“เดี๋ยวคงจะกลับมาแล้วละ...เพราะเขาบ่นคิดถึงอลันมาก” อลันยิ้มพร้อมพยักหน้า เพราะตลอดเวลาสามปีไม่ใช่แค่หนูมุกที่เขาไม่ได้เจอ รวมถึงพ่อแม่ทูนหัวของเขาด้วย เพราะเมื่อหนูมุกโกรธเขาพาลไม่ไปหาเขา ทำให้ทั้งพ่อกับแม่ทูนหัวไม่ได้ไปเยี่ยมเขาที่อังกฤษเช่นกัน เพราะสงสารและเป็นห่วงหนูมุกซึ่งเขาก็เข้าใจดีและเห็นด้วย เพราะที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้สาเหตุก็มาจากตัวเขาเอง
“แล้วหนูมุกละครับ?” อลันถามไปอย่างนั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาเห็นเธอตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาแล้วว่าเธอยืนอยู่หน้าบ้าน แว๊บ!แรกเขาดีใจคิดว่าเธอออกมายืนรอรับเขา แต่แล้วจู่ๆเธอก็วิ่งกลับเข้าบ้านไปทันที
“สงสัยจะลืมของ เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญต้องออกไปข้างนอก...วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว” เอกวุฒิเลือกที่จะตอบและให้อีกเหตุผลอื่นไป แต่ทั้งเขาและเอกวุฒิต่างก็เข้าใจในการกระทำของหนูมุก อลันขมวดคิ้วทันทีและขอตัวไปหาต้นเหตุของการมาเมืองไทยครั้งนี้
“แกร๊ก...แกร๊ก” หนูมุกหันไปมองตามเสียงลูกบิดประตูทันที และไม่ทันที่เธอจะวิ่งไปยับยั้งประตูก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับที่อลันผ่านประตูเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกับยืนขวางประตูด้วยรอยยิ้ม และโชว์พวงกุญแจที่เกี่ยวไว้กับนิ้วและควงเล่นอย่างท้าทายหญิงสาวตรงหน้า อลันคาดไว้อยู่แล้วว่าหนูมุกต้องล็อคห้องจึงแวะไปหยิบกุญแจก่อน
หนูมุกมองภาพนั้นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่โวยวายอะไร อลันจ้องตาหนูมุกและไล่ลงมาที่จมูก,ปากและรูปร่างที่สมส่วนเอวคอดสะโพกกลมงอน ขาเล็กเรียวยาวภายใต้กางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูปนั้น สามปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอและได้ยินเสียงเธอแบบตรงๆ มีแต่ภาพแอบถ่ายในกิจกรรมต่างๆของเธอจากลูกน้องของพ่อที่เขาขอให้ส่งมาคอยติดตามดูแลเธออยู่ห่างๆ
อลันยังยืนอยู่ที่เดิม ทั้งๆที่ใจอยากจะดึงร่างบางนั้นเข้ามากอดและทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่เขาก็ต้องยับยั้งช่างใจไว้เพราะตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าดูจากท่าทางและแววตาตอนนี้แล้วเธอคงยอมเขาหรอกนะ แต่อลันก็ใช่ว่าจะยอมแพ้
“คิดถึงจัง” หนูมุกหลี่ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่วางใจ กับคำทักทายที่พึ่งเข้าหูไปหมาดๆ
“จะมาไม้ไหน” หนูมุกคิดในใจ เข้มแข็งไว้หนูมุกเธอตอกย้ำเตือนสติของตัวเอง ความรู้สึกที่ได้รับเมื่อสามปีก่อนเธอไม่เคยลืม ‘จูบแรก’เขาได้จูบแรกของเธอไปแล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนคือความห่างเหิน,หลบหน้า หนูมุกยอมรับว่าเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนที่เขาสอนให้เธอรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘จูบ’ เขาทำกันอย่างไรและเขาก็ขอตัวออกไปทำงาน
หนูมุกยังจำความรู้สึกนั้นได้ว่ามันเป็นอย่างไร เธอทั้งตกใจและตื่นเต้นอย่างที่สุด เป็นประสบการณ์ใหม่ แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกดี เพราะคนที่ให้ประสบการณ์นี้คือชายที่เธอทั้งรักและบูชาเป็นที่สุด คืนนั้นกว่าเธอจะหลับลงได้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมง พี่อลันก็ยังไม่กลับมาจนเธอเผลอหลับไป และมาตื่นในตอนเช้าไร้ซึ่งเงาและร่องรอยการกลับเข้ามานอนของอลัน
แต่นั้นหนูมุกยังไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด มันหลังจากนั้นต่างหาก ที่เขาให้เธอกลับประเทศไทยพร้อมคุณพ่อคุณแม่ และตลอดเวลาที่เหลืออยู่ที่นั้นหนูมุกมั่นใจเลยว่าพี่อลันหลบหน้าเธอ เขาไม่กลับมานอนที่บ้าน อ้างว่าต้องทำงานจะกลับมาเฉพาะเวลาทานมื้อเช้ากับมื้อเย็นเท่านั้น และบอกแต่เพียงว่าต้องกลับไปดูงาน การกระทำแบบนั้นของอลันทำให้หนูมุกรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่สุด
หลังจากที่เธอกลับมาเมืองไทยครั้งนั้น เธอก็พยายามที่จะใช้ชีวิตให้เป็นปกติทั้งในด้านความรู้สึกและกิจวัตรที่ตลอดสิบเจ็ดปี พี่อลันจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับเธอทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเรียนที่บางอย่างที่เธอไม่เข้าใจก็จะถามเขาตลอด แม้จะห่างกันคนละทวีปแต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน อลันจะมีเวลาให้กับเธอทุกครั้ง ยามที่เธอต้องการพี่อลัน
อลันสังเกตว่าเหมือนหนูมุกเหม่อๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์คิดอะไรอยู่ ก็เลยค่อยๆขยับเดินเข้าไปหา แต่แค่เพียงก้าวที่สองหนูมุกได้สติกลับมา พร้อมถอยห่างเขาไปสองก้าวทันทีรักษาระยะห่างไว้ อลันหยุดการลุกล้ำและจ้องมองเข้าไปในดวงตานั้นอย่างท้าทาย
หนูมุกก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเจอสายตาท้าทาย ถ้าหลบตาก็จะหาว่าเธอกลัว อลันก้าวเข้าไปหาหนูมุกอีกหนึ่งก้าวและเป็นไปตามที่คาด หนูมุกถอยหนึ่งก้าว แต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากกัน และเหมือนเดิมอลันทำเหมือนเดิมหนูมุกก็สนองกลับเหมือนเดิม อลันยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากตามเอกลักษณ์นิสัยของเขาที่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
หนูมุกเอะใจกับรอยยิ้มนั้น แต่ช้าไปแล้วเมื่อคราวนี้อลันเปลี่ยนเป็นก้าวยาวๆและเร็วขึ้น หนูมุกตกใจถอยหลังแต่ได้แค่เพียงก้าวเดียวเธอก็หงายหลังลงสู่พื้นผิวผ้าปูที่นอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วนั้นทันที
“ว้าย!!!!” หนูมุกร้องออกมาด้วยความตกใจ และร้องออกมาอีกครั้งเมื่อ อลันตามลงมาใช้ทั้งแขน,ขา และรวมถึงตัวเขาทั้งตัวกักขังตัวเธอไว้
ตาจ้องตากันโดยที่ใบหน้าห่างกันแค่หายใจรดกัน อลันลดสายตาลงมามองที่ปากบางสีชมพูอ่อนๆด้วยลิปสติกบางๆ เขาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวที่ตลอดสามปีมานี้ต้องหักห้ามใจ ทั้งๆที่โหยหาเป็นที่สุด
“อืม!...ปล่อยนะ” ประโยคแรกในรอบสามปีที่หนูมุกพูดกับเขา เพื่อมาขวางกั้นการบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา
“ยอมพูดออกมาจนได้” หนูมุกเสมองไปทางอื่นทันที เพราะตอนนี้ผิวหน้าอมชมพูของเธอแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงกระซิบที่ตอบกลับมานั้นห่างริมฝีปากเธอแค่มดวิ่งผ่านได้เท่านั้น หนูมุกเม้มปากแน่นตามสัญชาติญาณโดยทันที
เพียงแค่อลันขยับใบหน้าอีกนิดเดียว เขาก็กำลังจะได้ในสิ่งที่เขาต้องกักเก็บมันไว้ตลอดสามปี หนูมุกหลับตาลงพร้อมกับเม้มปากบางนั้นด้วยความรู้สึกที่สับสน ไม่รู้ว่าโหยหาหรืออยากผลักใส แต่หนูมุกก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนหนีออกจากการเกาะกุมนี้
“ครืด...ครืด...” อลันหยุดชะงักความตั้งใจทันที เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของหนูมุกดัง เป็นดั่งเสียงระฆังหนูมุกลืมตาและดิ้นรนออกจากการคุมขังนี้ อลันก็ปล่อยอย่างง่ายดาย และนั่งอยู่ที่ปลายเตียงแต่ก็ไม่ลืมที่จะรั้งเอวหนูมุกไว้ ก่อนที่เธอจะลุกออกไปไกล