คำพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวลองทำตาม เธอหมุนกายมายืนตรงหน้าเขา จ้องหน้าเขาเต็มสายตา มองสำรวจใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างพินิจ มองดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น มองจมูกเป็นสันโด่งงาม มองคิ้วดกหนาได้รูปนั้น มองเลยไปยังริมฝีปากหยักหนาสีแดงสด ลีเดียกวาดสายตามองส่วนประกอบบนใบหน้าคมสันนั้น หัวใจของเธอทำไมเต้นแรงอีกแล้วนะ มือบางยกขึ้นแตะหน้าอกตัวเองอย่างลืมตัว
‘ไม่นะ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่เขาบอก’ ลีเดียพร่ำบอกตัวเอง
“บอกผมสิ ว่าคุณรู้สึกยังไง” เสียงทุ้มนุ่มหู ทำให้คนฟังใจเต้นแรงกว่าเดิม
นภวินท์ยิ้มอ่อนโยน ขณะแตะปลายนิ้วเชยคางของหญิงสาวให้มองจ้องเขา ปลายนิ้วโป้งไล้บนเรียวปากบางสีกุหลาบแผ่วๆ
“กี้... กีรดารินทร์ ลีเดีย จะชื่อไหน คุณคือคนที่ผมรัก” เขาค่อยๆก้มใบหน้าลงมาหาเธอช้าๆ
“ไม่ อย่านะ !” ลีเดียเบือนหน้าหนี ผลักอกเขาออกห่าง “อย่ามาแต่งเรื่องหลอกฉันเลยนะ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก”
หญิงสาวขยับตัวออกห่าง สติสัมปชัญญะคืนกลับมาเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ห่างจากร่างหนานั้น
“โอเค ผมกับคุณเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราคงต้องทำความรู้จักกันใหม่ใช่ไหม” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แค่นยิ้มเจ็บปวด
กีรดารินทร์จำเขาไม่ได้ เธอไม่เหลือความทรงจำใดใดเกี่ยวกับเขาอีก เฟอร์นันโดป้อนข้อมูลใหม่ให้เธอจนหญิงสาวซึมซับสิ่งเหล่านั้นไปในสมอง แต่ท่าทางและนิสัยเดิมของเธอยังคงอยู่ครบถ้วน กีรดารินทร์แสบแค่ไหนลีเดียคงไม่แตกต่าง เอาเถอะเขาจะขอทำความรู้จักกันกับเธออีกครั้ง และให้เธอเรียนรู้ตัวตนของเขาด้วย จะได้พิสูจน์ว่าเขารักเธอเพราะอะไร และอยากให้เธอรักเขาด้วยความรู้สึกแท้จริงจากหัวใจ
“เฮียวินท์ เฮียมารับหนูแล้ว ! ” สิงหกัลยาวิ่งเข้ามาหารุ่นพี่หนุ่ม ด้วยสีหน้าดีอกดีใจ
ร่างสูงเพรียวกระโดดกอดคอเขาไว้แน่น จนคนโดนกอดต้องปลดแขนเล็กๆนั้นออกจากคอ ก่อนจะหายใจไม่ออกตาย
“เป็นยังไงบ้างยายลิง หัวแตกแบบนี้ ยังซ่าออกหรือเนี่ย” นภวินท์ขยี้ศีรษะของรุ่นน้องอย่างเอ็นดู
“หนูไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกเฮีย หัวแตกแค่นี้ไกลหัวใจแยะ” เจ้าตัวหัวเราะแหะๆ ไม่ทุกข์ร้อนกับอาการบาดเจ็บของตัวเอง
ลีเดียขยับมาใกล้สิงหกัลยา เมื่อเห็นหญิงสาวปล่อยมือออกจากพี่ชายแล้ว เธอมองดูเพื่อนใหม่แล้วอดนึกเสียดายไม่ได้ สิงหกัลยาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ทำไมพี่ชายของเจ้าหล่อนถึงได้ไม่น่ารักสักนิด
สิงหกัลยาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากลีเดียเท่าไหร่ เธอไม่อยากให้ลีเดียเป็นน้องสาวไอ้มาทาดอร์ชีกอคนนั้นเลย คิดถึงเขาแล้วสิงหกัลยาอดขำไม่ได้ ป่านนี้ไอ้คนขี้หลีนั่นจะหายจุกช้างน้อยหรือยังก็ไม่รู้
“คุณอยู่คุยกับลีโอโนร่าไปก่อนนะ ฉันจะไปเก็บกระเป๋า” ลีเดียบอก ก่อนหมุนกายเดินไปยังปีกขวาของตัวบ้าน
“เก็บกระเป๋าทำไมคะ” สิงหกัลยา ทำตาแป๋วมองรุ่นพี่หนุ่ม
“ลีเดีย เขาจะไปทำงานกับเราด้วย” นภวินท์บอก เขาดึงแขนยายตัวยุ่งให้มานั่งที่เก้าอี้ไม้ “นั่งตรงนี้กับฉันก่อน ฉันมีเรื่องคุยกับแก”
“เฮียบอกหนูมาก่อน ว่าทำไมลีเดียถึงได้ไปทำงานกับเราได้ล่ะ”
“มันเป็นข้อตกลงของฉันกับพ่อของเธอน่ะสิ เมื่อก่อนฉันกับลีเดียเราเคยรักกัน...”
สิ่งที่ได้ยินทำให้สิงหกับยาตาโตกว่าเดิม “จริงเหรอ มิน่าหนูถึงรู้สึกคุ้นๆหน้าลีเดีย หนูจำได้แล้วว่าหนูเคยเห็นหน้าลีเดียที่ไหน ที่แท้ลีเดียก็เป็นผู้หญิงคนเดียวกัน กับคนในรูปที่เฮียเก็บไว้ในกระเป๋าตังนี่เอง” เจ้าตัวแสบพล่ามออกมายาวเป็นขบวนรถไฟ
“ฉันจะเล่าเรื่องของฉันกับลีเดียให้แกฟัง แกต้องช่วยฉันนะยายลิง”
“ช่วยอะไรเหรอเฮีย”
“ช่วยทำให้ฉันทวงหัวใจ และความรักของฉันกับลีเดียคืนมา” นภวินท์กุมมือนุ่มบางไว้มั่น แววตาขอร้อง “ฉันเชื่อว่าพ่อของลีเดีย คงไม่ปล่อยให้ฉันกับลีเดียรักกันง่ายๆหรอก”
“ได้สิเฮีย ต่อให้หนูต้องพลีชีพเพื่อเฮียหนูก็ยอมทำนะ” สิงหกัลยารับปาก โดยไม่รู้ว่าอนาคตเธออาจต้องยอมพลีมากกว่าชีพของตัวเองเพื่อช่วยรุ่นพี่ให้สมหวัง
“เอาล่ะ ฟังนะนี่เป็นเรื่องแรก ที่แกต้องช่วยฉัน”
นภวินท์ก้มลงป้องปากกระซิบบางอย่างข้างหูสิงหกัลยา หญิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับ ดวงตากลมโตคู่นั้นเต้นวิบไหวด้วยความรู้สึกสนุก เมื่อฟังแผนการจบ
งานนี้สิงห์จะช่วยเป็นกามเทพ ให้เฮียเอง !
คณะที่การเดินทางไปพัมโพลนาครั้งนี้ประกอบด้วย นภวินท์ สิงหกัลยา ลีเดีย นายแผน และราฟาเอล ซึ่งรายสุดท้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานครั้งนี้เลย แต่เขาขอไปด้วยโดยอ้างว่าต้องการไปดูแลน้องสาว ขณะบอกสายตาของเขาจับจ้องใบหน้าเรียวคมของสิงหกัลยานิ่ง จนเจ้าตัวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่มีใครรู้เรื่องคดีความระหว่างเธอกับมาทาดอร์หนุ่มแม้แต่น้อย หญิงสาวไม่กล้านำเรื่องนี้ไปบอกเฮียวินท์ของเธอแน่
เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่พักในพัมโพลนา ก็มีปัญหาเรื่องห้องพัก เมื่อสิงหกัลยาได้จองห้องพักไว้เพียงสองห้องเท่านั้น ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานต่างจองโรงแรมที่พักไว้เต็มทุกที่ สิงหกัลยาได้จองห้องพักไว้ล่วงหน้าจึงมีที่ให้พัก แต่จำนวนคนเกินกว่าห้องที่มี
“หนูจองห้องไว้แค่สองห้อง ของหนูกับเฮียคนละห้อง ทำไงดีล่ะเฮียวินท์”
สิงหกัลยาหันมาปรึกษารุ่นพี่ มองสมาชิกที่เพิ่มมาอย่างหนักใจ
“แกก็พักกับลีเดีย ส่วนฉันจะเอาสองหนุ่มนี่ไปนอนด้วยแล้วกันนะ ห้องเขากว้างคงพออยู่กันได้”
นภวินท์หาทางออกให้ แม้เขาจะไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร แต่ไม่มีทางเลือกอะไรมากกว่านี้อีก
“ซุบซิบอะไรกัน บอกให้พวกเรารู้บ้างสิ”
ราฟาเอลถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ เขาไม่ใช้ภาษาสเปนเพราะรู้ว่านภวินท์ฟังไม่รู้เรื่อง สองคนที่กำลังปรึกษากันเป็นภาษาไทย หันมามองคนพูด
“เราจองห้องพักไว้แค่สองห้อง คงต้องให้ผู้หญิงอยู่ด้วยกันห้องหนึ่ง ส่วนผู้ชายอยู่อีกห้อง” นภวินท์บอก
สิ่งที่ชายหนุ่มบอก ทำให้ลีเดีย นายแผนและราฟาเอลต้องมองหน้ากัน ลีเดียไม่มีปัญหาในการอยู่ร่วมห้องกับสิงหกัลยา แต่สองหนุ่มนี่สิต่างไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับใคร นายแผนรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องพักรวมกับผู้เป็นนาย ส่วนราฟาเอลไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร เขาชอบนอนคนเดียวแม้บางคืนจะมีสาวๆมานอนเป็นเพื่อนบ้างก็ตาม แต่มาทาดอร์หนุ่มไม่เคยชินกับการมีคนอื่นมานอนในห้องเดียวกัน
“ฉันไม่ชอบนอนร่วมกับใคร ฉันต้องการห้องพักส่วนตัว” เขาทำหน้าไม่พอใจ
“ผมก็ไม่สะดวกที่จะอยู่ห้องเดียวกับเจ้านายครับ” นายแผนออกความเห็นบ้าง
สองหนุ่มสองมุม สร้างปัญหาให้ในวันแรกเสียแล้ว สิงหกัลยาตวัดสายตามองหน้าพี่ชายลีเดียด้วยความรำคาญ เธอเข้าใจลุงแผนว่าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเจ้านาย แต่ไม่พอใจมาทาดอร์หนุ่มที่เรื่องมากไม่อยากอยู่รวมกับคนอื่น
“พี่ราฟ มันจำเป็นนะคะ ห้องพักก็ถูกจองเต็มไปแล้ว ถ้าไม่พักเราก็ไม่มีที่พักอื่นอีก” ลีเดียพยายามไกล่เกลี่ย เมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจของทุกคน
“เอาไงดีเฮียวินท์ ท่าทางคุณชายจะนอนกับใครไม่ได้” สิงหกัลยาดึงแขนรุ่นพี่มากระซิบกระซาบ
“จะให้ฉันเสียสละไปนอนห้องแกงั้นเหรอ หรือว่าจะให้แกเอานายนี่ไปนอนห้องเดียวกับแกอีกคน”
“บ้าสิเฮียวินท์ ให้หนูมานอนห้องเฮียยังดีกว่าอยู่ห้องเดียวกับไอ้บ้านั่น”
ท่าทางของสิงหกัลยาดูรังเกียจราฟาเอลจนนภวินท์รู้สึกได้ พี่ชายของลีเดียไปทำอะไรให้ยายลิงเกลียด หรือว่าจะเป็นอาการเขม่นกันเพราะไม่ถูกชะตา ชายหนุ่มเข้าใจแบบนั้น