OMG 08 น้อง

1866 Words
สองอาทิตย์ต่อมา… “ย่าฝากพ่อเรซดูแลน้องด้วยนะ แล้วย่าว่างจะรีบขึ้นมาหา” ย่าของนิเนลกำลังฝากฝังเนื่องจากท่านกำลังจะกลับขอนแก่น งานหมั้นผ่านไปแล้วครับ ผ่านไปเมื่อวาน ผ่านไปได้ด้วยดีสำหรับผมและนิเนลเพราะว่าเราตกลงกันเข้าใจแล้ว “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดี” ผมให้คำมั่นสัญญา ทั้งที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดูแลยัยโลกสดใสคนนี้ได้ดีแค่ไหน บางครั้งผมก็รู้สึกว่าเธอดูแลตัวเองได้ และไม่ต้องการให้ผมเข้าไปอยู่ในโลกของเธอ ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากเข้าไปในโลกของเธอ ย่ากับหลานกล่าวลากันต่อ ส่วนผมหันไปสบตากับใครอีกคน ผมมองจนคนคนนั้นหลบสายตาไปเอง “จะมองทำไมนัก” ยายของผมเดินมาหยุดข้าง ๆ “เรซก็มองไปเรื่อยครับ” “หนูนิเนลเป็นหลานสาวของเพื่อนรักยาย ยายเอ็นดูหนูนิเนลมาก อย่าให้เรื่องนั้นรู้ถึงหูหนูนิเนล อย่าทำให้น้องเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ยายพูดเหมือนว่าผมเคยทำให้นิเนลเสียใจงั้นอะ “ครับ” “เลิกได้เลิก ตอนนี้เรซไม่ได้ตัวคนเดียว เรซมีน้อง ถ้าวันหนึ่งเรซรักน้องขึ้นมา เรื่องนั้นอาจจะทำร้ายเรซทีหลังได้ ยายอยากให้เรซมีความสุขนะลูก และยายเชื่อว่าหนูนิเนลจะเป็นความสุขของเรซ” นิเนลเนี่ยนะจะเป็นความสุขของผม ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ ผมไม่ต้องการนิเนล “ครับ” ยายกำลังหลงนิเนล ฉะนั้นผมก็ครับเอาอย่างเดียว เพราะว่าแม่ไม่อยากให้ยายเครียด แล้วผมนั้นเป็นหลานเพียงคนเดียว ยายจึงคาดหวังกับผมพอสมควร ตามประสาคนแก่ครับ ยายรู้บางเรื่องที่ผมไม่อยากให้รู้ มันคือเรื่องเดียวกับที่เฮียทิวพยายามบอกให้ผมลืม อ้อ งานหมั้นเมื่อวานเฮียทิวก็มาร่วมงานด้วย ก่อนกลับเฮียทิ้งท้ายไว้ ‘ลืมและเลิกเรื่องนั้นซะ และหยุดทุกอย่างก่อนที่มันจะสาย’ เฮียที่หลุดพ้นแล้วอาจจะพูดง่าย แต่ผมที่ยังดำดิ่งยังไงซะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ย่าของนิเนลขึ้นรถกลับขอนแก่นไปแล้ว ผมเห็นน้องน้ำตาเล็ดเล็กน้อยจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้น้อง “ขอบคุณค่ะ” น้องพูดกับผมก่อนจะสั่งขี้มูกใส่ผ้าเช็ดหน้าสีดำของผม “พี่ให้เช็ดน้ำตา” ผมเอียงโน้มไปบอก “ก็น้ำมูกมันไหลพอดี” เธอยิ้มแป้น เออ น่ารักดี น่ารักสดใสสมวัยของเธอ “ยายเห็นแล้วก็ชื่นใจที่พี่เอ็นดูน้องแบบนี้” ยายเฟื่องของผมพูดเสริมเมื่อเห็นผมกับน้องหยอกกัน “ไม่ต้องห่วงเลยค่ะคุณยาย หนูจะให้พี่เรซดูแลหนูทุกอย่างเลยค่ะ” น้องหันไปบอกและยิ้มหวานให้ยายของผม “อย่างนั้นก็ดีเลย เรซอยู่คอนโดคนเดียวใช่ไหมลูก” ชักลางสังหรณ์ไม่ค่อยจะดีแล้วครับ “ใช่ครับ” “ให้น้องไปอยู่ด้วยนะ จะได้ดูแลน้องทั่วถึง ให้น้องอยู่หอคนเดียวยายเป็นห่วงน้อง” “ครับ” ว่าแล้วเชียวต้องมีเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ผมก็ครับไปก่อน เอาไว้ค่อยไปตกลงกับน้องทีหลัง ถ้าอยากจะมาอยู่ผมก็พร้อมให้อยู่ แต่เท่าที่มองนิเนลไม่น่าจะอยู่ “ถ้าอย่างนั้นหนูลานะคะคุณยาย” น้องยกมือขึ้นไหว้ยายของผม “จ้ะ เดินทางกันปลอดภัยนะลูก” ยายลูบที่หัวผมกับหัวน้องพร้อมกัน วันนี้เราจะกลับเข้าเมืองกันครับ พรุ่งนี้น้องมีเรียนและผมมีหน้าที่ไปส่งน้องให้ถึงหอ “แล้วถ้าหนูว่างจะมาหาคุณยายบ่อย ๆ นะคะ” น้องโผเข้ากอดยายของผม “จ้า เอาไว้มากับพี่เขานะ ห้ามมาคนเดียวยายเป็นห่วง” ยายเฟื่องมองน้องอย่างเอ็นดูสุด ๆ “ได้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูจะพกพี่เรซมาด้วยทุกครั้งที่มา” พูดพร้อมแจกรอยยิ้มที่แสนสดใส “ไปลูกไป เดี๋ยวจะถึงช้า” ยายของผมหัวเราะชอบใจในความน่ารักสดใสของนิเนล เธอก็น่ารักดีครับ และเธอกับผมเราตกลงกันแล้วว่าจะเป็นเพียงพี่น้องกันเท่านั้น ผมคิดว่าผมให้เธอได้แค่นั้น “แล้วพี่มะพร้าวไม่ไปด้วยเหรอคะ พี่มะพร้าวบอกเนลว่าจะกลับวันนี้เหมือนกัน เนลก็เลยชวนกลับด้วย ไปไหนแล้วนะ” น้องถามพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อหาใครอีกคน “ไปกันก่อนเลย พอดียายมีเรื่องวานให้แม่มะพร้าวทำให้ยายก่อน” ยายของผมเอ่ย ความจริงยายไม่มีอะไรจะไหว้วานหรอกครับ เพราะแม้แต่หน้ายายก็ไม่อยากมอง ยายก็แค่กันท่า ผมจึงพูดสมทบ “นั่นสิ พี่มีงานต่อด้วย ปะ เราไปกันเลยดีกว่า” ผมเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้น้องเข้าไปนั่งก่อนที่น้องจะได้พูดอะไรออกมา น้องเข้ามานั่งในรถผมจึงเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ ก่อนขึ้นรถผมหันไปโอบกอดยายเฟื่องหนึ่งครั้ง “ดูสุขภาพด้วยนะครับ แล้วเรซจะพาน้องมาหาบ่อย ๆ” “เราก็เหมือนกัน จำให้ขึ้นใจต่อไปนี้มีน้องแล้ว ต้องให้เกียรติน้อง ให้น้องเป็นคนแรกที่อยู่ในสายตาเรา ให้น้องเป็นคนแรกที่สำคัญ อย่าให้คนอื่นมาสำคัญกว่าน้อง ถ้ายายรู้ว่าเห็นคนอื่นดีกว่าน้องเมื่อไหร่ อย่าหาว่ายายไม่เตือน” “ครับยาย เรซเข้าใจแล้วครับ รักยายนะครับ” ผมรู้ดีว่าคนอื่นที่ยายพยายามย้ำนั้นหมายถึงใคร ผมหอมแก้มยายและเข้ามานั่งในรถ แล้วขับออกจากบ้านสวน “เนลไม่ไปอยู่กับพี่เรซนะคะ” น้องเริ่มเปิดฉากพูดก่อน “พี่ตามใจน้อง แต่หนูจะบอกพวกผู้ใหญ่ว่ายังไง” “ก็บอกว่าหนูย้ายมาอยู่กับพี่แล้วก็ได้ ยังไงผู้ใหญ่ก็ไม่ตามไปดูเราอยู่ดี ในเมื่อเราแสดงให้พวกท่านเห็นว่าเราดีกัน พวกท่านคงไม่เอะใจ และคิดว่าเดี๋ยวเราก็ศึกษาดูใจกันไปเรื่อย ๆ” “เอาที่น้องสบายใจ แต่ถ้าอยากย้ายเข้ามาอยู่คอนโดก็บอกพี่” “หนูไม่ไปเป็นก้างขวางคอพี่กับคนรักของพี่หรอกค่ะ” “หืม?” ผมเหลือบตาไปมองน้องแวบหนึ่งแล้วหันมามองถนนต่อ “ทำหน้างงอะไรคะ ก็พี่มีคนรักแล้วไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกน้อง” “พี่มะพร้าวค่ะ ตอนแรกหนูก็มั่นใจนะว่าพี่คงไม่ตอบตกลงหมั้น เพราะพี่มะพร้าวบอกหนูว่าพี่มีคนรัก ที่รักมาก ๆ จนยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอคนนั้น แต่ไหงพี่มาตอบตกลงหมั้นกับหนู แบบนี้เธอคนนั้นโอเคเหรอคะ” น้องมองหน้าผมด้วยสายตาของความสงสัย “น้องจะไปฟังคำพูดคนอื่นทำไม เชื่อคำพูดของพี่ก็พอแล้ว พี่ไม่หลอกน้องแน่ ๆ” “…” น้องเงียบ เหม่อมองถนน ไม่ได้พูดอะไรกลับมา น่าแปลกที่น้องเป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่ผมพูดบอกให้เธอเชื่อคำพูดของผม “นิเนล น้องเป็นอะไรไหม ทำไมถึงทำเหมือนพี่พูดอะไรผิด” “หนูง่วงค่ะ ขอนอนนะคะ” ว่าแล้วน้องก็ปรับเบาะนอน เออ ดี บทจะนอนก็นอนง่าย ๆ อย่างกะเด็กน้อย ประมาณสามชั่วโมงผมขับรถมาจอดหน้าหอพักของน้องตามที่น้องบอกทางเอาไว้ “นิเนลถึงแล้ว” “…” หลับสนิทมากครับ กรนด้วย ไอ้หมาเนลเอ้ย “เนล ถึงหอหนูแล้ว” “…” ยังนิ่ง ผมจะจึงขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม มองใบหน้าของน้องใกล้ ๆ ดวงหน้าของน้องสวยใส ไร้สิว มองแทบไม่เห็นรูขุมขน รูปหน้าฟ้าประทานเลยก็ว่าได้ แต่น้องก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรง “น้อง ถ้าไม่ตื่นพี่จะพาน้องไปด้วยแล้วนะ…คะ ครับ” เสียงของผมขาดหายเมื่อน้องลืมตาขึ้นมาสบตากับผมในระยะใกล้ น้องมองหน้าผมแล้วยิ้มดีใจคล้ายว่าคิดถึงผมเหลือเกิน ทว่าแค่ครู่เดียวน้องก็ผลักผมออกห่าง “บอกแล้วว่าห้ามแตะตัวไง” มุ่นคิ้วไม่พอใจใส่ผมอีก “ไม่ได้แตะเลย แค่ปลุกใกล้ ๆ เพราะเรียกไกล ๆ แล้วหนูไม่ตื่น” สรรพนามที่ผมใช้เรียกผู้หญิงคนนี้นั้นมีหลายอย่างครับ ตามแต่อารมณ์จะอยากพูดแบบไหน “ทีหลังอย่ามาใกล้นะคะ ไม่ชอบ ลาค่ะ” น้องโมโหเปิดประตูลงจากรถอย่างเร็วเลยครับ ผมจึงกดกระจกลงและตะโกนออกไป “ถ้ามีอะไรโทรหาพี่ทันทีเลยรู้ไหมนิเนล” น้องเดินไปโดยไม่หันกลับมามองผม สิ่งที่น้องทำคือยกนิ้วขึ้นมาชูว่าโอเคแค่นั้นครับ ผมจะถือว่าน้องรับรู้ก็แล้วกัน จากนั้นผมขับรถไปที่บ้านหลังหนึ่ง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าในการเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น และเมื่อผมมาถึงผมก็ค้นหากุญแจเข้าบ้านที่เก็บไว้ในรถ เพราะคนข้างในบ้านไม่เปิดให้ผมอยู่แล้ว เมี้ยว เมี้ยว เสียงแมวที่ถูกเลี้ยงในบ้านหลังนี้ร้องเมื่อเห็นว่าผมเดินเข้ามาในบ้าน “พ่อมาแล้วครับถุงเงิน แม่กลับมาถึงบ้านหรือยังน้า” ผมยกแมวเปอร์เซียขึ้นมาอุ้ม ยกขึ้นมากอดก่อนจะปล่อยลงที่เดิม แล้วผมก็เดินเข้ามาในครัว หญิงสาวที่อยู่ในครัวกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ที่ตู้เย็น ผมยืนมองเธออยู่อย่างนั้น กระทั่งเธอเดินไปที่ซิงค์ล้างจาน ผมจึงเดินเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลังและโน้มไปหอมแก้มเธอ “คิดถึงครับ คิดถึงไหม” “…” เธอเงียบไม่พูดกับผม “ไม่คิดถึงเรซบ้างเหรอ เรซคิดถึงพี่นะครับ” “…” เธอเงียบไม่พูดคำใดออกมาแต่ว่าเธอสะอื้น ร้องไห้ “ร้องไห้ทำไม” ผมถามเสียงนุ่ม “ทำร้ายจิตใจพี่ทำไม เห็นพี่เจ็บพอใจใช่ไหม” “เรซทำอะไร” ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอแกะมือผมออก หันหน้ามาหาผม ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยน้ำตา “อย่ามาทำไม่รู้อะไร เรซทำแบบนั้นเพื่ออะไร หมั้นกับคนอื่นทำไม ไหนว่ารักพี่คนเดียว” “ก็แค่หมั้นเอง ทีพี่ไปกับผู้ชายคนอื่นเรซยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” “ไม่ว่าแต่เรซตามไปทำร้ายคนพวกนั้น แบบนี้พี่ต้องตามไปตบไปตีเด็กนั่นด้วยไหม” “ตามสบายเลยครับ เรซไม่ได้สนใจเด็กนั่นอยู่แล้ว แต่พี่จะไม่เสียเหรอ พี่เล่นบทพี่สาวแสนดีอยู่ไม่ใช่เหรอครับ พี่กล้าบอกเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน” ผมยิ้มเยาะเธอ “…” หึ เงียบแบบนี้ก็ไม่กล้าไง ถ้ากล้าทุกอย่างต้องไม่เลยเถิดมาไกลแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD