ตอนที่ 3

1014 Words
“จ้ะ” กานต์ตอบรับพร้อมเดินตามแรงฉุดของหล่อน จริงอยู่ว่าเขาไม่ค่อยได้พาอรรัมภาออกไปไหนมาไหนด้วย คบกันก็เหมือนหลบๆ ซ่อนๆ มีแค่เพื่อนสนิทของอรรัมภาไม่กี่คนที่รู้ แต่ก่อนอาจเป็นเพราะว่าพ่อแม่และพี่ชายของอรรัมภาไม่ค่อยชอบหน้าเขาสักเท่าไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ กลับเป็นครอบครัวของเขาที่ไม่พอใจอรรัมภา ไม่อยากให้เขายุ่งเกี่ยวกับอรรัมภาอีก เขาเองก็ไม่อยากทำให้ใครต่อใครผิดหวัง จึงจำต้องห่างจากอรรัมภาอย่างไม่เต็มใจ ทั้งที่ผู้หญิงที่เขาอยากร่วมชีวิตด้วยคือหล่อน ถ้าไม่ติดว่าครอบครัวของหล่อนแข็ง อะไรๆ ก็อาจจะดีกว่านี้ แต่... โอกาสในวันนี้หาได้ยาก และอรรัมภาก็เป็นคนสร้างโอกาสนี้ให้เขา เพราะหล่อนบอกว่าที่นี่เป็นรีสอร์ตส่วนตัวของเพื่อนพี่ชาย คนที่เข้ามาก็จะเป็นเฉพาะกลุ่ม ดังนั้นวางใจได้ระดับหนึ่งว่าเรื่องราวในนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัว หล่อนพูดเหมือนเปิดทางทุกอย่าง ดังนั้นหากจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ คืนนี้ ก็คงไม่มีใครว่าเขาได้แน่ และทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่ตั้งใจตั้งแต่แรก นั่นคือ เขากับอรรัมภาได้แต่งงานกัน โดยที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายจะห้ามไม่ได้ “เป็นไงน้องกู สวยไหมล่ะ ชื่อ ‘อรรัมภา’ แปลว่า งามดุจนางฟ้า” เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่อังกูรบอก ‘งามดุจนางฟ้า’ เพราะหญิงสาวที่เห็นยืนอยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้ามีใบหน้าสวยจัดจนเด่นสะดุดตา คริสต์ยอมรับว่าหล่อนสวยจริงๆ สวยมากจนสะกดสายตาเขาให้มองแต่เพียงหล่อน รูปร่างก็ดี ไม่ผอมและก็ไม่อ้วนเลยสักนิด หล่อนดูสมส่วนกลมกลึงแบบเนื้อนมไข่ อวบอิ่มน่าขยำขยี้ แต่กลับดูอ่อนหวานน่ารักน่าทะนุถนอมไปพร้อมๆ กันด้วย ใครอยู่ใกล้คงอยากกอดหล่อนสักที แต่หากเป็นความคิดสัปดนแบบผู้ชายอย่างเขา คงไม่ใช่แค่กอดแน่ แต่มันอยากกด อืม... เย็นไว้คริสต์ แต่หากจะถามว่าตรงไหนสวยสุด ก็คงต้องบอกว่า ‘รอยยิ้ม’ เพราะรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบสว่างได้โดยง่ายนั้น กลายเป็นเครื่องประดับให้มองได้โดยไม่เบื่อ รวมๆ แล้วสมชื่อ ‘อรรัมภา’ “ว่าไง ถึงกับตะลึงเลยนะ น้องกูสวยใช่ไหมล่ะ” “สวย แต่มีแฟนแล้วนี่” “มีแฟนแล้วไงวะ ไม่ใช่ผัวซะหน่อย” “มึงพูดอะไรของมึงวะกูร แปลว่ามึงไม่ชอบไอ้นั่น” ดวงตาคมเข้มจ้องหน้าเพื่อน หวังว่าจะได้ยินคำตอบจากปากของอังกูรที่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ เขาไม่อยากให้อังกูรชอบไอ้หมอนั่น ยิ่งเห็นอรรัมภาคล้องแขน หัวเราะต่อกระซิก ยิ่งขัดตา “ก็ไม่ชอบน่ะสิวะ ครอบครัวที่กำลังจะล้มละลายแบบนั้นน่ะ ก็หวังแค่หาผู้หญิงมาแต่งงานล้างหนี้ด้วยเท่านั้นแหละ” “แปลว่าผู้หญิงต้องไปช่วยอุ้มครอบครัวเขาเหรอ” “ตามนั้นแหละ” “แล้วมันจะแปลกอะไรวะ ครอบครัวผัวก็เหมือนครอบครัวเมีย ตราบใดที่ยังทำธุรกิจอยู่มันก็แปลว่ายังมีชีวิตรอดไม่ใช่เหรอวะ ก็แค่ช่วยกันพยุงเท่านั้นเอง” คริสต์พูดไปตามทางที่ควรจะเป็น ทั้งที่เขาก็ไม่ได้อยากให้อรรัมภาต้องไปโอบอุ้มธุรกิจครอบครัวผู้ชาย “มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิวะ” “แล้วมันแบบไหน” “ก็พ่อแม่มันน่ะไม่เอาน้องกู แต่จะเอาน้องมึงไง” “น้องกู ใครวะ กูลูกคนเดียว” อังกูรทำหน้ามองฟ้ามองฝนกลอกตาไปมาเพราะอารมณ์กำลังได้ที่ดันมาเจอลูกกวนจากคริสต์ซะแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ตอบ เด่นชัยก็ตอบออกมาซะก่อน “อ้าว... นี่มันไอ้กานต์ ว่าที่น้องเขยมึงนี่หว่าคริสต์ เห็นพ่อแม่กูบอกว่าพ่อแม่หนูดีไปปรึกษาเรื่องข้าวของที่จะเอามาใช้วันหมั้นกับวันแต่งแล้วนะ แล้วไหงไอ้กานต์มันมากับน้องแองจี้วะเนี่ย ยังไงวะกูร” คริสต์ฟังสิ่งที่เด่นชัยบอกหันมองหน้าอังกูร “หมายความว่าไอ้ผู้ชายคนนี้กับหนูดีจะแต่งงานกันเหรอ” “เออน่ะสิ เห็นว่าได้ฤกษ์แล้วด้วย คงแต่งเร็วๆ นี้มั้ง ไม่งั้นคงไม่ไปที่ห้างไอ้ชัย” “แล้วไหงยังมากับน้องมึงวะ” “ก็ไอ้นี่มันจับปลาสองมือน่ะสิ ตัวไหนได้ มันก็คว้าตัวนั้น” “แล้วทำไมถึงปล่อยให้มันมากับน้องมึงสองต่อสอง” “สองต่อสองที่ไหน มึงดูสิ โน่น! แองจี้เดินไปหาเพื่อนแล้ว” “นั่นใยไหมนี่” ดวงตาคมเข้มมองสำรวจหญิงสาวร่างเล็กที่โบกมือทักทายเรียกอรรัมภาเข้าไปหา ‘ใยไหม’ เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่โรงเรียนและเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อ เขาจึงคุ้นเคยกับหล่อนตั้งแต่เด็ก ใยไหมแค่ดูเป็นสาวขึ้น แต่หน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปจากวัยเด็กมากเท่าไร ไม่เหมือน… คริสต์มองตามร่างอวบอัดที่แค่มองเขากลับรู้สึกเกินเลยไปลึก จากที่ไม่เคยคิดว่าตัวเขาจะชอบสาวอวบอิ่มมีน้ำมีนวลแบบนี้ เห็นทีต้องเปลี่ยนใจ เพราะท่าทางคล้องแขนผู้ชายอย่างสนิทสนมนั้น เขานึกฉุนแทนอังกูร ก็ที่เห็นน่ะไม่งามเลยนะ จากที่เห็นคงไม่ใช่ปรบมือข้างเดียว ผู้ชายอยากสานสัมพันธ์และผู้หญิงก็ใช่ย่อย เพราะอรรัมภาทั้งลากทั้งจูงผู้ชายให้เดินตาม โดยไม่สนใจสักนิดว่าผู้ชายกำลังจะหมั้นและแต่งงานเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะไอ้นี่จะมาดองกับญาติผู้น้องของเขาด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD