ความรู้สึกที่ยากจะควบคุม

1421 Words
เกิดใหม่...ใกล้เธอ 7 "เมื่อวานเหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง?" กวินตาถามในขณะที่กำลังเดินช้อปปิ้งกันอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง "เหตุการณ์ปกติมาก " "หมายความว่าไงจ้ะ ตาอุตส่าห์หลีกทางให้แล้วนะ" "ที่ว่าเหตุการณ์ปกติหมายถึงโดนเมินปกติ เห้ออออ!" ตันหยงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "แต่ว่า ไม่ยอมแพ้หรอกนะ " "ดูหยงจริงจังกับพี่นนท์ เป็นครั้งแรกที่เราเห็นหยงสนใจผู้ชายขนาดนี้ถามจริงๆเถอะพี่ชายเรามีอะไรดีขนาดนั้น?" "อืม พี่ชานนท์เหรอ อบอุ่น ใจดี" ตันหยงยิ้มออกมาในขณะพูด แต่ กวินตากลับทำหน้าประหลาดสงสัยว่าชานนท์ไปใจดีกับตันหยงตอนไหน "ยี้!อบอุ่นไม่ใช่แล้วหนึ่ง ใจดียิ่งแล้วใหญ่ เอามาจากไหนนี่?" "หยงสัมผัสได้" "นี่ๆแม่คุณ จะมาตัดสินจากความรู้สึกของตัวเองไม่ได้นะ ร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้นมาพี่ไม่ช่วยปลอบนะจ้ะน้องสาว" กวินตาขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆตันหยงคิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน เธอกำลังสงสัยว่าเพื่อนของเธอยังมีสติดีอยู่หรือเปล่า เพราะเข้าใจว่าตันหยงคิดมโนไปเองทั้งหมดกับคำกล่าวที่ตันหยงบอกว่าพี่ชายของเธอเป็นคนอบอุ่น ใจดี เพราะที่ผ่านมากวินตาไม่เคยเห็นมุมที่พี่ชายของเธอเป็นแบบนั้นแม้แต่นิด นอกจากเป็นคนหน้าตาดีแล้วก็มีแต่ความเย็นชาจนน่าขยาดมากกว่า ทั้งคู่พากันจูงมือเดินไปนั่งตรงร้านกาแฟมุมหนึ่งของห้าง เพราะเดินกันมาสักพักจนรู้สึกเมื่อยล้าไปหมดแล้ว "อุ้ย!" "ขอโทษค้าบ" อยู่ๆก็มีเด็กน้อยวิ่งมาชนตันหยงอย่างจัง ตันหยงย่อตัวลงประคองเด็กน้อยให้ลุกขึ้นมา "มากับใครคะ หนุ่มหล่อ?" ตันหยงถามเด็กชายตัวน้อย ภายในใจก็อดนึกคุ้นๆกับเจ้าก้อนตัวอ้วนตรงหน้าไม่ได้ "คุณพ่อค้าบ ลูกพลับอยู่นี่" ตันหยงลุกขึ้นยืนในมือยังคงจูงข้อมือเล็กๆของเด็กน้อยไว้ แล้วหันไปตามเสียงที่เด็กน้อยเรียก แต่ทว่า "พี่....คิน" ตันหยงเผลอเรียกชื่อภาคินออกมาเบาๆก่อนจะนิ่งอึ้งไป เพราะเด็กน้อยที่เธอกำลังจูงอยู่คือหลานของเธอเอง และที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ก็คือพี่ภาคินพี่ชายของเธอเมื่อชาติก่อน หญิงสาวจำได้ไม่ผิดแน่นอน "อ้าว พี่ภาคินนั่นเอง นี่เจ้าก้อนลูกพลับเหรอนี่ อาจำไม่ได้เลย" กวินตาเป็นฝ่ายที่ทักขึ้นมา ตันหยงนึกอยากจะขอบคุณเพื่อนของเธอนักเพราะน้ำตาของเธอกำลังจะไหลพอดี เสียงของกวินตาทำให้ภาคินเบี่ยงเบนความสนใจไปทางกวินตาแทน ภาคินเลยไม่ทันเห็นสังเกตุเห็นน้ำตาที่มันซึมออกมาของตันหยงด้วยความรู้สึกคิดถึงจนสุดหัวใจแต่ทำอะไรไม่ได้ "นึกว่าใคร น้องตานั่นเอง" ภาคินยิ้มให้กวินตาแต่เขาก็อดที่จะปรายตาหันไปมองตันหยงไม่ได้ "สวัสดีค่ะพี่ภาคิน นี่ตันหยงเพื่อนของตาค่ะ" "สวัสดีค่ะ" ตันหยงยกมือขึ้นไหว้ภาคิน น้ำตายังไม่หยุดคลอหน่วยแต่เธอทำได้เพียงแค่พยายามหักห้ามมันเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาอีก หญิงสาวย่อตัวลงไปให้เท่ากับความสูงของลูกพลับ ปัดขนมบนตัวที่เปื้อนของเด็กน้อยออกเบาๆ "เป็นเด็กดีนะครับลูกพลับ" ตันหยงจัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยออกมาของเด็กชายตัวน้อยใหม่ สายตาที่ตันหยงมองลูกพลับมีแต่ความอ่อนโยนนุ่มนวล จนภาคินอดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้ "ลูกพลับต่อไปถ้าวิ่งเพ่นพ่านแบบนี้อีกพ่อไม่พามาแล้วนะ" ภาคินทำเสียงเข้มดุลูก "อย่าดุหลานสิคะพี่คิน!" ตันหยงหันมาแหวใส่ภาคินพร้อมกับสายตาเอาเรื่องเพราะลืมไปว่าตัวเองไม่ใช่วนิดาในชาติก่อน ภาคินเลิกคิ้วใส่ตันหยงอย่างแปลกใจ จนตันหยงเริ่มรู้ตัวว่าเผลอตัวไป "เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีหยง หยงสงสารน้องน่ะค่ะ" "เราไปกันดีกว่าหยง ไปก่อนนะคะพี่ภาคิน" "อืม เดี๋ยวว่างๆพี่ค่อยเข้าไปเยี่ยมคุณป้านับดาวนะครับ พอดีช่วงนี้คุณแม่ของพี่สุขภาพไม่ค่อยดี เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน" "อะไรนะคะ คุณแม่เป็นอะไรนะคะ?" อยู่ๆ ตันหยงก็โพล่งออกมา "หยงรู้จักแม่พี่ภาคินเหรอ?" 'เอาอีกแล้วตันหยง หัดควบคุมความรู้สึกตัวเองบ้าง' ตันหยงพูดเตือนสติตัวเองเบาๆในใจ เมื่อเจอภาคินผู้เป็นพี่ชายเมื่อชาติที่แล้ว เธอก็เริ่มที่จะโป๊ะแล้วโป๊ะอีก ทุกคนหันมามองตันหยงเป็นทางเดียวกัน "เอ่อ ปละ เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ..ไปกันเถอะ สวัสดีค่ะพี่คิน" ตันหยงพูดแก้ตัวออกมาด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆก่อนจะพูดรวบรัดเป็นการตัดบทเลยทีเดียว เธอหลบสายตาของภาคินที่กำลังจ้องเธออยู่อย่างไม่วางตา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตันหยงกลายเป็นคนแปลกในสายตาของพี่คินของเธอไปเรียบร้อยแล้ว "ไปก่อนนะคะพี่ภาคิน" ภาคินพยักหน้า มองตามตันหยงและกวินตาไปด้วยความรู้สึกสงสัยในท่าทางแปลกๆของตันหยง แววตา กิริยาอีก แถมยังเรียกเขาว่า 'พี่คินสั้นๆ'ซึ่งคนที่เรียกเขาแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ'วนิดา' 'ทำไมกวินตาถึงไปคบเพื่อนแปลกๆแบบนี้ได้นะ' "พ่อค้าบ เมื่อกี้ลูกพลับเห็นพี่คนสวยร้องไห้ด้วยค้าบ" ภาคินอึ้งกิมกี่เป็นครั้งที่สิบหลังจากเจอกับผู้หญิงที่ชื่อ'ตันหยง'เพื่อนสนิทน้องสาวของชานนท์ ความแปลกประหลาดของตันหยงทำให้ภาคินอดรู้สึกไม่ได้ว่าตันหยงคนนี้ไม่เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วๆไป -ฝั่งของกวินตาและตันหยง- "หยง แกเป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ดูแปลก ๆ?" กวินตาถามขึ้นมาทันทีที่ห่างไกลผู้คน "เป็น " "มีเรื่องอะไรที่ตาต้องรู้มั้ย?" กวินตาสังเกตุว่าตันหยงดูอึดอัดเหมือนมีอะไรที่อัดแน่นอยู่ข้างใน เพราะเสียงถอนหายใจที่ดังออกมาเป็นระยะ ๆ "ตา เชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดมั้ย?" ตันหยงลองหยั่งเชิงถามเพื่อนอย่างจริงจัง "มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราพูดกันอยู่เหรอ?" "หยงแค่อยากถามความเห็นของตาน่ะ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องแบบนี้" "อ๋อ หยงกำลังซ้อมบทละครอยู่ใช่มั้ย นี่กำลังจะเซอร์ไพรส์ด้วยการรับบทนางเอกละครเวทีในมหาลัยหรือเปล่า?" 'เฮ้อ!ช่างเถอะหยง บอกยัยกวินตาไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร' "ใช่ ๆ ๆแต่ไม่ใช่หยงเพื่อนอีกคนของหยงน่ะ รีบไปเรียนพิเศษกันดีกว่า" ตันหยงยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัวเบาๆ เมื่อเห็นว่าตัวช่วยของเธอไม่น่าจะช่วยอะไรได้ "วันนี้พี่นนท์บอกให้ไปบ้านคุณแม่ พอดีเลยตาไม่เคยพาหยงไปบ้านเลย คราวนี้จะได้รู้จักกับคุณแม่ของตาด้วย" 'คุณป้านับดาวสินะ' ตันหยงยิ้มออกมาอย่างดีใจที่จะได้เจอกับคุณป้านับดาว เพราะในอดีตเธอนั้นรักและเคารพคุณนับดาวมากๆ เพราะท่านเป็นคนใจดีเป็นที่สุด "ไปสิ แต่เอ๊ะ!ทำไมถึงเปลี่ยนที่ล่ะวันนี้" ตันหยงหันไปถามกวินตาด้วยความสงสัย หรือว่าเมื่อวานเธอไปทำอะไรให้ชานนท์ของเธอไม่พอใจเอาแล้วสินะ "นั่นสิ หรือว่าเมื่อวานหยงจะรุกหนักเกินไป" กวินตาหันมาทำสายตาหยอกเหย้าใส่เพื่อนสาวคนสวย "บ้า ใครจะกล้ารุกกัน สายตาของพี่ชายเธอน่ะ จ้องนานๆจะกลายเป็นน้ำแข็งเอาได้" "อิ ๆ ๆนี่มันพี่ชายเราน่ะ ไม่ใช่เจ้าหญิงเอลซ่า" "ไม่แน่นะ รัศมีแห่งความเย็นยะเยือกแผ่ไปรอบทิศแบบนั้นน่ะ" "พอ ๆ ๆ เลิกเมาส์พี่นนท์ได้แล้ว ตาขำจนท้องแข็งไปหมดแล้วนี่ คิก ๆ ๆ" "แต่ยังไงก็ หล่อ แฮ่ ๆ " "จ้ะ ความรักมักจะทำให้คนตาบอด" กวินตามองบนในความคลั่งรักของตันหยง เพราะเวลาพูดถึงชานนท์สายตาของตันหยงเปล่งประกายความคลั่งรักออกมาอย่างชัดเจน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD