รายงานตัวนิสิต

1843 Words
    “ทำไมละคะ พี่จะทำอะไรบัว”     “ก็จะทำให้ท้องโต ก่อนเรียนจบไงจะได้ไม่มีใครกล้ามาจีบอีก” โตมรกระซิบพอให้ได้ยินกันสองคนกลัวคนในร้านทอง    จะได้ยิน     “พี่โต บัวไม่คุยกับพี่แล้วค่ะ กลับบ้านกันคะ” บัวพูดด้วยความเขิน     ถึงวันที่บัวต้องไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยโตมรมารับบัวแต่เช้า เพื่อพาบัวไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคใต้     “ง่วงนอนใช่ไหมครับ พี่แวะปั๊มน้ำมันบัวจะกินกาแฟไหม” นายหัวโตมรถามแฟนสาว     “บัวไม่ง่วงค่ะ บัวไม่ดื่มกาแฟด้วย พี่โตละคะง่วงใช่ไหมแวะก็ได้นะคะเดี๋ยวบัวลงไปซื้อให้ค่ะ”     “ก็ดีครับ พี่รู้สึกง่วงเหมือนกันเมื่อคืนพี่กรีดยางด้วยเลยง่วงนอน” โตมรบอกบัว     “ค่ะ บัวขอโทษนะคะทำพี่โตลำบากต้องมาส่งบัว จริงๆบัวมาเองก็ได้คะ”     “พี่ก็ต้องมาส่งบัวอยู่แล้ว บัวเป็นแฟนพี่นะ”     “ค่ะขอบคุณนะคะ เดี๋ยวพี่โตก็ต้องรอบัวนานเลยกว่าจะจัดการเรื่องเอกสารรายงานตัวเรียบร้อย ไหนจะต้องจองหอพักในมหาวิทยาลัยอีก”     “ครับไม่เป็นไรพี่จะนั่งคอยแถวร้านกาแฟ บัวเสร็จธุระก็ส่งไลน์หาพี่นะครับ”     “ได้ค่ะพี่โต”     บัวบุษบามาถึงมหาวิทยาลัยก็รายงานตัวเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเรียบร้อย พร้อมทั้งจองหอพักในมหาวิทยาลัยโดยหอในมีสิทธิ์พักได้หนึ่งปี แต่บัวเป็นนักศึกษาทุนโครงการจึงสามารถขอพักต่อได้จนจบการศึกษาแต่ต้องทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยควบคู่กันไปด้วย แต่ก็ติดอยู่กับนายหัวโตมรจะยอมหรือไม่ด้วย และก็เป็นไปตามคาดคือโตมรไม่ยอมเพราะจากแต่เดิมบอกบัวว่าจะนั่งคอยที่ร้านกาแฟแต่กลับมาจัดการเรื่องรายงานตัวและเรื่องการรับทุนด้วยตนเอง     “เอ่อ...อาจารย์ครับผมจะขอสละสิทธิ์ทุนเรียนดีของเอ่อ...น้องสาวผมครับ พอดีว่าน้องสาวผมเขาเรียนเก่งแต่ขี้งกครับบ้านผมไม่ได้ลำบากอะไรครับจึงอยากจะสละสิทธิ์ไปให้คนอื่นที่ลำบากมากกว่าครับ” นายหัวโตมรชี้แจง     “คงไม่ได้ค่ะ เพราะนักศึกษาสมัครเข้ามาเป็นระบบโควตา ไม่ใช่ระบบการรับเข้าปกติถ้าจะสละสิทธิ์ก็คือต้องสละสิทธิ์การเป็นนักศึกษาด้วยนะคะ แต่เรื่องการพักหอในทางมหาวิทยาลัยจะบังคับแค่ปีหนึ่งปีเดียวนะคะ” อาจารย์ที่รับลงทะเบียนนักศึกษาใหม่อธิบายให้โตมรทราบ     “ครับผมเข้าใจแล้วครับ ปีหนึ่งต้องพักหอในเพราะมีผลผูกพันต่อเงื่อนไขการรับทุน แต่ปีสอง ผมจะให้น้องพักข้างนอกผมมีบ้านพักอยู่แถวนี้ครับผมให้เขาพักข้างนอกครับในชั้นปีสองแต่ปีหนึ่งคงต้องพักหอในไม่อย่างนั้นก็ต้องสละสิทธิ์การเป็นนักศึกษาด้วยถูกต้องนะครับ” นายหัวโตมรรับคำแต่ถามย้ำอาจารย์อีกครั้ง     "ใช่ค่ะนักศึกษาต้องรับทุนเงื่อนไขคือพักหอในหนึ่งปี ทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยกำหนด และเกรดเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 3.00 ถึงจะได้เงื่อนไขการรับทุนต่อ เพราะทุนที่สอบมานี้มีผลต่อการเข้ารับราชการครูของนิสิตเมื่อจบการศึกษานะคะ" อาจารย์อธิบายเพิ่มเติม     "ครับผม ผมเข้าใจแล้วก็พักหอในปีเดียว ปีต่อไปอยู่บ้านได้ ไม่ผิดกฎการรับทุนนะครับ"     "ใช่ค่ะ" อาจารย์ตอบนายหัวโตมร     “แต่พี่โตคะบัวเอ่อ....” บัวบุษบายังไม่ทันได้พูดนายหัวก็พูดขัดขึ้น     “ตามที่พี่แจ้งนั่นแหละบัวพักหอในแค่หนึ่งปีก็พอขึ้นชั้นปีสองออกไปอยู่บ้านรายงานตัวเรียบร้อยก็กลับบ้านกันเถอะนะ” โตมรพูดเองเออเองเสร็จศัพท์     บัวจนด้วยคำพูดจะโต้เถียงจึงรายงานตัวเป็นนิสิตของคณะครุศาสตร์ เอกคณิตศาสตร์เรียบร้อยพักหอในหนึ่งปีตามเงื่อนไขทุน ถือได้ว่า นางสาวบัวบุษบา งามโสภณ ได้เป็นนิสิตชั้นปีหนึ่งของสาขาคณิตศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย รอมหาวิทยาลัยเปิดภาคการศึกษาในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า หลังจากรายงานตัวเสร็จนายหัวโตมรจึงพาบัวบุษบาไปดูบ้านที่นายหัวซื้อไว้เป็นหมู่บ้านจัดสรร บ้านที่ซื้อไว้เป็นบ้านขนาดสามห้องนอน สามห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวแยกเป็นสัดส่วน นายหัวโตมรตั้งใจไว้แล้วว่า จะให้คนงานที่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนบัวบุษบาหนึ่งคนเพราะนายหัวเองก็ต้องอยู่ทำงานที่ฟาร์มและต้องดูแลสวนยางสวนปาล์มด้วย แต่ก็อยากมาหาบัวบุษบาและก็เข้าใจดีว่าปีหนึ่งบัวต้องพักหอพักหญิงในมหาวิทยาตามเงื่อนไขของโครงการ นายหัวพาบัวเดินสำรวจบ้านเรียบร้อยก็พาบัวกลับบ้านที่พัทลุงในตอนบ่าย รอกลับมาอีกทีตอนมหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียน     "บ้านหลังใหญ่มากเลยนะคะพี่โต พี่โตจะซื้อทำไมให้สิ้นเปลืองละคะไม่กี่ปีเองบัวพักหอในได้สบาย ทำไมต้องเปลืองเงินเปล่า ๆ" บัวพูดขณะนั่งรถกลับบ้าน     "บัวสบายแล้วพี่ล่ะ เวลามาหาบัวพี่จะนอนที่ไหน พี่ลำบากนะ บ้านซื้อไว้ไม่ขาดทุนหรอกขายต่อได้ราคามีแต่จะขึ้น ค่อยขายทิ้งตอนบัวเรียนจบก็ยังได้" โตมรอธิบาย     "พี่ก็ไม่ต้องมาสิคะ บัวต้องกลับบ้านอยู่แล้วถ้าไม่มีเรียน"     "ไม่เอาพี่ทนคิดถึงไม่ไหวหรอกครับ เอาตามนี้แหละครับพี่จัดการทุกอย่างไว้แล้วบัวอยู่เฉยๆ ทำตามพี่บอกก็พอนะครับ" โตมรพูดสรุปอย่างเอาแต่ใจ     เมื่อได้ยินดังนั้นบัวบุษบาจึงเงียบและไม่พูดสิ่งใดออกมากอีกเลย จนนายหัวโตมรพาบัวมาแวะห้างดังเพื่อหาซื้อชุดนักศึกษาเตรียมไว้ใส่ไปเรียนตอนเปิดเทอม     "บัวลงมาสิ พี่พามาซื้อชุดนักศึกษา แวะกินข้าวด้วยพี่หิว"     "ไม่ต้องซื้อหรอกค่ะบัวค่อยจัดการเองค่ะ เย็นแล้วนะคะเดี๋ยวจะถึงบ้านมืดค่ำเสียก่อน"     "เดี๋ยวพี่โทรบอกพ่อบัวเอง ว่าแวะซื้อชุดนักศึกษา และกินข้าวก่อนถึงบ้านมืดหน่อยพ่อบัวไม่ว่าหรอกครับ" โตมรบอกบัว     "ค่ะ งั้นก็ตามใจพี่โตเถอะค่ะ" บัวบอกโตมร     โตมรพาบัวไปซื้อชุดนักศึกษาเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้บัวถือไปเรียนอีกหนึ่งใบเป็นกระเป๋า Longchamp Le Pliage Cuir รุ่นใหม่ล่าสุด     "พี่โตมันแพง ใบละเป็นหมื่นเลยนะ บัวเรียนจบทำงานเป็นเดือนกว่าจะมีเงินเหลือซื้อกระเป๋าใบนี้ บัวเรียนครูนะพี่โตใช้ของแพงๆ แบบนี้เดี๋ยวได้เป็นหนี้หัวโต" บัวบุษบาบอกโตมรเพราะไม่อยากได้กระเป๋าที่แพงขนาดนี้     ก็พี่ซื้อให้ พี่อยากให้บัวใช้ของดีๆ ใบนี้ใช้ได้นาน และใช้ได้คุ้ม พี่เห็นยายหยีซื้อมาใช้เลยอยากให้บัวใช้ด้วย" โตมรอธิบายเหตุผลหักล้าง     "บัวไม่อยากเป็นหนี้พี่โตค่ะ" บัวพูดเสียงเบาอย่างกังวลใจ อยากใช้ชีวิตแบบยืนบนขาตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าขายตัวให้โตมรภายหลัง     "ก็บอกว่าให้ไงวะ พูดยากจริง อย่ามาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลาได้หรือเปล่า พี่ให้เพราะบัวคือว่าที่เมียของพี่ พี่อยากให้เมียใช้ของดี ๆ" โตมรพูดอย่างหงุดหงิด     "ค่ะ บัวขอโทษ" บัวพูดขอโทษเสียงเบา     เอาใบนี้ละครับ นี่ครับบัตรเครดิตจัดการให้ผมด้วยครับ" นายหัวโตมรยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานขาย พนักงานขายรับบัตรและไปจัดการเรียบร้อยก็เอากระเป๋ามาส่งให้     เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ กระเป๋าใบนี้เหมาะกับคุณผู้หญิงมาเลยค่ะ กระเป๋าก็สวยคุณผู้หญิงก็สวยมากค่ะ" พนักงานกล่าวขอบคุณนายหัว และชื่นชมความสวยของบัวบุษบา     "ครับ แฟนผมเขาสวยหลบในครับ เขามักน้อยไม่ค่อยใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์เท่าไหร่" โตมรรับคำพนักงานขายพร้อมกับพูดเหน็บบัวบุษบา บัวบุษบามองหน้านายหัวอย่างเข้าใจความหมายแต่บัวบุษบาก็คิดว่าตนเองก็มีดี ที่มากกว่าความสวย จะไม่ยอมเอาความสวยที่เป็นแค่เปลือกมาใช้เพื่อหลอกล่อเอาข้าวของจากนายหัว หรือผู้ชายคนไหนหรอก วันนี้ไม่ใช่วันของบัวแต่สักวันต้องเป็นวันของบัว บัวคิดอย่างใจเย็นและใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาตรงหน้า     "ไปกินข้าวกันเถอะค่ะพี่โต จะได้รีบกลับบ้านค่ะ" บัวพูดกับนายหัวเสียงนิ่งๆ     "ครับกินข้าวเสร็จแล้ว ดูหนังเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ พี่โทรบอกพ่อบัวไว้แล้ว" นายหัวโตมรต่อรองกับบัว     "ค่ะ ได้ค่ะแล้วแต่พี่โตเลย" บัวรับคำไม่ได้ขัดข้องอะไร     เมื่อกินข้าวและดูหนังเสร็จนายหัวโตมรก็ไปส่งบัวที่บ้าน จอดรถและลงไปนั่งคุยกับว่าที่พ่อตาครู่ใหญ่ก็ขอตัวกลับบ้านของตนเอง     "พี่กลับบ้านก่อนนะบัว พรุ่งนี้เช้าพี่มารับเองบัวไม่ต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปที่ฟาร์มนะเพราะพี่จะมารับบัวไปสวนปาล์มที่ควนถ้ำวังหอม ขออนุญาตน้าชิตกับน้าลีเลยนะครับ" โตมรบอกบัวบุษบาและหันไปขออนุญาตพ่อแม่ของบัวด้วย     "ครับตามสบายเลยนายหัว" วิชิตบอกว่าที่ลูกเขย     "ใช่ค่ะ อีกไม่กี่วันบัวก็จะไปเรียนแล้วคงหลายวันนะคะกว่าจะได้กลับบ้าน เห็นเขาบอกว่านิสิตปีหนึ่งมีกิจกรรมต้องทำเยอะ คงอีกหลายวันเลยกว่าจะได้กลับมาเจอกัน" แม่ของบัวพูดขึ้นบ้าง     "ครับ พี่กลับก่อนนะบัว" โตมรบอกบัว     "ค่ะ สวัสดีค่ะ วันนี้ขอบคุณนะคะสำหรับข้าวของและพาบัวไปรายงานตัว" บัวไหว้ลาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ     "ครับ ไปส่งพี่ที่รถหน่อยสิ" นายหัวพูดขึ้น     "ค่ะ" บัวรับคำแล้วเดินไปส่งนายหัว     "ขับรถดีๆ นะคะ" บัวพูด     "ครับ" โตมรรับคำพร้อมกับยืนหน้ามาหอมแก้มบัวอย่างรวดเร็ว     "พี่โตเดี๋ยวพ่อกับแม่เห็นนะคะ" บัวจับแก้มพร้อมกับหันไปมองในบ้านกลัวพ่อกับแม่จะเห็น     "เห็นก็ดีสิ พี่จะได้ข้ามขั้นมาเป็นลูกเขยเสียที พี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้ามารับไปสวนปาล์ม" โตมรว่าอย่างไม่ได้เกรงกลัวอะไร     "ค่ะ" บัวรับคำแล้วรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยความเขิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD