แอบมองเธออยู่นะจ้ะ

1724 Words
    นายหัวพลวัตรเพื่อนสนิทของนายหัวโตมรโทรมาชวนเพื่อนเพื่อออกไปเที่ยวด้วยกันเป็นปกติเพราะอีกไม่กี่วันนายหัวพลวัตรก็มีแผนจะเดินทางไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ     “ไอ้โต กูโทรมาชวนมึงไปบาร์ด้วยกัน” พลวัตรโทรมาชวนเพื่อนสนิท     “เออไปๆ กูกำลังอยากปลดปล่อยพอดี”     “ปลดปล่อยอะไรวะ ไอ้โตกูชวนมึงไปบาร์แดกเหล้าไม่ได้ไปซ่องนะมึง”     “กูรู้ก็เผื่อเจอถูกใจจะได้ไปต่อไงวะ”     “ไอ้เพื่อนเหี้ย อย่างนี้ทุกทีมึงนะ ว่าแต่วันนี้นอนที่บ้านแม่มึงหรือมึงนอนอยู่กับแม่วัววะ”     “นอนกับแม่วัวเหี้ยอะไรของมึงพูดจาให้มันดีๆ หน่อย กูนอนกระท่อมกลางทุ่งหญ้ามึงจะขับรถมารับกูเหรอ”     “เออไปรับก็ได้ อาทิตย์นี้น้องหยีกลับบ้านหรือเปล่าวะ”     “แล้วมึงจะถามถึงน้องกูทำไม มันกลับหรือไม่กลับเกี่ยวอะไรกับมึงไอ้พล”     “เปล่าก็ถามดู กูแค่คิดถึงน้องเฉยๆ”     “เออกลับ แต่ไม่ต้องมาคิดถึงน้องกู” นายหัวโตมรรีบเบรกความคิดเพื่อนทันที     “งั้นเดี๋ยวกูไปรับมึงที่บ้าน”     “ไม่ต้องกูไปเองเดี๋ยวกูไปรับมึงเองไอ้พล”     “อ้าวทำไมละวะ ไอ้โต”     “กูไปเอง มึงไม่ต้องเลย กูรู้ความคิดมึงดีไอ้พล”     “เออตามนั้นก็ได้ หวงน้องจริงๆ เลยเว้ย”     โตมรและพลวัตรพากันไปนั่งดื่มที่บาร์ในเมือง จนเกือบเที่ยงคืนก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแซะนายหัวโตมรแต่นายหัวปฏิเสธและส่งต่อให้เพื่อนแทน     “เพื่อนพี่คนนี้เลยครับน้องพ่อหม้ายเมียตายโสดสนิท พี่มีเจ้าของแล้วครับเมียพี่ดุ” โตมรพูดกับสาวสวยคนนั้น     “จริงหรือคะพี่ เมียตายเหรอคะน่าสงสารจังให้หนูช่วยดูแลได้หรือเปล่าคะ”     “ครับ ก็ดีครับนั่งก่อนสิเดี๋ยวพี่เลี้ยงเหล้าน้องเอง” พลวัตรพูด     “ขอบคุณค่ะพี่ใจดีจัง”     พลวัตรและสาวสวยคนนั้นพูดคุยและนั่งดื่มกัน พูดคุยเล่นแบบหมาหยอกไก่มากกว่าเอาจริง เพราะพอเอาเข้าจริงแล้วนายหัวพลวัตรก็ไม่เล่นด้วย     “ไอ้โตมึงเป็นไรวันนี้มีเหยื่อมาให้แดก เสือกโยนมาให้กูเฉย” พลวัตรถามเพื่อนด้วยความสงสัยเมื่อคล้อยหลังสาวคนนั้นไปแล้วจึงได้ถามเพื่อนขึ้น     “แก่ไปว่ะ เหนียวกูไม่ชอบ” โตมรพูดกับเพื่อนอย่างเบื่อๆ     “พูดอย่างนี้แสดงว่ามึงมีของที่อยากแดกเล็งไว้แล้วใช่ไหมวะ”     “เรื่องของกูเว้ย กูไม่บอกมึงหรอกเดี๋ยวมึงปาดหน้าเค้กกู” โตมรบอกเพื่อน     “ไอ้เหี้ยโตครับ แสดงว่าเรื่องที่สายกูรายงานว่ามึงแอบขับรถไปส่องเด็กมอปลายก็เรื่องจริงสิวะ ใช่ไหมเล่ากูมาเสียดีๆ” พลวัตรถามและหัวเราะเสียงดัง     “ใครวะคาบมาบอกมึงไอ้พล เสือกเรื่องกูกันจริงๆ” โตมรแกล้งว่าเพื่อนกลบเกลื่อนความอาย     “ไม่ต้องรู้หรอกว่าใคร รู้แค่ว่ากูมีสายมาบอกกูว่ามึงนะขับรถไปหน้าโรงเรียนบ่อยเหลือเกิน ใช่คนที่มึงจับนมเขาในงานเกษตรใช่ไหม” พลวัตรถามเพื่อน     “เอ๊ย!! ไม่ใช่แล้วกูไม่ได้ตั้งใจจะจับนมเขา” โตมรรีบปฏิเสธทันที     “แล้วใหญ่หรือเปล่าวะ”     “ก็ใหญ่....เอ๊ยไอ้นี่ มึงหลอกถามกูเหรอไอ้พล” โตมรเผลอตอบเพื่อนไปตามจริง     “ตกลงมึงเอาจริง ๆเหรอ เด็ก17ปีนะเว้ยนั้นนะพรากผู้เยาว์นะมึง” พลวัตรเตือนเพื่อน     “เออ กูเฝ้าดูอยู่รอให้ครบ18ก่อน ก็รุ่นๆ น้องสาวกู” โตมรเริ่มพูดแย้มความคิดออกมา     “นี่มึงเอาจริงเหรอไอ้โต” พลวัตรถามเพื่อน     “อยากเอาจริงๆ ว่ะ แต่จะจริงจังหรือเปล่าต้องลองดูก่อน”     “นี่มึงคิดชั่วกับน้องเขาขนาดนั้นเลยเหรอวะ” พลวัตรถามเพื่อนเพื่อความมั่นใจ     “แค่คิดกูยังไม่ได้ทำอะไรเลยไอ้พล” โตมรบอกเพื่อน     “มึงคิด มึงก็คงพุ่งเป้าแล้วใช่ไหมละวะ” พลวัตรพูดกับเพื่อน     “เออกูดูอยู่ ก็คิดว่าเขาเป็นคนสวย คนสวยไว้ใจไม่ได้ กูให้คนของกูตามประกบดูอยู่ว่าเขาแอบมีผัวไปแล้วยัง”     “ถ้าคนเดียวกันกับที่มึงจับนมน้องเขา คนนี้เรียบร้อยนะมีทั้งหนุ่มๆ และแก่ๆ มาชอบเขาเยอะอยู่นะโว้ย หนึ่งในนั้นก็ลูกพี่ลูกน้องกูเอง ลูกชายนายตำรวจใหญ่มันมาละเมอเพ้อพกถึงน้องเขากับกูด้วย” พลวัตรเล่าให้โตมรฟัง     “เรียบร้อยเหรอวะ ด่ากูเสียยับ ว่ากูเป็นไอ้แก่โรคจิตด้วย กูนี่อยากจะจับมาล้างปากด้วยปากกู ถ้าไม่ติดว่าวันนั้นกูติดขึ้นรับรางวัลนะโดนแน่” โตมรคิดอย่างแค้นเคืองใจ     “ไอ้โตกูว่ามึงก็โรคจิตจริงๆ อย่างน้องเขาว่านะ น้องเขาเพิ่งมอห้าเองนะเว้ย” พลวัตรว่าเพื่อนและหัวเราะเสียงดัง     “เออเรื่องของกู มอห้าก็นมโตแล้วนะเว้ย” โตมรพูดแก้ตัว     “งั้นน้องสาวมึงก็โตแล้วสิวะ งั้นกู....” พลวัตรไม่ทันได้พูดจบ     “หยุดเลยไอ้เหี้ยพล น้องสาวกูยังเด็ก” โตมรรีบพูดแก้     “น้องมึงยังเด็กแต่น้องบัวคนสวยไม่เด็ก นมโตแล้ว กูละเชื่อมึงเลยไอ้โต” พลวัตรพูดพร้อมกับส่ายหน้า     “เออเรื่องของกู ตกลงน้องคนเมื่อกี้มึงไม่แดกใช่ไหมงั้นกลับบ้านกัน” โตมรชวนเพื่อนกลับบ้าน     “รีบกลับบ้านจังนะมึง ทำไมจะรีบตื่นพร้อมนักเรียนเหรอครับมึงครับ จะไปเฝ้าแอบมองเขาอีกเหรอวันพรุ่งนี้” พลวัตรแขวะเพื่อน     “เรื่องของกูมึงอย่าเสือก กูอยากบอกเดี๋ยวกูบอกมึงเอง”     “เออๆ กลับๆ กูจะไปนอนละพรุ่งนี้กูต้องไปดูสวนที่ควนนายทับกูไม่อยู่ห้าวันนะมึงตามสบายแล้วกันเว้ยเฝ้าเด็กดีๆละกัน” พลวัตรบอกเพื่อน ถึงหน้าที่ที่ต้องไปดูแลสวนยางที่ควนนายทับ     เช้าวันใหม่โตมรก็ขับรถมาแอบมองบัวที่หน้าบ้านของนายวิชิต เห็นบัวเดินออกมาจากบ้านเพื่อซ้อนมอเตอร์ไซค์ให้พ่อไปส่งหน้าปากซอยเพื่อนั่งรถสองแถวไปโรงเรียน โตมรไม่รอช้ารีบขับรถกระบะตามหลังไปห่างๆ เห็นบัวเดินไปรอรถที่ศาลา นายหัวหนุ่มจึงขับรถไปหยุดตรงศาลาผู้โดยสาร     “น้องบัวไปกับพี่ก็ได้พี่กำลังจะไปซื้อปุ๋ยในเมืองพอดีขึ้นรถสิ จะได้ไม่ต้องรอรถโดยสารนาน” โตมรเรียกบัวบุษบาให้ขึ้นรถไปด้วยกันแต่บัวบุษบากลับเงียบไม่ต่อปากต่อคำกับนายหัวแต่อย่างใดทำให้นายหัวโตมรวางหน้าไม่ถูกเหมือนกัน     “อ้าวน้องบัวเป็นใบ้หรือครับพี่คุยด้วยทำไมไม่คุยกับพี่” โตมรยังคงเซ้าซี้บัวบุษบา     “ฉันไม่มีพี่ชายอีกอย่างฉันไม่รู้จักคุณ แม่ฉันไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า” บัวบุษบาพูดไม่ไว้หน้าและไม่ใส่ใจโตมร     “ก็ไม่แปลกหน้านะจำพี่ไม่ได้เหรอ พี่เนี่ยจำเราได้ขึ้นใจเลย” โตมรพูดยิ้มๆและใช้สายตามองมาที่หน้าอกของบัว     “ไม่อยากจำ ไปเถอะค่ะฉันไม่ไปกับคุณหรอกฉันไปเองได้” พูดจบรถโดยสารประจำทางก็มาพอดีบัวบุษบาเลยเดินไปขึ้นรถโดยสารปล่อยให้นายหัวโตมรมองตามแผ่นหลังของแม่คนสวย ผมยาวในชุดนักเรียนไปจนสุดสายตา     “เล่นตัวกับพี่ไปให้ตลอดก็แล้วกันบัว อย่าให้ถึงทีพี่บ้างกล้ามาด่าพี่ว่าไอ้แก่โรคจิตเหรอ” นายหัวโตมรครุ่นคิดอย่างแค้นเคืองบัวบุษบา     นายหัวเฝ้ามอง เฝ้าติดตามบัวบุษบาอยู่เป็นระยะและเริ่มดำเนินแผนการที่คิดไว้เพื่อให้สามารถเข้าถึงตัวบัวบุษบาได้     วันที่14กุมภาพันธ์นายหัวโตมรได้ส่งดอกกุหลาบช่อใหญ่ไปให้บัวบุษบาโดยให้คนของเขาไปดักรอมอบให้บัวบุษบาที่หน้าโรงเรียน เฝ้ามองหมายปองในตัวบัวมาจนตอนนี้บัวขึ้นมอหกแล้วอายุ18แล้วกำลังจะปิดเทอมเทอมแรก     “น้องครับ น้องชื่อน้องบัวใช่ไหมครับ” ลูกน้องของนายหัวโตมรถามบัวเพื่อความมั่นใจ     “ค่ะ ใช่ค่ะพี่มีอะไรเหรอคะ”     “นี่ครับ เจ้านายพี่ฝากให้น้องครับ” ลูกน้องนายหัวโตมรส่งช่อดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ให้บัวบุษบา บัวบุษบารับมาดูว่าในการ์ดใครส่งมาให้     “ให้น้องบัวคนสวย จากพี่โตมร”     เมื่อบัวรับไปดูและเห็นว่าใครให้มาจึงบอกแก่ลูกน้องของโตมรว่า     “เดี๋ยวนะคะพี่ รอบัวแป๊บเดียวค่ะ” บัวบอกให้ลูกน้องคนสนิทนายหัวรอก่อนและหยิบปากกาในกระเป๋านักเรียนขึ้นมาเขียนข้อความเพื่อส่งคืนให้นายหัว     “เอาของคุณคืนไป แล้วช่วยกรุณาอย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก”     “บัวฝากดอกไม้และการ์ดนี้คืนเจ้านายพี่ด้วยนะคะ” บัวยื่นช่อดอกไม้นั้นคืนให้ลูกน้องของโตมร     “เอ่อ น้องบัวรับไว้หน่อยเถอะนะครับ พี่กลัวนายหัวอย่าทำให้พี่ลำบากเลยนะครับ”     “งั้นพี่ไม่ต้องไปคืนค่ะทิ้งได้เลยค่ะเพราะบัวไม่รับ”     ลูกน้องของนายหัวกลับไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้นายหัวฟังทำให้นายหัวหนุ่มโกรธบัวบุษบามากที่กล้าพูดแบบนั้นฝากกับลูกน้องของตนเองมา     “จีบดีๆ ไม่ชอบ เป็นแฟนกันน้องไม่รับงั้นพี่จะจัดให้สาแก่ใจน้องเลยน้องบัว” โตมรคิดอย่างแค้นเคืองและเริ่มทำตามแผนที่ตนเองได้วางไว้มาเป็นเกือบ2ปีโดยการเรียกนายวิชิต พ่อของบัวมาคุยด้วยเรื่องเงินกู้ที่ค้างเขาอยู่ทั้งต้นทั้งดอก      “บัวบังคับให้พี่ทำแบบนี้เองนะครับ” นายหัวคิดในใจ  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD