบปับรวดเร็ว สุดที่เขาจะห้ามหรือปฏิเสธได้ ก็นึกหิวเหมือนกัน ถ้างั้นก็ดีสิ แต่ว่าเกรงใจหล่อน เขาเองถือว่าตนเองเป็นผู้ชาย น่าเกลียดตายเลยที่จะให้ผู้หญิงเลี้ยงอาหาร ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน และไม่เคยคิดจะทำด้วย สีหน้าของหล่อนมองจ้องเขา เหมือนจะขอร้องแกมบังคับด้วย จนเขานั้นปฏิเสธไม่ได้ แม้จะรู้สึกทั้งประหม่าและหวั่นไหวในความรู้สึกก็ตาม อีกทั้งในหัวใจเต้นตึ๊กตั๊ก ที่ว่าเขานั้นได้เข้าไปนั่งชิดใกล้หญิงสาวร่างระหงซึ่งงามจับใจนัก เฮ้อ เขานึกคิดในใจ เป็นบุญวาสนาของนายแน่ ปัณรุจน์ และเมื่ออิ่มจากรสอาหารจึงโบกมือล่ำลาเธอ เพื่อแยกย้ายกันกลับ “โชคดีนะครับ” สาวสวยที่น่ารัก เขายิ้มพร้อมบ่นในใจ ขับรถดีๆด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD