“...ไอ้เลว!”
“เลวก็ผัวมึง หุบปากแล้วอยู่นิ่ง ๆ อย่าพูดให้กูโมโหไปมากกว่านี้ไม่งั้นกูจะจอดรถแล้วจับมึงเอาข้างถนนเลยคอยดู!”
ทำไมต้องเกิดมาเจอคนอัปรีย์เจอเรื่องราวอัปรีย์แบบนี้ด้วยวีนัส ชีวิตเคยไปทำเรื่องชั่วมาตอนไหนถึงต้องมีชีวิตอยู่เหมือนคนที่ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด!
ไม่มีเสียงพูดคุยไม่มีเสียงอะไรทั้งนั้นนอกจากเสียงเครื่องยนต์ของรถหรูที่ดังกระหึ่มจนดังเข้ามาให้ได้ยินถึงด้านในรถ
เขาพาไปที่เดิมนั่นแหละ ห้องที่ไม่ใช่หอของฉัน ไม่ใช่คอนโดของเขาแต่เป็นที่ ๆ เขาแอบซื้อเก็บไว้เพื่อเอาฉันมาทำระยำแล้วฉันก็เหมือนจะต้องอยู่มันเกือบทุกวัน หอที่เช่าไว้ก็แค่เอาไว้บังหน้าไม่ให้ใครรู้ว่าฉันกับเขาแอบมามีอะไรกันที่นี่!
เอี๊ยด!!!
“เบรกทำบ้าอะไรขนาดนี้ ถ้าชนคนอื่นขึ้นมาจะทำยังไง” ฉันหันไปว่าเพราะอยู่ ๆ เขาก็เบรกกะทันหัน
“ไม่ได้โง่ขนาดเบรกไม่ดูส้นตีนอะไร”
“...”
ตุบ!
“อะไร” ฉันถามเพราะเขาโยนกระเป๋าเงินมาที่ตักโดยที่ไม่หันมามองหน้าฉัน
“ลงไปซื้อเหล้ากับบุหรี่ให้หน่อย”
“ทำไมต้องสูบ”
“ทำไมต้องเสือก”
“ก็เหม็นไง”
“เหม็น?”
“เออ” ถามแล้วมาทำหน้ากวนส้นตีน
“หึ ๆๆ สุดท้ายก็ดูดปากไม่ปล่อยอยู่ดีไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้สารเลว!
“ลงไปเร็ว ๆ อย่าช้า อยากรีบกลับห้อง...เงี่ยX”
“ไอ้อุบาทว์!” ฉันบอกแล้วไงว่าเกลียดคำพูดคำจาของเขามาก เพราะแต่ละคำที่เขาใช้พูดกับฉันมันโคตรต่ำเลย
สุดท้ายก็ต้องลงไปซื้อเหล้ากับบุหรี่ให้ ทุเรศจริง ๆ ใส่ชุดนักศึกษาแต่ต้องไปซื้อเหล้ากับบุหรี่ อาจจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่สำหรับฉันแน่นอนเพราะฉันอยากให้เกียรติชุดที่ใส่กับสถาบันที่เรียน
“กว่าจะมาช้าฉิบหาย” หายเข้าไปซื้อของที่สั่งแค่ห้านาทีแต่คนมันอยากหาเรื่องนี่เนอะ
“ทีหลังไปซื้อเอง”
“มีเมียก็ต้องใช้เมียสิวะ ไม่ใช้จะมีไว้ทำห่าอะไร หรือจะให้มีไว้เอาอย่างเดียว”
“...ขับรถสักที”
“หึ ๆๆ” ฉันเกลียดเขา เกลียดยันเงายิ่งเขาหัวเราะมีความสุขฉันก็ยิ่งเกลียด!
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องที่ฉันมองว่ามันสวยมาก แต่มันก็โคตรไม่น่าอยู่มากเหมือนกัน
“นายน่าจะเปลี่ยนใจไปหาแฟนนายนะ” พอเดินเข้ามาในห้องฉันก็ลองพูดเลยทำให้คนที่หิ้วถุงเหล้าไปที่ครัวเปลี่ยนทิศทางเป็นเดินไปทิ้งตัวที่โซฟาแล้วเปิดเหล้ายกมันกระดกเข้าปากทันที
“นายทำบ้าอะไรของนาย ได้ยินที่ฉันบอกบ้างไหมเทมป์” ฉันถามเพราะเขาเอาแต่กระดกมันเพียว ๆ แล้วก็จ้องมองฉัน กระดกเป็นน้ำเปล่าอยู่นานจนสุดท้ายก็หายไปเกือบครึ่งขวด
“เอาไฟแช็คมา”
“อย่ามาสูบในห้องนะเทมป์”
“ก็ไปเอาไฟแช็คมาสิวะกูจะได้เอาไปสูบข้างนอก กูบอกเหรอว่ากูจะเอาไฟแช็คมาจุดสูบตรงนี้”
“...” แม่งเอ้ย!
ฉันเดินไปหยิบไฟแช็คมาให้ เขาคว้าไปจากมือด้วยความรุนแรงแล้วก็ลุกขึ้นเดินหุนหันออกไปที่ระเบียง เป็นบ้าเป็นห่าอะไรก็ไม่รู้ประสาทจะกินหัวฉันแล้ว
ฉันตามอารมณ์ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทัน ตั้งแต่โตขึ้นมาฉันไม่เคยตามอารมณ์เขาทันเลยทั้งที่ตอนเด็กเราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอด
ยิ่งนับตั้งแต่วันที่เขาบุกเข้าไปทำเรื่องระยำกับฉันในห้องที่บ้านของเขาเอง ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอยู่ และเขาต้องการอะไร
ช่างเถอะวี พยายามอย่าหาคำตอบหรือสนใจให้มากเลย มาถึงห้องแล้วไม่มายุ่งกับแกก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ
ฉันเลิกให้ความสนใจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าความเลวในห้องนี้ก่อนจะเดินไปที่ครัว ทำอะไรกินดีกว่า อย่างน้อยเรื่องดีในห้องนี้ก็คือมีของให้ทำกินครบทุกอย่างที่ต้องการ
“วี วี! วีนัส!”
“...เฮ้อ! อะไร”
“หายหัวไปไหนวะ!” เริ่มเมาแล้วแน่นอน ฉันไปที่ครัวไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็นจะตายยังไงต่อ แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเสียงเขาก็ตะโกนโวยวายจนได้
“มีอะไร”
“ไปทำห่าอะไรในครัวทำไมไม่มานั่งด้วยกัน”
“ไม่ต้องถาม กินเหล้าของนายไปไม่ต้องอ้าปากมาพูดอะไรทั้งนั้น” ฉันมองเขากับขวดเหล้าที่ตอนนี้เหล้าหายไปเกือบหมดขวดด้วยความสมเพช
“นั่นปาก?”
“จะดื่มทำไมวะเทมป์ นายเป็นอะไรของนาย คิดมากเรื่องแฟนนายเหรอ มีปัญหากันก็กลับไปคุยกันสิ มาวุ่นวายให้คนอื่นลำบากไปด้วยทำไม แล้วเดี๋ยวเมามากกว่านี้ก็ลำบากฉันอีก มีปัญหาอะไรก็ไปเคลียร์กันไป ไปไม่ไหวโทรไปเคลียร์ก็ยังดี”
“ไล่?” เขาหรี่ตามองก่อนจะถามออกมาสั้น ๆ แต่ทั้งน้ำเสียงและสายตาเอาเรื่องน่าดู
“ไม่ได้ไล่ แต่ฉันว่านายกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ แล้วมันก็ต้องเกี่ยวกับเรื่องที่นายทะเลาะกับซอนย่าวันนี้แน่นอน กลับไปเคลียร์กับเมียนายเถอะเทมป์จะมานั่งเมาเพื่ออะไรมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”
“หุบปาก! หุบปากซะแล้วก็อย่ากล้ามาไล่กู! ถ้ามึงก็เป็นเมียกูเหมือนกันก็อย่าเสือกมาไล่กูไปหาคนอื่นอีกวีนัสไม่งั้นกูจะเอามึงให้คลานเลยคอยดู!”