ช่างภาพหนุ่มหันไปมองลีเดียกับพี่ชายของเธอและนายแผน ที่จับกลุ่มคุยกันเป็นภาษาสเปน ภาษาที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง ทั้งสามมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะราฟาเอลดูจะเครียดหนักกว่าเพื่อน เขาส่งเสียงล้งเล้งเหมือนไม่พอใจ
“เขาคุยอะไรกันยายลิง แกแปลให้ฉันฟังหน่อยสิ” นภวินท์ให้ล่ามส่วนตัวมาช่วยแปล
สิงหกัลยาเงี่ยหูฟัง “อ๋อ... เขากำลังปรึกษาเรื่องที่พักกันน่ะเฮีย อีตาราฟไม่ยอมอยู่ร่วมห้องกะเฮีย ส่วนลุงแผนแกจะนอนในรถ”
“เรื่องมากจริง แล้วตามมาทำไมเนี่ย”
นภวินท์รู้สึกรำคาญราฟาเอล เขาไม่ชอบขี้หน้าลูกชายของเฟอร์นันโดตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว โดยเฉพาะยามที่ไอ้หมอนั่นมาใกล้ชิดน้องสาวต่างสายเลือด ยิ่งมองชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิด เขาอยากดึงหญิงสาวออกมาห่างๆ แต่ทำไม่ได้จำต้องทนอึดอัดอยู่แบบนี้
“ดูเหมือนจะยอมแล้วนะเฮีย ลีเดียขู่ว่าถ้าไม่ยอม ให้กลับบ้านไป” สิงหกัลยาสรุปเรื่องให้ฟัง
หลังจากตกลงกันได้แล้วว่า นายแผนจะขอนอนในรถ ราฟาเอลก็จำต้องนอนร่วมห้องกับนภวินท์ ส่วนลีเดียกับสิงหกัลยาก็พากันเข้าห้องพักของตัวเอง สองสาวสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่พบกันได้ไม่ถึงวัน เมื่อเก็บของเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวพากันลงมาหาอะไรดื่มที่บาร์ในโรงแรม สิงหกัลยากลับมาสวมชุดสาวยิปซีของตัวเอง ส่วนลีเดียยังคงแต่งตัวแบบคุณหนูติดแบล์นเนมเหมือนเคย ความสวยน่ารักทำให้หนุ่มๆต่างโฉบเข้ามาคุยด้วยจนทำให้รู้สึกรำคาญ สองสาวเลยพากันออกไปเดินเล่นด้านนอกแทน
“พวกหนุ่มสเปนนี้ ขี้หลีกันทุกคนเลยหรือไง” สิงหกัลยาบ่น
ลีเดียมองหน้ายับยู่ยี่ของเพื่อนสาวอย่างขำๆ “คนสเปนชอบสนุกสนาน อยู่ที่ไหนเหมือนระเบิดลง เสียงดังไม่เกรงใจใคร เรื่องขี้หลีเนี่ยลีเดียว่าเป็นกันทุกชาตินะ แต่หนุ่มสเปนนี่เขาเปิดเผยกว่า” คนพูดเหมือนจะแก้ตัวให้ แต่ก็เห็นด้วยในตอนท้าย
ยิปซีสาวทำหน้าเมื่อย “เห้อ... หนูสิงห์จะไม่มีวันเป็นแฟนกับหนุ่มสเปนเด็ดขาด”
“แหม หนุ่มสเปนน่ารักๆ ก็มีอีกแยะ อย่างพี่ราฟของลีเดียนั่นไง”
คนเป็นน้องเชียร์พี่ชายตัวเอง เมื่อรู้สึกถูกใจเพื่อนใหม่จนอยากได้เป็นพี่สะใภ้ โดยไม่รู้ว่าทั้งสองมีคดีพิศวาสกันไปถึงไหนแล้ว
“หนุ่มไทยอย่างเฮียวินท์น่ารักกว่าเยอะ ลีเดียไม่สนใจพี่ชายหนูสิงห์บ้างเหรอ” สิงหกัลยาย้อนศรคืนทันควัน
“ผู้ชายไทย ก็เจ้าชู้ไม่น้อยกว่าผู้ชายชาติอื่นเหมือนกันนี่”
“เฮียวินท์ รักใครรักจริงนะ หนูสิงห์เห็นเฮียแกรักผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอดสองปี โดยไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่นอีกเลยนะ”
สิงหกัลยาเริ่มสะกิดความอยากรู้ของลีเดีย ได้ผลเมื่อคนฟังหูผึ่ง ทำตาโตสนใจขึ้นมา
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธอเคยเห็นไหมลีโอโนร่า”
“ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆหรอกนะ แต่เคยเห็นแต่รูปน่ะ เฮียแกเก็บรูปผู้หญิงคนนั้นไว้ในกระเป๋าตัง”
คำพูดนั้นทำให้คนฟัง อยากเห็นรูปของผู้หญิงของนภวินท์ขึ้นมา แต่จะดูรูปนั้นได้ยังไงล่ะ ลีเดียมองหาวิธีในใจ ก่อนจะคิดอะไรออก
“กลับไปที่โรงแรมกันเถอะ เดินออกมาเตร็ดเตร่แบบนี้ เดี๋ยวหนุ่มๆจะตามหา” ลีเดียชวนกลับ
“ลืมไปเลยว่า...” สิงหกัลยาเพิ่งนึกได้ ว่าเธอกำลังถูกฆาตกรร้ายหมายหัวอยู่ “ ไปเถอะเราออกมานานแล้ว”
สองสาวจูงมือกันหันหลังกลับทางเก่า แต่มีใครคนหนึ่งโผล่มาขวางหน้าไว้ ใบหน้าของชายคนนั้นทำให้ สิงหกัลยาอ้าปากค้าง ตาโตๆเบิกกว้าง
“แก ! ”
ชายร่างผอมสูงโผล่ออกมาจากมุมถนน ใบหน้าของชายคนนั้นทำให้สิงหกัลยาสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว ในมือของเขามีปืนกระบอกหนึ่งอยู่ ปลายกระบอกปืนชี้มายังสองสาวด้วยท่าทางคุกคาม ลีเดียรู้ได้ในทันทีว่าอันตรายกำลังเข้ามาหา สถานการณ์นั้นทำให้มือบางกุมมือเย็นเฉียบของเพื่อนร่วมชะตาไว้แน่น
“อย่าคิดทำอะไรพวกเราสองคนนะ!” ลีเดียจ้องหน้าคนร้าย ดวงตายาวเรียวกร้าวขึ้น “รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร หากแกคิดว่าจะทำอะไรพวกฉันแล้วลอยนวลไปง่ายๆ ล่ะก็ แกรู้จักคนของตระกูลราโดรเปรเรสน้อยไปเสียแล้ว”
ชื่อของตระกูลราโดรเปรเรส ตระกูลที่มีอิทธิพลมากในสเปน ทำให้ชายคนนั้นชะงักงัน ปลายกระบอกปืนในมือสั่นเล็กน้อย คล้ายเจ้าตัวกำลังลังเลใจ นั่นทำให้ลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโดยกมุมปากเหยียดยิ้ม หากสายตายังแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และทะนงตน
“ผู้หญิงคนนี้ เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของตระกูลราโดรเรสอันยิ่งใหญ่”
ลีเดียยกตำแหน่งพี่สะใภ้ให้จำเป็นให้สิงหกัลยาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวอ้าปากค้างมองท่าทางห้าวหาญเกินหญิงของคุณหนูลีเดีย ด้วยความทึ่ง ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ลีเดียยังควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม คนที่ทำอะไรไม่ถูกคือตัวเธอ ที่กลัวจนตัวแข็ง หน้าซีด
“ไอ้ซานโต๊ส แกอย่าไปฟังนังนี่พล่ามเลย นายบอกให้จัดการก็รีบทำสิวะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า!”
ชายร่างใหญ่หน้าตาเต็มไปด้วยหนวดเครา เดินออกมาจากมุมมืดหลังจากยืนดูอยู่นาน ในตรอกนี้ค่อนข้างอับสายตา มันทั้งสองสะกดรอยตามหญิงสาวมาตั้งแต่ที่พบในโรงแรม คำสั่งที่ได้รับมาคือปิดปากคนที่เห็นการฆาตกรรมให้หมด นายจ้างของพวกมันต้องการปิดปากพยานทุกคนไม่ให้สืบสาวมาถึงตน มันไม่เชื่อว่าผู้หญิงสองคนนี้จะเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสจริง คนในตระกูลนี้ไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่อนัก นอกจากราฟาเอล ที่เป็นทายาทของตระกูลเท่านั้นที่เป็นที่รู้จักในฐานะมาทาดอร์ชื่อดัง
“ทำไงดีลีเดีย ท่าทางเราจะไม่รอดแน่” สิงหกัลยาสั่นไปทั้งตัว กลัวจนทำอะไรไม่ถูก
ลีเดียบีบกระชับมือของเพื่อนปลอบโยน หญิงสาวมองหาทางรอด เธอคงถ่วงเวลาพวกมันได้ไม่นาน แววตาของเจ้าตัวใหญ่เหี้ยมเกรียมอย่างคนที่ผ่านการฆ่ามานับไม่ถ้วน เจ้าคนตัวผอมดูจะอ่อนประสบการณ์กว่า ถึงได้ลังเลไม่กล้าทำอะไรพวกเธอ หากปล่อยเวลาให้พวกมันคิด เธอกับสิงหกัลยาอาจไม่รอด จำเป็นต้องแก้ไขสถานการณ์คับขันนี้โดยเร็ว ดวงตายาวเรียวมองไปด้านหลังของคนร้าย ก่อนจะยิ้มกว้างเหมือนเห็นใครสักคน
“พี่ราฟ !”
เสียงร้องทำให้คนร้ายทั้งสองหันขวับไปมอง นั่นเป็นวินาทีทองของคุณหนูลีเดีย หญิงสาวตวัดปลายเท้าเตะข้อมือของคนที่ถือปืนจนปืนกระเด็นหลุดมือตกลงบนพื้นถนน
“วิ่งเร็ว!”
สิ้นเสียงข้อมือของสิงหกัลยาถูกฉุดลากให้ออกวิ่ง สองสาวสวมวิญญาณนักวิ่งเหรียญทอง วิ่งหนีโจรออกมาสุดฝีเท้า เจ้าวายร้ายสองคนพยายามไล่กวดเหยื่อของมันให้ทันก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งไปพ้นตรอกแห่งนั้น
เปรี๊ยง !!!
โอ๊ย!!!
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมเสียงร้องของหนึ่งในสองสาว เมื่อคนร้ายตัดสินใจยิงสาดเข้าใส่ร่างที่กำลังวิ่งอยู่ กระสุนร้อนๆ พุ่งเฉียดแขนของคนวิ่งอยู่จนเจ็บแปลบ หากคนโดนยิงไม่ยอมหยุดวิ่ง เมื่อเห็นถนนใหญ่และผู้คนอยู่เบื้องหน้า ออกมาจากตรอกนรกนั้นได้ความโกลาหลก็บังเกิดขึ้น เมื่อเสียงปืนเมื่อครู่ ทำให้ผู้คนบริเวณนั้นแตกตื่น วิ่งหนีหลบวิถีกระสุนปริศนาที่ยังคงไล่หลังสองสาวมาอีกหลายนัด
เปรี๊ยง เปรี๊ยง เปรี๊ยง !!!
คนร้ายไม่ได้ตามออกมา แต่ใช้ลูกกระสุนติดตามหญิงสาวทั้งสองออกมาแทน ลีเดียลากแขนสิงหกัลยาวิ่งหนีอย่างทุลักทุเล เมื่อต้องวิ่งฝ่าฝูงชนที่กำลังแตกตื่น ไม่ต่างจากการวิ่งอยู่ท่ามกลางเทศกาลวิ่งวัวเลย หากต่างกันที่ไม่มีวัวกระทิงร้ายคอยวิ่งไล่ แต่เป็นลูกกระสุนปืนไล่หลังอยู่ ลีเดียอาศัยความชุลมุนเอาตัวรอด โดยการใช้โล่มนุษย์เหล่านั้นป้องกันตัวเอง คนร้ายจำต้องล่าถอยไปเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย
“เป็นอะไรไหมลีเดีย” สิงหกัลยาหยุดหอบหายใจ เมื่อวิ่งออกมาเกือบถึงหน้าโรงแรมแล้ว
ลีเดียหายใจเข้าออกยาวๆหลายครั้ง จนหายจุกเสียด แต่ยังมีอาการหอบจากความเหนื่อยเหลืออยู่ หญิงสาวหันไปมองเหตุการณ์รอบกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจมารวดเร็วทันใจ ผู้คนส่งเสียงดังเซ็งแซ่ ทำให้วุ่นวายไม่ต่างจากเหตุจราจลย่อมๆ หญิงสาวหันไปเจอร่างของผู้ชายสามคนที่กำลังวิ่งตรงมา ริมฝีปากแย้มออกแววตาโล่งใจ เมื่อคนทั้งสามเห็นพวกเธอแล้ว