บทที่ 1 บทนำ
เรือนดารารัสถูกเล่าขานกันมาว่าเป็นของตระกูลผู้ดีเก่าแก่ที่มีสมบัติไว้กินไว้ใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด ใครๆต่างก็อยากจะมีโอกาสได้เห็นสักครั้งว่าด้านในนั้นจะหรูหราสักเพียงไหน อมรณ์เทพทายาทรุ่นที่สามของตระกูลมีนิสัยเจ้าชู้ หลังจากที่แต่งงานกับดาราวรรณได้ไม่ถึงปี เขาก็ไปลักลอบมีความสัมพันธ์กับน้องสาวต่างมารดาของภรรยาจนอีกฝ่ายตั้งท้อง อรอุมาตัดสินใจให้จันทร์ฉายย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเพื่อที่จะให้ข่าวฉาวของลูกชายเงียบหายไป เหตุการณ์นี้ทำให้อนุชิตผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของบ้านโกรธมากจนถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตก แต่โชคดีที่อนุชิตได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจากชิตภพศัลยแพทยชื่อดังแห่งตระกูลจักราเทพ อนุชิตรู้สึกว่าเขาติดหนี้บุญคุณของอีกฝ่าย ทั้งๆที่ชิตภพพยายามย้ำเตือนหลายต่อหลายครั้งว่าที่เขาทำไปนั้นคือหน้าที่หาใช่ความมีพระคุณต่อกันไม่ อนุชิตยกมือที่มีร่องลอยความเหี่ยวย่นขึ้นลูบกรอบรูปของภรรยาอันเป็นที่รัก เขาคิดถึงภรรยาอยู่เสมอเพราะเขาและภรรยาผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน
“คุณปู่ทำอะไรอยู่ครับ” อิงทัชถามผู้เป็นปู่น้ำเสียงห่วงใย วันนี้เป็นวันครบรอบที่ท่านแต่งงานกับคุณย่าคนสวยของเขานั่นเอง คุณย่าของเขาจากไปด้วยโรคร้ายเมื่อสิบห้าปีก่อน เวลานั้นเขายังเรียนอยู่แค่มัธยมศึกษาตอนต้น
“ปู่กำลังนึกถึงย่าของเราน่ะสิตาทัช”
“รูปนี้คุณย่าอรสวยจังเลยครับ” ชายหนุ่มก้มลงมองภาพของคุณย่าแล้วก็อดที่จะชื่นชมออกมาไม่ได้ ย่าของเขาเป็นคนจิตใจดี ท่านมีความสุขกับการได้เชยชมสวนดอกไม้ของตนเองในทุกๆวัน แม้ท่านจะจากไปแต่ความสวยงามที่ท่านสร้างไว้ยังคงอยู่
“ใช่ ย่าของหลานสวยมาก ไม่อย่างนั้นปู่คงไม่แต่งงานด้วยหรอก”
“คุณปู่ดูคนแค่ภายนอกหรอครับ”
“นี่ถึงกับตำหนิปู่เลยหรอ ปู่ล้อหลานเล่นต่างหาก ย่าของหลานนอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังจิตใจดี ข้อนี้น่ะที่ชนะใจของปู่ได้”
“คุณปู่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ผมครับ”
“โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจใช่ไหมล่ะตาทัช”
“ใช่ครับ”
“ปู่ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของหลานถึงได้เจ้าชู้นัก ไม่อย่างนั้นเรือนของเราคงจะสงบสุขมากกว่านี้หลายเท่า เรือนหลังนี้ควรจะมีเจ้าของที่คู่ควรดูแลเสียที ไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงที ปู่มีเรื่องจะบอกทุกคนในบ้าน”
“ได้ครับ”
“ถึงเวลาที่ปู่จะยกเรือนหลังนี้ให้มีคนดูแลแล้วล่ะ”
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ”
“นั่นสิครับ คุณปู่หมายความว่ายังไงกันแน่” จันทร์ฉายและลูกชายเพียงคนเดียวอย่างอารักษ์ถามออกไปเสียงหลง ในใจคิดไปว่าเรือนหลังนี้จู่ๆอนุชิตจะยกให้ใครก็ยกให้ง่ายๆอย่างนั้นเลยหรือ
“ปู่จะยกให้หลานชายคนที่สามารถพิชิตใจหนูของขวัญได้”
“ของขวัญไหนครับ”
“หลานสาวคนเดียวของคุณหมอชิตภพ ผู้มีพระคุณของปู่”
“ผมไม่เห็นความจำเป็นที่เราจะต้องทำแบบนั้นเลยนะครับ” อิงทัชที่นั่งฟังเรื่องราวมาสักพักเอ่ยทักท้วงขึ้นบ้าง
“เพราะปู่เชื่อว่าอมรณ์เทพไม่มีความยุติธรรมมากพอในการแบ่งสมบัติ”
“โธ่ คุณพ่อก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินผมสิครับ” อมรณ์เทพตอบกลับเสียงอ่อน รู้ดีว่าความประพฤติในอดีตทำให้คนเป็นพ่อความไว้เนื้อเชื่อใจ
“ทำตามที่ปู่บอกนั่นแหละดีที่สุดแล้ว หนูของขวัญจะย้ายเข้ามาอยู่กับเราในฐานะคนดูแลของดาราวรรณ”
“จริงหรอคะคุณพ่อ” ดาราวรรณถามออกไปน้ำเสียงตื่นเต้น
“จริงสิ เจ็บออดๆแอดๆอย่างเธอต้องมีคนดูแลใกล้ชิดนะดาราวรรณ”
“ขอบพระคุณคุณพ่อมากค่ะ จะว่าไปวรรณก็ไม่ได้เจอหนูของขวัญมาหลายปีแล้ว สามปีเห็นจะได้นะคะ” น้ำเสียงตื่นเต้นของพี่สาวอย่างดาราวรรณทำให้จันทร์ฉายรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก นี่ไม่เรียกว่าลำเอียงแล้วจะเรียกว่าอะไรได้
ดาราวรรณยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อกลับมาถึงห้องนอนใหญ่ของตนพร้อมด้วยลูกชาย ชายหนุ่มอยากจะรู้นักว่าผู้หญิงที่ชื่อของขวัญจะเลิศเลอขนาดไหนถึงได้คว้าหัวใจมารดาของเขาไปครองอย่างง่ายดาย ระหว่างที่เขาไม่อยู่ที่นี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“คุณแม่ดูมีความสุขจังเลยนะครับ” ชายหนุ่มที่เห็นสายตาเป็นประกายของมารดาจึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“ก็แม่ดีใจนี่หน่าที่ลูกจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับหนูของขวัญเขา” ดาราวรรณวาดฝันไปถึงอนาคตแล้วก็อมยิ้มมีความสุขออกมา
“ผมสละสิทธิ์ไปเลยดีไหมครับ” ชายหนุ่มไม่เคยหวังอะไรในสมบัติของตระกูลอยู่แล้วเพราะเท่าที่เขาสามารถทำงานหาเงินได้เองก็เพียงพอแล้ว
“ไม่ได้เด็ดขาด เรือนหลังนี้มีความหมายกับแม่มาก แต่ถ้าให้เลือกจริงๆแม่ว่าหนูของขวัญมีความหมายกับลูกมากกว่า”
“ขนาดนั้นเลยหรอครับ” ชายหนุ่มถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ขนาดนั้นเลยสิลูก เชื่อแม่นะว่าทั้งคุณปู่ทั้งแม่หวังดีกับลูกจริงๆ” ถ้าลูกชายของหล่อนได้ลงเอยกับผู้หญิงดีๆอย่างของขวัญก็คงจะดีไม่น้อย หล่อนเองก็คงจะตายตาหลับถ้าลูกได้เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่เหมาะสม
“ผมจะลองดูสักตั้งก็ได้ครับแม่”
“เยี่ยมมากจ้ะ ต้องระวังจันทร์ฉายกับลูกชายด้วยนะ แม่กลัวบ้านนั้นจะเล่นสกปรกอะไรอีก”
“ครับแม่ ผมจะระวังให้มาก”
อีกด้านหนึ่งจันทร์ฉายกำลังคิดแผนการที่จะทำให้ลูกชายของตนสามารถได้เรือนดารารัสมาอยู่ในครอบครองได้สำเร็จ หล่อนไม่เคยอยู่ในสายตาของพ่อสามีเลยเพราะว่าหล่อนมาทีหลังพี่สาวของหล่อนสินะถึงได้โดนกีดกันอะไรหลายๆอย่าง หล่อนรู้ตัวว่าผิดที่คิดเกินเลยกับสามีของพี่สาวแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้องและไม่อยากเห็นพี่สาวได้ดีกว่าตน
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับแค่ผู้หญิงคนเดียวผมจัดการได้อยู่แล้ว” เรื่องที่คุณปู่มอบหมายไม่ได้ทำใหอารักษ์กังวลเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาเชื่อเสมอว่าผู้หยิงน่ะยังไม่ก็ไม่รอดพ้นเขาไปได้แน่ๆถ้าอยู่ในความสนใจของเขา ผู้ชายนิ่งๆอย่างอิงทัชจะไปมีเสน่ห์อะไรมัดใจสาวได้ คิดแล้วก็ได้แต่ขำ
“แม่กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่วิ่งเข้าหาลูกน่ะสิตารักษ์”
“ผมเชื่อว่าผมเอาอยู่ครับ คืนนี้ผมขอออกไปดื่มกับเพื่อนหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับมารดาท่าทีสบายๆ
“เพื่อนหรือสาวบอกแม่มาตามตรงดีกว่า”
“ก็ทั้งคู่นั่นแหละครับ รับรองว่ากลับมาก่อนเช้าแน่นอน”
“อย่าให้คุณปู่รู้ล่ะ แม่ขี้เกียจแก้ต่างให้ลูกแล้ว”
“คร๊าบ แล้วผมจะรีบกลับมาครับรับรองคุณปู่ไม่รู้แน่”
ณ ผับหรูแห่งหนึ่ง
อารักษ์ออกมาดื่มกับเพื่อนเป็นประจำแล้วที่ขาดไม่ได้เลยคือการที่มีสาวๆมานั่งคลอเคลียอยู่ข้างๆกาย หนุ่มโสดอย่างเขาจะท่องราตรีทุกคืนก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
“วันนี้มาช้านะเพื่อน”
“มันก็ต้องดูจังหวะไหมว่ะ”
“ผู้ดีตีนแดงก็อย่างนี้แหละนะ อิสระไม่มีแต่นายก็ยังหาทางมาจนได้”
“พูดให้มันดีๆนะเว้ยเพราะฉันกำลังจะได้เป็นเจ้าของเรือนดารารัสแล้ว”
“จริงหรอว่ะ ได้ข่าวว่าตอนนี้ราคาพุ่งไปเป็นร้อยล้านแล้ว”
“ใช่ ฉันเป็นหลานชายฉันก็ต้องสมควรได้”
“แล้วพี่ชายนายล่ะ อย่าลืมว่านายไม่ใช่หลานคนเดียว”
“ไม่มีวันแย่งไปจากฉันได้แน่นอน” อารักษ์ตอบกลับน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
“พี่รักษ์! ทับทิมคิดถึงพี่รักษ์จังเลย”
“น้อยๆหน่อยยัยทับทิมพี่ชายแกนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน” ธีระรีบเอ่ยปรามน้องสาวแทบจะทันทีที่ถลาเข้าไปหาอารักษ์แบบนั้น บอกตามตรงว่าไม่อยากให้น้องมายุ่งเกี่ยวกับคนแบบอารักษ์แต่ก็ไม่รู้จะเอ่ยห้ามอย่างไร
“วันนี้เราไปต่อกันไหมคะ” สาวสวยถามกลับอย่างใจกล้าแต่โดนพี่ชายสกัดไว้ได้ก่อน
“ไปต่อกับผีน่ะสิ หมดสนุกแล้วกลับบ้านกันเถอะทับทิม ไอ้รักษ์มันมีสาวของมันอยู่แล้วมันไม่สนแกหรอก”
“จริงหรอคะพี่รักษ์”
“พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“หึ ทับทิมโกรธพี่รักษ์แล้ว” หญิงสาวตอบกลับน้ำเสียงสะบัด ทำไมเพื่อนของพี่ชายคนนี้ไม่สนใจเธอบ้างนะสองพี่น้องรีบพากันเดินผละห่างไปทันที พออยู่กันตามลำพังธีระก็เอ่ยเตือนน้องสาวด้วยความหวังดีอีกครั้งว่าผู้ชายอย่างอารักษ์ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนสักคน ทางเดียวที่น้องสาวของเขาจะรอดคือต้องให้อยู่ให้ห่างจากอารักษ์มากที่สุด
อารักษ์ปล่อยผ่านน้องสาวของเพื่อนเพราะวันนี้เขาเจอเหยื่อที่น่าสนใจมากกว่าต่างหาก เขาจ้องมองสาวร่างเล็กผมตรงสวยยาวลงมาถึงกลางหลังอย่างเปิดเผย ฝ่ายหญิงสาวก็เหมือนจะรู้สึกพึงใจในตัวเขาไม่ต่างกัน เขาไม่รอช้าเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมทั้งแนะนำตัวเองให้อีกฝ่ายรู้จัก นวิยาเพิ่งจะเคยออกมาท่องราตรีครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้น พอมีหนุ่มๆเข้าหาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่สนใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องยาหยี”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะพี่อารักษ์”
“เรียกว่าพี่รักษ์ก็พอครับหรือจะเรียกที่รักพี่ก็ไม่ติดครับ” อารักษ์รีบหยอดคำหวานสาวน้อยขี้อายตรงหน้าเพื่อทำคะแนน
“หู้ย อะไรกันคะวิกกี้มาเที่ยวที่นี่ตั้งหลายรอบไม่เห็นจะมีหนุ่มๆที่ไหนมาจีบเลย พอยัยยาหยีมาครั้งแรกก็มีหนุ่มมาจีบซะงั้นอ่ะ” วิกกี้บอกออกไปหน้างอ วันนี้หล่อนชวนเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันมาเลี้ยงฉลองก่อนที่จะบินลัดฟ้าไปแต่งงานที่อังกฤษ วิกกี้เปิดโอกาสให้อารักษ์ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนสาวเต็มที่เพราะอยากให้เพื่อนได้ออกมาเจอโลกกว้างบ้าง
“คืนนี้แกจะปล่อยยัยยาหยีไปกับผู้ชายคนนั้นจริงหรอ” เพื่อนสาวเอ่ยถามน้ำเสียงเป็นกังวล
“ยัยยาหยีก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนี่”
“ยัยยาหยีมันเมาต่างหากเล่า” ที่เพื่อนไม่ขัดขืนก็เพราะดื่มเครื่องดื่มเยอะเกินไปต่างหาก
“เอาหน่าๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ เผลอๆยัยยาหยีอาจจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนก็ได้นะ ถือว่าเปิดโอกาสให้เพื่อนไง” วิกกี้ที่นึกถึงแต่ความสนุกของตนโดยที่ไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของเพื่อนตั้งใจปล่อยผ่านเรื่องที่ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานพาเพื่อนขึ้นรถยนต์คันหรูจากไปต่อหน้า อารักษ์พยายามมอมเมาหญิงสาวด้วยคำพูดแสนหวาน เขาไม่มีทางที่จะขืนใจใครนอกจากว่าผู้หญิงตรงหน้าจะยินยอมพร้อมใจ สุดท้ายหญิงสาวก็ใจอ่อนยอมขึ้นเตียงกับเขาเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะจริงใจด้วย