ผ่านไปหลายวันกับการทำงานในบริษัทของเอเรนอส ชายหนุ่มให้หญิงสาวเข้าไปทำงานในตำแหน่งพนักงานบัญชีอย่างที่เธอเรียนจบมาด้วยเงินเดือนสูงลิบลิ่วจนหญิงสาวตกใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จึงยอมรับไว้ แต่โดยดี
การเดินทางก็แสนสะดวก เช้าเดินไปทำงานเย็นก็เดินกลับเพราะบริษัทอยู่ไม่ไกลจากที่พัก จึงทำให้ไม่ต้องมีปัญหากับการเดินทาง ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ก็ไม่ต้องทำงานอีกเพราะเป็นวันหยุด นัดดาจึงรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่ได้เจอเอเรนอสทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นแบบนี้
“ไปซื้อกุ้งสดที่ตลาดมาทำข้าวต้มดีกว่าจะได้เอาไปให้พี่เอริคกินด้วย” หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าในวันหยุดของการทำงานก็มีความอยากทำอาหารกินเอง อีกอย่างเธออยากตอบแทนชายหนุ่มที่ช่วยตนเองตั้งหลายเรื่องจึงลุกขึ้นจากที่นอนเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ในตลาดสด
“หยิบของหมดแล้ว ลืมอะไรอีกไหมเรา กระเป๋าเงิน มือถือ
คีย์การ์ด โอเคครบ ไปได้ อ้าวพี่เอริค”
หญิงสาวตรวจความเรียบร้อยเสร็จแล้วจึงเดินไปเปิดประตูห้องแต่เจอกับเอเรนอสที่ยืนทำหน้าหล่อ ๆ กำลังจะกดกริ่งเรียกคนในห้องพอดี
“จะไปไหนตั้งแต่เช้า”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าจึงเห็นว่าเธอใส่ชุดที่ไม่เหมือนอยู่ในห้องพัก เพราะเธอใส่กางเกงยีนสีซีดขาสั้น ใส่เสื้อคอวีสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบเก่า ๆ สะพายกระเป๋าสีดำพร้อมหมวกแก๊ป แต่สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือเสื้อกับกางเกงมันทั้งกว้างแล้วก็สั้น เห็นทีเขาต้องเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเผาทิ้งแล้วซื้อให้ใหม่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องใส่สั้น ๆ กว้าง ๆ ให้ใครเห็นอีก
“หนูจะไปซื้อของที่ตลาดสด ว่าจะทำข้าวต้มกุ้งให้พี่เอริค ลองกิน”
“ไม่ต้องไปหรอก เชฟทำให้แล้ว พี่ลงมาชวนนัดไปกินด้วยกัน”
“อ้าวหรือคะ งั้นเอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”
“อืม ไปเถอะ”
ชายหนุ่มพูดจบก็รีบคว้าข้อมือหญิงสาวมากุมแล้วพาเข้าไปในลิฟต์อย่างถือวิสาสะ แต่นัดดาก็ไม่ปฏิเสธการกระทำของเขาเพราะเธอชินเสียแล้วที่โดนจับมือแบบนี้ เมื่อมาถึงห้องพักของชายหนุ่มทั้งคู่ก็เดินเข้ามาในห้องครัวที่มีอาหารจัดไว้หลายอย่างบนโต๊ะ
“เยอะจังเลยค่ะ เราจะกินกันแค่สองคนจริง ๆ เหรอพี่เอริค” หญิงสาวหันมาถามชายหนุ่มที่ยังทำหน้านิ่ง ๆ คล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ในสมอง
“ครับ กินสองคนก็พอ”
ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว ตลอดทางเดินมายังห้องของตนเองเขาแทบจะเก็บอาการหื่นไม่ไหวเมื่อเห็นขาเรียวภายใต้กางขาสั้นกับหน้าอกอวบอิ่มที่เห็นวับ ๆ แวม ๆ เพราะคอเสื้อมันกว้าง
“ค่ะ งั้นกินเลยได้ไหม หนูหิว”
หญิงสาวทำหน้าอ้อน ๆ แล้วเขย่าแขนของเอเรนอสเบา ๆ จน ชายหนุ่มเขินแก้มแดงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ครับ ๆ ตามสบายเลย”
คนตัวโตตาพร่าไปชั่วขณะเมื่อเห็นการกระทำอันน่ารักของนัดดา เขาไม่เข้าใจเธอจริง ๆ ทำไมถึงได้ไว้ใจผู้ชายง่าย ๆ เพียงนี้ หรือเป็นเพราะเธอมาจากต่างจังหวัดจึงมีความใสซื่อมากกว่าคนในเมือง
“เย้ ขอบคุณค่ะ” นัดดาร้องออกมาด้วยความดีใจจนลืมตัวจึงเข้าไปกอดเอเรนอส อย่างที่ทำกับบิดาเป็นประจำทำให้ชายหนุ่มใจเต้นรัวขึ้นมาทันทีแล้วยืนตัวแข็งให้เธอกอด
“เอ่อ นัดครับ พี่ปล่อยก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวกันพอดี”
ชายหนุ่มพยายามเปล่งเสียงออกมาให้เป็นปกติที่สุดเพราะเขาเริ่มไม่อยากกินข้าวขึ้นมาแล้วจริง ๆ แต่อยากกินคนตัวเล็กแทน
“อุ๊ย ขอโทษค่ะหนูดีใจไปหน่อย” หญิงสาวรีบปล่อยชายหนุ่มแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทันทีด้วยความเขินอายที่ตนเองไปกอดเขาแบบนั้น
“ครับ ไม่เป็นไรแต่ห้ามทำแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาดนะ” ชายหนุ่มยิ้มให้กับสาวน้อยแล้วพูดข่มขู่เธอไปด้วย กลัวเธอจะไปกอดผู้ชายอื่น
“หนูไม่กอดใครง่าย ๆ หรอก ถ้าคนนั้นไม่ใช่คนที่ไว้ใจจริง ๆ บนโลกใบนี้ก็มีแต่ครอบครัว นิสา แล้วก็พี่เอริคเท่านั้นที่หนูจะกอดแบบนี้” คำพูดของเธอทำให้คนตัวโตสะดุ้งขึ้นมาเพราะเขาไม่ใช่คนที่เธอควรไว้ใจเลยสักนิด
“ครับ ๆ กินข้าวเถอะเดี๋ยวอาหารมันจะเย็นแล้วไม่อร่อย”
ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากรู้สึกผิดกับคนตัวเล็ก เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่อยากลองอะไรใหม่ ๆ พอได้แล้วก็เขี่ยทิ้งและนัดดาก็คือหนูทดลองของเขา
หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็อยากดูหนังขึ้นมาจึงชวนชายหนุ่มมานั่งดูด้วยกันบนโซฟาขนาดใหญ่กลางห้อง นั่งเล่น
“พี่เอริคมีหนังอะไรให้ดูไหม”
“นัดเลือกจากช่องในโทรทัศน์ได้เลย มีเยอะมาก แล้วแต่นัดจะดูอะไร”
“ว้าว เยอะจริงด้วย งั้นดูอันนี้ดีกว่า” นัดดากดรีโมตไปที่ช่องดูหนังโดยเฉพาะแล้วเลือกหนังเรื่อง fifty shades of grey เพราะพระเอกหล่อดี โดยไม่รู้เลยว่าเนื้อหาในหนังเป็นแบบไหน ส่วนชายหนุ่มเมื่อเห็นชื่อของหนังก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เห็นทีวันนี้เขาต้องเสียเหงื่อแน่หลังจากที่ไม่ได้ออกกำลังกายในร่มมาหลายวัน
“ว้าย! พี่เอริคทำอะไร”
“หึหึ หนังเรื่องนี้น่ากลัวนะถ้านัดนั่งคนเดียวมันไม่ดี นั่งบนตักพี่นี่แหละดีที่สุด”
“จริงเหรอ งั้นปิดก็ได้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอก พี่อยากดูเรื่องนี้”
“ค่ะ ๆ แต่พี่เอริคห้ามปล่อยหนูนะ หนูกลัวผี”
“ฮ่า ๆ ๆ จะไม่ปล่อยเลย (ทั้งคืน)” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูในตัวหญิงสาวที่คิดว่าหนังเรื่องนี้คือเรื่องผี แต่พูดคำสุดท้ายในใจ
ทั้งสองคนนั่งดูหนังไปสักพัก หญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกวูบวาบขึ้นมาเมื่อเห็นฉากเลิฟซีนในหนังอย่างที่เธอเคยอ่านในนิยายแต่ไม่เคยได้ดูมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ส่วนชายหนุ่มที่เฝ้าดูคนบนตักตลอดเวลาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มอยู่ไม่นิ่งจึงใช้โอกาสนี้ล่อลวงเธอ
“พะ พี่เอริค ทะ ทำอะไร” หญิงสาวพูดออกมาตะกุกตะกัก รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับสัมผัสของชายหนุ่มเพราะโดนเขาลูบไล้ขาเรียวแล้วยังโดนจูบย้ำ ๆ ที่ซอกคออีก
“หึหึ พี่อยากทำแบบในหนัง” คนหื่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่ากระซิบเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ หูของหญิงสาวที่เริ่มไม่มีสติมากขึ้นเพราะหลงมัวเมาไปกับสัมผัสของเขา
“อือ พี่เอริค” หญิงสาวเหลือบตาไปมองฉากในหนังที่พระเอกกำลังดึงแพนตี้ตัวน้อยของนางเอกลงแล้วเอาใบหน้าไปขลุกอยู่ตรงจุดสงวน เธอครางออกมาเบา ๆ เพราะโดนคนหื่นบีบเต้าอวบของตนเองที่ยังหลบอยู่ในเสื้อผ้า
“เรียกพี่ทำไมครับ จุ๊บ” คนขี้แกล้งใช้มือหนาของตนเองสัมผัสตัวของหญิงสาวไปทั่วแล้วถามหญิงสาวที่หน้าเริ่มแดงด้วยความอยากแกล้งพร้อมกับจูบไปที่แก้มใส ๆ ของเธอหนัก ๆ
“พะ พี่เอริคขา นะ หนู อือ พะ พี่เอริค”
คนโดนแกล้งพูดออกมาไม่เป็นประโยคเมื่อได้รับความเสียวซ่านจากปลายนิ้วของชายหนุ่มที่เริ่มเข้าไปสำรวจจุดสงวนของตนเอง
“พี่อยากทำแบบในหนัง พี่ขอนะ”
คนหื่นพูดจบก็เริ่มกระตุ้นอารมณ์ของนัดดาทันทีด้วยการจูบไปที่ใบหูไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงลำคอสวยแล้วฝากรอยจูบเอาไว้หลายจุดอย่างช่ำชอง ทำให้คนที่มีสติน้อยนิดไม่สามารถต่อต้านได้เลย เรี่ยวแรงที่มีก็หายไปหมด เธอไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองที่มันวูบวาบร้อน ๆ หนาว ๆ มวนท้องเหมือนคนจะเป็นไข้จึงทำได้เพียงทำตามที่ชายหนุ่มชักจูงเท่านั้น
ทางด้านคนหื่นเมื่อเห็นคนบนตักไม่มีการปฏิเสธจึงมอมเมาเธอมากขึ้นด้วยการมอบจูบแสนอ่อนโยนให้ แล้วค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นอย่างช้า ๆ จนหญิงสาวไม่เหลืออะไรติดกาย แล้วผลักเธอให้นอนราบบนโซฟาแต่ยังไม่ยอมถอนจูบออกมาเพราะติดใจในความหวานของมันที่ไม่เคยพบเจอกับสาว ๆ คนไหนมาก่อนตั้งแต่ได้ลิ้มลองเรื่องเซ็กซ์
“อื้อ อื้อ แฮ่ก ๆ ๆ ๆ” นัดดาครางออกมาในลำคอแล้วรีบหอบเอาออกซิเจนเข้าปอด เมื่อชายหนุ่มถอนจูบแต่ครู่เดียวก็โดนเข้าจูบอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันแตกต่างจากเดิมมาก เพราะมันเร่าร้อนจนเธอแทบจะละลายไปกับโซฟา
“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงจูบของทั้งคู่ยังคงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแข่งกับเสียงของพระนางในหนังที่กำลังจูบอย่างเมามันไม่แพ้กัน
เมื่อเอเรนอสจูบคนใต้ร่างจนพอใจเขาจึงถอนจูบออกมาแล้วให้เธอหันไปมองบนหน้าจอทีวีที่พระนางกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม มีเสียงอืออา ออกมาชวนให้ชายหญิงบนโซฟาเกิดอารมณ์อยากทำอย่างนั้นบ้าง
“พี่อยากทำแบบนี้กับนัด”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วอุ้มหญิงสาวไปที่ห้องนอนซึ่งเป็นประโยคสุดท้ายที่นัดดาได้ยินในขณะที่สติยังพอมีอยู่ จากนั้นเธอรู้แค่ว่าตนเองกำลังถูกชายหนุ่มอุ้มพาไปที่ไหนสักแห่งเพื่อทำเหมือนในหนัง