8

1543 Words
“พ่อก็ว่าดีนะจิ๊ เลือกเอาสักคนสิลูก มีผู้ชายดีๆ มาชอบจิ๊ตั้งเยอะแยะ เลือกมากไม่ดีนะครับ เดี๋ยวลูกสาวพ่อขึ้นคานจริงๆ จะแย่” กีรติผสมโรงกับภรรยา “อายุมากขึ้นมีลูกยากด้วย ไม่ปลอดภัย แต่งงานตั้งแต่เด็กๆ มีลูกทันใช้” นิดาก็เอากับสามี “คุณพ่อคุณแม่ขี้เกียจเลี้ยงจิ๊แล้วเหรอคะ ถึงผลักไสไล่ส่งจิ๊แบบนี้” จิรดาตาแดงๆ ทำท่าจะร้องไห้ “โตแล้วเลี้ยงตัวเองบ้างสิจ๊ะ” นิดาพูดหน้าตาขึงขัง “คุณพ่อกับคุณแม่มีเงินตั้งเยอะแยะ จิ๊ไม่ได้กินจุนะคะ ทำไมต้องขับไล่ไสส่งจิ๊ไปแต่งงานด้วย” จิรดาทำท่าจะร้องไห้ วิชญ์ยิ่งขบกรามขึ้นสัน รู้สึกไม่ชอบใจคำพูดของเพื่อนรักทั้งสอง “เงินพ่อแม่หามาเอาไว้ใช้ตอนแก่ ไม่ใช่ให้ลูกเสียหน่อยนี่คะ” นิดาตอบหน้าตาย ไม่สนใจว่าลูกกำลังจะร้องไห้ จิรดาน้อยใจเสียใจ ปกติบิดามารดาไม่เคยพูดให้เธอเสียใจแบบนี้มาก่อน แถมยังพูดต่อหน้าคนอื่น เธอเลยรู้สึกอายที่ไม่เป็นที่ต้องการ “ถ้าแกสองคนไม่อยากเลี้ยงจิ๊ ฉันเลี้ยงเองก็ได้” วิชญ์ยืดอกรับเสียงขึงขังอย่างเผลอตัว “ในฐานะอะไรเหรอวิชญ์” นิดารุกต้อน วิชญ์อึ้งไป กำลังตัดสินใจจะพูดออกไปตรงๆ เพราะเขาไม่ยอมให้สาวน้อยที่เขาหมายตาโดนคาบไปง่ายๆ แน่นอน แต่จิรดาดันพูดออกมาเสียก่อน “เดี๋ยวนี้ผู้หญิงแต่งงานตอนอายุเยอะๆ นะคะ เพราะผู้ชายเดี๋ยวนี้ไม่ดี ไว้ใจไม่ได้ ถ้าแต่งไปแล้วเครียดแล้วทุกข์จะแต่งไปทำไมคะ” “ก็ต้องเลือกที่ดีสิคะลูก ไม่ดีไปเลือกทำไม แต่คนเราต้องเรียนรู้ชีวิต เจอหมดทั้งทุกข์ทั้งสุข” “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะแม่ว่าดีหรือไม่ดี ตอนคบกันแรกๆ ก็แสดงด้านดีออกมาทั้งนั้นละคะ” “ก็ต้องศึกษากันก่อนสิคะ หนูเล่นไม่เปิดรับใครเลย พอแก่ตัวไปจะไปศึกษาทันได้ไง แก่มีลูกไม่ได้ ผู้ชายก็ทิ้ง” นิดาพูดจริงจังอีก จิรดาหน้างอเหมือนจะร้องไห้ “ทำไมต้องไปบีบบังคับลูกด้วยล่ะนิ ลูกยังไม่อยากแต่งงานมีแฟนก็ดีแล้ว ถ้าเป็นลูกฉัน อยู่กับฉันไปนานๆ เลยยิ่งดี” วิชญ์เข้าข้างจิรดา เด็กสาวยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ กีรติกับนิดาลอบยิ้ม อีกคนก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทน อีกคนก็ยังไม่อยากมีแฟน สองคนนี้น่าแกล้งให้เข็ดนัก “เดี๋ยวนี้ผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงค่ะแม่ ถ้าผู้หญิงไม่แต่งงานก็ไม่เห็นจะแปลก” จิรดาพูดด้วยเหตุผลแต่ใบหน้ายังงอไม่เลิก “คิดอย่างนั้นได้ยังไงลูก เดี๋ยวนี้ใครดีใครได้นะคะ ถ้าอยากได้ผู้ชายดีๆ ก็ต้องช่วงชิงมาเป็นของเราค่ะ เคยได้ยินไหมคะจิ๊ อยากได้ต้องแย่งชิง” “ดูอาพราวสิคะ ไม่เห็นแต่งงานยังอยู่ได้เลย” จิรดาหมายถึงพราวตะวันน้องสาวคนเดียวของเพลิงตะวันที่ครองตัวเป็นโสดไม่ยอมแต่งงานแต่งการไปกับผู้ชายคนไหนทั้งสิ้น “นินี่ยังไง หัดให้ลูกแย่งผู้ชาย” วิชญ์นั่งแทบไม่ติดเมื่อได้ยินเพื่อนพูดออกมาเช่นนั้น “เปล่าเสียหน่อยวิชญ์ นิแค่อยากให้ลูกเปิดใจบ้าง แกปิดเงียบไม่สนใจผู้ชายเลย เป็นพวกผิดเพศหรือเปล่าก็ไม่รู้” “จิ๊เปล่านะคะ” จิรดารีบส่ายหน้าไปมาไม่รู้ตัวสักนิดว่าโดนแกล้ง “พอแล้วนิ เราค่อยหาผู้ชายดีๆ มาให้ลูกเราดูตัวก็ยังไม่สาย ลูกก็เปิดใจรับสิไม่เห็นจะยาก” กีรติลูบศีรษะบุตรสาวโยกไปมาอย่างเอ็นดู จิรดาหน้างอ ไม่อยากโต้เถียงกับบิดามารดาอีก วิชญ์มองหน้าเด็กสาวที่หมายปองแล้วหน้าบึ้งโดยไม่รู้ตัว จิรดาเผลอมองสบตาเพื่อนบิดามารดาแล้วหลบวูบอีกรอบ แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าโกรธเธอขนาดนั้นด้วย เธอยังไม่ได้รับปากอะไรใครเสียหน่อยว่าจะแต่งงาน ชิ! ทำหน้ายังกะยักษ์ พ่อแม่ก็กะไร จู่ๆ ก็มาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าแขก แถมยังจะพาผู้ชายมาให้เธอดูตัว เฮ้ย! นั่นเค้าใช้กับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนไป ใช้กับผู้ชายได้ด้วยเหรอ... อาจเพราะเป็นช่วงปิดเทอม จึงเรียกได้ว่าวิชุตาเกาะติดจิรดาหนึบไม่ยอมไปไหน และหญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่รู้สึกว่ามีน้องน้อยเพิ่มมาอีกคนเท่านั้น แม้วิชญ์บอกว่าจะพักอยู่กรุงเทพฯ จนเพื่อนๆ เดินทางมาจากภาคต่างๆ แต่เพราะติดธุระสำคัญ จึงต้องเดินทางกลับปักษ์ใต้ไปอย่างกะทันหันและจะกลับมารับบุตรสาวอีกครั้งก่อนเปิดเทอม ซึ่งก็กะล่วงหน้าไว้หลายวัน ไม่ใช่มารับกะทันหันปุ๊บปั๊บ เด็กน้อยวิชุตาตามติดจิรดามากกว่าคนเป็นพ่อ แถมเมื่อบิดาชวนกลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ จนวิชญ์เคลียร์งานเสร็จก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อมารับบุตรสาวและสังสรรค์กับเพื่อนๆ หลังจากเคลียร์งานลงตัวมีเวลาตรงกันเสียที เสียงหัวเราะเฮฮาที่ดังมาจากสระน้ำทำให้ชายหนุ่มชะงักแล้วเดินไปตามเสียงนั้น เขาเห็นบุตรสาวกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กับจิรดาและน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนอย่างสนุกสนาน “พี่จิ๊อย่าหนีสิ” ได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องมาจากสระน้ำ ในขณะที่จิรดาปีนหนีขึ้นมาบนสระ วิชญ์ถึงกับนิ่งขึง ตกตะลึงเมื่อเผลอมองสำรวจรูปร่างของสาวน้อยที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำอวดสัดส่วนยวนตา เธอไม่ได้สวมใส่บิกินี่เซ็กซี่เหมือนสาวๆ ที่เขาเคยเห็นบ่อยๆ แค่ชุดว่ายน้ำเป็นกระโปรงระบายสีสันสดใสสมวัย ดูมิดชิดมากกว่าที่สาวๆ ชอบใส่เสียอีก แต่ในความรู้สึกของเขามันเซ็กซี่เหลือร้าย “คุณพ่อขา... คุณพ่อมาแล้วเหรอคะ” เสียงของบุตรสาวทำให้เขาสะดุ้ง รีบละสายตาจากสาวน้อยจิรดา ทุกคนหันมามองก่อนจะยกมือไหว้เขา จนเขารับไหว้แทบไม่ทัน วิชญ์กระแอมเบาๆ เรียกสติตัวเองกลับมา จิรดากระโดดลงสระอีกรอบ เธอลงไปลอยคอใกล้ๆ กับน้องๆ สายตาที่มองเขาเพียงแค่เคารพนับถือเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้น สายตาเขินอายเหมือนเมื่อหลายวันก่อนที่เธอเคยมีให้เขาจางหายไปแล้ว นั่นทำให้วิชญ์ใจเสียไม่น้อย หรือเธอจะคิดว่าเขาเป็นตาแก่ เป็นเพื่อนพ่อแม่เหมือนเดิมซะแล้ว สิ่งที่เขาทำไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวมากไปกว่านี้ แต่เขานี่สิ คิดอะไรเกินเลยกับลูกสาวเพื่อนจนกู่ไม่กลับ “เล่นน้ำกันอยู่เหรอหนูวิ” เขาเดินไปนั่งยองๆ ข้างสระ ก่อนจะเอ่ยถามบุตรสาว สายตาอดจะเหลือบไปมองลูกสาวเพื่อนเสียไม่ได้ “ใช่ค่ะคุณพ่อ สนุกๆ มากเลยค่ะ” “พ่อจะมารับกลับบ้านนะครับ หนูต้องเตรียมตัวก่อนเปิดเทอมนะครับ” แม้จะอีกหลายวันก่อนเปิดเทอม เขาก็อยากพาลูกกลับ เนื่องจากเกรงใจเพื่อนอยู่เหมือนกันที่มารบกวนบ่อยๆ ถึงแม้จะเป็นแผนการก็เถอะ “หนูวิอยากอยู่กับพี่จิ๊ก่อนนี่คะ” เด็กน้อยเสียงหงอยทันที “เดี๋ยวพี่จิ๊ก็ไปอยู่กับเราที่ภูเก็ตครับหนูวิ ต่อไปได้เจอกันทุกวัน ทิ้งพ่อไว้ที่ปักษ์ใต้คนเดียว ไม่คิดถึงกันเลยเหรอครับ งอนแล้วนะ” วิชญ์พูดกับบุตรสาวอย่างเอ็นดู “ก็ได้ค่ะ คุณพ่ออย่างอนหนูวินะคะ อุ้มๆ ค่ะ” เด็กน้อยยื่นมือให้บิดาอุ้มเพื่อยกขึ้นจากสระ วิชญ์ยื่นมือไปดึงรักแร้ของบุตรสาวขึ้นมา เขาไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเปียกตามไปหรือเปล่า เพราะความคิดถึงลูก อยากกอดอยากหอมด้วยความรัก วิชญ์จัดการห่อบุตรสาวด้วยผ้าเช็ดตัวผืนหนา หอมแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ “หนูก็คิดถึงคุณพ่อค่ะ อย่างอนนะคะ” เด็กน้อยหอมแก้มตอบกลับ สามพี่น้องในสระจึงขึ้นจากสระตามมา จิรดารีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่ แม้ชุดว่ายน้ำจะไม่โป๊มากนักแต่รู้สึกอายเมื่อเห็นสายตาของวิชญ์มองมาหลายครั้ง แม้เขาจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นเพื่อนบิดามารดาอีกด้วย แต่เขาก็คือผู้ชายที่ยังหนุ่มแน่น สายตาของเขาทำให้เธอต้องหลบหน้างุดอยู่หลายครั้งเมื่อเผลอมองสบ หลายวันที่วิชญ์กลับปักษ์ใต้ไป เธอทบทวนดูแล้ว คิดว่าไม่ควรหวั่นไหวกับสิ่งที่เขาแสดงออก บางทีเขาเองก็แค่เอ็นดูเธอเหมือนลูกหลาน ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่เธอบ้าบอไปเอง ดังนั้นเธอควรจะทำตัวเป็นเด็กที่ดีในสายตาผู้ใหญ่ถึงจะถูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD