Chapter.5
พิมรภาจมอยู่กับความเศร้านานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจยอมรับความจริงที่ประสบ เธอพยุงร่างอันบอบช้ำเดินเข้าห้องน้ำชำระคราบแห่งความโหดร้ายที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง
มือสั่นเทาหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่เพื่อไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานไว้ก่อนจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นภายหลัง
ธานนท์ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มาพร้อมกับกุหลาบหนึ่งดอกเพื่อแสดงตัวว่าแอบชอบเธออย่างเปิดเผย หนำซ้ำที่พักของเขาอยู่ใกล้กันกับเธอจึงคอยมองเวลาที่หญิงสาวเดินผ่านไปมาตลอด แต่วันนี้เธอดูผิดปกติท่าทีเดินเหินดูอ่อนเพลียสีหน้าไม่สู้ดีเหมือนคนเป็นไข้ คนที่แอบมองไกลๆเป็นห่วงเป็นใยเธอถึงขั้นนำกับข้าวไปวางไว้หน้าประตูห้องเผื่อเธอหิวแล้วจะออกไปหาอะไรทานจะได้สะดวก โดยที่เจ้าของห้องยังนอนขดตัวหนาวสั่นเพราะพิษไข้
“พ่อจ๋าแม่จ๋าหนูอยากกลับบ้าน”
เธอพร่ำเพ้อหาพ่อหมูแม่อ้อยในวันที่ชีวิตไม่มีอะไรราบรื่นสักอย่าง สภาพร่างกายเจ็บปวดไม่พอ จิตใจยังบอบช้ำอย่างหนัก
‘ขอให้มันเป็นเพียงความฝันด้วยเถอะได้โปรด’
เธอย่ำแย่มากจนต้องลาป่วยเป็นเวลาสามวันเพื่อรักษาตัวให้หาย แต่ในความโชคร้ายมันยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่มีรสรินและธานนท์แวะเวียนมาเช็ดตัวเฝ้าไข้พร้อมหาอาหารหยูกยามาให้เธอตลอด แม้ว่าทั้งสองจะสงสัยในรอยที่เกิดขึ้นนอกร่มผ้าอยู่บ้างแต่เรื่องแบบนี้ก็ต้องรอให้เธอเป็นฝ่ายบอกเองไม่มีใครกล้าถามหรอก
ฟากฝั่งตัวการที่ทำร้ายเธอนั้นก็กำลังวุ่นอยู่กับเอกสารกองโตมากมาย เวลาสามวันหลังกลับจากญี่ปุ่นเขาแทบจะไม่มีเวลานอนพักเต็มอิ่ม ทั้งปัญหาการฟื้นฟูโกดังเก็บของที่โดนระเบิดและความวุ่นวายในคาสิโนของเขาอีกหลายแห่งทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นใดนอกจากงานกองโตตรงหน้านี้เลย
แม้แต่เรื่องที่เขาก่อไว้กับพิมรภา หญิงสาวบริสุทธิ์แต่กลับถูกพรากความสาว และยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง
“นายครับ ร็อบมาแล้วครับ” เขาสั่งให้ลูกน้องเรียกร็อบมาหาเขาเพื่อปรึกษาเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ
ร็อบ หรือ โรเบิร์ต ผู้รอบรู้ทุกเรื่องทั้งข่าวสารบ้านเมือง จิตวิทยา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและเป็นที่ปรึกษาแนวทางของธุรกิจต่างๆได้ดีเยี่ยม
“เชิญนั่ง ร็อบ เอาล่ะเข้าเรื่องเลยนะ ผมอยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องห่าเหวนี้ได้ยังไง”
เขาใช้เวลาอยู่กับที่ปรึกษาอายุคราวพ่อที่จงรักภักดีต่อองค์กรนี้นานหลายชั่วโมง ทั้งหาข้อมูลต่างๆมาประกอบกับเหตุผลกระทั่งได้ข้อสรุปว่าคนที่ประกาศศัตรูของเขาคือ กาสปาโร่ มาเฟียรุ่นราวคราวพ่อ ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจคอยชี้แนะอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เพราะตอนนี้ราฟาเอลกลุ่มธุรกิจร่วมนามว่าDark กำลังเฟื่องฟูไม่แปลกเลยที่วงการสีเทาจะมีศัตรูคิดจะแก่งแย่งอำนาจกันไปมาอย่างไม่จบสิ้น
“นายครับ” เดฟและโทนี่ เดินแกมวิ่งหน้าตาตื่น เพื่อมาแจ้งเหตุร้ายกับเจ้านาย
“อะไร ว่ามา”
“มีคนกร่าง วิ่งเข้าไปในคาสิโนสาขาใหญ่เพื่อยิงคนในบ่อนของเราครับ”
“ชิบหายละกู แล้วตอนนี้?”
“จับมันไปเค้นถามความจริงแล้วครับมันยังไม่ยอมบอกอะไร”
“แล้วความเสียหาย?”
“มีคนโดนมันยิงกราดไป 20 กว่าราย ตาย9 ที่เหลือบาดเจ็บครับ มันแฝงตัวเป็นคนของเราทางนั้นจึงไม่สงสัยอะไรครับ”
“หาข้อมูลครอบครัวของมันให้ครบ กดดันให้มันบอกความจริงแล้วส่งมันลงนรกซะ!!!”
“ครับ”
“ทุกอย่างทุกที่เพิ่มความปลอดภัย ระดับ3 เข้าใจมั้ย”
“ครับนาย”
“ตอนนี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันนักหนาวะ”
เขาเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้เดินวนไปมาด้วยความโกรธแค้น ใครที่มันคิดจะเป็นศัตรูกับเขา...พวกมันต้องโดนกำจัด!!
ราฟาเอลใช้เวลาสะสางเอาคืนศัตรูตัวฉกาจในเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์เพราะมีกลุ่มเพื่อนสนิทอย่าง กลุ่มดาร์ก คอยซัพพอร์ตมันจึงดูง่าย
การมีเพื่อนสนิทที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมธุรกิจจึงได้เปรียบมากและยากที่ใครจะกล้าต่อกรแบบโจ่งแจ้ง การเอาคืนกาสปาโร่อาจจะทำให้เรื่องราวสงบไปซักระยะ แต่แน่นอนว่ามันคงดุเดือดขึ้นเรื่อยๆแน่
ราฟาเอลกำลังนั่งทำงานเซ็นเอกสารกองโตบนหน้าอย่าตึงเครียด
ก๊อกๆๆ
“นายครับ ที่ผ่อนคลายชั้นดีมาแล้วครับ”
“เชิญเธอเข้ามา” และแน่นอนกิจกรรมยามว่างและเวลาแก้เครียดของเขาคือสาวๆ และผู้หญิงคนนั้นคือ โมนิก้า
“สวัสดีค่ะคุณดาเรนเต้” ร่างเซ็กซี่กับชุดเดรสรัดรูปที่เห็นชัดทุกสัดส่วนหน้าอกกลมแทบล้นและจุกนั่นที่เธอจงใจให้เห็นว่าเธอ ...ไม่สวมบราเชียร์
ส่วนด้านล่างรัดจนเห็นโหนกนูนออกมา
เธอเดินตรงมายังเขา เงยหน้าเผยอริมฝีปากขึ้น
“อย่า ฉันจะไม่จูบ” เขาออกคำสั่งพร้อมชี้นิ้วลงมาตรงความเป็นชายเพื่อให้เธอเข้าใจ
โมนิก้ารีบพยักหน้าอย่างรู้งานแอบอดเสียดายไม่ได้ ที่ไม่ได้จูบปากเซ็กซี่ ...หากได้สัมผัสคงเร่าร้อนน่าดู
เขาปลดกางเกงออก โมนิก้าตาเหลือกลานเมื่อเห็นท่อนเอ็นขนาดเขื่องมันทั้งอวบและยาว หากจับยัดเข้ารูคงจะเสียวน่าดู เธอรีบดูดส่วนหัวให้เขาอย่างช่ำชองพร้อมใช้มือสาวรูด
“อ่าส์ อย่างนั้นแหละ ดูดแรงๆ อื้มส์” หน้าคมเข้มเหยเกเสียวสะท้านกับลีลาแสนเจนจัดของนางบำเรอสาว
“อูยย โมนิก้าทนไม่ไหวแล้วค่ะอยากโดนเสียบแล้ว” หล่อนพูดไปพร้อมขยี้เม็ดติ่งเพื่อเรียกน้ำสวาทจากร่อง
และก่อนจะยัดเข้ารูยังไม่ลืมทำตามคำสั่งของเขานั่นคือการสวมใส่ถุงยาง
“อูยยย ซี้ดดด”
โมนิก้านั่งขย่มรับแท่งบุรุษอวบใหญ่บนโซฟาหรูซึ่งเป็นห้องนอนที่เชื่อมต่อกับห้องทำงาน เธอหันหลังขย่มเป็นจังหวะเร่าร้อน จังหวะการเสียบเข้าร่องแต่ละทีมันช่างเสียวสะท้านและคับแน่นที่สุด
“อืม ทั้งหล่อทั้งใหญ่อย่างนี้ ซี้ดดด”
เขาเริ่มกระเด้าสวนกลับจ๊อกกี้สาว แล้วจับเธอยืนโก้งโค้ง แทงเข้าออกอย่างหนักหน่วงรุนแรง
“อ๊าเสียวรู ดุ้นใหญ่เหลือเกิน อ่าส์เสียว” เธอกรีดร้องส่งเสียงครางชื่นชมไม่ขาดปาก
ขณะโรมรันกับกับนางแบบสาวอยู่ๆก็มีภาพพิมรภา ขณะโดนเขาร่วมรักทับซ้อนขึ้นมา
..ภาพของหญิงสาวใบหน้าหวานที่กำลังส่ายไปมาพร้อมปลดปล่อยเสียงครางอย่างสุขสม
เขารีบผลักตัวโมนิก้าออก
“ว้าย”
นั่นสิ เขาลืมเธอได้อย่างไร ตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง?!
“คุณดาเรนเต้ อย่าทรมานฉัน ซี้ด” เธอว่าพร้อมบีบติ่งเสียวและใช้นิ้วทั้งสามของเธอแยงรูเข้าออก
“รีบๆมาดูดให้ฉันเสร็จ เร็วสิ”
เธอรีบทำตามอย่างงุนงงกับพฤติกรรมแสนแปลกประหลาดของมาเฟียหน้าหล่อคนนี้ หรือว่าเธอไม่น่าดึงดูดพอ?
“อืม ดี เลียหัวด้วย ... อาส์”
“ดูดแรงๆโมนิก้าฉันใกล้เสร็จละ” เขาสั่งพร้อมเร่งขยับเอวใส่ปากเธออย่างเร็ว
“โอ้วว ซี้ดด” น้ำกามขาวขุ่นพุ่งแตกใส่หน้าหล่อน
ดาเรนเต้ถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมเตรียมจะอาบน้ำ โมนิก้าเห็นหุ่นแซ่บนั่นจึงอดไม่ไหว เธอเดินไปอ้อนขอให้เขาร่วมรักกับเธออีก เพราะเธอยังไม่สุด
“คุณดาเรนเต้ อย่าทรมานโมนิก้าสิคะ นะๆๆช่วยโมนิก้าที”
“ออกไป เช็คเงินสดลูกน้องฉันรอจ่ายเธออยู่หน้าห้อง”
“เอ่อ..ค่ะ”
เธอไม่มีสิทธิ์จะงอแงอยู่แล้วถ้าขืนยังดึงดัน การหายสาปสูญคือจุดจบ..
ร่างล่ำสันยืนดูดบุหรี่นอกระเบียงในชุดคลุมสีขาวที่แสนจะหมิ่นเหม่ ใจเขาตอนนี้ทำไมต้องไปคิดถึงนังสารเลวนั่น ภาพความทรงจำของฟ้าใสรักคนรักลอยเข้ามาในหัวไปพร้อมๆกับใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาของพิมรภา
“โธ่เว้ยยย” เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“พิมรภา เธอมันแม่มด”
เขาก่นด่าหญิงสาวขณะเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนหาลูกน้อง
“ไอ้ชาติ กูมีงานให้มึงทำ”
....
“กูให้เวลามึงหนึ่งอาทิตย์ในการสืบประวัติ พิมรภา ฟ้าใส และ ไอ้พัฒน์มาให้กูแบบละเอียดยิบ”
นี่แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆสองคนมันทำให้หัวใจมาเฟียโหดกระตุกไหวได้ขนาดนี้เลยหรือ?
“ฟู่วส์”
.....................
“ไม่ ไม่ ยะ อย่า!”
ภาพชายร่างล่ำสันหนุ่มในฝันของเธอที่มีรอยสักบนแขน ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปปั้นสายตาสีแดงฉานเต็มไปด้วยความเดือดดาล
ใช่.. หุ่น ใบหน้า และรอยสักนั่น ที่คุ้นเคย เขากำลังเล็งปืนมาที่เธอ
ดาเรนเต้ ราฟาเอลโล
“อย่า ๆ!”
“พิม ตื่นๆ เธอแค่ฝัน พิม”
รสริน เขย่าตัวเพื่อนสาวให้ตื่นจากฝันร้าย เธอชักสงสัยแล้วว่าหล่อนไปเจอกับอะไรมาถึงได้ฝันร้ายอยู่ตลอดเช่นนี้
“รส เรากลัว” เธอผวาขึ้นโอบกอดเพื่อนด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
“มีอะไรบอกเราได้นะ”
“ไม่ ไม่มีอะไร”
เจะบอกใครได้เล่าว่าเธอโดนข่มขืน ไม่มี ไม่มีใครช่วยเธอได้แน่
เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยมองไม่เห็นหนทางอนาคตของตนเองแล้วตอนนี้ จมอยู่กับความทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจมาหลายวันจึงจำเป็นต้องลาออก จะหนีไปไหนก็คงไม่รอดพ้น เพราะเขาคนเดียว
“นั่งเหม่ออะไร หืม”
เธอสะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่อทานนท์โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ออกไปเดินเล่นข้างนอกกันวันนี้วันหยุดผมพอดี”
“พิมไม่ว่างหรอกค่ะ วันนี้พิมต้องไปหาสมัครงาน” เธอปฏิเสธพร้อมหยิบเอกสารต่างๆในมือเตรียมจะออกนอกห้อง
ทันใดมือใหญ่คว้าหมับที่ข้อมือเล็ก
“ป่ะ เดี๋ยวผมพาไป ไม่ต้องเกรงใจ” เธอรีบสลัดมือออกทันที เริ่มหวาดกลัวการถูกสัมผัสจากชายแปลกหน้าแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ความโหดร้ายที่ประสบมาทำให้เธอยังไม่พร้อมจะไว้ใจใครเลยจริงๆ
“โอเคๆ ผมจะไม่แตะต้องคุณอีก สัญญา”
ไม่ทันใดก็มีมือใหญ่ปริศนาคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของนนท์พร้อมกำปั้นชกใบหน้าเขาอย่างแรง
“อย่ายุ่งกับผู้หญิงของกู!!!”
“หยุดนะ ฉันไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับคนป่าเถื่อนแบบคุณ”
“เหอะ มึงเป็นใคร มายุ่งกะพิมทำไม กลับบ้านมึงไป” ทานนท์ตะคอกกลับชายต่างชาติหุ่นใหญ่กำยำใบหน้าคมสันอย่างไม่ยอมแพ้
“หนีเร็วนนท์”
เธอรีบดึงมือทนนท์วิ่งหนีไปให้เร็วที่สุด ขืนยังด่าเขาฉอดๆอยู่อย่างนี้อาจจะโดนดีก็เป็นได้ เพราะนนท์คงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
ราฟาเอล ยกมือห้ามปรามลูกน้องไว้แล้ว
“ปล่อยให้พวกมันเล่นซ่อนหาไปเถอะ แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง”
สายตาขุ่นมัวมองไปที่พิมรภาขณะจับมือไอ้หน้าจืดนั่น เขาสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ พ่นลมหายใจออกอย่างหงุดหงิด
"กล้ามาก...พิมรภา"
พิมรภาและทานนท์วิ่งมาไกลเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้เขาและเธอกำลังอยู่ในดงหญ้าสูงทึบแทบบังทั้งสองจนมิด
“พอก่อนเหอะพิม มันคงไม่ตามมาแล้วล่ะ”
เขาสลัดมือเล็กออกพลางยืนพักหายใจหายคอ
“นนท์ฟังพิมนะ อย่าอวดเก่งกับคนแบบนั้น ..พวกมันเอาจริง” เธอเน้นย้ำ
“เหอะ ผมไม่กลัวซะอย่างใครจะทำไม” เขาเถียงอย่างดื้อรั้น
แปะๆๆ
เสียงปรบมือจากมัจจุราชร้ายที่เดินไล่หลังมาอย่างใจเย็นทำเอาเธอเข่าอ่อนแทบทรุด
จะหนีไปทางไหนก็ไม่ได้เพราะพวกลูกน้องเขาประมาณสิบคนล้อมไว้หมดแล้ว
“เล่นซ่อนหากันพอรึยังที่รัก?”
“แก ไอ้หน้าตัวเมียคิดจะตามมาทำร้ายผู้หญิงเหรอ!” ทานนท์ตะโกนด่าอย่างไม่เกรงกลัว
“ถ้าเธอไม่มากับฉันรับรองไอ้หน้าจืดนี่ตาย”
สิ้นประโยคเธอรีบทำตามอย่างว่าง่ายเพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะเธอ
“พิมไม่ต้องไปไหน เราเป็นผัวเมียกันนี่จะกลัวคนนอกอย่างมันทำไม” เขาสมอ้างถึงความสัมพันธ์เพื่อให้พวกมันเลิกตอแยสักที
“นนท์ หยุดนะอย่าพูดอะไรแบบนี้ ...พวกมันรู้ ปล่อยพิมเถอะ” เธอเอ่ยเกือบกระซิบเพื่อเตือน แต่เขายังดื้อรัน ดึงดันจะจับมือเธอไว้ไม่ปล่อย
“นนท์ได้โปรดปล่อยพิม พวกมันเอาจริง” เธอเริ่มกระวนกระวายหนัก
“กูนับหนึ่ง ถึงสาม ถ้าไม่ปล่อยมือนังนี่ กูยิง”
“ถุ้ย!! กูไม่กลัว” เขาถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างอวดดี
และแล้ว
ปัง ปัง ปัง
“กรี๊ด”
พิมรภากรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ร่างทานนท์แน่นิ่งนอนจมกองเลือดกลางทุ่งหญ้าอย่างน่าสงสาร
“แกมันเถื่อน คนสารเลว”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำเธอช็อกสุดขีด หัวใจเต้นรัว ตัวเย็นซีด เริ่มยืนไม่อยู่
“ฉันไม่ได้ทำ ไอ้เดฟ มึงทำทำไม?” ราฟาเอลเหยียดยิ้มเยาะอย่างเลือดเย็นพร้อมหันถามลูกสมุน
“ออ ขออภัยครับนาย มือผมลั่น”
เดฟยักไหล่ ตอบออกไปอย่างไม่ยี่หระ เพราะนี่มันยังน้อยไปสำหรับไอ้คนอวดเก่งไม่ดูตาม้าตาเรือหวังแค่โชว์กร่างอวดสาว และยังบังอาจขัดคำสั่งเจ้านายเขาจนต้องมาจบชีวิตแบบง่ายๆที่นี่
“คนเลว” เธอปล่อยโฮออกมา พร้อมส่ายหน้าหวือขณะมองภาพชายหนุ่มที่ตายต่อหน้าต่อตา
ฟุ่บ
หญิงสาวหมดสติร่างเกือบฮวบลงพื้น ยังดีที่ราฟาเอลประคองร่างไว้ได้ทัน
“พวกมึงจัดการให้เรียบร้อย”
เขาหันไปสั่งการบอดี้การ์ดส่วนหนึ่งขณะจับพิมรภาขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดายราวกับปุยนุ่น
“ส่วนพวกมึง มากับกู”
“ไปไหนครับนาย” โทนี่เอ่ยถาม
“กลับบ้านกูสิ”