ของมีคมปลายแหลมถูกจ้วงเข้าที่คอหอยและถูกกระชากออกอย่างแรง
กราดกลับมีมากกว่า
ใบหน้าหญิงใบ้แดงจัดแม้จะพยายามโกยอากาศเข้าแต่ก็ยากยิ่ง จนลมหายใจเกือบจะรวยริน ทว่ามือหนานั้นก็อ่อนกำลังลงตามด้วยเสียง ‘อ๊าก’ ของโจร เพราะมีดปลายแหลมถูกแทงจากด้านหลังทะลุเข้าที่หัวใจ เลือดสดๆ พวยพุ่งเข้าที่ใบหน้าอัปลักษณ์จนนางกรีดร้องแต่เสียงก็ไม่ได้เล็ดลอด หากทว่ามิใช่เวลานี้ เพราะร่างกายที่สั่นเทาพร้อมเสียงกรีดร้องลั่นทำให้เด็กน้อยข้างกายจำต้องเขย่าตัวนางให้ตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่ยากจะลืมเลือน
“ท่านน้า...ท่านน้า!” เสียงตกใจพร้อมมือน้อยเขย่าตัวสตรีที่ตนเรียกขาน เพื่อให้ตื่นจากความฝัน ไม่นานจื้อซิ่งเหมี่ยนลืมตาโพลงพร้อมเหงื่อกาฬโชกตัว ลมหายใจกระหืดกระหอบด้วยความเหนื่อยกับฝันร้ายที่เคยประสบมาเมื่อครั้งอดีตและยากจะลืมเลือน
เพราะฝันนั้นเป็นแค่บางส่วนที่นางเคยประสบพบเจอมา ไม่นานนักลมหายใจก็เข้าสู่ภาวะปกติก่อนที่นางจะหันไปหาดรุณีน้อยข้างกาย รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก"อาฮุ่ย"
"เจ้าค่ะท่านน้า ท่านน้าฝันร้ายอีกแล้วหรือเจ้าคะ" นางตอบรับพร้อมพยักหน้า มือลูบไล้ดวงหน้าจิ้มลิ้มของดรุณีนามฮุ่ยกวง
เด็กน้อยนี้เป็นเด็กเพียงคนเดียวที่นางอุ้มกลับมาจากโจรภูเขา เพียงเพราะคำขอร้องของสตรีงดงามนางหนึ่งที่จะขาดใจหลายครั้งหลายคราแต่เพราะห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียว ลมหายใจเฮือกสุดท้ายนางก็พยายามยื้อไว้เพื่อหวัง หวังจะให้บุตรสาวของตนรอด
"เจ้าคิดถึงท่านแม่เจ้าหรือไม่? " จู่ๆ นางเอ่ยถามขึ้นมา หากไม่เพราะนางฝัน คำถามนี้นางก็คงไม่เอ่ยถามขึ้นมาเป็นแน่
"ข้าคงคิดถึง แต่ว่า...ข้าจำหน้าท่านแม่ไม่ได้แล้ว" นั่นคือถ้อยคำอันไร้เดียงสา หากเป็นนางคงจะตอบเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะช่วงเวลานั้นฮุ่ยกวงยังเป็นเด็กน้อยเพียงขวบเศษ
เพราะมารดาถูกชายกักขฬะทับเรือนร่าง สาวน้อยผู้นี้มักจะถูกมารดาสั่งว่าให้หลับตาจนกว่ามารดาจะเรียก ซึ่งถ้าเป็นนางคงทำไม่ได้ นางจะจดจำทุกคนที่กล้าทำกับมารดาและคนที่นางรัก ไม่ว่าชาติไหนนางก็จะล้างแค้น หากล้างแค้นไม่ได้นางก็จะสาปแช่งให้พวกมันพินาศย่อยยับ
"มารดาเจ้าฝากให้ข้าดูแลและช่วยเจ้าตามหาบิดา หากบิดาของเจ้าเป็นบุรุษที่สตรีในจวนไขว่คว้าเพื่อจะเรียกร้องความรักจากเขา แต่เขาไม่เคยมอบความจริงใจให้กับสตรีนางใด เจ้ายังต้องการจะไปอยู่กับเขาไหมฮุ่ยกวง" เด็กน้อยฟังคำถามของสตรีที่เลี้ยงนางมา จนขมวดคิ้วมุ่น ไม่นานนางก็สายหน้า
"ไม่! ท่านน้า ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะอยู่กับท่านน้า ข้าไม่ต้องการรู้ว่าใครคือบิดาของข้า ท่านน้าอยู่ที่ไหน ข้าฮุ่ยกวงก็จะอยู่ที่นั่น"
"แม้ว่าที่นี่จะไม่เหมาะกับสตรีที่ดีหรือภายภาคหน้าจะไม่มีใครขอแต่งเจ้าไปเป็นภรรยา เจ้าก็จะอยู่หรือ? "
"เจ้าค่ะ! ที่นี่ไม่ได้น่ารังเกียจเพราะทุกคนล้วนดีกับข้ายิ่ง ข้ายังเคยได้ยินแขกคนหนึ่งพูด 'อยู่ที่นี่สบายใจกว่าอยู่จวนซะอีก' ในเมื่อที่นี่ดีเช่นนี้ ข้าจะขวนขวายไปไย" เด็กน้อยพยายามเลียนเสียงของชายคนนั้นให้จื้อซิ่งเหมี่ยนฟังพลางกล่าวต่อไปว่า
"ที่สำคัญข้าชอบพวกน้าๆ ทุกคนแต่งกายงดงามยามค่ำคืน รวมทั้งท่านน้ายังแสดงพิณและร่ายรำ หากข้าไปอยู่ที่อื่นไม่แน่โอกาสเช่นนี้ก็คงไม่ประสบอีกแน่เจ้าค่ะ" เด็กน้อยเอ่ยเสียงใสสร้างความเชื่อมั่นในใจจนทำให้จื้อซิ่งเหมี่ยนยิ้มออกมาได้
"ตอนนี้ยามใดแล้ว"
"ยามเฉินเจ้าค่ะ"
"หือ! ข้าตื่นสายถึงเพียงนี้เชียวหรือ สงสัยเมื่อคืนวาน ข้าคงดื่มมากไปหน่อย" นางนึกเรื่องเมื่อคืนที่มีงานเฉลิมฉลองในวัง หากไม่เป็นเพราะฝีมือของเฟิ่งไห่ ผู้เป็นคนรักของมารดาช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ จึงทำให้นางได้เข้าไปแสดงการร่ายรำต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ สิ่งที่นางต้องการมีด้วยกันสองประการ
ประการแรกคือ ใบหน้าของผู้เป็นบิดาของฮุ่ยกวง สามีของสตรีบ้านป่าที่ออกตามหาบิดาของบุตรีจนถูกโจรภูเขาจับไปบำเรอความใคร่จนกระทั่งทิ้งร่างไร้วิญญาณไม่มีทางหวนกลับมา และประการหลักคือศัตรูคู่แค้น นางอยากเห็นสีหน้าพวกคนใจทรามยามเห็นนางกลับมาผงาดอีกครั้งและนางพร้อมที่จะเอาคืนทั้งหมด
"ฮุ่ยกวง มีข่าวอะไรน่าสนใจบ้างไหมวันนี้? " นางลุกจากเตียง มือน้อยค่อยพับผ้าแพรสีชมพูอ่อนให้เรียบร้อย และเดินไปล้างหน้าที่อ่างทองเหลืองที่เตรียมไว้
"มีเจ้าค่ะ ข้าว่าคืนนี้ที่หอของเราคงมีลูกค้ามากแน่ๆ "
"ข้าก็หวังเช่นนั้น ไปเถอะ ข้าหิวแล้ว ไปทานมื้อเช้ากันเถอะ"
"เจ้าค่ะท่านน้า"