Chapter.4
ช่วงเวลาสามวันกับการใช้ชีวิตในลำพังต่างบ้านต่างบ้านต่างเมือง สภาพอากาศที่แตกต่าง กับวิวสวยๆนั้นช่วยเยียวยาสภาพจิตใจเธอได้ดีขึ้นมาก เธอคุยสายกับพ่อแม่ด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเบิกบาน รู้สึกซาบซึ้งใจที่พ่อแม่เคารพการตัดสินใจและยอมปล่อยลูกสาวคนเดียวได้ลองออกมาใช้ชีวิตในต่างแดน
“ค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูพิมโตแล้วนะคะ”
“คิดถึงส้มตำมั้ยล่ะลูก” คนเป็นแม่ถาม
“มากๆค่ะ แต่ไม่เท่าคิดถึงพ่อกับแม่หรอก”
“คิดถึงก็กลับมาสิ” คนเป็นพ่อตอกกลับด้วยความน้อยใจ
“โถ พ่อคะหนูพิมพึ่งมาถึงก็ให้กลับเลยหรือ?”
สามพ่อแม่ลูกคุยกันกระเหง้ากระหงอดอย่างมีความสุข
ก่อนวางสายคนเป็นพ่อเลยเอ่ยประโยคทิ้งท้ายเพื่อเตือนใจลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“พิม พิมลูกได้ยินไหม ฟังพ่อนะ”
“คะ?”
“อย่าไปไว้ใจ ให้ใจ ช่วยเหลือใครให้มากนะเดี๋ยวเราจะเดือดร้อน รักตัวเองให้มาก คิดถึงตัวเองก่อนจะช่วยอะไรใคร อย่าเกรงใจ อย่าใจกว้างจนเกินพอดี หวังว่าที่ผ่านมาจะเป็นบทเรียนให้เราพอตัวแล้ว เป็นห่วงนะ”
“แม่ด้วยนะ บายลูก” ผู้แม่ส่งจูบก่อนวางสาย
เธอวางสายพลางปาดน้ำตาออกจากแก้ม
คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้าน ทั้งนึกถึงเรื่องราวต่างๆทั้งร้ายดีที่ประสบมา
ใช่ เธออาจจะเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร หลายคนอาจมองว่าเธออ่อนแอ
แต่เพราะคำว่ารักเพื่อน เธอช่วยเหลือและให้ใจไปเต็มร้อยเพราะฟ้าใสคือเพื่อนของเธอ เธอไม่เคยคิดโทษเพื่อนเธอเลยที่เธอต้องมาหลบคนใจร้ายแบบนี้ เป็นเพราะตัวเธอเองนั่นแหละที่อ่อนแอเกินไป
เธอตั้งใจจะค่อยเป็นค่อยไปเริ่มจากการเป็นพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของที่นี่ นอกจากจะรับหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับแล้วเธอยังรับงานพิเศษเป็นแม่บ้านเก็บกวาดตามห้องต่างๆของทางโรงแรมด้วย เพราะช่วงนี้พนักงานขาดพอดีเธอเลยขอทำเพิ่ม
“พิม เลิกงานแล้วไปเที่ยวกับเราไหม เดี๋ยวพาไปกินของอร่อยด้วย”
“ไม่หรอกจ้ะรส วันนี้เรารับงานพิเศษต้องเก็บกวาดห้องช่วยหัวหน้าแม่บ้าน”
“ขยันจัง ไม่เหนื่อยเหรอเนี่ย”
“ทำอีกแค่2ชั่วโมงเอง สบายมาก เดี๋ยววันหลังจะไปด้วยนะ”
ขณะที่สองสาวคุยกันก็มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินตรงมายังสองสาว
เขาหยุดยืนตรงหน้าพิมรภา ในมือถือดอกไม้ยื่นให้กับเธอ
“เอ่อ ผมชื่อนนท์นะครับ เป็นคนไทยยินดีที่ได้รู้จักครับ”
มีชายหนุ่มหน้าตาดียื่นดอกไม้มาให้ขนาดนี้มีหรือเธอจะไม่หน้าแดง
“ขอบคุณค่ะ ฉันชื่อพิม มีอะไรแนะนำได้น้องใหม่อย่างฉันได้เลยนะคะ ฉันยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ขอตัวไปทำโอทีนะคะ เดี๋ยวจะสาย”
“บายจ้า รส” เธอรีบเดินออกมาจากสถานการณ์อึดอัดนี้ พร้อมก้มลงหอมดอกไม้จากชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้น
“เห็นคนหล่อเข้าหน่อยก็ใจเต้นแรงเลยนะพิมเอ๊ย แต่ถึงจะหล่อแค่ไหนเธอต้องไม่เขวนะยัยพิม เพิ่งรู้จักเองอย่าไว้ใจใครง่ายๆ”
เธอพึมพำเตือนตัวเองแล้วรีบไปเก็บกวาดห้องตามที่รับมอบหมาย
เหตุการณ์ต่างๆไม่พ้นสายตาเพชรฌฆาตอย่าง ดาเรนเต้ ราฟาเอลโล่ ที่มองเธออย่างเหยียดหยาม
“หึ ไม่ทันไรก็จะเปลี่ยนผัวแล้ว?”
หญิงสาวร่างบางในชุดกิโมโนสีหวานกำลังจัดวางผ้าปูที่นอน ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีงานเบาแรงแค่นี้ไม่เห็นเหนื่อยเลย เธออยากให้มีทุกวันเลยยิ่งดีเธอจะได้มีเงินเก็บเยอะๆ พ่อแม่จะได้สบาย
หญิงสาวทำงานไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมหวัง เธอร้องเพลงส่ายเอวไปพลางอย่างอารมณ์ดี ที่นี่ไม่มีใครอยู่และกว่าแขกจะมาพักก็อีกตั้งหลายนาที นี่แหละฟอร์เต้นรำของเธอ
เธอยักย้ายส่ายสะโพกโดยไม่รู้ว่าเดฟและโทนี่แอบย่องเข้ามาเห็นความน่ารักสดใส
ราฟาเอลที่เดินตามมาติดๆกระแอมขึ้นเบาๆ เดฟและโทนี่โค้งศีรษะให้โดยอัตโนมัติพร้อมเปิดทางให้เจ้านายหนุ่ม
“ฮืม ฮื้ม ฮืม..”
“มาเต้นยั่วแขกไกลถึงญี่ปุ่นเลยหรือ นังฆาตรกร!”
หัวใจพิมรภาแทบจะหลุดออกมาจากอก
พ่อแก้วแม่แก้วเธอจะทำอย่างไรดี ขนลุกวาบหวาดกลัว ลุกลี้ลุกลนถอยจนชิดผนัง
นี่เขาจะตามมาฆ่าไกลถึงที่นี่หรือ? คิดแล้วทำนบน้ำตาเธอก็ไหลพรูออกมา
“ทำให้เพื่อนตายแล้วยังมีหน้ามาเต้นดีอกดีใจ?
ลาออกจากงานมาอยู่เมืองนอกแล้วคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ?
หึ ต่อให้เธออยู่ในนรกขุมไหนฉันก็จะลากคอเธอมาลงทัณฑ์ จำไว้!!”
เขาตะคอกพร้อมเอื้อมมือมาถลกผมเธอไปทางด้านหลังจนใบหน้าหวานแหงนขึ้น
“โอ๊ย ฟังฉันบ้างนะคะ ฉันไม่ได้ฆ่าถ้าฉันฆ่าจริงตำรวจคงไม่ปล่อยฉันมาแบบนี้หรอก ละ และ ฉันไม่ใช่เมียพัฒน์ด้วย”
“ออ กำลังจะมีผัวใหม่ที่นี่น่ะเหรอ เฮอะ ร่านซะไม่มี” เขาแสยะริมฝีปากขณะมองหัวจรดเท้า
“กฎหมายบ้านเมืองเธอจะเป็นยังไงฉันไม่สน แต่ถ้าใครมันบังอาจทำให้ผู้หญิงของฉันตาย ...ฉันนี่แหละจะตัดสินมันเอง คือ ตายสถานเดียว”
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ให้ฉันทำอะไรก็ได้ ได้โปรดเชื่อฉันสักครั้งนะคะ ฉันไม่ได้ฆ่าฟ้าใสหรือรู้เห็นเป็นใจใดๆทั้งสิ้น”
“โกหกหน้าตาย เธอส่งฟ้าใสให้ไอ้พัฒน์ฆ่ายังจะกล้าโกหกอีกเหรอ ฉันเสียเวลากับเธอมามากแล้วนะ บอกมาไอ้พัฒน์มันไปมุดหัวอยู่ไหน!”
“ฉันไม่รู้จริงๆ” เธอตอบขณะก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าเงยมองหน้าเขา เธอกลัวเหลือเกิน
เขารำคาญกับคำปฏิเสธเหล่านั้นจึงดึงคอเสื้อเธอขึ้นพร้อมบังคับให้เงยหน้าขึ้นสบตาเขา
“ถ้าจะตอบก็มองหน้าฉันสิ มอง!!!” เขาตวาดเสียงดังจนร่างเล็กสะดุ้ง ส่งผลให้เขาเห็นเหลือบไปเห็นร่องอกชิดติดกันกระเพื่อมหนักที่จากความตื่นกลัว
เขามองมันอย่างหื่นกระหายไม่ได้ลิ้มลองยอดปทุมถันสีหวานคู่นี้มาหลายวันแล้วรสชาติจะเป็นอย่างไรหนอ
“พวกแกออกไปก่อน ...ล็อคห้องด้วย” สิ้นประโยคลูกน้องรีบทำตามคำสั่งพร้อมความตกใจกลัวของหญิงสาวที่พยายามดิ้นอยากจะหลุดจากพันธนาการร้าย
"ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง กับไอ้หน้าจืดนั่นอ่อยแทบจะแหกขารอ"
“คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกฉัน”
“สิทธิ์ความเป็นผัวได้มั้ยล่ะ?” ไม่ทันขาดคำราฟาเอลดึงเสื้อเธอออกอย่างแรง
“อวดดีอย่างนี้ต้องเจอ”
“ว้ายย ช่วย ช่วยด้วย”
“หึ รู้อะไรใช่มั้ยว่าไอ้โรงแรมหรูที่เธอทำงานอยู่เนี่ย เก็บเสียงได้ดีเลยแหละ”
เขาระดมจูบตามซอกคอระหงอย่างหื่นกระหาย ห่างมาหลายวันแล้วยังหอมละมุนเหมือนเดิม ริมฝีปากหยักได้รูปเลื่อนมาประกบริมฝีปากบางดุนดันลิ้นเข้าไปชิมความหวาวนในโพรงปากสาวควานหาลิ้นตวัดหยอกล้อแบบรุนแรงไม่นานเธอเริ่มได้กลิ่นคาวเลือดจากจูบดิบเถื่อน
เขาปล่อยริมฝีปากบางที่ตอนนี้บวมเจ่อเป็นอิสระ เลื้อยมาจูบดูดซอกคอจนเป็นรอยจ้ำๆเต็มไปหมด
“โอ๊ย ปะ ปล่อยนะ” ราฟาเอลเลื่อนมาถึงซาลาเปาใหญ่สองลูกที่มีบราเชียร์สีหวานปกปิดแทบไม่มิด เขาปลดตะขอมันออก แล้วส่งลิ้นร้ายไล่เลียปลายปทุมถันชวนสยิว ส่วนอีกข้างเขาไม่ยอมปล่อยให้ว่าง เอื้อมมือนวดเคล้นอย่างหนักพร้อมบีบบี้หัวนมสีชมพูอ่อน
ภาพที่เขามองเธอตอนนี้ที่กำลังกระสับกระส่ายปนครางอย่างสับสนมันช่างปลุกความเป็นชายให้แข็งทรมานยิ่งนัก
“อ่าส์”
เธอเปล่งเสียงครางพร้อมแอ่นหน้าอกขึ้นรับ
ทำไมถึงได้รู้สึกวาบหวามเช่นนี้?
ร่างกายช่างทรยศไร้แรงจะขัดขืน มีเพียงเสียงครางประท้วงเบาหวิวในลำคอ ดวงตากลมสวยตื่นตะลึงเมื่อเขาถอดเสื้อออก กล้ามเนื้อเป็นมัดกับซิกแพกเป็นลอนความโค้งเว้าส่วนเอวช่างเซ็กซี่ราวกับนายแบบ เธอแอบลอบกลืนน้ำลายเบาๆก่อนเบือนหน้าหนี
“อยากจนเก็บสีหน้าไม่อยู่เลยนะนังร่าน”
เธออ้าปากค้างตาเบิกโพลงเมื่อเขาถอดกางเกงอวดแท่งบุรุษขนาดใหญ่ที่
“ไม่ๆๆ ฉันกลัว อย่าเลยนะคะ” เธอร้องขอออกไปตามตรง เธอกลัวจริงๆ
ไม่มีวันที่มันจะเข้ามาในตัวเธอได้แน่นอน
ตั้งแต่เกิดมานี่คือครั้งแรกและมันจะดีกว่านี้ถ้ามันเกิดจากความรัก แต่นี่ ...เธอกำลังจะโดนข่มขืน
“อย่าแสร้งไร้เดียงสาเลย ไหนโชว์ความร่านออกมาสิ”
มือหนารูดเจ้าท่อนอวบใหญ่ในมือ อีกข้างบีบบี้ติ่งเสียวเธออย่างแรง พร้อมโน้มตัวลงประกบจูบเธออย่างหนัก เธอครางกระเส่าจวนใจจะขาด เขาฉวยจังหวะเธอกำลังอ้าปากส่งเสียงครางฮือยัดท่อนเอ็นใหญ่ยาวนั่นเข้าไปในปากเล็ก หญิงสาวตาเหลือกค้างเพราะมันจุกไปถึงลำคอ
“อึก”
ปากเล็กแคบนั้นช่างเร้าอารมณ์เสียวซ่านไปทั้งลำเขื่อง สะโพกสอบอัดสาวท่อนเอ็นในปากนุ่มสักพัก จึงดึงมันออก
ไม่มีทางที่เขาจะอ่อนโยนต่อผู้หญิงชั่วคนนี้ ราฟาเอลถลกชุดของเธอขึ้นปลายนิ้วเกี่ยวเบี่ยงแพนตี้ไว้ด้านข้างพร้อมนำตัวตนเข้าไปในโพรงสาวจนมิดลำ
พรวด!
ชั่วขณะนั้นเหมือนเธอกำลังถูกมีดมาปักและกรีดกลางกาย เสียงหวีดร้องแห่งความทรมานดังก้อง
“ไอ้เลว เอามันออกไป ยะอย่า ฮึก..”
เขาตกใจสุดขีดเมื่อทราบความจริงว่าแม่นี่ยังบริสุทธิ์ ..
ความคับแน่นและแรงบีบรัดทรมานทำเขาเสียวซ่านกู่ไม่กลับแม้เลือดไหลออกมาชโลมแก่นกำยำ กับเสียงร้องไห้อย่างหนักของคนใต้ร่าง
“ซี้ดด แน่นชิบ”
“ฮือๆๆ เอาออกไป ฉันเจ็บ ฉันเกลียดแก”
“อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากเจ็บกว่านี้”
สภาพของพิมรภาตอนนี้ไม่ต่างจากคนตายทั้งเป็น เธอเจ็บเหมือนร่างแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ไม่มีแล้วความสาวที่เธอหวงแหน สายตาเหม่อลอยระคนเจ็บปวด ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน
เขาพยายามสาวเข้าออกอย่างยากเย็น ทำไมมันแน่นบีบรัดเขาหนักอย่างนี้ เขารับรู้ได้ว่าเธอคงทรมานมาก
ราฟาเอลฉีกแพนตี้ตัวน้อยออกจากเธอ ค่อยๆดึงท่อนเอ็นเข้าออกจังหวะช้ามือบีบเคล้นหน้าอกใหญ่พอดีมือ ปากระดมจูบปลอบประโลมเธออย่างมีชั้นเชิงเพื่อคลายความตึงเครียดให้กับหญิงสาวที่ไม่เคยผ่านมือผู้ใด
“อ่า อะ ซี้ด”
ไม่นานเสียงหวานเริ่มครางออกมานั่นเป็นสัญญาณที่ดี
เขายกยิ้มมุมปาก แล้วเริ่มไต่ระดับความเร็วแรงกับเธอ
“อ่า อ้าส์ อื้อ”
เสียงหวานเริ่มครางกระเส่าเมื่อเขาเพิ่มความรุนแรงหนักหน่วง
“ฉันใกล้แล้ว แน่นอะไรอย่างนี้ พิมรภา”
สะโพกยังกระแทกไม่หยุดหย่อน
เธอส่ายหัวไปมาไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้นนอกจากความแปลกประหลาดในกายตอนนี้ที่ทั้งเจ็บทั้งเสียวในคราเดียวกัน เอวสอบเร่งกระหน่ำเมื่อรับรู้ถึงแรงตอดรัดแน่นจากร่องสาวบริสุทธิ์
“อ่าส์”
“ใกล้แล้ว สาวน้อย ซี้ดดเสียวหัวค..ชิบ”
ร่างทั้งสองเกร็งค้างแตะขอบสวรรค์พร้อมกัน เขาปลดปล่อยข้างในตัวเธอจนรู้สึกอุ่นซ่านในโพรงสวาท
“อย่าปล่อยใน อือ ฮึก.. ไอ้ชั่ว”
“หึ ไม่ทันแล้วสาวน้อย .. อ่อนปวกเปียกอย่างนี้ยังมีแรงด่ากันได้นะ”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม เขาดึงท่อนเอ็นออกจากกายสาว
น้ำรักปนเลือดไหลออกมามากมาย เธอเมื่อยขบไปทั้งร่างและที่เจ็บสุดคงไม่พ้นกลางหว่างขาที่ตอนนี้มันคงระบมมาก
เธอเจ็บแทบจะไม่มีแรงลุกขึ้น ร่างบางนอนนิ่งน้ำตาไหลอาบแก้มไม่ขาดสาย ดวงตาเศร้าเหลือบมองไปยังคนระยำที่กำลังยืนใส่เสื้อผ้าและหันมามองที่เธอ
เธอรีบเบนสายตาหนีทันที เธอเกลียดขี้หน้าชายคนนี้ที่สุด
“อยากอีกมั้ยละ?”
“ฉันเกลียดแก” สายตาเธอตอนนี้มองมาที่เขาอย่างอาฆาตแค้น
“ปากดีนักนะ”
“โอ๊ย” ร่างล่ำสันก้มลงมาบีบคางเธอแน่น
“ดูสภาพเธอตอนนี้สิ แทบไม่มีแรงเดินยังมาปากดีไม่หยุด”
“แกมันเลว”
“กล้ามากนะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ด่าฉันแบบนี้”
“รู้ใช่มั้ยถ้าฉันโกรธ เธอจะเป็นยังไง?.... อยากโดนอีกสักรอบมั้ยล่ะ” แววตาถือดีของเธอมันทำให้เขานึกโมโหนัก
แต่เสียงสั่นของสมาร์ทโฟนเขาช่างช่วยชีวิตหล่อนเอาไว้แท้ๆ
“ว่ามา”
‘นายครับ โกดัง N8 บล็อคc โดนวางระเบิดครับ’
โกดังเก็บสินค้าของเขาที่เครือข่ายน้อยใหญ่ใช้มันเป็นที่พักก่อนนำไปลำเลียงจำหน่าย
“ใครหน้าไหนวะที่กล้าเล่นขนาดนี้ แล้วของเสียหายหนักไหมวะ!”
‘เอ่อ ..กระสุนและอาวุธเสียหายเกินครึ่งครับ’
“บ้า เอ้ยย!! มึงรีบเก็บกวาดแล้วรายงานผลให้แน่ชัด เดี๋ยวกูไป”
เขาเดินออกไปโดยไม่สนใจจะมองมาที่เธอแม้เศษเสี้ยวหางตา
ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องไป เหมือนหัวใจดังทุ้มอยู่ในอกสั่งให้เขาหันไปมองหญิงสาวที่ตะกายลุกนั่งพิงผนังอย่างเหม่อลอย
เขารีบสลัดความคิดต่างๆออกจากหัว วันนี้ยังมีเรื่องใหญ่ให้ต้องสะสางอีกมากมาย พิมรภาไม่สามารถมีอิทธิพลต่อจิตใจเขาแน่นอน
เมื่อเปิดประตูออกมาพบกับสมุนทั้งสองที่ยืนรอด้านนอก
“สั่งบอดี้การ์ดกลุ่มGของเราไปช่วยโกดัง N8 บล็อคcด้วย ที่นั่นมีเรื่อง”
“ครับนาย”
เขาเดินไปสั่งงานลูกน้องไปอย่างเร่งรีบ และคำสั่งอีกคำสั่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ
“โทนี่ แกอย่าลืมบอกทางโรงแรมด้วยว่าห้องนั้น ชั้นเช็คอินอยู่สามวันอย่าให้ใครเข้าไปยุ่มย่าม โดยเฉพาะตอนนี้”
เขาจะให้ใครมาเห็นสภาพเธอในตอนนี้ไม่ได้
ใครก็อย่าได้บังอาจมาเห็นผู้หญิงของเขาในสภาพโป๊เปลือยอย่างเด็ดขาด
รู้ดีว่าเธอคงไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกออกไปไหน เพราะนั่นเป็นครั้งแรกของเธอ
ร่างบางผิวขาวแขนขาเรียวไร้เรี่ยวแรง ริมฝีปากบางตอนนี้บวมเจ่อ ใบหน้าเรียวได้รูปเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคมสวยร้องไห้อย่างหนักจนบวม ทั่วทั้งลำคอไล่ลงมาถึงหน้าอกอวบเต็มไปด้วยรอยดูดช้ำเป็นจ้ำอย่างน่าเกลียด
เธอยังร้องไห้อยู่อย่างนั้นนานนับสองชั่วโมงหลังจากที่เขาเดินออกไปแล้ว
นี่ใช่ไหม การโดนข่มขืน?
ถูกคนเลวพรากความสาวแถมจากไปอย่างไม่แยแส
ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอกับเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ มันหนัก หนักเกินกว่าเธอจะรับมันไหวในตอนนี้
เพื่อนตายเธอก็เสียใจเหมือนกัน เธอไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องมาลงที่เธอ