“มีอะไรหรือเปล่าจ้ะ”
“ปะ เปล่าค่ะ คุณป้าต้องการอะไรอีกไหมคะ” เธอคงเผลอตัวจ้องเขาอีกแล้วสินะ สายตาเจ้ากรรมนี่ก็ไม่รู้จักหักห้ามเลย
“ไม่แล้วล่ะลูก ป้าแค่จะอ่านหนังสือสักหน่อยก่อนจะงีบน่ะ หนูกลับไปพักเถอะลูกวุ่นกับป้ามาตั้งแต่เช้าแล้ว ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารแสนพิเศษนะจ๊ะ กลับไปหาหมอคราวนี้คุณหมอต้องชมป้าแน่ๆเลย”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกนะคะ ของขวัญเต็มใจทำให้ค่ะ ของขวัญรักคุณป้านะคะ” หญิงสาวโน้มตัวเข้าไปกอดมารดาของชายหนุ่ม อ้อมกอดนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าได้กอดมารดาของตนจริงๆ
“อ้อนป้าแบบนี้ป้าก็ไปไหนไม่รอดน่ะสิ” ของขวัญน่ารักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถ้าในอนาคตของขวัญได้แต่งงานกับลูกชายของนางและมีพยานรักตัวน้อยที่หน้าตาเหมือนคนทั้งคู่คงจะดีไม่น้อย เธอจะต้องอยู่ให้ถึงช่วงเวลานั้นให้ได้
“คิกๆ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจออกมา จากนั้นก็ขอตัวกลับไปยังห้องของตนเพื่อโทรไปหาเพื่อนสาวว่าเรื่องงานมีปัญหาอะไรหรือไม่
“ไม่มีอะไรหรอกแกทุกอย่างยังปกติดี ว่าแต่แกเถอะขวัญดูแลคุณป้าดาราวรรณวันแรกเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม”
“ไม่มีอะไรเหมือนกัน สบายมากเลยล่ะ ตอนนี้ก็ว่างอยู่”
“แล้ว...พี่อิงทัชของแกล่ะตอนนี้เขาทำอะไร” เพื่อนสาวถามกลับน้ำเสียงตื่นเต้น
“ของฉันซะที่ไหนเดี๋ยวเถอะ”
“ฮ่าๆ ฉันว่าเขาหนีแกไม่พ้นหรอก”
“เขาอาจจะมีแฟนแล้วแต่แค่ยังไม่พามาเปิดตัวก็ได้”
“แกก็อย่าเพิ่งมโนไปไกลสิขวัญ”
“ใครจะรู้ล่ะ เขาไม่มีท่าทีชอบฉันเลยแต่พี่อารักษืน่ะไม่แน่”
“พี่เขาทำไมหรอ”
“ก็ดูเหมือนพยายามมาเอาอกเอาใจฉันน่ะ ฉันรู้สึกได้” หลังจากวางสายหญิงสาวที่ไม่เคยว่างเว้นจากงานจึงอยากหาอะไรทำ เอจึงเลือกที่จะลงมายังชั้นล่างอีกครั้งแล้วก็พบกับจันทร์ฉายและลูกชาย
“หนูขวัญมาพอดีเลยป้ามีขนมอร่อยๆมาให้ลองชิม”
“หน้าตาน่าทานมากเลยค่ะ”
“ไม่ใช่แค่หน้าตานะครับแต่รสชาติยังสุดยอดมากเพราะแม่พี่ทำเอง”
“จริงหรอคะ คุณป้าเก่งจังเลยค่ะ”
“จริงสิจ๊ะ ไหนลองทานหน่อยเร็ว ถ้าชอบวันหลังป้าจะทำมาให้ทานอีก”
“ค่ะ” อิงทัชเดินเข้ามาในตัวเรือนก็เห็นว่าสองแม่ลูกคู่นี้กำลังทำคะแนนกับหญิงสาวจนออกนอกหน้า เขาอยากจะถอดใจด้วยซ้ำแต่เพราะความต้องการของมารดาเขาจึงยังต้องทนร่วมเล่นเกมบ้าๆนี้อยู่
“มีความสุขกันจังเลยนะครับ”
“ป้าก็แค่ทำขนมมาให้หนูขวัญทานน่ะตาอิงทัช”
“นายมีอะไรไปทำก็ไปเถอะอย่ามายุ่งกับพวกเราเลย”
“คงจะไม่ยุ่งด้วยไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกอยากจะทานขนมบ้าง” อิงทัชไม่รอช้าคว้าขนมในจานใส่บางทีเดียวหมดเกลี้ยง จันทร์ฉายร้องห้ามเสียงหลงเพราะไม่ได้ตั้งใจทำให้อิงทัชทานเสียหน่อย
“อร่อยครับอร่อย ผมไปก่อนดีกว่า” ท่าทางเคี้ยวตุ้ยๆของเขาทำให้เธออดขำไม่ได้ เขาเหมือนเด็กเกเรที่มาแย่งขนมของเพื่อนกินแล้วเดินหนีหายไปหน้าตาเฉย
“ดูตาอิงทัชสิจะไม่มีมารยาทเอาเสียเลย พี่ดาราวรรณก็ป่วยคงไม่มีเวลามาสั่งสอนลูกชายตัวเอง อย่าไปถือสาเลยนะจ๊ะ”
“ค่ะ ขวัญขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ”
“จ้ะๆเดี๋ยววันหลังป้าทำให้ทานอีก”
สถานการณ์เริ่มไม่ดีเธอหนีกลับห้องของตัวเองก่อนจะดีกว่า คนตัวโตก็ช่างก่อเรื่องเหลือเกิน จังหวะที่เธอกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องก็มีร่างใหญ่อีกร่างพยายามแทรกตัวเข้าไปในห้องก่อนเธอเสียอีก
“ว้าย! พี่อิงทัชเข้ามาในห้องของขวัญทำไมคะ” หญิงสาวโวยวายออกมายกใหญ่ เขาจ้องจะแกล้งเธออยู่ก่อนแล้วแน่ๆเพราะแม้กระทั่งเสื้อของตัวเองเขาก็ยังไม่ได้ไปหามาใส่
“นี่ก็ห้องพี่ไม่ใช่หรอครับ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ นี่เขาคงกำลังเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาสินะ
“ไม่ใช่แล้วค่ะเพราะคุณป้ายกห้องนี้ให้ขวัญแล้ว ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยละคะ ออกไปนะคะเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิด”
“ย้ายมาที่นี่ไม่ใช่ว่าจงใจตั้งแต่แรกหรอกหรอ”
“พี่ต้องการจะบอกอะไรขวัญกันแน่คะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร แค่เข้ามาคุยด้วยทำเป็นโวยวาย ทีกับนายอารักษ์นั่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“ก็พี่อารักษ์เขาใจดีเป็นสุภาพบุรุษนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับแทบจะทันที ภายนอกพี่น้องสองคนนี้มีบุคลิกภาพต่างกันมาก
“ถ้านายอารักษ์เป็นสุภาพบุรุษงั้นพี่ขอเป็นซาตานก็แล้วกัน” จบประโยคชายหนุ่มก็โน้มตัวลงมาขโมยหอมแก้มหญิงสาวหน้าตาเฉย เธอตกตะลึงดวงตาเบิกกว้างไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนคนที่คิดว่าจะแกล้งกับเป็นคนที่หวั่นไหวเสียเองเพราะกลิ่นกายหอมๆของหญิงสาว เขาจึงทำได้แค่กลับไปตั้งหลักในห้องของตนเองพร้อมทั้งยกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองที่มันกำลังเต้นระรัว
“บ้า บ้าไปแล้วแน่ๆแกไปทำอะไรอย่างนั้นวะไอ้อิงทัช” ชายหนุ่มได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจที่เผลอตัวทำอะไรแบบนั้นลงไป เกิดหญิงสาวไปฟ้องมารดาของเขาต้องเป็นเรื่องแน่ๆ