เกิดใหม่...ใกล้เธอ
5
ทุกอย่างล้วนเป็นความบังเอิญหรือเกิดจากโชคชะตานำพาไปนะ ตันหยงได้แต่เก็บความสงสัยเหล่านี้เอาไว้ในใจ ตั้งแต่วันที่ได้ประสบพบเจอกันอีกครั้งอย่างไม่ได้ทันได้ตั้งตัว มันรู้สึกบังเอิญมากๆจนเหมือนใครบางคนได้ขีดเส้นแห่งโชคชะตาเอาไว้แล้ว เธอไม่ทันที่จะได้ออกตามหา แต่เขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอเอง เช่นนี้เธอก็อดที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ว่าเธอกับเขาอาจจะเป็นคู่บุพเพสันนิวาสกัน
"เวลาในโลกนี้มันสั้นนัก อยากทำอะไรก็ทำเสียเถิดโยม"
เสียงเยียบเย็นของหลวงตากล่าวขึ้น
"เจ้าค่ะ"
ตันหยงคุกเข่าลงยกมือขึ้นพนมไหว้หลวงตาที่มาบิณฑบาตรในตอนเช้า แต่ก็ต้องแปลกใจกับคำที่หลวงตาท่านกล่าวขึ้นมา ราวกับรู้เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นกับเธอ หลวงตาพยักหน้าให้อีกครั้งก่อนจะเดินจากไป
"มีอะไรรึเปล่าจ้ะหยง แม่เห็นหนูเหม่อๆ"
"ปละเปล่าค่ะคุณแม่ หยงคงยังรู้สึกมึนๆ งงๆอยู่"
"ให้แม่ตรวจอาการให้มั้ย?"
"ไม่ใช่เรื่องป่วยหรอกค่ะ น่าจะตื่นเช้ามากไปหน่อยเลยง่วงๆ ซึมๆค่ะ"
"นั่นสินะ ปกติลูกไม่ใช่คนนอนตื่นเช้านี่นา ไงวันนี้ถึงตื่นได้?"
"อยากมาทำบุญเป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ"
"เดี๋ยวนี้อ้อนเสียจริง"
"หยงแค่อยากทำตามที่หลวงตาบอกเมื่อกี้ไงคะแม่ ชีวิตนี้มันสั้นมากๆจนหยงไม่อยากจะเสียเวลาไปแม้แต่นาทีเดียว"
"ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมารอบนี้ดูหยงของแม่โตขึ้นเยอะเลยนะ"
"หยงแค่รู้สึกว่าความเป็นกับความตายมันอยู่ใกล้กันแค่นิดเดียว เลยอยากทำทุกวันให้ดีที่สุดค่ะแม่ เผื่อว่าตายจากไปจะได้ไม่ต้องมานั่งนึกเสียดายโทษตัวเองว่าที่จริงควรทำแบบนั้นแบบนี้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว"
"ไม่เอา ไม่พูดเรื่องเป็นเรื่องตาย เข้าบ้านกันเถอะจ่ะ"
เรื่องที่หลวงตาพูดเมื่อสักครู่นั้นยิ่งย้ำให้ตันหยงต้องคิดว่าเธอไม่สามารถที่จะรอช้าได้อีกต่อไป สาเหตุอันใดที่ทำให้เธอต้องกลับมาในชาตินี้ เธอไม่ควรที่จะลืมเลือน
วันเวลาผ่านไปอย่างช้าเนิบ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและชานนท์ก็ยังไปไม่ถึงไหน เพราะเขาดูเว้นระยะห่างกับเธอเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มารับกวินตาที่บ้าน หรือโอกาสต่างๆที่ได้เจอกัน ดวงตาคมคู่นั้นของเขาช่างเย็นชาเสียเหลือเกิน คำพูดที่คุยกับเธอตั้งแต่เจอกันก็แทบจะนับคำได้
"ตา ทำไมพี่ชายของตาดูเย็นชาอะไรปานนั้น"
ตันหยงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ขึ้นมา
"พี่ชายตาเคยมีปั้บปี้เลิฟสมัยวัยรุ่นน่ะ แต่เป็นปั้บปี้เลิฟที่จริงจังเป็นรักแรกของกันและกันที่เหมือนว่าจะรักกันมาก ๆ "
ตันหยงถึงกับชะงักนิ่ง แต่ยังคงพยักหน้าฟังต่ออย่างตั้งใจ
"และก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ชายของตาโสดมาจนถึงทุกวันนี้ และตาคิดว่าพี่ชายของตายังคงรักเธอและคิดถึงเธอคนนั้นอยู่มาก ๆ"
"เธอคนนั้นคือใครเหรอ?"
ตันหยงถามมาถึงตรงนี้ เพราะเธอไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าเขายังคงปักใจกับเธอเมื่อชาติที่แล้วอยู่ จึงอยากจะถามให้แน่ใจ
"ชื่อว่า วนิดา เธอตายจากโลกนี้ไปแล้ว"
เพล้ง!
ช้อนในมือของตันหยงถึงกับร่วงหลุดมือหล่นลงในจานข้าวด้วยความตกใจ
"ตาว่ามันไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ คุณวนิดาจากไปนานถึงยี่สิบปีแล้ว พี่นนท์ควรจะลืมเธอไปสักที ทำไมต้องปิดตายหัวใจตัวเองขนาดนั้นไม่รู้ ตาไม่อยากเห็นพี่นนท์ต้องทุกข์อยู่แบบนี้เลย"
ตันหยงเงียบกริบ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเธอคือสาเหตุที่ทำให้ชานนท์ต้องเป็นแบบนี้
"ตา จะว่าอะไรมั้ย? ถ้าหยงอาสาจะทำให้พี่นนท์กลับมามีความสุขอีกครั้ง"
"หือ! เราก็อยากเห็นด้วยหรอกนะหยง แต่อย่าเสี่ยงดีกว่า สาวๆโดนเล่นงานมาหลายคนแล้ว ตากลัวว่าตาจะมองหน้าหยงไม่ติด ถ้าหากพี่ชายของตาทำให้หยงต้องรู้สึกไม่ดี"
"หยงรับรองไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบไหน จะไม่มีปัญหาระหว่างความสัมพันธ์ของเราสองคนเด็ดขาด"
"หยง ชอบ พี่ชายเราจริงๆเหรอ?"
"อืม ทั้งแต่แรกเจอ มันนานมากแล้วจริงๆ"
กวินตาไม่เคยเห็นว่าตันหยงจะดูสนใจใครเป็นพิเศษขนาดนี้มาก่อน ท่าทางและสีหน้าที่ดูจริงจังนั้นอีก บ่งบอกให้รู้ว่าตันหยงเอาจริง
"เดือนเดียวเอง พูดซะเหมือนว่านานเป็นชาติเลยนะเพื่อนสาว"
"ใช่ หยงรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ รู้สึกว่านานเป็นชาติเลยล่ะตา"
หญิงสาวหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มหนึ่งฮึกแล้ววางลง รวบช้อนส้อมไว้ข้างจานข้าวเป็นอาการที่บอกให้รู้ว่าอิ่มไม่รับประทานต่อแล้ว หลังจากที่นั่งเขี่ยอาหารมาเป็นชั่วโมงๆแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าหิวเลยแม้แต่นิด
"เอางี้ เริ่มไปเรียนพิเศษกัน หยงจะมีอภิสิทธิ์กว่าคนอื่นก็ตรงที่ตายินดีมากๆที่จะให้ความร่วมมือกับหยง ไม่ใช่ว่าตาจะเชียร์เพื่อนให้กับพี่ชายนะ แต่ตาอยากเห็นพี่นนท์มีความสุข รวมทั้งหยงด้วย"
ตันหยงเอื้อมมือไปแตะมือของกวินตาเบาๆ
"เชื่อใจหยงนะตา ภารกิจนี้จะต้องสำเร็จ"
"ดูจริงจัง"
"ห่ะ ก็ต้องจริงจังสิ"
"ไม่รังเกียจที่พี่ชายของตาอายุเยอะกว่าแน่นะ"
"ไม่อ่ะ ความจริงแล้วหยงกับพี่ชานนท์ก็อายุไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก"
"หยงอ่ะ พูดอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยเลย"
"จริงๆนะเด็กน้อยกวินตา"
ตันหยงขยี้ผมของเพื่อนเบาๆอย่างเอ็นดู เพราะความจริงแล้วอายุของเธอถ้านับรวมกับชาติที่แล้วก็ไม่ต่างกับชานนท์เท่าไหร่ ถ้าเธอไม่ตายไปก่อนป่านนี้ กวินตาก็คงจะเป็นน้องสาวของเธออีกคนหนึ่ง
"พอจะจีบคนแก่หน่อย ก็มองตาเป็นเด็กน้อยเลยนะ ยัยแก่แดด"
ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน ตันหยงหยิกแก้มทั้งสองข้างของกวินตาอย่างเอ็นดู เสียงหัวเราะคิกคักดังกังวานอยู่ในห้องรับประทานอาหารในบ้านหลังใหญ่ของตันหยง ตั้งคู่นั้นยังคงตัวติดกันอยู่ทุกๆวันจนตอนนี้กลายมาเป็นเพื่อนที่ตันหยงสนิทที่สุดคนหนึ่งไปแล้ว แต่ความเป็นจริงภายในใจของตันหยงนั้น มองกวินตาเป็นน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่งต่างหาก