Chapter 7 ข้าจะกลืนกินเจ้า
“คนบ้า ปะ...ปล่อย อื้อ อื้อ”
รู้สึกตัวขึ้นมาทีไรนางก็จะพ่นคำด่าออกไปทุกที ก่อนที่ความเสียวจะฉุดกระชากสติของนางให้หลุดลอย
“อื้อ อะ...อาห์ อาห์”
นางเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว มือเล็กเลื่อนมาจิกทึ้งศีรษะของจือหยวน ขยี้ผมดำขลับยาวสยายของเขาจนยุ่งเหยิง นางหอบหายใจแรงขึ้น แรงขึ้น รู้สึกราวกับเลือดในกายสูบฉีดแล่นปราดไปทั่วร่าง
“เจ้าช่างหวานเหลือเกินอิงเอ๋อร์ของข้า”
‘...ของข้า’ งั้นหรือ เหตุใดนางต้องรู้สึกใจกระตุกเมื่อได้ยินถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าของในเรือนกายของนางด้วย นางควรจะโกรธ ควรจะโมโห แต่นางกลับยิ่งเสียวสะท้านไปพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นถี่กระชั้น
“อื้อ อื้อ จะ จือ...หยวน ขะ...ข้า อื้อ...”
ฉานอิงผวาแอ่นสะโพกยกลอย โดยที่ลิ้นร้อนยังคงตามติดทั้งเลีย ทั้งดูด ทั้งขบเม้มด้วยจังหวะกระชั้นจนกระทั่งหญิงสาวก้าวไปถึงฝั่งขอบฟ้า
“อื้อ...”
หญิงสาวกระตุกเกร็งรุนแรงจนตัวงอ หวีดผวาจนเผลอลุกขึ้นกอดเขาเอาไว้แน่น ภายในกายบีบรัดเป็นจังหวะ ตุบ! ตุบ! ตุบ! ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วด้วยความสุขสม เรือนร่างของนางสั่นเทิ้ม หน้าอกคู่สวยขยับกระชั้นเบียดชิดแผงอกแกร่งของผู้เป็นสามีราวกับจะปลุกกำหนัดอีกฝ่ายให้ลุกโชน
เมื่อความซ่านเสียวจางหาย แทนที่ด้วยความอับอายอัปยศ นางเห่อร้อนไปทั้งใบหน้าจนหูอื้อด้วยความกรุ่นโกรธ สะบัดกายออกจากอ้อมกอดอบอุ่นก่อนจะตวัดฝ่ามือตบลงบนใบหน้าอีกฝ่ายโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
เผียะ!
ตบสุดแรง แต่คนตัวโตกลับนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะขยับเรือนกาย ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ที่ถูกตบจนเป็นรอยริ้วแดงที่ใบหน้า
“เจ้ากล้ามากที่ล่วงเกินข้าครั้งแล้วครั้งเล่า อย่าคิดนะว่าการที่ข้ายอมแต่งงานกับเจ้า จะทำให้ข้ายอมตกเป็นเบี้ยล่างของเจ้า ไม่มีวัน! ข้าเกลียด เกลียด เกลียด…”
ถ้อยคำผรุสวาทจางหายเมื่อโจวจือหยวนรั้งร่างบางเข้ามาปะทะอกกว้างก่อนจะบดจูบเร่าร้อนรุนแรงอย่างที่นางไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
จูบจ้วงแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ กระชากกระชั้นแสดงถึงความเป็นสามีเหนือภรรยา จูบบดเบียดขยี้จนริมฝีปากเล็กบวมเห่อแสดงให้เห็นว่านางไม่อาจต่อกรกับเขาได้เลยไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
“อื้อ...”
คนตัวเล็กผวาเฮือกเมื่อเขากระชากร่างนางให้นอนลงกับฟูก รวบข้อมือบางขึ้นสูงเหนือศีรษะ ก่อนจะกดเรือนกายแข็งแกร่งคร่อมทับบดเบียดร่างเล็กจนนางแทบขาดอากาศหายใจ
เรือนกายแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างชายชาตรี บดเบียดร่างอรชรบอบบางของอิสตรีราวกับจะผสานเข้าเป็นเนื้อเดียว ราวกับงูร้ายที่กอดรัดเหยื่อให้กระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่จะกลืนกินอย่างโหดเหี้ยม
ฉานอิงรับรู้อย่างแจ่มแจ้งว่านางไม่มีทางสู้เขาได้เลย พละกำลังที่เขากดทับลงมาทำให้นางไม่อาจแม้แต่จะขยับเขยื้อนกายหลีกหนีอีกทั้งยังปวดแปลบไปทั้งสรรพางค์กาย
สัมผัสกักขฬะรุนแรงทำให้หัวใจดวงเล็กสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ตระหนักชัดว่าชายหน้าหวานรูปงามตรงหน้าหาใช่ชายอ้อนแอ้นดั่งที่ภาพลวงหลอก ยามเขาโกรธเกรี้ยวดวงตาหวานซึ้งของเขาไร้แวว จากหนุ่มหน้าหวานกลับกลายเป็นนักฆ่าหน้าหยกได้อย่างน่าพรั่นพรึง
คนตัวโตผละออกจากร่างงดงามของภรรยาสาว เขาสะบัดกายลุกออกจากเตียง ยกมือขึ้นบีบขมับแรงๆ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่
ห้องหอตกอยู่ในความเงียบ...
ไร้ซึ่งการหยอกล้อ ไร้ซึ่งถ้อยคำเหน็บแนมกวนอารมณ์อย่างเคย
เวลานี้ฉานอิงรู้สึกกลัวผู้เป็นสามีจับใจ นางดึงผ้าห่มขึ้นมาพันกาย ถอยหลังจนชิดหัวเตียง แววตาจับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่อย่างไม่ไว้ใจ
จือหยวนแต่งกายเสร็จแล้วเขาเดินไปหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าต่างโดยหันหลังให้ภรรยาสาว ยืนอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่งจึงหันกลับมา สืบเท้าเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง ก่อนจะยื่นมือหนาไปเชยใบหน้าหวานให้แหงนเงยขึ้นสบตาเขา
“ข้าขอโทษที่เผลอจูบเจ้ารุนแรง เจ็บหรือไม่”
บ้าจริง! แค่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนจากเขา ความกลัวเมื่อสักครู่ก็พลันเหือดหายไปสิ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้น นางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอขึ้นมาเสียดื้อๆ ขอบตาร้อนผ่าว
“ข้าขอโทษที่ไม่อาจควบคุมอารมณ์”
ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจจนทำให้คนตัวเล็กถึงกับงุนงงและสับสนกับท่าทางของเขา
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้ คำที่ข้าไม่อยากได้ยินจากเจ้ามากที่สุดคือคำว่า ‘เกลียด’ โปรดอย่าพูดว่าเกลียดข้า ถ้าใจของเจ้าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ”
ดวงตาคมกร้าวจ้องมองลงไปยังดวงตากลมโตของหญิงสาว มือข้างหนึ่งเลื่อนไปสัมผัสที่ริมฝีปากบวมเห่อของฉานอิง
หัวใจของเขาปวดแปลบ
“ข้าขอโทษ”
เขาเอ่ยขอโทษอีกครั้งพลางยื่นหน้าเข้าไปจุมพิตลงบนริมฝีปากอิ่ม สัมผัสแผ่ววูบไหวเบาราวกับขนนกล่องลอยไปในอากาศ
ฉานอิงเอาแต่นิ่งอึ้ง นางสับสน นางไม่เข้าใจในทุกการกระทำของเขา เขาดูรัก ห่วงใย หวงแหนนาง ทั้งที่เขากับนางเป็นศัตรูกัน ไม่เคยพูดจาดีๆ ต่อกันสักครั้งด้วยซ้ำไป
“เจ้าพักผ่อนเถอะ วันนี้ข้าจะไม่กวนเจ้าแล้ว”
พูดเพียงเท่านั้นคนตัวโตก็เดินออกไปจากห้องหอ ทิ้งให้เจ้าสาวนั่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกสับสน ดวงตากลมโตหลุบลงต่ำ หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงบนหลังมือที่วางอยู่บนหน้าตักหยดแล้วหยดเล่า
ความรู้สึกหลากหลายวุ่นวายสับสน
“คนบ้า!”
จู่ๆ อู่ฉานอิงก็ตะโกนดังราวกับเสียสติ นางขว้างปาหมอนลงกับพื้น แล้วหันไปกระชากผ้าห่มจนฉีกขาดราวกับระบายอารมณ์ ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู ริมฝีปากคู่สวยสั่นระริก
“ข้าจะนอนพักผ่อนได้ยังไงเล่า ในเมื่อในหัวของข้ามีแต่เจ้า! มีแต่เจ้า! มีแต่เจ้า! เต็มไปหมดแบบนี้ บ้าที่สุดเลย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
นางทุบกำปั้นลงบนฟูกนอน โกรธตัวเองที่ไม่อาจสลัดใบหน้าหล่อเหลาของจือหยวนออกไปจากห้วงความคิดได้แม้ชั่วขณะจิต เรือนกายของนางวูบวาบและหวามไหว แค่เพียงคิดถึงเขา คิดถึงสัมผัสของเขา...