“แล้วที่มีให้ฟันทำไมไม่ฟัน” ถามคำนั้นใบหน้าสวยถึงกับหันขวับกลับมามองทันที
“หมายถึงใคร”
“ก็หมายถึงเราไง” เขาไม่เคยพูดแบบนี้กับใครก็จริง แต่ตอนนี้บางอย่างมันก็ต้องแลก แค่เธอมีความคิดแบบนั้น ไอ้ขุนก็แทบคลั่งแล้วเหมือนกัน
ต่อให้เธอจะอยากไปแค่ไหน ถ้าเขายังไม่อยากให้ไป ต่อให้เธอมีปีกเธอก็หนีคนอย่างไอ้ขุนไม่ได้ บอกไว้ตอนนี้เลย
“เคยกินแล้ว”
“ก็กินอีก”
“ไม่อร่อย”
“แต่เธอเคยบอกว่ามันอร่อย”
“กำลังอ่อยอยู่เหรอ” คนถามปรายสายตามามอง ให้ตายเถอะ เห็นตาใสๆ แล้วพานคิดถึงตอนเธออ้อน แม่ง! ไม่อยากเสียเธอให้ใครเลย
ยังไม่พร้อมจริงๆ ว่ะ อย่าเพิ่งเป็นตอนนี้ได้ไหมวะ
“อือ คิดถึงเธออ่ะ อยากนอนกอด วันนี้ไม่ต้องไปไหนได้ไหม นอนด้วยกันนะ”
“แล้วผู้หญิงของนายล่ะ”
“เธอสำคัญกว่าอ่ะ อยากอยู่กับเธอ”
“สรุปจะให้ไปทำอะไรที่คอนโดเธอกันแน่ จะให้ไปเก็บชุดชั้นในหรือจะให้ไปทำอะไร”
“ไปนอนนั่นเลยได้ไหม ไม่อยากให้ไปไหนแล้ว”
“แน่ใจเหรอว่าเลือกแบบนั้น” ขุนเขาพยักหน้ารับ ดึงมือเธอมาจับก่อนจะจูบลงมือหลังมือนุ่มๆ ขาวๆ
“แต่เราเก็บเสื้อผ้าออกมาจากคอนโดนายแล้ว เสื้อชั้นในที่นายเห็นคงเป็นของที่เก็บไปไม่หมด”
“ไม่เป็นไร ก็ใส่เสื้อเรา เดี๋ยวเลือกให้เอง”
“แล้วจะให้ไปตอนนี้เลยเหรอ ยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“ไปกินที่ห้องเรา ของกินเพียบเลย อยากกินอะไรเดี๋ยวทำให้ทุกอย่าง นะๆ” ปลาวาฬสบตากับคนบอกพลางถอนลมหายใจออกมาเบาๆ กี่ครั้งแล้วนะที่เธอพ่ายแพ้ให้กับความขี้อ้อนของผู้ชายที่ชื่อขุนเขา แพ้เขาอยู่เรื่อยเลย
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์มือถือของเธอสั่นสะเทือนอีกครั้งในตอนที่เรานั่งรถกลับคอนโดด้วยกัน ครั้งนี้ปลาวาฬไม่รับ แต่เธอเลือกที่จะตอบกลับผ่านข้อความ ถึงไม่ชอบแต่ก็ช่างหัวมัน ใครจะคุยก็คุยไป สุดท้ายก็ทำได้แค่นั้น เขาต่างหากล่ะที่มีสิทธิ์มากกว่าพวกมัน ถึงยังไงซะผู้หญิงที่พวกมันอยากคุยด้วยนักหนาก็อยู่กับเขา
แค่ตัวเธออยู่ อย่างอื่นไม่ได้สำคัญ!
ขุนเขารั้งมือเรียวมาจับขณะขับรถจนคนที่กำลังตอบข้อความใครบางคนต้องหันกลับมามองเพราะพิมพ์ไม่ถนัด
“ว่า?”
“คุยกับใคร ไม่ต้องคุยแล้ว”
“แค่ตอบข้อความเพื่อน”
“แต่เราคุยกันแล้วไง เวลาอยู่ด้วยกันเราจะไม่คุยกับคนอื่น เธอลืม?”
“นึกว่าเธอไม่ได้จำซะอีก”
“จำดิ จำทุกเรื่องที่มันเกี่ยวกับเธอ”
“ปกติอ้อนสาวแบบนี้เหรอ?”
“เธอพูดเหมือนหึงนะ”
“ไม่คิดว่าที่พูดเพราะนายทำตัวย้อนแย้งเลยเหรอ”
“ก็ไม่นะ ปกติทุกอย่าง ไม่เห็นจะย้อนแย้งแบบที่เธอพูดเลย” ปลาวาฬมองเสี้ยวใบหน้าคมคายของคนขับรถก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เอาอะไรมาไม่ย้อนแย้งก่อน ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำ นี่คือที่สุดของความย้อนแย้งเลยก็ว่าได้
“ยิ้มอะไร”
“เปล่า~”
“เสียงนี้แหละ เสียงแบบนี้เลย”
“แบบนี้คือ?”
“คือน้ำเสียงตอนที่เธอคุยกับมัน”
“เรียกคนอื่นว่ามันอีกแล้วนะ”
“เดี๋ยวนี้ปกป้องคนอื่นต่อหน้าเราเลยเหรอ หรือเราไม่สำคัญกับเธอแล้ว” หนุ่มหล่อเลิกคิ้วถาม ทำให้คนฟังถึงกับหัวเราะในลำคอ
“ถามถึงความสำคัญอะไรก่อน ลืมหรือเปล่าว่าก่อนหน้านี้นายบอกให้เราไปเก็บของของเราที่คอนโดนายนะ” ปลาวาฬเอียงคอสบตาคนที่กำลังหันมา
“แล้วถ้าบอกว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้างมันพอจะฟังขึ้นไหมล่ะ”
“ข้ออ้างอะไรขุน”
“ข้ออ้างที่จะทำให้เธอยอมกลับกับเราแค่คนเดียวไง” ทำแบบนั้นนี่เรียกว่ามีใจได้ไหม จะคิดเอาเองว่าขุนเขากำลังหวั่นไหวได้หรือเปล่า สุดท้ายเธอก็แค่คิดในใจแหละไม่กล้าถามเขา เอาจริงๆ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ถึงไม่ได้อยู่ในจุดที่สำคัญที่สุด แต่อย่างน้อยๆ มันก็มีความสุขให้ได้สัมผัส
ไม่คิดเหมือนกันว่าเพียงแค่เราสองคนถูกใจกันในวันนั้น ความสัมพันธ์มันจะลากยาวมาได้ถึงขนาดนี้ ขนาดที่ยาวนานไปเรื่อยๆ มีเจอกันบ้าง คุยกันก็บ่อย เขาก็มีหยอดนิดหยอดหน่อย บางครั้งก็ทำเหมือนหึง ทำเหมือนหวงและห่วง แต่มันกลับไม่เคยมีคำพูดที่บอกความรู้สึกให้กล้าคิดไปไกลกว่านั้นเลย
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าระหว่างเรามันจะมีโอกาสที่จะไปต่อ หรือสุดท้ายต้องแยกย้ายทางใครทางมัน
________________________
อย่าลืมเก็บนิยายเข้าชั้นเพื่ออ่านทันทีที่เนมอัปตอนใหม่กันนะคะ <3