ก้าวแรก1

2164 Words
“ระวัง!” เสียงเด็กน้อยกระจ่างใสตะโกนเสียงดัง เมื่อเห็นเด็กผู้ชายไม่คุ้นหน้าแต่งกายงดงามเดินเข้ามาใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งวางกับดักไว้ไม่ไกลจากที่นางยืนอยู่ในสวนหลังจวน นางเห็นและแอบได้ยินว่าหนิงไช่กวงบุตรชายเจ้าของโรงทอผ้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงแอบวางกับดักไว้เพื่อกลั่นแกล้งคน หากใครเหยียบโดนกับดักตาข่ายก็จะดีดตัวดึงผู้นั้นขึ้นยังต้นไม้ หาหนทางลงไม่ได้ต้องรอให้คนอื่นที่ผ่านมาเป็นผู้ลงมือช่วยเหลือ ชายแปลกหน้าอายุราวสิบขวบปีชะงักฝีเท้าหลังได้ยินเสียงเตือนของดรุณีน้อยวัยห้าหกปีร่างเล็กผอม ดวงตากลมโตสีผิวไม่ขาวดั่งชาวเมือง ออกจะค่อนไปทางคล้ำเสียมากกว่า แต่เหตุใดใบหน้านางถึงคงคล้ายกับอีกคนที่ชี้ทางเขามากัน “ท่านเดินอ้อมไปทางด้านโน้นตรงนี้มีกับดัก” นางถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกเสียมิได้ เมื่อเห็นผู้อื่นไม่ต้องประสบหายนะเพียงเพราะความคึกคะนองของเด็กน้อยที่กำลังฝึกหัดเป็นนักเลง และคาดว่าในภายหน้าความคิดนี้จะเป็นจริงเพราะเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันต่าง ยกย่องเขาเป็นหัวหน้า และตัวนางเองก็มักจะตกเป็นเหยื่อทั้งของ หนิงไช่กวงและน้องสาวต่างมารดาที่มีใบหน้าคล้ายกับตนเอง ต่างเพียงสีผิวที่อีกฝ่ายแลดูขาวผ่อง และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนอยู่เป็นประจำ “นางเด็กอัปลักษณ์ เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่มาวุ่นวายเรื่องของข้า” ไม่นานเสียงตวาดของหนิงไช่กวงดังมาทางด้านหลังของชายแปลกหน้า แม้เสียงนี้จะไม่ทำให้นางกลัวแต่ก็ทำให้เราตกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าเขาจะแอบซุ่มอยู่ไม่ไกล เขาเดินอ้อมชายแต่งกายดีมาหยุดตรงหน้านางและผลักดรุณีน้อยผิวคล้ำเต็มแรง จนล้มลงก้นคะมำกับพื้น บรรดาพวกพ้องวิ่งตามมาบางคนนั้นหอบหิ้วคันธนู และของเล่นแปลกตา แต่ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้น “หนิงไช่กวง!” เสียงตวาดกับของกู้หลันอวี้ที่ไม่ได้หวั่นเกรงเขาแต่อย่างใด ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจนัก และรู้สึกรังเกียจเด็กตรงหน้ามากยิ่งขึ้น เขาประจันหน้ากับเด็กที่ตัวเล็กและอ่อนแอกว่าตนพร้อมใช้นิ้วดันไปที่หน้าผากของนางด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์อย่างไม่ปิดบัง “อย่าแส่เรื่องของข้า เจ้านั่นลูกปีศาจ มารดามีมนตร์ดำใครๆ ต่างก็รู้กันทั่วแคว้น หึ! คิดจะส่งคนมาผูกด้ายแดงกับน้องหรูอวี้ของข้าหรือ อย่าฝันไปหน่อยเลย ไม่แน่ว่าตำแหน่งอ๋องที่ได้มาคงมาจากมนตร์ดำของมารดาทำไว้เสียกระมัง อย่างลูกปีศาจต้องเหมาะกับเด็กอัปลักษณ์อย่างเจ้า หนึ่งคนอัปลักษณ์ อีกหนึ่งก็... เชอะ! อย่าคิดผูกไมตรีกับว่าที่ภรรยาของข้าในอนาคต" ไม่รู้ว่าหนิงไช่กวงกินดีหมีมาจากไหนถึงกล้าเอ่ยวาจาจาบจ้วงเช่นนี้ ทั้งถ้อยคำปรามาส กอปรกับใบหน้าที่เหยียดหยามทำให้ท่านอ๋องน้อยผู้มาเยือนจวนตระกูลกู้ครั้งแรกถึงกับชะงักงัน ใบหน้าชา เขาทำหน้าถมึงทึงไม่สนใจว่าบุรุษที่เขาบริภาษไปจะมีตำแหน่งอะไร จะใหญ่โตเพียงใดแต่เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ และที่เขารู้มามีเบื้องสูงคอยหนุนหลังเขาหรือจะกลัวเกรง ยิ่งเด็กน้อยตรงหน้าจะพ้นตำแหน่งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เท่าที่รู้ก็คงไม่นานแม้กระทั่งองครักษ์ประจำกายยังไม่เห็นติดตามมา "ทำไม? มองหน้าข้า หรือไม่พอใจ" คนพาลย่อมหาเรื่องผู้อื่นเสมอ กู้หลันอวี้ได้แต่นำตัวเองเข้ามาขวางทางสายตาและจ้องตาอีกฝ่ายกลับไปอย่างท้าทาย นางได้ยินว่าจะมีอ๋องท่านหนึ่งมาที่จวน หากนางปล่อยให้ หนิงไช่กวงกลั่นแกล้งบุรุษผู้นี้ ท่านพ่อต้องโดนอาญาเป็นแน่ นางแบ่งสายตามองดูด้านหลังเห็นว่าคนของหนิงไช่กวงเริ่มวางท่าเป็นนักเลงโตเหมือนนายของตน ลำพังตัวนางก็สู้ไม่ได้ นางรีบคลำมือท่านอ๋องน้อยที่ไม่รู้นามจากด้านหลัง เมื่อคว้ามือเขาได้แล้วจึงพาเขาวิ่งเพื่อไปซ่อนตัวยังที่ประจำของนาง อ๋องน้อยหน้าตางดงามขมวดคิ้วสงสัย แต่ที่แน่ๆ เขาสงสัยว่าเหตุใดตนต้องวิ่งตามเด็กน้อยที่แต่งตัวราวสาวใช้คนนี้ด้วย ทั้งสองวิ่งจนมาถึงที่ซ่อนดรุณีน้อยนางนั้นก็พาเขาก้มศีรษะเพื่อไม่ให้ใครได้เห็นเขา "ท่านซ่อนอยู่ตรงนี้นะ พวกนั้นเป็นพวกไม่ดี อีกสักพักท่านค่อยออกมา อย่าให้พวกนั้นจับได้เด็ดขาด ข้าช่วยท่านได้แค่นี้" นางเตรียมจะลุกจากไปแต่เขาจับข้อมือนางไว้อย่างสงสัยและเอ่ยถาม "นี่มันเรื่องอะไรกัน ข้างงไปหมดแล้ว" "ท่านเป็นอ๋องไม่ใช่หรือ หนิงไช่กวงรู้ว่าท่านจะมา ข้าช่วยท่านได้แค่นี้ หากวันหน้าข้าเดือดร้อนท่านค่อยตอบแทนข้าก็แล้วกัน" นางกล่าวจบก็รีบวิ่งไปอีกทางเหมือนล่อให้พวกของหนิงไช่กวงที่วิ่งตามไปทางอื่น เพื่อจะไม่รู้ที่ซ่อนของตนที่บัดนี้กลายเป็นที่ซ่อนของคนอื่นเสียแล้ว ราวหนึ่งเค่อที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน แม้จะสงสัยในใจยากที่จะหาคำตอบ แต่ก็ถึงเวลาที่เขาควรจะออกจากที่ซ่อน เขาหยัดกายลุกขึ้นออกจากตรงนั้น เพื่อกลับไปรอคนของเขาจะได้กลับจวนอ๋องด้วยกันเสียที แต่ไม่คิดว่าเด็กน้อยที่เพิ่งจะช่วยเขากลับโดนกลุ่มบุรุษกลั่นแกล้ง เพราะเขาจับจากน้ำเสียงหัวเราะชอบใจของเหล่าเด็กน้อยรุ่นราวคราวเดียวกับตนในระยะไม่ไกลนัก เขารู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ดูจะไม่ยุติธรรมนัก แม้จะยังเด็กแต่นี่ก็ไม่สมควร สองขาก้าวเดินไปตามเสียงที่ดังแว่วมาด้วยความเร็วจนแทบจะเรียกว่าเขาวิ่งแทนการเดิน "นอกจากจะตัวดำอัปลักษณ์ ชาตินี้จะแต่งให้ใครได้" เสียง หนิงไช่กวงดังลั่น สะใจที่ตนเองได้ชำระความกู้หลันอวี้โทษฐานที่ยื่นมือเข้ามาสอดเรื่องของเขา หนิงไช่กวงสั่งให้คนจับตัวนางและป้ายสีชาดที่เขาสั่งให้คนหยิบมาให้นำมาทายังใบหน้ากู้หลันอวี้อย่างครื้นเครง หากแต่ต้องสงบลงเมื่อมีเสียงเด็กอีกคนเอ่ยขึ้นทำลายความคึกคะนองของเขา "แต่ข้าได้ยินมาว่านางชอบพี่ใหญ่นะ" "เจ้าว่าอะไรนะ? " เหมือนหนิงไช่กวงได้ยินไม่ถนัด จึงหันไปมองเจ้าของเสียงเห็นเด็กน้อยพยักหน้ายืนยันคำพูด "ข้าไม่ได้ชอบเจ้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะหนิงไช่กวง ไม่เช่นนั้นข้าจะฟ้องท่านพ่อ" นางรู้สึกหวาดหวั่นเหมือนว่าการกลั่นแกล้งจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากไม่เพราะกู้หรูอวี้ที่มักสร้างเรื่อง โป้ปดผู้อื่นว่านางกลั่นแกล้งน้องสาวต่างมารดา นางก็คงไม่ต้องประสบพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ทุกครั้ง "เจ้าไม่มีสิทธิ์มาชอบข้า ส่วนเจ้าจะฟ้องท่านลุงก็ก็ตามใจเพราะถึงอย่างไรท่านลุงก็ไม่เคยกล่าวโทษข้า หากจะเอาผิดจริงก็เอาผิดข้าไปนานแล้ว" เมื่อพูดจบเขาหันไปทางเด็กอีกคน "เอาออกมา" สิ้นเสียงเด็กคนนั้นคล้ายจะไม่ฟังคำสั่ง แต่หนิงไช่กวงไม่สนใจกลับเดินตรงไปหาเด็กน้อยคนนั้นคว้าบางอย่างในถุงย่ามออกมา "เดี๋ยวคุณชาย! ข้าน้อยว่ามันจะรุนแรงเกินไปนะคุณชาย หาก..." เด็กน้อยหน้าซีดพยายามเอ่ยห้าม เพราะมือที่ถือคือคราดเหล็กไร้ด้ามที่พวกเขาแอบขโมยมา ถึงไม่คมแต่ก็สามารถทำให้เลือดตกยางออกได้ กู้หลันอวี้มองดูใบหน้าซีดขาว รู้สึกกลัวจนลนลานเพราะครั้งนี้ หนิงไช่กวงแกล้งนางเกินไปแล้ว "ข้าก็แค่เอามาขู่ ไม่คิดที่จะทำจริงหรอก คราดนี้ก็ไม่คมเสียหน่อย" เขาพูดอย่างลำพองใจแต่ไฉนเด็กน้อยจะไม่หวาดกลัวหากจะมีใครยื่นของมีคมมาข่มขู่ตรงหน้า ด้วยความตื่นกลัวนางยิ่งสะบัดตัว เท้าถีบพื้นดินเป็นพัลวัน แต่ก็ถูกคนของหนิงไช่กวงกดไว้ ยิ่งนางสะบัดตัวและร้องโวยวายหนิงไช่กวงยิ่งหงุดหงิด ทำให้มือที่ถือคราดเหล็กควรจะนิ่งกลับสั่นตอนที่เข้ามาใกล้หวังขู่ให้นางเงียบ ทว่าเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อปลายคราดตวัดขึ้นโดนอกข้างหนึ่งของกู้หลันอวี้เป็นทางยาว จนนางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ทำให้คนที่จับตัวนางไว้รีบปล่อยและทำสีหน้าไม่ถูก มองผู้เป็นหัวหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อเพราะเริ่มเห็นหยุดเลือดซึมออกมาทางเสื้อสีเขียวอ่อนที่นางสวมใส่แล้ว "นั่นพวกเจ้าทำอะไรนางน่ะ" เสียงตะโกนพร้อมวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ด้วยความที่กลัวแต่ไม่ยอมเสียหน้า หนิงไช่กวงไม่เอ่ยปากตอบใครทั้งนั้น เพียงพลั้งปากพูดออกมา "จำไว้นี่แค่ตักเตือน หากเจ้าคิดอยากเคียงข้างกับข้าจะโดนมากกว่านี้ ทุกคนกลับ" เขารีบเดินออกจากตรงนั้นก่อนใครเพื่อน ทิ้งคราดไว้กับพื้น หากใครถามก็บอกว่านางเป็นคนทำเองเขาและพวกพ้องไม่รู้ไม่เห็น จ้าวยวี่เสียง บุรุษที่ได้รับการช่วยเหลือจากกู้หลันอวี้ไม่สนใจพวกเด็กอันธพาลพวกนั้น เดินตรงมาประคองเด็กน้อยอายุน้อยกว่าตน เพราะเห็นนางนั่งกุมหน้าอก "ข้าเจ็บหน้าอก" ดรุณีน้อยร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด พอเงยหน้าก็เห็นบิดาเดินมาทางนี้เข้าพอดี "ท่านพ่อ ข้าเจ็บหน้าอก หนิงไช่กวง เขา..." บิดามองบุตรีที่เขาไม่ชอบนัก แต่ก็ไม่ตอบคำใดๆ ของบุตรสาว เพียงยิ้มแล้วส่งสายตาไปยังเด็กชายหน้าตาดีที่เริ่มจะโตเป็นหนุ่ม "ท่านอ๋อง อยู่นี่เอง ข้าน้อยกำลังส่งคนตามหาพอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ" "ใต้เท้ากู้ ท่านจะไม่ถามบุตรีเจ้าสักนิดหรือว่านางโดนอะไรมา" กู้ไต้ฟู่มองดูบุตรีอีกครั้งแอบลอบถอนหายใจ "ไม่มีอะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ เด็กๆ เล่นกัน คงทะเลาะกันและแยกย้ายเหมือนอย่างทุกครั้งท่านอ๋องอย่าได้ถือสาเลยพ่ะย่ะค่ะ" คำพูดที่ไม่ใส่ใจเอ่ยออกมา และหันไปยังกู้หลันอวี้ "เจ้ากลับเรือนไปให้มารดาทำแผลไป ชอบเล่นพิเรนอย่างกับเด็กผู้ชาย เจ็บตัวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ครั้งนี้ทำให้ท่านอ๋องต้องกังวลใจ รีบไปได้แล้ว" ผู้เป็นบิดาไล่บุตรีที่เจ็บจนเลือดซึมออกมาให้กลับเรือนไป แล้วรีบต้อนรับจ้าวยวี่เสียง ตำแหน่งชินอ๋องที่จะมาคุยศึกษาเรื่องกิจการค้าเกลือให้เข้าไปยังเรือนรับรอง "ข้าว่าเจ้าสั่งให้คนพานางไปเถอะ เลือดออกเยอะเพียงนี้" "พ่ะย่ะค่ะ" เขารีบรับปากทันที ดีที่สาวใช้ประจำตัวนางมาพอดี "คุณหนู!" สายตาตกใจระคนหวาดกลัวของเนี่ยนจือสาวใช้ข้างกาย นางอาจถูกลงโทษที่ปล่อยให้นายของตนเลือดตกยางออกเช่นนี้ นางรีบวิ่งเข้ามารับความผิดมหันต์ครั้งนี้ "ยังไม่รีบพาคุณหนูของเจ้าไปทำแผลอีก มัวแต่จะมาคุกเข่าแล้วนายเจ้าจะหายไหม!" นายท่านใหญ่ตระกูลกู้ตวาดลั่น "เจ้า...เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้" บ่าวที่อายุไล่เลี่ยกับนางรีบกระวีกระวาดพาคุณหนูของตนไปทำแผล นางเผลอเงยหน้าสบตาเข้านายท่านของจวนที่จ้องมองเขม็งและส่งสายตาคมกริบมาให้ ทั้งยังไม่หลงลืมที่จะส่งสายตาไม่พอใจเผื่อแผ่ให้บุตรสาวอีกด้วย จ้าวยวี่เสียงแม้จะมีตำแหน่งอ๋องแต่นั่นก็แค่ตำแหน่งที่ถูกลดขั้นลงมาจากรัชทายาท ไม่รู้ว่าต่อไปจะเหลือตำแหน่งใดเพราะอำนาจนั้นหามีไม่ เขายังเป็นเพียงเด็กน้อยที่มาตามคำสั่งของคนในวัง ยากจะขอร้องหรือใช้อำนาจของราชนิกุล แม้กระทั่งเด็กเมื่อครู่ยังเหยียดหยามเขาได้ถึงเพียงนี้ แล้วผู้ใหญ่ทั่วแคว้นจะคิดกับเขาอย่างไร?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD