Chapter 8 ข้าต้องการจะหย่า

1117 Words
Chapter 8 ข้าต้องการจะหย่า “ท่านพ่อ” ชายสูงวัยที่กำลังก้มหน้าจรดปลายพู่กันลงบนสมุดบัญชีถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของบุตรสาวเพียงคนเดียว “อิงเอ๋อร์!” “ท่านพ่อทำหน้าราวกับเห็นผี” ฉานอิงไม่วายค่อนแคะบิดา นางทำหน้างอสะบัดกายกระเง้ากระงอดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินไปยังด้านหลังโต๊ะคิดเงินแล้วลากเก้าอี้กลมมานั่งข้างๆ บิดาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แหม...อิงเอ๋อร์ลูกรัก จะไม่ให้พ่อตกใจได้ยังไงกัน ในเมื่อเจ้าแต่งงานเพียงวันเดียวก็กลับมาที่บ้านเสียแล้ว มีเจ้าสาวที่ไหนเขาทำกันแบบนี้บ้างเล่า” “ข้าอยากกลับข้าก็จะกลับ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าสาวคนอื่นเขาต้องทำตัวยังไง ปฏิบัติตัวยังไง ท่านพ่ออย่าลืมสิว่าข้าแต่งงานโดยไม่ได้รัก แต่งงานเพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้พยุงโรงเตี๊ยมของตระกูลเราไม่ให้ถูกยึดไป แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่ได้แต่งงานออกไปไกลจนพ้นหูพ้นตาท่านพ่อเสียที่ไหนกัน ระยะทางห่างกันแค่สองสามก้าวก็ถึงแล้ว” หญิงสาวพูดพลางเหลือบมองไปยังโรงเตี๊ยมผืนฟ้าของตระกูลโจวด้วยความหงุดหงิดหัวใจ โรงเตี๊ยมสายน้ำของตระกูลอู่ และ โรงเตี๊ยมผืนฟ้าของตระกูลโจวนั้นสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กันโดยปู่ทวดของนางและปู่ทวดของจือหยวนเป็นเพื่อนรักกัน แรกเริ่มดำเนินกิจการมาอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เกื้อกูลกันฉันมิตรเรื่อยมา โรงเตี๊ยมสายน้ำสืบทอดต่อมายังบิดาของนาง ‘อู่เฉาหยุ่น’ ส่วนโรงเตี๊ยมผืนฟ้าสืบทอดต่อมายังบิดาของจือหยวน ‘โจวห้าวยุ่น’ แน่นอนว่าเฉาหยุ่นและห้าวยุ่นกลายเป็นเพื่อนรักกันเฉกเช่นรุ่นบิดา ทว่ากลับมีเรื่องบาดหมางที่ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจมองหน้ากันติด เจอกันทีไรเป็นต้องด่าทอทะเลาะชกต่อยกันอยู่ร่ำไป กินระยะเวลาความบาดหมางมากว่ายี่สิบปี จนชาวบ้านแถวนี้ลืมไปหมดแล้วว่าต้นสายปลายเหตุจากความบาดหมางนั้นคืออะไร หญิงสาวเองก็ไม่รู้และไม่เคยถามแต่กลับบ่มเพาะความเกลียดชังตามบิดามาอย่างง่ายดาย นั่นก็เพราะโจวจือหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ หน้าด้าน และไร้ยางอาย มันก็สมควรแล้วมิใช่หรือที่นางจะเกลียดชังเขา! “คนพวกนั้นรังแกเจ้าหรืออิงเอ๋อร์” เฉาหยุ่นยื่นมือไปโอบไหล่บุตรสาวเพียงคนเดียว น้ำเสียงทอดต่ำลงด้วยความรักและความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด “รังแกหรือ...” นางทวนถามแล้วก็ถึงกับใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาเสียดื้อๆ การที่เขา กอด จูบ และโลมไล้นางไปทั้งเรือนร่างนับว่าเป็นการรังแกหรือเปล่านะ “ข้าจะไปเอาเรื่องไอ้ห้าวยุ่นที่มันกล้าผิดสัญญากับข้า หน็อย! ข้าอุตส่าห์ลดตัวลงไปญาติดีด้วย แต่มันกลับเป็นคนตระบัดสัตย์ไร้ยางอาย ข้ากับมันวันนี้จะได้เห็นดีกัน!” ผู้เป็นบิดานั้นเลือดร้อนมาตั้งแต่หนุ่มยันหัวหงอกขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ก้าวอาดๆ เข้าไปในครัวแล้วคว้าปังตอขึ้นมากำชับมั่น หมายจะไปเอาเลือดหัวอดีตเพื่อนทรยศมาล้างเท้าบุตรสาวให้จงได้ “เดี๋ยวก่อนท่านพ่อ! ไม่มีใครรังแกข้าทั้งนั้น” “ท่านลุงและท่านป้าล้วนดีกับข้าราวกับข้าเป็นบุตรสาว ท่านก็รู้นี่ว่าท่านทั้งสองดีกับข้าเสมอมา” หญิงสาวรีบวิ่งไปขวาง ระหว่างอธิบายก็รีบแย่งปังตอจากบิดามาถือเอาไว้ พลางลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก โชคดีที่วันนี้ไม่มีลูกค้าสักคนจึงไม่มีใครต้องตกใจที่จู่ๆ เห็นเถ้าแก่โรงเตี๊ยมลุกขึ้นมาถือปังตอวิ่งไปมาอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ “ถ้าอย่างนั้นก็ลูกชายของมันสินะ ไอ้จือหยวนหน้าหล่อ! พ่อรึอุตส่าห์ไว้ใจยกเจ้าซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจให้มัน แต่มันกลับกระทำเลวทราม หน็อย! นี่มันรังแกเจ้าตรงไหนบ้าง บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้พ่อจะไปจัดการมันเอง!” เฉาหยุ่นจับร่างบุตรสาวให้หมุนไปมาเพื่อหาร่องรอยของการถูกทำร้าย แต่ไม่ว่าหาเท่าไหร่ก็กลับหาไม่พบ “ท่านพ่อ...” หญิงสาวเอ่ยเรียกบิดาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ ก่อนจะอิดออดปฏิเสธออกไปได้ไม่เต็มปากนัก “เขาไม่ได้รังแกข้าเช่นนั้น” “ก็แล้วมันรังแกเจ้าอย่างไรเล่า” ผู้เป็นบิดาถามกลับทันควันอย่างคนใจร้อนเจ้าอารมณ์ มือเท้าอยู่ไม่สุข ร่ำๆ จะไปหาเรื่องอริเก่าให้จงได้ ทว่าท่าทางอึกอักและความเงียบของบุตรสาวก็ทำให้ชายสูงวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนถึงกับหัวเราะดังลั่น จนเสี่ยวเอ้อร์และแม่ครัวถึงกับต้องยื่นหน้ามาดูด้วยความตกใจ ที่เถ้าแก่ของตนเปลี่ยนอารมณ์ไปมาจนแทบตามไม่ทัน “โธ่เอ๊ย! อิงเอ๋อร์ผู้น่ารักของพ่อ รังแกเช่นนั้นคู่แต่งงานคู่ไหนๆ ก็ทำกัน ยิ่งรังแกเยอะๆ สิดี พ่อจะได้มีหลานมาอุ้มไวๆ อย่างไรเล่า” พูดจบก็หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ มือหนึ่งตบลงไปที่บ่าของบุตรสาวแล้วยื่นไปหยิกแก้มนวลระเรื่อราวกับเห็นนางเป็นเด็กสาวตัวน้อยตลอดเวลา “ท่านพ่อ! แต่ว่าข้าอยากหย่ากับเขา!” ในที่สุดนางก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาหาบิดาในวันนี้ ซึ่งความต้องการของนางทำให้บิดาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่แค่เพียงเสี้ยวแมลงกระพือปีกเขาก็หุบปากฉับก่อนจะหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม “เจ้าจะหย่าด้วยสาเหตุใดกันเล่าเด็กหัวดื้อ ในเมื่อสามีของเจ้าไม่ได้บกพร่องสักอย่าง หากว่าเจ้าเหนื่อยนักก็บอกสามีไปตรงๆ ว่าไอ้เรื่องรังกงรังแกน่ะให้มันเบาๆ ลงหน่อยเพราะเจ้ายังไม่ชิน” ด้วยความที่เฉาหยุ่นเลี้ยงบุตรสาวมาคนเดียว เพราะภรรยาเสียชีวิตไปตั้งแต่ฉานอิงยังเด็กนัก เขาจึงสามารถพูดคุยกับบุตรสาวได้ทุกเรื่องโดยไม่เขินอาย ทว่าครานี้บุตรสาวของเขากลับมีท่าทางกระดากและเขินอายอย่างเห็นได้ชัด มองก็รู้ว่าบุตรสาวตัวดีเริ่มมีใจให้สามีบ้างแล้ว จึงได้วิ่งโร่มาขอหย่าเพราะว่ากลัวหัวใจตัวเองจะถลำลึกไปมากกว่านี้สินะ เจ้าลูกโง่หัวดื้อ ดื้อเหมือนใครก็ไม่รู้สิ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD