CHAPTER 7 เล่นกับไฟ [โซน-เทรย์-อลิน-นารา]

2014 Words
“เทรย์” ร่างสูงที่จดจ่ออยู่กับตารางการแข่งขันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงเรียก “ว่าไงเฮีย” “มึงสอนอลินขับรถแข่งหน่อยสิ” “ทำไมเฮียไม่สอนเองล่ะ” ฝีมือการขับรถแข่งของโซนเข้าขั้นดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่ำชองเรื่องกลไกต่างๆ ของรถ เพราะรถแข่งแต่ละคันล้วนผ่านมือหัวหน้าทีมช่างจนมีสมรรถนะสูง เทรย์จึงแปลกใจว่าทำไมโซนถึงไม่สอนอลินด้วยตัวเอง “กูพึ่งได้โช๊คอัพตัวใหม่มา ยังไม่มีทีมไหนได้ลอง ทีมเราเป็นทีมแรก ว่าจะลองเปลี่ยน ถ้ายึดเกาะถนนดี ก็อาจใช้ในการแข่งที่จะถึงนี้เลย” การเพิ่มสมรรถนะของรถ โช๊คอัพดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเป็นส่วนสำคัญในเรื่องประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนโดยเฉพาะในช่วงย่านความเร็วสูงๆ หรือการเปลี่ยนเลนอย่างกระทันหัน “ถ้าเฮียไม่ว่าง ผมสอนอลินให้ก็ได้ ว่าแต่ทำไมจู่ๆ อลินถึงอยากขับรถแข่งขึ้นมา” “กูถามอลินเอง เห็นชอบดูแข่งรถ ตอนแรกกูก็ว่าจะสอนเอง แต่อลินบอกว่าเกรงใจ งานกูเยอะ แล้วพอดีกับมีอะไหล่เข้ามาใหม่ด้วย” “แล้วจะเริ่มวันไหน” “วันนี้” “วันนี้เลยเหรอเฮีย” “อืม วันนี้ก็ให้อลินนั่งไปกับมึงก่อนก็ได้ ไหนๆ วันนี้มึงก็ซ้อมเสร็จเร็ว หรือว่านัดหญิงไว้” “ก็นัดแหละ แต่ยังไม่ถึงเวลา” “อย่าบอกว่านัดมาที่สนาม” “Yes” “เรซควีน?” “Yes อยู่แถวนี้พอดีไง ผมไม่ใช้ห้องที่สนามหรอกน่า ว่าจะท่องราตรีสักหน่อย แล้วค่อยกลับไปกินที่ห้อง” “กูว่าได้กินกันตั้งแต่ในผับมากกว่า คนนี้นานว่ะ ติดใจเหรอวะ” “คนอย่างเทรย์เวอร์เนี่ยนะจะติดใจ ก็แค่ต้องเป็นเรซควีนให้ผมอีกสองแมตช์ก่อนไปฝรั่งเศสไง แล้วนี่อลินไปไหน” “เปลี่ยนชุด เดี๋ยวก็มา ฝากด้วยนะมึง กูไปลองอะไหล่ก่อน” “ได้เฮีย” “พี่เทรย์ช่วยอลินใส่หน่อยสิ” คล้อยหลังโซนเพียงครู่อลินในชุดนักแข่งรถก็ถือหมวกกันน็อคไปหาเทรย์ที่อยู่ในชุดนักแข่งรถเช่นเดียวกัน “วันนี้ลองนั่งไปกับพี่ก่อนแล้วกัน ถ้าอลินชอบความเร็วพี่ก็จะสอนขับ ว่าแต่ขับรถเป็นใช่ไหม” เทรย์ใส่หมวกกันน็อกให้กับอลิน พยายามไม่สบตากับดวงตาคู่งามที่เป็นประกายวิบวับ พยายามข่มใจไม่ให้หลงใหลไปกับกลิ่นหอมรวยระรินจากกายสาว “ไม่เป็นค่ะ” อลินยิ้มตอบชัดถ้อยชัดคำ “อ้าว” “พี่เทรย์ก็สอนอลินตั้งแต่ต้นเลยสิ สอนตั้งแต่ขับรถธรรมดาไปจนถึงรถแข่ง หรือว่าอลินรบกวนพี่เทรย์มากไป” “ให้พี่โซนสอนขับรถให้เป็นก่อนดีกว่าไหม” “ก็อลินอยากให้พี่เทรย์สอนนี่น่า พี่เทรย์สอนอลินขับรถหน่อยนะ นะคะๆ” “พร้อมเมื่อไรก็บอกพี่แล้วกัน” “พร้อมเสมอค่ะ หลังเลิกเรียน วันหยุด พี่เทรย์มารับอลินได้เลย” “พี่ไปรับ?” “ใช่ค่ะ เราอยู่คอนโดเดียวกันพี่เทรย์ไม่รู้เหรอคะ” เทรย์คือเหตุผลที่อลินเลือกอยู่คอนโดมิเนียมตามลำพังแทนที่จะอยู่คฤหาสน์ของแทนไท ด้วยรู้มาตลอดว่าเขาพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมนี้ “ก็รู้ แล้วตกลงวันนี้เอาไง” เทรย์พยักหน้าตกลง อลินยิ้มกว้างดีใจที่อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธตน “พี่เทรย์ขับ อลินนั่งข้างๆ ไงคะ ไปค่ะ อลินพร้อมแล้ว” อลินคล้องแขนของเทรย์ไปยังรถแข่งที่จอดอยู่ รถแข่งสีน้ำเงินรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วไม่ถึงครึ่งที่เคยใช้ในการแข่งรถยนต์ทางเรียบ ด้วยมีหญิงสาวร่างบอบบางนั่งมาด้วย อลินคอยชำเลืองมองนักแข่งรถฝีมือดีที่มีไหวพริบทักษะเฉพาะตัวการเข้าโค้ง การเหยียบเบรค เร่งแซง ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด ได้มาเห็นความจริงจัง มุ่งมั่นของเขาใกล้ๆ แบบนี้ทำให้ลบภาพหนุ่มเพลย์บอยไปชั่วขณะ “กลัวหรือเปล่า” เทรย์ช่วยถอดหมวกกันน็อคออกจากศีรษะเล็กหลังขับครบรอบสนาม “พี่เทรย์ขับด้วยความเร็วเท่านี้ไม่ต่างจากรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนเลยนะ” “พี่กลัวอลินจะหวาดเสียว” “คราวหน้าขอเร็วกว่านี้นะ เอาแบบที่พี่เทรย์ขับปกติเลย” “ชอบความเร้าใจก็ไม่บอก” “ค่ะ อลินชอบความเร้าใจ ชอบความท้าทาย อะไรที่ได้มายากๆ อลินยิ่งอยากได้” สายตามุ่งมั่นของอลินประสานเข้ากับสายตาคมกริบของเทรย์ “แต่อะไรที่มันเสี่ยง พี่ว่าอลินอย่าเสี่ยงดีกว่า” “รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง อลินคุยกับพี่บัวขอมาเป็นเรซควีนพี่เทรย์ในการแข่งครั้งนี้ด้วย” “ทำไมถึงอยากเป็นเรซควีนให้พี่” “พี่เทรย์ไม่รู้จริงๆ หรืออยากได้ยินจากปากอลินคะว่าเพราะอะไร” เทรย์เพ่งมองผู้หญิงตรงหน้าที่คิดจะท้าทายเขาอยู่ ไม่รู้หรืออย่างไรว่ากำลังเล่นกับไฟ “เทรย์ เทรย์รู้หรือยังว่าการแข่งครั้งนี้ป่านไม่ได้เป็นเรซควีนให้เทรย์แล้วนะ ป่านงงมากเลยที่จู่ๆ ก็โดนปลดทั้งที่วางตัวไว้แล้ว ต้องมีเด็กเส้นแน่ๆ อ้าวนี่ทีมมีนักแข่งหญิงด้วยเหรอคะ” สายป่านเดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามากอดรัดแขนแข็งแรง จงใจเบียดกระแซะให้หน้าอกใหญ่แนบชิดอย่างมีจริตจะก้าน ก่อนจะปลายตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายเทรย์อย่างไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น “นี่อลิน น้องพี่บัว อลิน นี่สายป่าน” เทรย์แนะนำหญิงสาวทั้งสอง อลินยิ้มให้เพียงนิดด้วยไม่ถูกชะตาอีกฝ่ายเช่นกัน และไม่ชอบที่มาถึงเนื้อถึงตัวเทรย์ราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจด้วยไม่อาจแสดงความเป็นเจ้าของ อยากแสดงความหึงหวงก็ไม่สามารถทำได้ จะต้องทนเจ็บอีกสักกี่ครั้งที่เห็นเขามีผู้หญิงนับไม่ถ้วนเข้ามาพัวพัน “อลิน…อลินดาหรือเปล่า” สายป่านทวนชื่อของอลิน คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นชื่อของคนที่จะมาทำหน้าที่เรซควีนของเทรย์แทนเธอ “ใช่ ฉันอลิน อลินดา” “เส้นใหญ่แบบนี้นี่เอง” แน่ชัดแล้วในความคิด สายป่านจ้องหน้าอลินเขม็ง “ใหญ่สิ ไม่งั้นจะได้มาเป็นเรซควีนแทนเธอเหรอ” อลินไม่เกรงกลัวสายตาของอีกฝ่าย ด้วยคิดว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด ถึงจะไม่ได้เป็นน้องภรรยาเจ้าของสนามแข่งรถแห่งนี้ เธอก็ไม่คิดกลัว คิดจะเล่นกับไฟ สิ่งที่ไหม้ต้องไม่ใช่เธอ ความเย้ยหยันส่งผ่านทางแววตาและสีหน้าอย่างไม่ปิดบัง “นัง…” เทรย์ปรามสายป่านผ่านแววตาที่แข็งกร้าว หญิงสาวรู้ดีว่าไม่สมควรต่อกรกับผู้ชายคนนี้ “พี่เทรย์ อลินอยากให้พี่เทรย์สอนขับรถตอนนี้เลย” ร่างสาวในชุดนักแข่งรถเข้าไปเกาะเกี่ยวแขนแกร่งอีกข้างของเทรย์ เสียงหวานออดอ้อน จงใจเบียดกายเข้าหา กลิ่นเส้นผมหอมกรุ่นแตะปลายจมูกโด่งคมสันช่างเย้ายวนใจ ดูเหมือนว่ากลิ่นกายหอมๆ ของอลินจะมีผลต่อนักแข่งรถเบอร์หนึ่งของทีม Travis Racing เสียเหลือเกิน “สายป่านกลับไปก่อน” เทรย์บอกเสียงเรียบ แต่แววตาแข็งขึงเด็ดขาด “แต่…ก็ได้ คืนนี้เทรย์ไปหาป่านที่ห้องนะ” “อืม” อลินมองหน้าเทรย์ที่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย สายป่านเหยียดยิ้มใส่อลินก่อนจะเขย่งปลายเท้าแล้วประทับจูบบนแก้มสาก “ป่านรอนะ” สายป่านเดินนวยนาดออกไป ยิ่งเห็นแววตาไม่พอใจของอลินก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเป็นต่อ เป็นถึงน้องภรรยาเจ้าของสนาม แต่เทรย์ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากไปกว่าเธอ “ไปกันหรือยังคะ อลินพร้อมแล้ว” เสียงหวานติดแง่งอน เทรย์เองก็รู้สึกได้ แต่เลือกที่จะนิ่งเฉย “พี่ว่านี่ก็เย็นมากแล้ว วันนี้เอาแค่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำหน้าที่อะไรก่อนดีกว่า” “ได้ค่ะ” “รถพี่ละกัน” “ไม่มีปัญหาค่ะ” อลินเดินตามเทรย์ไปที่รถซุปเปอร์คาร์ที่จอดอยู่ไม่ไกล เทรย์อธิบายส่วนต่างๆ ภายในรถ เขาสัมผัสได้ว่าอลินไม่ได้ตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูด เพราะเธอเอาแต่มองเสี้ยวหน้าหล่อเหลา เป็นเขาเองที่คอยหลบหลีก “ขอคีมหน่อย” โซนรับรู้ได้ว่ามีคนมายืนข้างๆ ก็นึกไปว่าเป็นช่างในทีม เขาบอกโดยไม่เงยหน้าพร้อมยื่นมือออกไป เพียงครู่เดียวคีมก็อยู่ในมือของเขา “ประแจ” ไม่ให้ช่างใหญ่ต้องรอนาน ประแจก็อยู่ในมือของเขา “เก่งขนาดนี้มาเป็นช่างประจำทีมเลยไหม” โซนไถล่กระดานรองนอนซ่อมรถออกมา นาราสามารถหยิบคีมได้ถูกชนิด และประแจถูกเบอร์โดยที่เขาไม่ต้องบอก “รู้ด้วยเหรอว่าเป็นหนู” “มือช่างที่ไหนจะนิ่มขนาดนี้” โซนจับมือของนาราขึ้นมาบีบเบาๆ สัมผัสถึงความเนียนนุ่ม “มือพี่โซนไง” นาราจิ้มลงไปบนฝ่ามือที่เลอะเปื้อนของโซน “นิ่มจริงดิ” โซนทาบฝามือทั้งสองข้างกับแก้มนุ่มของนารา จนใบหน้าเกลี้ยงเกลาเลอะคราบน้ำมัน “พี่โซนชอบแกล้ง ถ้าหนูเป็นสิวขึ้นมาจะทำไง” “พี่พาไปรักษาเอง แต่จะว่าไปพี่ไม่เคยเห็นหน้านารามีสิวเลยนะ หน้าใสยิ่งกว่ากระจกเสียอีก” “เว่อละ หน้าใครจะใสเหมือนกระจก แล้วเมื่อก่อนเจอกันปีละสี่ห้าครั้ง จะมาเห็นสิวหนูได้ไง แล้วพี่โซนรู้จักคอนซีลเลอร์ไหม” “รู้สิ ถึงพี่จะเป็นช่าง แต่เรื่องพวกนี้พี่ก็พอรู้บ้าง ไปล้างหน้ากัน” “ที่ทำให้หน้าหนูเลอะนี่จะหาเพื่อนไปล้างมือใช่ไหม” “ใช่แล้ว” โซนกอดคอคนที่เบ้หน้าใส่ไปยังอ่างล้างหน้า “หนูช่วย” นาราช่วยล้างมือที่เลอะเปื้อนของโซน โดยใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างคราบน้ำมันเครื่องโดยเฉพาะ ใช้แปรงขนนุ่มบรรจงถูตามซอกมือซอกเล็บจนสะอาดสะอ้าน ก่อนจะจัดการกับใบหน้าของตัวเอง โซนเตรียมผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าอ่อนนุ่มของนาราไว้เสมอ เพราะชอบแกล้งเธอเป็นประจำ ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กหญิงเฌอลัญจ์ “เรียนศิลปศาสตร์คิดไว้หรือยังว่าจบไปจะทำอะไร ฝันอยากเป็นอะไร หืม?” โซนใช้ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดซับหยดน้ำพราวบนใบหน้าให้นาราอย่างเบามือ “ฝันเหรอ? พี่โซนเป็นคนแรกเลยนะที่ถามหนู” ไม่เคยมีใครถามว่าเธอฝันอยากเป็นอะไร ด้วยต่างรู้ดีว่ามีธุรกิจของครอบครัวที่ต้องสานต่อ และแม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยตั้งคำถามนี้ “ไม่มีใครถามเลยจริงดิ” “จริงดิ พี่โซนก็รู้ว่าครอบครัวหนูเป็นนักธุรกิจ หนูจะไปทำอะไรได้นอกจากช่วยงานครอบครัว” “แต่คนเราก็ต้องมีสิ่งที่อยากทำ เหมือนบัวไง จบบริหาร แต่ชอบออกแบบ เปิดบริษัทตัวเองเลย” “หนูยังไม่รู้เลยว่าตัวเองฝันอยากเป็นอะไร” “งั้นไว้นาราเรียนจบ พี่จะถามนาราอีกครั้ง หน้าใสเหมือนเดิมละ หิวหรือยัง” “หิวแล้ว อยากกินข้าวร้านประจำพวกพี่โซน” “ได้สิ งั้นเราไปหาอลินกัน จะได้ชวนไอ้เทรย์ไปด้วย” ว่าแล้วทั้งสองคนก็ไปหาอลินกับเทรย์ และออกไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารตามสั่งข้างทาง ร้านประจำที่รสชาติจัดจ้านถูกปากของทุกคนที่ได้ลิ้มลอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD