เกิดใหม่...ใกล้เธอ
7
"เมื่อวานเหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง?"
กวินตาถามในขณะที่กำลังเดินช้อปปิ้งกันอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
"เหตุการณ์ปกติมาก "
"หมายความว่าไงจ้ะ ตาอุตส่าห์หลีกทางให้แล้วนะ"
"ที่ว่าเหตุการณ์ปกติหมายถึงโดนเมินปกติ เห้ออออ!"
ตันหยงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"แต่ว่า ไม่ยอมแพ้หรอกนะ "
"ดูหยงจริงจังกับพี่นนท์ เป็นครั้งแรกที่เราเห็นหยงสนใจผู้ชายขนาดนี้ถามจริงๆเถอะพี่ชายเรามีอะไรดีขนาดนั้น?"
"อืม พี่ชานนท์เหรอ อบอุ่น ใจดี"
ตันหยงยิ้มออกมาในขณะพูด แต่ กวินตากลับทำหน้าประหลาดสงสัยว่าชานนท์ไปใจดีกับตันหยงตอนไหน
"ยี้!อบอุ่นไม่ใช่แล้วหนึ่ง ใจดียิ่งแล้วใหญ่ เอามาจากไหนนี่?"
"หยงสัมผัสได้"
"นี่ๆแม่คุณ จะมาตัดสินจากความรู้สึกของตัวเองไม่ได้นะ ร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้นมาพี่ไม่ช่วยปลอบนะจ้ะน้องสาว"
กวินตาขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆตันหยงคิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน เธอกำลังสงสัยว่าเพื่อนของเธอยังมีสติดีอยู่หรือเปล่า เพราะเข้าใจว่าตันหยงคิดมโนไปเองทั้งหมดกับคำกล่าวที่ตันหยงบอกว่าพี่ชายของเธอเป็นคนอบอุ่น ใจดี
เพราะที่ผ่านมากวินตาไม่เคยเห็นมุมที่พี่ชายของเธอเป็นแบบนั้นแม้แต่นิด นอกจากเป็นคนหน้าตาดีแล้วก็มีแต่ความเย็นชาจนน่าขยาดมากกว่า ทั้งคู่พากันจูงมือเดินไปนั่งตรงร้านกาแฟมุมหนึ่งของห้าง เพราะเดินกันมาสักพักจนรู้สึกเมื่อยล้าไปหมดแล้ว
"อุ้ย!"
"ขอโทษค้าบ"
อยู่ๆก็มีเด็กน้อยวิ่งมาชนตันหยงอย่างจัง ตันหยงย่อตัวลงประคองเด็กน้อยให้ลุกขึ้นมา
"มากับใครคะ หนุ่มหล่อ?"
ตันหยงถามเด็กชายตัวน้อย ภายในใจก็อดนึกคุ้นๆกับเจ้าก้อนตัวอ้วนตรงหน้าไม่ได้
"คุณพ่อค้าบ ลูกพลับอยู่นี่"
ตันหยงลุกขึ้นยืนในมือยังคงจูงข้อมือเล็กๆของเด็กน้อยไว้ แล้วหันไปตามเสียงที่เด็กน้อยเรียก แต่ทว่า
"พี่....คิน"
ตันหยงเผลอเรียกชื่อภาคินออกมาเบาๆก่อนจะนิ่งอึ้งไป เพราะเด็กน้อยที่เธอกำลังจูงอยู่คือหลานของเธอเอง และที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ก็คือพี่ภาคินพี่ชายของเธอเมื่อชาติก่อน หญิงสาวจำได้ไม่ผิดแน่นอน
"อ้าว พี่ภาคินนั่นเอง นี่เจ้าก้อนลูกพลับเหรอนี่ อาจำไม่ได้เลย"
กวินตาเป็นฝ่ายที่ทักขึ้นมา ตันหยงนึกอยากจะขอบคุณเพื่อนของเธอนักเพราะน้ำตาของเธอกำลังจะไหลพอดี เสียงของกวินตาทำให้ภาคินเบี่ยงเบนความสนใจไปทางกวินตาแทน
ภาคินเลยไม่ทันเห็นสังเกตุเห็นน้ำตาที่มันซึมออกมาของตันหยงด้วยความรู้สึกคิดถึงจนสุดหัวใจแต่ทำอะไรไม่ได้
"นึกว่าใคร น้องตานั่นเอง"
ภาคินยิ้มให้กวินตาแต่เขาก็อดที่จะปรายตาหันไปมองตันหยงไม่ได้
"สวัสดีค่ะพี่ภาคิน นี่ตันหยงเพื่อนของตาค่ะ"
"สวัสดีค่ะ"
ตันหยงยกมือขึ้นไหว้ภาคิน น้ำตายังไม่หยุดคลอหน่วยแต่เธอทำได้เพียงแค่พยายามหักห้ามมันเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาอีก หญิงสาวย่อตัวลงไปให้เท่ากับความสูงของลูกพลับ ปัดขนมบนตัวที่เปื้อนของเด็กน้อยออกเบาๆ
"เป็นเด็กดีนะครับลูกพลับ"
ตันหยงจัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยออกมาของเด็กชายตัวน้อยใหม่ สายตาที่ตันหยงมองลูกพลับมีแต่ความอ่อนโยนนุ่มนวล จนภาคินอดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้
"ลูกพลับต่อไปถ้าวิ่งเพ่นพ่านแบบนี้อีกพ่อไม่พามาแล้วนะ"
ภาคินทำเสียงเข้มดุลูก
"อย่าดุหลานสิคะพี่คิน!"
ตันหยงหันมาแหวใส่ภาคินพร้อมกับสายตาเอาเรื่องเพราะลืมไปว่าตัวเองไม่ใช่วนิดาในชาติก่อน ภาคินเลิกคิ้วใส่ตันหยงอย่างแปลกใจ จนตันหยงเริ่มรู้ตัวว่าเผลอตัวไป
"เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีหยง หยงสงสารน้องน่ะค่ะ"
"เราไปกันดีกว่าหยง ไปก่อนนะคะพี่ภาคิน"
"อืม เดี๋ยวว่างๆพี่ค่อยเข้าไปเยี่ยมคุณป้านับดาวนะครับ พอดีช่วงนี้คุณแม่ของพี่สุขภาพไม่ค่อยดี เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน"
"อะไรนะคะ คุณแม่เป็นอะไรนะคะ?"
อยู่ๆ ตันหยงก็โพล่งออกมา
"หยงรู้จักแม่พี่ภาคินเหรอ?"
'เอาอีกแล้วตันหยง หัดควบคุมความรู้สึกตัวเองบ้าง'
ตันหยงพูดเตือนสติตัวเองเบาๆในใจ เมื่อเจอภาคินผู้เป็นพี่ชายเมื่อชาติที่แล้ว เธอก็เริ่มที่จะโป๊ะแล้วโป๊ะอีก
ทุกคนหันมามองตันหยงเป็นทางเดียวกัน
"เอ่อ ปละ เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ..ไปกันเถอะ สวัสดีค่ะพี่คิน"
ตันหยงพูดแก้ตัวออกมาด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆก่อนจะพูดรวบรัดเป็นการตัดบทเลยทีเดียว เธอหลบสายตาของภาคินที่กำลังจ้องเธออยู่อย่างไม่วางตา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตันหยงกลายเป็นคนแปลกในสายตาของพี่คินของเธอไปเรียบร้อยแล้ว
"ไปก่อนนะคะพี่ภาคิน"
ภาคินพยักหน้า มองตามตันหยงและกวินตาไปด้วยความรู้สึกสงสัยในท่าทางแปลกๆของตันหยง แววตา กิริยาอีก แถมยังเรียกเขาว่า 'พี่คินสั้นๆ'ซึ่งคนที่เรียกเขาแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ'วนิดา'
'ทำไมกวินตาถึงไปคบเพื่อนแปลกๆแบบนี้ได้นะ'
"พ่อค้าบ เมื่อกี้ลูกพลับเห็นพี่คนสวยร้องไห้ด้วยค้าบ"
ภาคินอึ้งกิมกี่เป็นครั้งที่สิบหลังจากเจอกับผู้หญิงที่ชื่อ'ตันหยง'เพื่อนสนิทน้องสาวของชานนท์ ความแปลกประหลาดของตันหยงทำให้ภาคินอดรู้สึกไม่ได้ว่าตันหยงคนนี้ไม่เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วๆไป
-ฝั่งของกวินตาและตันหยง-
"หยง แกเป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ดูแปลก ๆ?"
กวินตาถามขึ้นมาทันทีที่ห่างไกลผู้คน
"เป็น "
"มีเรื่องอะไรที่ตาต้องรู้มั้ย?"
กวินตาสังเกตุว่าตันหยงดูอึดอัดเหมือนมีอะไรที่อัดแน่นอยู่ข้างใน เพราะเสียงถอนหายใจที่ดังออกมาเป็นระยะ ๆ
"ตา เชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดมั้ย?"
ตันหยงลองหยั่งเชิงถามเพื่อนอย่างจริงจัง
"มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราพูดกันอยู่เหรอ?"
"หยงแค่อยากถามความเห็นของตาน่ะ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องแบบนี้"
"อ๋อ หยงกำลังซ้อมบทละครอยู่ใช่มั้ย นี่กำลังจะเซอร์ไพรส์ด้วยการรับบทนางเอกละครเวทีในมหาลัยหรือเปล่า?"
'เฮ้อ!ช่างเถอะหยง บอกยัยกวินตาไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร'
"ใช่ ๆ ๆแต่ไม่ใช่หยงเพื่อนอีกคนของหยงน่ะ รีบไปเรียนพิเศษกันดีกว่า"
ตันหยงยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัวเบาๆ เมื่อเห็นว่าตัวช่วยของเธอไม่น่าจะช่วยอะไรได้
"วันนี้พี่นนท์บอกให้ไปบ้านคุณแม่ พอดีเลยตาไม่เคยพาหยงไปบ้านเลย คราวนี้จะได้รู้จักกับคุณแม่ของตาด้วย"
'คุณป้านับดาวสินะ'
ตันหยงยิ้มออกมาอย่างดีใจที่จะได้เจอกับคุณป้านับดาว เพราะในอดีตเธอนั้นรักและเคารพคุณนับดาวมากๆ เพราะท่านเป็นคนใจดีเป็นที่สุด
"ไปสิ แต่เอ๊ะ!ทำไมถึงเปลี่ยนที่ล่ะวันนี้"
ตันหยงหันไปถามกวินตาด้วยความสงสัย หรือว่าเมื่อวานเธอไปทำอะไรให้ชานนท์ของเธอไม่พอใจเอาแล้วสินะ
"นั่นสิ หรือว่าเมื่อวานหยงจะรุกหนักเกินไป"
กวินตาหันมาทำสายตาหยอกเหย้าใส่เพื่อนสาวคนสวย
"บ้า ใครจะกล้ารุกกัน สายตาของพี่ชายเธอน่ะ จ้องนานๆจะกลายเป็นน้ำแข็งเอาได้"
"อิ ๆ ๆนี่มันพี่ชายเราน่ะ ไม่ใช่เจ้าหญิงเอลซ่า"
"ไม่แน่นะ รัศมีแห่งความเย็นยะเยือกแผ่ไปรอบทิศแบบนั้นน่ะ"
"พอ ๆ ๆ เลิกเมาส์พี่นนท์ได้แล้ว ตาขำจนท้องแข็งไปหมดแล้วนี่ คิก ๆ ๆ"
"แต่ยังไงก็ หล่อ แฮ่ ๆ "
"จ้ะ ความรักมักจะทำให้คนตาบอด"
กวินตามองบนในความคลั่งรักของตันหยง เพราะเวลาพูดถึงชานนท์สายตาของตันหยงเปล่งประกายความคลั่งรักออกมาอย่างชัดเจน