เกิดใหม่...ใกล้เธอ
6
ตันหยงในชุดนักศึกษามาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านสไตล์โมเดิร์นสีขาวเรียบหรูหลังหนึ่งตาม'Location' ที่กวินตาให้มา หญิงสาวกดออดเรียกคนในบ้านให้มาเปิดประตู วันนี้หลังเลิกเรียนคือนัดเรียนพิเศษของเธอกับกวินตา แต่เพื่อนสนิทยัยจอมแสบบอกว่าติดธุระกะทันหันเธอเลยต้องมาคนเดียว ก็แอบนึกหวั่นๆว่าวันนี้จะปะทะกับคุณน้ำแข็งขั้วโลกเหนือได้มากน้อยแค่ไหน
"เชิญครับ"
ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสเลคขายาวออกมาเปิดประตูให้เธอ สายตาคมกล้าที่เปล่งประกายรังสีความเย็นเยียบทะลุเข้ามาถึงข้างในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้รู้สึกสั่นคลอนเป็นจังหวะที่แรงขึ้น
เขาดูหล่อเหมือนดารา แต่เขาช่างเย็นชาซะดูน่ากลัว แต่ความน่ากลัวนั่นมันสำหรับคนอื่น สำหรับเธอแล้วเขายังเป็นคนที่สิงสถิตย์อยู่ในหัวใจเธอเหมือนเดิมไม่ว่าเขาจะเป็นแบบไหนก็ตาม
"สวัสดีค่ะ อาจารย์ชานนท์"
หญิงสาวยกมือไหว้ทำความเคารพเขาตามสถานะของเธอในชาติภพนี้
"อยู่นอกมหาลัยเรียกผมว่า พี่ชานนท์เหมือนกวินตาน้องสาวผมเถอะครับ"
"ค่ะ"
ตันหยงยิ้มให้เขาอย่างสดใสไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจกับน้ำเสียงห้วนที่ดูเย็นชานั้นเลย
"เดี๋ยวเราไปนั่งเรียนกันตรงศาลาริมสระน้ำในสวนหย่อมหลังบ้านกันเถอะครับ"
'ไม่อยากให้ผู้หญิงเข้าไปในบ้านสินะ'
ตันหยงคิดออกมาในใจอย่างรู้ทัน เธอเดินตามเขามาตรงสวนหย่อม เป็นสวนที่จัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านสวน เพราะมีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ ครบครันเลยทีเดียว
"เดี๋ยวผมให้เด็กเอาของว่างมาให้นะ ส่วนคุณก็ทำความรู้จักกับชีตที่ผมวางไว้บนโต๊ะไปก่อนล่ะกัน"
"สระน้ำนี้ ถ้ามีดอกบัวเยอะๆก็คงดีว่ามั้ยคะ?"
ตันหยงหยุดยืนอยู่ตรงริมสระน้ำที่ขุดเอาไว้เลี้ยงปลาสวยงาม ในสระนั้นมีดอกบัวหลวงอยู่สองสามดอก
"ว่ายังไงนะ?"
ชานนท์ถามย้ำอีกครั้ง
"เห็นบ้านของพี่ชานนท์แล้ว หยงนึกถึงบ้านสวนที่อยู่ริมคลองและถ้าได้พายเรือเก็บดอกบัวด้วยก็ยิ่งดีมากๆ พี่ชานนท์ว่ามั้ยคะ?"
ชานนท์จ้องตันหยงนิ่ง สิ่งที่เจ้าหล่อนพูดออกมามันทำให้เขาคิดถึงวนิดา คิดถึงสายน้ำลำคลองที่พรากเธอจากไป
"นี่คุณตันหยง คุณตั้งใจเข้าหาผมเพื่ออะไรกันแน่?"
ชานนท์ถามออกมาตรงๆเพราะเข้าใจว่าตันหยงเข้าหาเขาเหมือนผู้หญิงทุกๆคน ที่ไม่ได้ตั้งใจเพื่อมาเรียนพิเศษจริงๆ
"ก็ต้องเข้าหาเพราะจุดประสงค์อยู่แล้วไงคะพี่ชานนท์"
"ถ้ามีจุดประสงค์อื่นก็กลับไปเถอะ"
ชานนท์บอกเธอด้วยน้ำเสียงเข้มพอๆกับใบหน้าที่ค่อนข้างจะตึงๆในตอนนี้
"อ้าว กลับได้ยังไงคะ จุดประสงค์ของหยงคือการพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้ หรือว่า...พี่ชานนท์คิดว่าหยงเข้าหาเพราะจุดประสงค์อะไรเหรอคะ?"
ชานนท์ชะงักไปเมื่อรู้ตัวว่าพูดแรงกับเจ้าหล่อนไป เพียงเพราะตันหยงพูดถึงเรื่องดอกบัวซึ่งมันสะกิดหัวใจของเขาเพียงแค่นั้น จริงๆแล้วหญิงสาวไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ ชานนท์กระพริบตาถี่ๆพ่นลมหายใจออกมาจนได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ
"โทษที รีบไปนั่งประจำที่เถอะ "
ตันหยงแอบอมยิ้ม เธอทำตามที่เขาบอกอย่างตั้งใจ เพราะเกรงว่าจะโดนไล่ให้กลับไปอีกเป็นครั้งที่สอง พอได้นั่งอยู่ข้างๆกันทำให้ตันหยงอดที่จะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้
'เหตุการณ์นี้มัน'
ย้อนไปเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว
"ทำไมถอนหายใจแบบนั้นคะพี่ชานนท์"
วนิดาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าชานนท์เอาแต่ตอนหายใจกับตำราเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า
"พี่รู้สึกเหนื่อยนะ วันๆต้องเรียนเยอะมากๆ พ่อแม่ของวนิดาให้เรียนเยอะแบบนี้มั้ยครับ?"
"ไม่ค่ะ วนิดาเรียนเฉพาะในคาบเรียนเท่านั้น ไม่เรียนพิเศษ เพราะว่าวิชาไหนที่วนิดาไม่เข้าใจก็มีพี่ชานนท์คอยสอนให้วนิดาตลอด ที่มาที่บ้านของวนิดาแล้วนี่คะ"
ชานนท์ลูบหัวสาวน้อยเบาๆอย่างเอ็นดู มีความสุขทุกๆครั้งที่ได้นั่งพูดคุยกับสาวน้อยคนนี้ พลันความเหนื่อยล้าก็มลายหายไปจนหมดสิ้น
"สาวน้อยของพี่"
"ไม่เป็นไรนะคะ วันไหนที่พี่ชานนท์เหนื่อยมากๆ วนิดาจะเป็นคนทำให้พี่ชานนท์หายเหนื่อยเองค่ะ วันไหนที่ไม่สบายใจก็มาที่บ้านของวนิดานะคะ"
"แบบนี้มั้ยนะ ที่เขาเรียกว่ายาใจ"
"งั้นวนิดาคือยาใจของพี่ชานนท์ค่ะ"
ชานนท์ยิ้มหวานตามไปกับคำพูดของสาวน้อยผู้สวยสดใสตรงหน้า ใช่เธอเป็นยาใจของเขาจริงๆ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรมาได้ยินเสียงแจ้วๆของเธอแล้ว ความทุกข์ใจเหล่านั้นก็มลายหายไปจนหมดสิ้นราวกับปลิดทิ้ง เพียงแค่ได้เห็นหน้าเจ้าหล่อนกับน้ำเสียงหวานๆเท่านั้นก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
"คุณ!ๆ ๆ"
เสียงเรียกของชานนท์ทำให้ตันหยงตื่นจากภวังค์ความคิด ตรงหน้าของเธอตอนนี้กลายเป็นชานนท์เวอร์ชั่นเจ้าชายน้ำแข็ง เมื่อสักครู่ยังเจอพี่ชานนท์ในรูปแบบของผู้ชายอบอุ่นอยู่เลย
'เห้อ!'
ตันหยงถอนลมหายใจออกมาอย่างแรง
"ให้ทำความรู้จักตัวอักษรแค่นี้ ดูคุณหนักอกหนักใจถึงกับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ชานนท์ดุลูกศิษย์คนล่าสุดพรางส่ายหน้าระอา เพราะเกือบชั่วโมงแล้วตันหยงยังไม่ไปถึงไหนเลย เอาแต่นั่งเหม่อลอยกับถอนใจเฮือกๆ
"ตีความผิดแล้วค่ะ หยงกำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่นานมากๆแล้วน่ะค่ะ"
"วันนี้ถ้าคุณไม่พร้อมก็กลับไปเถอะ ผมไม่บังคับ"
'เอะอะ ก็ไล่ เอะอะ ก็ไล่ ชิส์!'
"เปล่าไม่พร้อมค่ะ แค่นึกถึงบทสนทนานึงเมื่อหลายปีมาแล้ว ในตอนที่รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยล้า"
"ผมไม่อยากฟังเรื่องเพ้อเจ้อของนักเรียน"
"พี่ชานนท์มียาใจยามที่รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยล้ามั้ยคะ?"
ตันหยงรีบโพล่งออกมาก่อนที่เขาจะเอ่ยปากไล่เธออีกเป็นครั้งที่สาม ทำให้ชานนท์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานอยู่หน้าจอโน๊ตบุ้คขนาดเล็กกะทัดรัดถึงกับชะงัก หันหน้ามาจ้องตันหยงนิ่ง ตันหยงก็สู้สายตาของเขากลับพร้อมรอยยิ้ม
ชานนท์เห็นภาพของวนิดาคล้ายๆจะซ้อนทับอยู่กับตันหยง ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบท คำพูด ท่าทาง แม้แต่เวลาที่เธอเผลอ และคำพูดประโยคเมื่อครู่นี้อีก เขามั่นใจว่าเขาพูดกับวนิดาเพียงสองคนเท่านั้น ไม่มีใครเอาไปบอกตันหยงให้มาพูดกวนประสาทเขาแน่นอน เพราะแม้แต่กวินตาน้องสาวจอมแสบของเขาก็ไม่เคยรู้
'มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญ คำๆนี้ก็คงจะมีคนพูดกันอยู่ทั่วๆไปล่ะมั้ง'
ยิ่งอยู่ใกล้ตันหยงแค่ไหน ใบหน้าของวนิดาก็ลอยมาวนเวียนอยู่รอบๆตัวเขาจนแทบจะไม่มีสมาธิกับอะไรเลย
"วันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ ผมเหนื่อยแล้ว การบ้านก็ไปคัดตัวอักษรมาก็แล้วกัน มันไม่ยากหรอก ก็เหมือนตอนคุณเรียนอนุบาลคัด ก-ฮนั่นแหล่ะ"
กล่าวเสร็จเขาก็ลุกออกไปทันที ทิ้งให้ตันหยงนั่งอ้าปากค้างเพราะไม่ทันที่จะพูดอะไรออกมาเขาก็ชิงลุกหนีไปเสียก่อน
"นี่น้องเองนะ นี่วนิดาไงคะพี่ชานนท์"
พูดขึ้นด้วยเสียงเบาหวิวพริ้วหายไปราวกับสายลมแผ่ว เพราะคนที่อยากให้ฟังเขาเดินหนีหายเข้าไปในบ้านแล้ว