NANGFAH SAYS…
‘หรือตำนานนางฟ้าอาถรรพ์จะเปลี่ยนจากเรื่องสยองขวัญมาเป็นรักหวานแหวว’
เด็กรัฐศาสตร์ไม่ประสงค์ออกนามแอบสื่อความในใจว่าหลงใหลในตัวเธอมานานแล้ว [อ่านต่อหน้า…]
“อีเจ๊ค่ะ! ตายแล้วไปทำคุณไสยอะไรใส่เด็กรัฐศาสตร์มารึเปล่า เค้าถึงได้พาดหัวข่าวหราขนาดนี้” อีชมพูหนึ่งในชะนีลูกสมุนของฉันโพล่งขึ้นในขณะที่มือถือหนังสือพิมพ์ของชมรมหนังสือพิมพ์ ภาควิชาสื่อสารมวลชนของมหาวิทยาลัย ต๊าย อะไรกัน อย่าบอกนะว่าพี่ไนท์ซาบซึ้งกับการกระทำของฉันจนบอกรักผ่านสื่อ ฮิๆๆๆ
“แหม อีนี่ ดูหน้ากูซี สวยขนาดนี้ใครเห็นเป็นต้องเคลิ้ม ไสยศาสตร์อะไรกันกูไม่รู้จักค่า” ฉันขวยเขินก่อนจะชะโงกหน้าไปมองหนังสือพิมพ์ในมือของมัน ย่ะ! ตำนานนางฟ้าอาถรรพ์คืออะไรคะ? อีดอกยี่หุบ! แล้วเรื่องสยองขวัญอะไรกัน ฉันออกจะดูดี ชื่อของฉันคือนางฟ้าผู้ลงมาจากสวรรค์นะ! ฉันจะแจ้งอีคนเขียนบทความนี้ว่ามันหมิ่นประมาท!
ฉันแยกเขี้ยวจนหน้าย่นแต่ก็ยังคงความสวยไว้ไม่สร่างพลางมองภาพประกอบ ผมสีดำสนิทและร่างสูงที่ถูกเบลอๆ เค้าโครงหน้ากับส่วนสูงดูผิดกับพี่ไนท์ลิบลับ เอ๊ะ…
“นี่มัน…” ฉันยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ
“รู้จักเหรอ อีเจ๊! ใครๆๆๆ” อีชมพูลุกลี้ลุกลนนัยน์ตาหิวกระหายใคร่จะเสือกของมันเปล่งปลั่งกว่าผู้ใด
“กูว่าแล้ว ทำไมแม่งชอบมาขัดขวางกูกับอีพี่ไนท์นัก” ฉันกำหมัดแน่นพลางจรดสายตามองอีกครั้ง ไม่ผิดแน่ จากสายตาที่แสกนความละเอียดได้ถึงสามล้านพิกเซลของฉัน เต็มสิบ!! ที่แท้อีผู้ชายคนนั้นก็แอบคลั่งไคล้ฉันนี่เอง เกิดเป็นคนงามช่างลำบากนัก เฮ้อ!
“ความสวยของกูทำให้คนทะเลาะกันอีกแล้วล่ะอีชมพู กูเหนื่อยใจจัง อยากขี้เหร่” ฉันยกมือทั้งสองข้างกุมใบหน้าก่อนจะเชิดนัยน์ตาจิกๆ ใส่กระจก ขนตางามงอนด้วยมาสคาร่าอายแลชซุปเปอร์เด้งผสมน้ำมันผีพรายในป่าช้าเจ็ดชั่วโคตรนี่มีผลดีได้ใจจริงๆ
“โอ๊ย อีเจ๊ให้หนูช่วยเอาอีโต้สับโหนกหน้าไหมคะ เผื่อว่าจะดีขึ้น”
“อิจฉากูล่ะสิ หมอแม๊ะเค้าทำนายว่าในภายภาคหน้ากูจะได้ผัวเป็นนายกเชียวนะมึง ฮิๆๆๆ”
“นายกเทศมนตรีในศรีธัญญาน่ะสิ อีเจ๊!”
“อย่ามาแซะนะอีกะหรี่ขายส่ง เดี๋ยวกูตบให้นมจีนแดงมึงแตกเลย!” ฉันจิกสายตา แค่นี้ฉันก็เหนื่อยใจพออยู่แล้ว ฉันไมได้ตั้งใจให้พี่ไนท์มีปัญหากับเพื่อนเลยจริงๆ ไม่คิดเลยว่านี่คือสาเหตุที่พี่ไนท์ไม่รับรักฉัน ทั้งที่พวกเรารักกันมากแท้ๆ แต่จะว่าไปอีพี่เต็มสิบก็หล่อใช้ได้ หุ่นก็เป๊ะ เฮ้ออออ~
“อย่านะ อีเจ๊ สองเต้านี่กูทำมาตั้งห้าหมื่น! เกรดอเมริกาของแท้นะ!”
“เฮ้อ รักพี่ไนท์ก็รัก สงสารพี่สิบก็สงสาร ความรักช่างซับซ้อนยิ่งนัก นี่สินะความลำบากใจของนางเอกละคร กูเหนื่อยจังเลยอีชมพู”
“ควงสองเลยเจ๊ วันคู่วันคี่”
“นี่อีชะนี! มึงเห็นกูเป็นคนหลายใจเหรอ กูเป็นนางฟ้านะไม่ใช่นางวันทองสองใจ จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง”
“ต๊าย เป็นคนดี” อีชมพูปรบมือแปะๆๆๆ ชื่นชม
“กูก็ยังรักอีพี่ไนท์อยู่ดีอ่ะ อีชมพู แต่กูคิดว่าบางทีกูควรจะเปิดใจให้พี่สิบเข้ามาบ้าง….” ฉันว่าพร้อมกับอ้าแขนกว้างๆ เพื่อสูดอากาศหายใจลึกๆ ถึงเราจะรักใครมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรจะปิดกั้นตัวเองจากโอกาสอื่นๆ
แคว่ก! ฮ้า~ อากาศเย็นสบายพัดผ่านผิวหนังของฉันไปให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อฉันตัดสินใจได้ อีชมพูขี้อิจฉามองหน้าฉันอย่างหมิ่นเหม่
“อีเจ๊ทำอะไร?”
“กูกำลังพยายามเปิดใจให้พี่เต็มสิบ” ฉันว่าพลางยิ้มนัยน์ตาหยี ความรู้สึกอบอวลละมุนละไมพาดผ่านฉันไปจนกระทั่ง…
“แต่โคตรอาม่าของกูเรียกสภาพอย่างนี้ว่าเปิดนม…” มันว่าแล้วทำหน้ามุ่ยมองหน้าอกอันล้นเหลือของฉันที่โผล่พ้นออกมาจากกระดุมและถูกโอบไว้ด้วยเสื้อในลายเสือดาวพราวเสน่ห์
แหมๆ อีนี่ อย่าขัดกูซี… กูอยากมีผัว ฮิๆๆๆๆๆ
NIGHT SAYS…
“มึงใช่ไหม ไอ้สัตว์!” เสียงเคียดแค้นไปด้วยความโกรธพร้อมกับร่างกายใหญ่โตที่พุ่งพรวดเข้ามาทางผม ฝ่าตีนแหวกอากาศมุ่งเข้ามาที่ใบหน้า ผมเอียงหลบไปทางซ้ายรู้สึกได้ถึงแรงลมที่เฉียดฉิวผิวอันบอบบางของผมไปไม่กี่มิลลิเมตร จากซุ้มคณะสงบๆ กลายเป็นสถานที่รบของผมกับไอ้สิบภายในไม่กี่วินาที นับตั้งแต่หนังสือพิมพ์นั่นถูกยื่นเข้าไปในมือมัน ทั้งที่ปกติหนังสือพิมพ์ของไอ้ชมรมนี้ก็ไม่ได้ฮอตฮิตกันสักเท่าไหร่ แต่เพราะไอ้พาดหัวข่าวสยองขวัญจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่คนกล่าวขานกันไปทั่วมหาลัย
“อะไรของมึง มีหลักฐานเหรอ กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” ผมว่าพลางกระโดดออกจากเก้าอี้เพื่อจะได้หลบฝ่าตีนมหากาฬนั่นทัน ไอ้สิบชักเท้ากลับพร้อมกับนัยน์ตาเกรี้ยวกราด “มึงชอบของแปลกก็ไม่บอกนะเพื่อน กูพร้อมถอย อย่ามาหงุดหงิดใส่กูเพราะเค้าชอบกูสิ ^O^~” ผมกระตุกยิ้มร้าย ช่วยไม่ได้ มันปล่อยข่าวเรื่องที่ผมเป็นเอดส์ก่อนทำไม แล้วในอนาคตใครจะกล้าคบผมเป็นแฟนล่ะวะ
“เหี้ยอย่างมึงนี่ กูจะจับฝังดินทั้งเป็นเลย!” ไอ้สิบประกาศกร้าวพร้อมกับยืนชี้หน้าผมท่ามกลางหลายสิบคนที่นั่งมองอย่างสังเกตการณ์ ผมยักไหล่
“โถ เพื่อนสิบ เรียกกูไอ้สัตว์เหมือนเดิมเถอะ ให้กูเลือกสปีชีส์บ้าง เผื่อกูอยากเป็นกระต่าย”
“กวนตีนเหรอ” มันกระโดดขึ้นมายืนบนโต๊ะ ทำยังกับตัวเองเป็นบรู๊ซลี รองเท้าไนกี้นั่นทำท่าจะสอยเข้าที่คางของผมอีก “จะมีเรื่องกับกูใช่ไหม?” มันถลึงตาใส่ผมอย่างกับยักษ์ ผมแค่นหัวเราะแหยะๆ พลางยืนดูท่าทีของคนตรงหน้า
ก็ได้แค่ขู่ล่ะว้า… เป็นห่าอะไรต้องขึ้นไปยืนบนโต๊ะ มันจะแสดงไลฟ์คอนเสริตรึไง!
“มากล่าวหากูมั่วๆ เดี๋ยวฟ้องหมิ่นประมาทเลยนะโว้ย”
“มึง!!” ไอ้สิบกวาดปลายเท้าไปด้านหลังเตรียมโจมตีเป็นจังหวะเดียวกับที่จุดศูนย์ถ่วงไม่คงที่ผมจึงใช้แรงทั้งหมดถีบเข้าไปที่เสาโต๊ะไม้ข้างใดข้างนึงเพื่อให้มันขยับเขยื้อนละคนด้านบนเสียการทรงตัวจนเอนไปด้านหลัง “ไอ้…”
ตุบ!!!
แล้วมันก็หล่นลงตามที่คาด แผ่นหลังใหญ่หงายกระทบกับพื้นปูน ขาทั้งสองข้างชูขึ้นก่อนจะรีบเหยียดยันตัวเองเพื่อไม่ให้เสียหน้า ไอ้โง่… ผมคิดในใจพลางยิ้มหยัน ทำเป็นเจ๋งไป ผมไม่ได้ง่ายนะจะบอกให้
“กรี๊ดดด!!~พี่สิบ พี่ไนท์ อย่าทะเลาะกันนะคะ!” น้ำเสียงหวีดแหลมทำให้รอยยิ้มผมชะงักก่อนจะหุบลงในเร็วพลัน น่ะ… นางฟ้า!!! “อย่าเสียมิตรภาพดีๆ เพราะผู้หญิงอย่างฟ้าเลยค่ะ” ยัยจุดบอดกาแล็กซี่นั่นเม้มริมฝีปากพลางชายนัยน์ตาวิงวอนน่ารังเกียจมาทางผม… แม่งโผล่มายังกับผี
“ฟ้าอย่ามายุ่ง นี่เป็นสงครามลูกผู้ชาย -_-+” ผมแอ๊กหล่อ อย่าว่าแต่เสียมิตรภาพเลย ความจริงการที่ได้เจออีหลุมดำนี่ในชีวิต ควรบอกว่าเสียสุขภาพจิตอย่างยิ่งยวดซะมากกว่า ผมนอนผวาทุกเวลาที่ได้ยินเสียงกรอบแกรบ ผมต้องนั่งจ้องกางเกงในและบ็อกเซอร์ที่ราวตากผ้า รอให้แม่งแห้ง ไม่งั้นแม่งจะสอยของผมไปอีก
“มึง ไอ้เหี้ยไนท์!” ไอ้สิบกัดฟันกรอดพร้อมกับตบก้นเบาๆ สองสามที เพื่อปัดขี้ฝุ่นที่เลอะตัวออก อีตัวต้นเหตุยืนเม้มริมฝีปากอย่างสั่นๆ ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนางเอกที่ผู้ชายสองคนกำลังแย่งชิงกัน แต่ไม่เลยจ้ะ ที่พวกกูจะต่อยกันอยู่นี่เพื่อยัดเยียดให้อีกคนต่างหาก -_-;;;
“กูรักมึงนะเพื่อน ถ้ามึงชอบฟ้า มึงก็ไปกับฟ้าเถอะ กูไม่ซีเรียส” ผมปัดผมหน้าม้าขึ้นฉายรังสีโคตรพ่อพระเอกออกมาวาววับ ไอ้สิบกัดฟันกรอดก่อนจะยิ้มแหยเมื่อปลายหางตาเห็นสิ่งมีชีวิตที่มิสามารถระบุประเภทได้ยืนอยู่
“ไม่เป็นไร กูเสียสละ กูอยากให้ฟ้ามีความสุข มึงคบกับฟ้าเถอะ” มันกัดฟัน