ใกล้เวลาของอาหารเที่ยงรุ่งฟ้าจึงชวนหนูบัวอยู่ทานข้าวด้วยกันแล้วค่อยกลับ หนูบัวไม่ปฏิเสธแต่อย่างใดพร้อมกับเข้าไปช่วยว่าที่แม่สามีทำกับข้าวอย่างขยันขันแข็ง
“เก่งจังเลยค่ะพี่บัว อืม อร่อยด้วย” น้องพราวชิมกับข้าวที่หนูบัวทำแล้วชมออกมาไม่ขาดปาก
“ขอบใจจ้าน้องพราว”
หนูบัวหันมายิ้มขอบคุณน้องพราวที่ชมฝีมือการทำอาการของเธอ
“แค่นี้พอแล้ว เดี๋ยวไปรอที่โต๊ะพร้อมกับน้องพราวเลยนะหนูบัว”
“ค่ะ น้าแพท” สองสาวช่วยกันถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วเดินไปยังห้องอาหาร ไม่นานบรรดาสาวใช้ก็เอาอาหารที่หนูบัวช่วยทำจัดขึ้นโต๊ะ
“ว้าว วันนี้อาหารเยอะแยะมากมายเลยนะครับ” พอลเดินมาที่ห้องอาหารเขาเห็นมันเยอะกว่าทุกวันแถมหน้าตาน่ากินมากด้วย
“จ้า ต้อนรับหนูบัวยังไงละ ถึงได้จัดหนักขนาดนี้”
รุ่งฟ้าบอกให้ลูกชายรู้ว่าอาหารทั้งหมดทำเพื่อใคร
“ตามสบายเลยนะหนูบัว ทำเหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองเลย ไม่ต้องเกรงใจ” เสียงของคริสตินเอ่ยบอกหลานสาวด้วยความยินดี
“ค่ะ ลุงคริส”
“ทานเลยนะคะ น้องพราวหิวแล้ว”
สาวน้อยยิ้มตาหยีให้ทุกคน ทั้งหมดจึงหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารแล้วเอาเข้าปาก ยังไม่ทันได้เคี้ยวก็แสดงสีหน้าของความอร่อยออกมา
“เป็นยังไงบ้างพี่พอลอร่อยไหม” รุ่งฟ้าลองถามลูกชายที่กินข้าวไม่พูดจาอย่างเอร็ดอร่อย
“อร่อยมากครับมามี้ แต่อาหารวันนี้รสชาติแปลกไปกว่าเดิมนะ”
พอลพูดจบทุกคนก็จ้องมาที่เขาเป็นตาเดียวลุ้นระทึกกับสิ่งที่เขาจะพูดออกมาอีกโดยเฉพาะคนทำอย่างหนูบัว
“แปลกแบบไหนคะพี่พอล”
น้องพราวถามพี่ชาย เธอว่าไม่เห็นแปลกเลยอร่อยมากด้วยซ้ำ
“ก็อาหารอร่อยกว่าทุกวัน รสชาติมันไม่เหมือนเดิม”
พอลพูดออกมาตามความจริง เพราะอาหารที่หนูบัวทำนั้นอร่อยมากจริง ๆ มันไม่เหมือนที่เขากินทุกวัน ไม่เหมือนฝีมือของมารดาด้วย
“นึกว่าอะไร พี่พอลพูดแบบนี้คนทำเขินแย่เลยใช่ไหมคะ พี่บัว”
น้องพราวแซวว่าที่พี่สะใภ้ทำให้หนูบัวหน้าแดงขึ้นมา
“อ้าว แล้วใครทำอาหารหรือครับมามี้”
“หนูบัวยังไงละค่ะ อาหารบนโต๊ะเป็นฝีมือของหนูบัวเกือบทุกอย่าง” พอมารดาเฉลยออกมาพอลอึ้งไปเลยไม่คิดว่าอาหารน่าทานรสชาติอร่อยเป็นฝีมือของหนูบัว
“จริงเหรอลูก ทำไมหนูทำอาหารเก่งจัง”
คริสตินถามขึ้นมาบ้าง เขาก็ว่าอาหารอร่อยกว่าทุกวันแต่ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของหนูบัว
“หนูบัวเรียนทำอาหารมานะคะ จริง ๆ แล้วหนูบัวอยากเป็นเชฟที่ทำอาหารเก่ง ๆ แต่หนูบัวต้องดูแลกิจการต่อจากแด๊ดดี้ก็เลยไม่ได้เรียนอย่างจริงจัง อาศัยไปช่วยงานที่ร้านอาหารในช่วงปิดเทอมแล้วเชฟเขาก็สอนมาเท่านั้นเอง”
หญิงสาวอธิบายสิ่งที่ทุกคนสงสัย เธอเคยเรียนทำอาหารกับเชฟในร้านอาหารอยู่หลายปี แต่กว่าจะขอบิดาไปทำงานในร้านอาหารนั้นได้แทบตาย เพราะพ่อของเธอห่วงลูกยิ่งกว่าอะไร หนูบัวใช้ความอ้อนที่มีขอมาคัสสำเร็จทำให้เธอได้เรียนรู้การทำอาหารจากเชฟมืออาชีพ จนตัวเองทำเป็นไม่ต่างจากเชฟเลย
“ว้าว พี่บัวสุดยอดมากเรียนก็เก่งทำอาหารก็อร่อยแบบนี้หนุ่ม ๆ ไม่จีบแย่เหรอ” น้องพราวพูดจบก็ชำเลืองไปมองปฏิกิริยาของพี่ชายที่ดูเหมือนจะสนใจเรื่องราวของหนูบัวไม่น้อย
“โธ่ พี่สวยขนาดนี้จะไม่มีใครมาจีบได้ยังไงจริงไหม ฮ่า ๆ ๆ” หนูบัวเอ่ยอย่างขบขัน จริง ๆ มีคนมาจีบเยอะแยะแต่ตัวเองไม่เคยมองใครเพราะมีคนที่ชอบในใจอยู่แล้ว
“จริงลูก น้าเห็นด้วย ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง ไม่มีคนจีบก็แปลกแล้ว” รุ่งฟ้าอยากให้พอลได้ยินโปรไฟล์ของหนูบัวจึงพูดออกมาให้ลูกชายได้ยินอีกครั้ง ว่าหนูบัวนั้นมีดีขนาดไหนต้องมีคนจีบมากมายแน่นอนเผื่อพอลจะเปลี่ยนใจมาสนใจหนูบัวบ้าง
“ฮ่า ๆ ๆ แสดงว่าไอ้มาร์คต้องคอยกันพวกผู้ชายเหล่านั้นบ่อย ๆ นะสิ” คริสตินหัวเราะออกมาเสียงดังให้กับความหวงลูกของเพื่อนสนิทที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มาคัสก็ยังหวงลูกเสมอต้นเสมอปลาย
“ใช่ค่ะ แต่แด๊ดดี้ให้เจ้าแฝดลงมือมากกว่า” หนูบัวไม่อยากจะเล่าวีรกรรมของเจ้าแฝดให้ทุกคนรู้เลยคงได้ขำกว่านี้แน่
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ หวงลูกจริง ๆ เลยแด๊ดดี้ของหนู”
คริสตินยังหัวเราะไม่เลิก
“พี่คริสได้ข่าวว่าตนเองก็หวงลูกไม่ต่างจากคุณมาร์คนะ ดูสิจนป่านนี้แล้วลูกสาวยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน”
รุ่งฟ้าพูดแขวะสามีที่หัวเราะให้กับความหวงของเพื่อนสนิทโดยไม่ดูตัวเองเลยว่าเขานั้นก็หวงลูกสาวเหมือนมาคัส
“จริงค่ะ มามี้”
น้องพราวรีบพูดเสริมมารดาเพราะบิดาของตนเองนั้นหวงลูกมากจริง ๆ ไม่ต่างจากลุงมาร์คพ่อของหนูบัวเท่าไหร่
“ก็คนมันรักลูกนี่ จะให้ใครมาจีบลูกสาวแสนสวยง่าย ๆ ได้ยังไง สิ่งที่ไอ้มาร์คทำนะถูกแล้ว ใช่ไหมตาพอล” คริสตินอธิบายความหวงคนตนเองแล้วหันไปหาแนวร่วมอย่างพอล
“ครับแด๊ดดี้ จะให้ใครมาจีบน้องพราวง่าย ๆ ได้ยังไง”
พี่ชายก็หวงน้องไม่แพ้พ่อรีบเอ่ยเห็นดีเห็นงามกับคริสตินทันที
“น้องพราวต้องขึ้นคานแน่เลยพี่ชายก็หวง แด๊ดดี้ก็หวง”
พราวทำหน้าเซ็ง ๆ ที่โดนทั้งพ่อทั้งพี่หวง
“ฮ่า ๆ” / “ฮ่า ๆ” / “ฮ่า ๆ” / “ฮ่า ๆ” ทั้งหมดจึงหัวเราะด้วยความขบขันกับท่าทางของน้องพราวที่แสดงสีหน้าออกมาแบบน่าสงสาร
“แล้วตอนนี้หนูบัวมีแฟนหรือยังลูก”
รุ่งฟ้าลองถามออกมาเพื่อความแน่ใจว่าหญิงสาวที่ตนหมายปองยังไม่มีเจ้าของจริง ๆ
“ยังไม่มีค่ะน้าแพท”
หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเขินอาย อายุขนาดนี้ไม่เคยมีแฟนเลยสักคน แต่จะให้ทำอย่างไรก็ใจมันรักผู้ชายตรงหน้าไปแล้ว รอเขาแค่คนเดียวเท่านั้น
“ดีแล้วลูกเรื่องแบบนี้ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า”
“ค่ะ น้าแพท”
จากนั้นทุกคนก็ลงมือทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยงทุกจาน หนูบัวรู้สึกปลื้มใจที่เห็นทุกคนทานข้าวได้เยอะโดยเฉพาะพี่พอลของเธอ
ตกเย็นหนูบัวถึงเวลากลับบ้านของตนเองแล้ว เพราะเธอมาบ้านหลังนี้ตั้งแต่เช้าคุยกับสองสาวทั้งวันอย่างไม่รู้จักเบื่อ จนถึงเวลาที่ตนเองต้องกลับเสียที
“หนูบัวกลับก่อนนะคะ น้าแพท น้องพราว”
หญิงสาวยืนลาสองแม่ลูกในห้องนั่งเล่น
“ให้พี่พอลไปส่งดีกว่านะลูก นี่มันก็ใกล้มืดแล้วด้วย หนูเพิ่งกลับมาขับรถกลางคืนมันไม่ดี”
รุ่งฟ้าเป็นห่วงหลานสาว ตอนนี้ใกล้จะมืดแล้วด้วย เธอกลัวว่าหากหนูบัวขับรถกลับเองอาจจะเจออันตรายระหว่างทาง
“แต่หนูบัวเกรงใจนะคะ หนูบัวกลับเองได้จริง ๆ ค่ะ” หนูบัวเกรงใจจริง ๆ เธอคิดว่าตนเองน่าจะไม่มีปัญหาในการขับรถกลับบ้าน
“ให้พี่พอลไปส่งดีแล้วค่ะพี่บัว น้องพราวกับมามี้จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” น้องพราวอยากให้พี่บัวของเธอได้ใกล้ชิดกับพี่พอลจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของมารดา
“อืม งั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยอมให้พี่พอลไปส่งเธออยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเขาเหมือนกัน
“เดี๋ยวน้องพราวไปตามพี่พอลให้เองนะคะ” น้องพราวรีบเดินไปตามพี่ชายที่น่าจะอยู่ในห้องหนังสือ เพราะรายนั้นชอบการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ
“อ้าว น้องพราวรีบไปไหนเหรอเมียจ๋า” คริสตินเดินเข้ามาหาเมียรักแต่สวนทางกับลูกสาวที่รีบเดินไปไหนไม่รู้
“ไปตามตาพอลนะคะ จะให้ไปส่งหนูบัวที่บ้าน มันใกล้มืดแล้ว”
“ดี ๆ อ้าวตาพอลมาพอดี พอลไปส่งน้องหน่อย มืด ๆ ค่ำ ๆ มันอันตรายเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว”
“ครับ ไม่มีปัญหา” พอลรับคำของบิดาอย่างว่าง่ายแค่ไปส่งหนูบัวที่บ้านทำไมเขาจะทำไม่ได้
“ส่วนรถหนูบัวจอดไว้ที่นี่ก่อนนะลูก เดี๋ยวลุงจะให้คนขับไปส่งพรุ่งนี้”
“ได้ค่ะ งั้นหนูลานะคะ ลุงคริส น้าแพท สวัสดีค่ะ”
“จ้า” / “แด๊ดดี้ฝากน้องด้วยนะลูกพี่พอล”
“ครับ”
“พี่กลับก่อนนะน้องพราวเดี๋ยวค่อยนัดเจอกันใหม่”
“ค่ะพี่บัว สวัสดีค่ะ” พอลเดินนำหนูบัวไปขึ้นรถหรูของตนเองถึงแม้เขาจะไม่ได้ชอบเธอในแบบชู้สาว แต่เขาเห็นเธอเป็นน้องสาวดังนั้นชายหนุ่มจึงปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพบุรุษตามที่พ่อแม่สอนมา