เจอกันอีกครั้ง

1512 Words
หนูบัวกลับมาอยู่บ้านได้หลายวันแล้ว วันนี้เธอจะไปที่บ้านของ พี่พอลชายหนุ่มในดวงใจ เพราะไม่ได้เจอกันมานานหลายปี เนื่องจากติดเรื่องเรียน หญิงสาวต้องการให้ตนเองประสบความสำเร็จในด้านการเรียนก่อน เพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจแล้วค่อยกลับมาทำตามที่หัวใจเรียกร้อง “อ้าวหนูบัวแต่งตัวสวยเชียวลูก จะออกไปไหนแต่เช้า” มารดาของหนูบัวทักลูกสาวขึ้นมาเมื่อเห็นเธอแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน “วันนี้หนูบัวจะไปหาน้าแพทกับน้องพราวที่บ้านของพวกเขา” หญิงสาวอยากจะไปเยี่ยมพวกเขาและชายหนุ่มอีกคน ที่เธอเลือกไปวันนี้เพราะมันเป็นช่วงหยุดยาวหลายวัน หนูบัวคุยกับน้องพราวบ่อยเธอถึงรู้ว่าพี่พอลจะอยู่ที่บ้านในช่วงวันหยุด “งั้นเหรอลูก ดี ๆ คุณแม่ฝากความคิดถึงให้น้าแพทด้วยนะลูก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์เลย” สิตาภา หรือ เบล กับ รุ่งฟ้า หรือ แพท ยังติดต่อกันเหมือนเดิมถึงแม้พวกเธอจะมีครอบครัวกันหมดแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนความห่วงใยที่มีให้กันมันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง “ค่ะคุณแม่ แล้วแด๊ดดี้ไปไหนทำไมปล่อยให้คุณแม่อยู่คนเดียวปกติจะทำตัวติดกันตลอด” หนูบัวเอ่ยแซวมารดา เพราะปกติเธอจะเห็นบิดาทำตัวติดกับมารดาเสมอ แต่วันนี้ไม่เห็นหน้าเห็นตาจึงสงสัย “แด๊ดดี้มีธุระกับเพื่อนนะลูก เลยออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า” “ค่ะ งั้นหนูบัวไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณแม่” “จ้า หนูบัวจะขับรถเองเหรอ” “ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะแค่นี้สบายมาก” “งั้นระวังตัวด้วยขับรถดี ๆ นะ” “รับทราบค่ามามี้” ปกติหนูบัวไม่ค่อยขับรถเองเพราะบิดาเป็นห่วง แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะขับรถไม่เป็นเพราะตอนอยู่อเมริกาขับรถเองประจำ หนูบัวขับรถมาถึงบ้านของพี่พอลอย่างง่ายดาย เพราะวันนี้ถนนในกรุงเทพโล่งมาก ถึงแม้เธอจะไม่ได้มาที่บ้านหลังนี้นานนับปีแต่ใช่ว่าตนเองนั้นจะจำเส้นทางไม่ได้เพราะมันฝั่งอยู่ในหัวไปแล้ว ต่อไปต้องจำเส้นทางไปคอนโดของชายหนุ่มด้วย แต่เธอต้องหาวิธีให้เขาพาตนเองไปที่คอนโดให้ได้ รถของหนูบัวมาจอดที่คฤหาสน์ โอเว่อวิน เธอบีบแตรอยู่ครู่เดียวบอดี้การ์ดที่ดูแลการเข้าออกก็มาถามว่าเธอเป็นใคร พอได้คำตอบก็รีบให้หนูบัวขับรถเข้าไปทันที “ที่นี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย” หนูบัวเดินลงจากรถแล้วหันไปมองรอบ ๆ อย่างคิดถึง บรรยากาศที่คุ้นเคยมันช่างอบอุ่นใจเหลือเกิน “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมาพบใครคะ” สาวใช้เดินมาถามหนูบัว “มาพบคุณรุ่งฟ้ากับคุณหนูพราวค่ะ” หนูบัวหันมาตอบสาวใช้ด้วยรอยยิ้ม “คุณรอตรงนี้สักครู่นะคะ เดี๋ยวจะไปเรียนให้คุณ ๆ ทราบ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ” สาวใช้คนนี้เพิ่งมาทำงานจึงไม่รู้ว่าหนูบัวคือใคร “ชื่อหนูบัวค่ะ” “ค่ะ รอสักครู่นะคะ” สาวใช้รีบเดินเข้าไปหาคุณ ๆ ทุกคนที่นั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ส่วนหนูบัวก็รออยู่หน้าบ้านอย่างตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่พอล “คุณผู้หญิงคะ มีแขกมาขอพบคุณผู้หญิงกับคุณหนูพราวค่ะ” สาวใช้เดินมาบอกรุ่งฟ้ากับน้องพราว “ใครกันมาหาตั้งแต่เช้าแบบนี้” รุ่งฟ้าเอ่ยถามด้วยความสงสัย ใครกันมาหาเช้าขนาดนี้ยังไม่ถึงแปดโมงเช้าด้วยซ้ำ “นั่นสิใครเหรอ” น้องพราวถามขึ้นมาบ้าง “เขาบอกว่าชื่อหนูบัวค่ะ” “หนูบัว!” / “หนูบัว!” / “หนูบัว!” / “หนูบัว!” ทั้งหมดพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายแต่คนละความรู้สึก เพราะคนอื่น ๆ นั้นดีใจที่สาวน้อยมาหา ส่วนพอลนั้นตกใจมากกว่า “จ้า มีอะไรก็ไปทำเถอะเดี๋ยวฉันไปหาหนูบัวเอง” รุ่งฟ้าบอกกับสาวใช้เสร็จก็รีบเดินออกไปหาหนูบัวที่ยืนรออยู่หน้าบ้านพร้อมด้วยคนอื่นยกเว้น พอลคนเดียวเท่านั้น “หนูบัวลูก” รุ่งฟ้าเดินมาหาหลานสาวที่อีกหน่อยจะมาเป็นลูกสะใภ้ด้วยความดีใจปนตื่นเต้นเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานมาก ส่วนสามีและลูกสาวก็เดินตามหลังมาติด ๆ “สวัสดีค่ะน้าแพท สวัสดีค่ะลุงคริส” หนูบัวสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอง “สวัสดีค่ะพี่บัว” น้องพราวเดินมาสวมกอดว่าที่พี่สะใภ้ด้วยความคิดถึง “เข้าไปข้างในเถอะลูก ลุงมีเรื่องจะคุยกับหนูเยอะแยะเลย” “ใช่จ้า น้าก็มีเรื่องจะคุยกับหนูเยอะแยะเหมือนกัน” “ค่ะ แต่หนูบัวเอาของฝากมาด้วยนะคะเดี๋ยวขอไปเอาของก่อน” หนูบัวรีบเดินไปเอาของที่วางอยู่ท้ายรถ เธอซื้อมาจากอเมริกาเพื่อมาฝากคนบ้านนี้โดยเฉพาะ “เยอะมากเลยค่ะพี่บัว น้องพราวช่วยค่ะ” น้องพราวเห็นถุงที่หนูบัวเอามาแล้วตาวาวเพราะมันมีแต่ของดี ๆ ทั้งนั้นแต่ละอย่างหายากมาก “ขอบใจจ้า” หนูบัวส่งถุงในมือแบ่งให้น้องพราวช่วยถือด้วย “ไปเถอะลูกถือไหวไหมเดี๋ยวลุงช่วย” “ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้สบายมาก” “งั้นก็ไปกันเถอะ” ทั้งหมดเดินมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งมีชายหนุ่มเจ้าของหัวใจของหนูบัวนั่งอยู่ไม่ไปไหน เมื่อหนูบัวเดินมาถึง พอลได้เงยหน้าไปสบตาเธอพอดีทำให้เขารู้สึกใจเต้นแปลก ๆ ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาไม่กะพริบเพราะเธอสวยมาก ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีเขาไม่คิดเลยว่าเธอจะสวยมากขนาดนี้ “สวัสดีค่ะพี่พอล” หนูบัวยกมือขึ้นมาไหว้ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าตนเอง แต่พอลกลับนั่งเฉย ๆ ยังมองหน้าของหญิงสาวเหมือนเดิม “พี่พอลลูก น้องสวัสดีทำไมไม่ตอบน้องเลย” รุ่งฟ้าเดินมานั่งข้าง ๆ ลูกชายแล้วตำหนิเขาเบา ๆ “ครับ มามี้ว่าอะไรนะครับ” พอลหลุดออกมาจากภวังค์หันมาถามมารดาด้วยความงุนงง “อ้าว พี่พอลไม่ได้ยินที่พี่บัวสวัสดีหรือคะ” น้องพราวเป็นคนถามต่อ “เอ่อ คือ พี่ใจลอยไปหน่อยเลยไม่ได้ยิน” เขาพูดจริง ๆ ที่ตนเองใจลอยแต่ไม่บอกได้ว่าใจลอยเพราะอะไร “ถึงว่าละ พี่บัวมานั่งข้าง ๆ น้องพราวค่ะ” “จ้า” หนูบัวเดินผ่านหน้าของชายหนุ่มไปทำให้เขาได้กลิ่นตัวของเธอซึ่งมันหอมมาก พอลแทบจะเดินตามหญิงสาวไปนั่งด้วยกันเลย หลังจากนั้นทั้งหมดก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานมีแต่พอลคนเดียวที่นั่งนิ่ง ไม่พูดใด ๆ ออกมาเพราะเขากำลังเก็บข้อมูลของเธออย่างเงียบ ๆ แอบชำเลืองมองหนูบัวเป็นระยะ ๆ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจแต่ที่จริงเขานั้นกลับสนใจชีวิตของเธอมาก “ว้าว พี่บัวเก่งจังเลยค่ะเรียนจบปริญญาโทจากมหา’ลัยชื่อดังอันดับโลก น้องพราวอยากเป็นเหมือนพี่บัวจัง” พราวชมว่าที่พี่สะใภ้ด้วยความชื่นชม เธออยากเก่งเหมือนหนูบัวบ้าง “ถ้าน้องพราวตั้งใจน้องพราวทำได้อยู่แล้วจ้า” หนูบัวพูดจริง ๆ เธอก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรมากมายแค่ขยันบวกกับมีความจำดีสามารถเข้าใจอะไรได้ง่าย ๆ เท่านั้นเอง “แล้วกลับมานี้ หนูจะช่วยงานของมาร์คเลยไหมลูก หรือว่าหนูจะลองมาเรียนรู้งานกับพี่พอลก่อน” บิดาของชายหนุ่มเป็นคนเสนอเพราะหญิงสาวเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน ถ้าได้มาลองฝึกงานที่บริษัทของเขาก่อน โดยมีพอลช่วยดูแลมันน่าจะดีกว่า “หนูบัวยังไม่รู้เลยค่ะ แต่ลุงคริสบอกมาก็ดีเหมือนกันไม่รู้ว่าแด๊ดดี้จะเห็นด้วยไหม” “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงลูกแม่ของหนูจัดการได้” “จริงด้วยค่ะ น้าแพท” แล้วคำถามต่าง ๆ ก็ถูกถามออกมาไม่ขาดสาย หนูบัวหันไปตอบคำถามจากลุงคริสน้าแพท น้องพราว จนลืมไปเลยว่ามีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในห้องนี้เช่นกัน ซึ่งเขากำลังเก็บรายละเอียดของเธออย่างเงียบ ๆ พอลก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมตนเองถึงได้นั่งฟังทั้งหมดคุยกันโดยที่ไม่รู้สึกเบื่อเหมือนในอดีต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD