หลังจากที่เอเรนอสกลับออกไปนัดดาก็รีบเอาโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดโทรหานิสาเพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่อยากไปจากที่นี่โดยไม่บอกไม่กล่าว แต่ไม่รู้ว่านิสาจะว่าอะไรไหมที่ตนเองตัดสินใจตกลงไปทำงานกับเอเรนอสแบบกะทันหัน
“ฮัลโหลนิสา แกว่างคุยกับฉันไหม” เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์เธอก็รีบพูดกับนิสาทันทีด้วยความตื่นเต้น
“ว่างจ้ะเพื่อน มีอะไรไหม”
นิสาสอบถามเพื่อนด้วยความประหลาดใจเพราะปกติจะแชตคุยกันมากกว่า ถ้าโทรหาต้องมีเรื่องสำคัญจริง ๆ ที่ไม่สามารถคุยทางแชตได้
“คือฉันได้งานทำแล้วแก”
“จริงเหรอ แล้วทำที่บริษัทไหน”
“บริษัท Aresun Logistic Group”
“ว้าว บริษัทนี้เลยเหรอ”
“ใช่ แต่ฉันต้องย้ายไปอยู่ที่คอนโดของบริษัท มันเป็นสวัสดิการพนักงาน”
“ก็ดีสิ ว่าแต่จะไปเมื่อไหร่”
“ฉันจะไปพรุ่งนี้เลยแก เพราะต้องไปทำงานวันมะรืนนี้”
“เร็วจัง ฉันขอให้แกโชคดีนะ แล้วค่อยนัดเจอกัน”
“ขอบใจนะนิสาที่แกช่วยฉันมาตลอด”
“ไม่เป็นไรแก แค่นี้สบายมาก”
“จ้า แล้วค่อยนัดเจอกันนะ”
“โอเค ฉันวางก่อนนะแก มีธุระต้องทำ เดี๋ยวค่อยไลน์คุยกันต่อนะ โชคดี”
“โอเค บาย” สองสาวล่ำลากันเสร็จเรียบร้อยก็วางสายไป นัดดาล้มตัวลงบนที่นอนอย่างมีความสุข ดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเขินอายเมื่อคิดถึงใบหน้าอันหล่อเหล่าของเอเรนอส ผู้ชายที่ช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ เธอไม่เคยรู้สึกหัวใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดมา ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เห็นหน้าของชายหนุ่มหัวใจดวงน้อยถึงได้เต้นตึก ๆ ตัก ๆ ราวกับตีกลองแบบนี้
เมื่อถึงเช้าวันใหม่หน้าห้องของหญิงสาวมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาหลายครั้ง ทำให้นัดดาที่ยังอยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักต้องรีบมาเปิดประตูเพื่อดูว่าคนที่รบกวนตนเองตั้งแต่เช้าคือใคร
“สวัสดีครับ นัด” เอเรนอสยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าประตู ยกถุงอาหารเช้าที่ตนเองซื้อมาให้คนที่กำลังตกใจอย่างนัดดาดู
เขาตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพื่อมารับคนตรงหน้าโดยเฉพาะ ก่อนที่จะมาถึงเขาสั่งให้ลูกน้องแวะซื้อข้าวต้มในร้านอาหารชื่อดังจะได้มากินกับเธอแล้วค่อยพาหญิงสาวออกไปจากที่นี่
“อุ๊ย พี่เอริคทำไมมาเช้าจังคะ” คนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำอุทานด้วยความตกใจไม่คิดว่าคนที่มาเคาะห้องของเธอคือเอเรนอสเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่นัดหมายกัน เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าถึงจะเก้าโมงเช้า
“คือพี่ไปทำธุระก็เลยแวะเข้ามารับนัด จะได้ไม่เสียเวลา”
คนเจ้าเล่ห์พูดโกหกอย่างหน้าตาเฉย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มีธุระที่ไหนแต่ที่ออกมาตั้งแต่เช้าเพราะทนคิดถึงคนตัวเล็กไม่ไหว
“ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย รอหน่อยได้ไหมคะ”
นัดดาพูดออกมาด้วยความเขินอายแล้วก้มมองชุดที่ตนเองใส่เพราะเธอยังไม่ได้อาบน้ำ โชคดีที่ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วไม่อย่างนั้นเธอคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวแน่ เพราะสภาพเพิ่งตื่นนอนของตนเองดูไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไรครับ พี่รอได้ แต่นัดจะให้พี่ยืนอยู่หน้าห้องแบบนี้เหรอ” ชายหนุ่มแหย่คนตัวเล็กแล้วยิ้มออกมาแบบหล่อ ๆ เพื่อโปรยเสน่ห์ให้คนตรงหน้าหลงใหล
“ขอโทษค่ะ ลืมเลย เชิญเข้ามาเลยค่ะ” หญิงสาวรีบบอกให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่มีข้าวของตนเองวางอยู่ตรงมุมห้อง หลังจากเมื่อคืนเธอคุยกับนิสาเสร็จก็รีบเก็บข้าวเก็บของทันทีแล้วเอาไปวางตรงมุมห้องอย่างเป็นระเบียบ
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มรีบเดินไปนั่งบนพื้นเหมือนเมื่อวานแล้ววางถุงอาหารลง หยิบจาน ชาม ที่วางอยู่บนชั้นมาใส่ข้าวต้มอย่างคล่องแคล่วทำให้กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยขึ้นมาในอากาศ
“หอมมากค่ะ น่ากินที่สุด”
หญิงสาวเดินไปนั่งบนพื้นแล้วสูดกลิ่นข้าวต้มหอม ๆ เข้าปอด
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ลงมือกินเลยดีกว่า”
ชายหนุ่มหัวเราะให้กับความน่ารักของคนตรงหน้าที่กำลังจ้องข้าวต้มในถ้วยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ได้ห่วงสวยเลย
“ค่ะ กินเลยนะ”
คนหิวข้าวรีบหยิบช้อนตักข้าวต้มเข้าปากแล้วแสดงสีหน้าของความเอร็ดอร่อยออกมาจนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามต้องยิ้มตาม โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองได้ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละนิดตั้งแต่มาเจอกับเธอ จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งกินข้าวกันอย่างกะหนุงกะหนิงจนอิ่ม หญิงสาวจึงขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปกับชายหนุ่ม
ทั้งสองคนนั่งรถสุดหรูฝ่าการจราจรที่ติดขัดของเมืองกรุงจนมาถึงอาคารพาณิชย์หลายสิบชั้น บริษัท Aresun Logistic Group สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงาน ข้างบนสุดของตึกมีเพนท์เฮาส์สุดหรูของเอเรนอสอยู่ด้วย
“ถึงแล้วครับ”
เอเรนอสเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่ยังอยู่ในอาการตกตะลึงมองตึกสูงอย่างตื่นเต้น
“ค่ะ หนูจะได้มาอยู่ที่นี่จริงเหรอพี่เอริค มันหรูมากเลยนะคะ”
คนตัวเล็กหันมาถามเจ้านายหนุ่มเพื่อความมั่นใจว่าไม่ได้มาผิดที่ใช่ไหม เธอคิดว่าห้องพักที่บริษัททำให้พนักงานอยู่จะเหมือนกับอะพาร์ตเมนต์ทั่วไป แต่ดูจากตึกตรงหน้ามันตรงข้ามกับสิ่งที่เธอคิดอย่างสิ้นเชิง เพราะมันหรูหราเหมือนคอนโดไม่มีผิด
“ที่นี่แหละถูกแล้ว เราสร้างที่พักอาศัยให้กับพนักงานอย่างดีเพื่อตอบแทนที่เขาทุ่มเททำงานให้กับบริษัท”
ชายหนุ่มอธิบายให้หญิงสาวฟังถึงเหตุผลที่สร้างที่พักอาศัยให้กับพนักงานของบริษัท แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถมาอยู่ที่นี่ได้เลยจะต้องผ่านการพิจารณาจากฝ่ายบุคคลก่อนจึงจะเข้ามาอยู่ได้
“ดีจังเลยค่ะ แล้วหนูต้องไปอยู่ชั้นไหน”
หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยว่าตนเองจะได้พักชั้นไหนเพราะถ้าได้พักชั้นสูง ๆ ก็คงดี เธอจะได้มองเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้ทั่วอย่างที่เคยคิดเอาไว้
“หึหึ ตามพี่มาเดี๋ยวก็รู้เอง”
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์ จูงมือคนตัวเล็กเดินเข้าไปยังข้างในอาคารแล้วขึ้นลิฟต์ที่สร้างขึ้นเฉพาะเขาเท่านั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวจะไม่ต้องขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับพวกพนักงาน
เมื่อมาถึงชั้นที่ต้องการนัดดาก็เดินตามชายหนุ่มออกมาจากลิฟต์ด้วยความเขินอาย เพราะเขาไม่ยอมปล่อยมือเธอแม้แต่นาทีเดียว อ้างว่าเดี๋ยวเธอจะหลงทางหากเขาไม่จับแบบนี้
เธออยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า 'ตนเองจะหลงทางได้ยังไงในเมื่อตอนนี้ยืนอยู่ในลิฟต์'แต่ก็ไม่พูดออกมาเพราะมันรู้สึกอบอุ่นหัวใจดีที่เขาเดินกุมมือ
“ไหนห้องของหนูคะพี่เอริค”
หญิงสาวหันไปมองรอบ ๆ เห็นห้องพักมีอยู่ตั้งหลายห้องแต่ไม่รู้ว่าตนเองพักห้องไหน
“ห้องนี้ครับ”
ชายหนุ่มพาหญิงสาวมายังห้องตรงกลางที่มีขนาดใหญ่สุดของชั้น ซึ่งเคยเป็นห้องที่ใช้สำหรับต้อนรับเพื่อน ๆ ของตนเอง เพราะเขาไม่ค่อยชอบให้ใครขึ้นไปบนเพนท์เฮาส์
แต่ให้หญิงสาวมาอยู่ห้องนี้เพื่อให้เธออยู่ใกล้ ๆ ตนเองเพราะปกติพวกพนักงานจะอยู่ชั้นอื่นไม่อนุญาตให้อยู่ชั้นนี้ ตอนแรกเขากะว่าจะให้เธอไปอยู่ที่เพนท์เฮาส์ด้วยแต่กลัวหญิงสาวจะตกใจหวาดกลัวตนเองเสียก่อน จึงยอมให้เธอมาอยู่ที่ห้องนี้แทน
“ว้าว ห้องใหญ่จังค่ะ หนูต้องอยู่คนเดียวเหรอ”
นัดดาเห็นความใหญ่โตของห้องพักก็ร้องอย่างตื่นเต้นแล้ววิ่งไปทั่วห้องทำเหมือนกับว่าตนเองเป็นเด็กน้อย
“ครับ”
ชายหนุ่มพยักหน้าให้หญิงสาวแล้วเดินไปนั่งบนโซฟาสบาย ๆ มองดูคนตัวเล็กเดินสำรวจห้องอย่างเพลิดเพลิน เขาอยากจะพูดกับเธอเหลือเกินว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะเขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนแต่ไม่พูดออกมากลัวคนที่กำลังตื่นเต้นจะตกใจ
“พี่เอริคจะให้หนูไปทำงานในตำแหน่งอะไรคะ” หลังจากที่นัดดาเดินสำรวจห้องของตนเองเรียบร้อยก็เดินมาหาเอเรนอสเพื่อสอบถามเรื่องงานที่ต้องไปทำวันพรุ่งนี้
“หึหึ พรุ่งนี้ค่อยไปคุยกันที่บริษัท”
“ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวตอนเที่ยงไปกินข้าวที่ห้องพี่นะ พี่สั่งให้เชฟเตรียมหมดแล้ว”
“ห้องของพี่เอริค อยู่ไหนคะ ไกลจากที่นี่ไหม”
“ห้องของพี่อยู่ข้างบนนี่เอง”
“จริงเหรอ อยากเห็นจังค่ะ วิวข้างบนคงสวยน่าดู”
“หึหึ เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้วครับ”
“ค่ะ พี่เอริค”
หญิงสาวยิ้มให้กับชายหนุ่มจนตาหยี เมื่อเห็นลูกน้องของ เอเรนอสเอากระเป๋ามาให้ครบหมดแล้ว เธอจึงลุกขึ้นไปจัดการข้าวของเครื่องใช้เข้าตู้อย่างมีระเบียบ โดยมีชายหนุ่มคอยช่วยเหลือ
หลังจากที่เก็บของเสร็จเรียบร้อยคนเจ้าเล่ห์ก็พาหญิงสาวมายังบนห้องของตนเองที่อยู่ถัดขึ้นมาอีกชั้นเพื่อพาเธอมากินข้าวเที่ยงด้วยกัน ทำให้ลูกน้องที่เฝ้าอยู่เกิดอาการการสงสัยขึ้นมาว่าสาวน้อยที่เจ้านายจูงมือขึ้นมาคือใคร เพราะไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนมาที่เพนท์เฮาส์สักครั้ง