3

1592 Words
มุมปากคนตัวสูงใหญ่กระตุกค้าง แววตาเคร่งเครียด จริงจังเมื่อใบหน้าสวยหวานยังฉายชัดในสมอง พานให้รู้สึกปั่นป่วนในอารมณ์ มันทั้งโมโห หงุดหงิด งุ่นง่าน ผสมปนเปจนแทบคลั่งก็ว่าได้ “อย่าให้เจอตัว คอยดูฉันบ้าง เจอเมื่อไหร่จะจับปั๊มลูกคนที่สองทันที ต่อด้วยคนที่สาม คนที่สี่ สมองเธอจะได้ไม่ว่างงาน คิดแผนการขโมยลูกฉันหนีไปอีก” ขณะที่มาร์คัสยังควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ เขาก็ได้รับรู้เรื่องราวอีกเรื่อง เมื่อกาเบรียลล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท สักครู่ ใบหน้าที่นิ่งขรึมราวกับถูกปั้นเอาไว้พลันมีอาการหัวคิ้วยู่เข้าหากัน สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาตอบคนที่โทร.มาส่งข่าว แล้วหันกลับมามองมาร์คัสที่ยืนนิ่งมองตรงมา “มีเรื่องอะไรอีก” “เลขาฯ ของมิสเตอร์เฉิน โทร.มาแจ้งว่า มิสเตอร์เฉินเตรียมพร้อมที่จะไปพบคุณมาร์คัสที่เมืองไทยวันพุธนี้ แต่เกิดอุบัติเหตุลื่นตกบันได จึงขอเลื่อนการเดินทางออกไปอีกสองวัน ซึ่งอาจกระทบแผนการเดินทางของเราในวันพรุ่งนี้ครับ” มิสเตอร์เฉิน นักธุรกิจชาวฮ่องกงพยายามติดต่อกับมาร์คัสหลายครั้งเพื่อขอเข้าพบเจรจาธุรกิจด้วย แต่มาร์คัสบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งชายหนุ่มตัดสินใจจะเดินทางไปเมืองไทยเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง จึงให้เลขาฯ นัดมิสเตอร์เฉินให้ไปพบที่เมืองไทย ทางนั้นดีใจมาก รีบตอบตกลงเพราะเห็นโอกาสทำเงินใหม่ๆ “มิสเตอร์เฉินคงไม่ได้อยากเลื่อนนัด มันเป็นเหตุสุดวิสัย พรุ่งนี้ ฉันจะไปเมืองไทยตามแผนการเดิม สั่งให้นักบินของเราเตรียมเครื่องบินให้พร้อม อ้อ แล้ววันพรุ่งนี้ ฉันมีเวลาว่าง ลองนัดโสภา ถามว่าเธออยากมากินข้าวกับฉันไหม” “ครับ คุณมาร์คัส” กาเบรียลโค้งศีรษะ แล้วเดินออกจากห้องเพื่อเตรียมวางแผนงานการเดินทางสำหรับเจ้านายในวันพรุ่งนี้ เจ้านายชอบความเนี้ยบ และไม่ชอบความผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น เขาจะต้องรีบติดต่อโสภา แจ้งให้เธอรู้ตัว มีผู้หญิงไม่กี่คนนักที่มาร์คัสเอ่ยปากชักชวนให้มาร่วมโต๊ะอาหารด้วย แล้วเดาว่าโสภาจะต้องตอบตกลงและยินดีมากแน่ๆ เวลาทุ่มเศษๆ ของเมืองไทย พิมพ์ดาวมีนิสัยรักการเรียน สาวสวยชะตาอาภัพอย่างเธอจึงให้ความสำคัญกับการเรียนมาก เพราะการมีความรู้คือบันไดแห่งมีความสำเร็จ เธอไม่อยากเห็นลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวโตขึ้นท่ามกลางความยากลำบาก คิดมาถึงตรงนี้อดจะตำหนิตัวเองไม่ได้ เมื่อลอบมองนางฟ้าแก้มป่อง ที่กำลังตักขนมอินทนิน ขนมโบราณนุ่มๆ หนึบๆ กินตุ้ยๆ ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ขนมชนิดนี้ หอมใบเตยราดด้วยกะทิทำให้รสชาติ เข้มข้น หวานมัน ถูกใจแม่หนูเป็นที่สุด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ใจดีกินไปแล้วหนึ่งถ้วย แต่ขอต่อถ้วยที่สองด้วยข้ออ้าง “วันนี้ ใจดีช่วยแม่ขาปั้นแป้งทำขนม ใจดีต้องได้กินสองถ้วย” แม่หนูตักขนมใส่ปาก พลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลืมเรื่องที่บอกว่าจะลดความอ้วน จะได้สวยเหมือนแม่เสียสนิท ใจดีรู้สึกว่าสายตาของมารดาแอบมองอยู่ มือป้อมๆ วางช้อนลง แล้วส่งยิ้มเผล่ให้ พร้อมอาการยืดคอเหลือบมองหน้าแม่ขาที่กำลังจัดดอกไม้สำหรับไหว้พระ สลับกับมองขนมอินทนิลในถ้วยกระเบื้องลายไทย “ทำไมแม่ขาไม่กินขนมสักที หรือว่า แม่ขาลดความอ้วนคะ” พูดจบ คนที่ฟาดขนมไปสองถ้วยเต็มๆ ก็เบนทิศของดวงตาที่ได้ยีนส์เด่นเป็นดวงกลมโตไปมองเป้าหมาย นัยน์ตาดำสนิทดูเปล่งประกายแวววาวราวกับมีความหวังกับถ้วยขนมของมารดา พิมพ์ดาววางดอกบัวลงในถาดไม้ที่พับกลีบด้านหนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วจุดยิ้มบางๆ มองลูกสาวด้วยแววตาเอ็นดูแกมรู้ทันความคิด “แม่ขาไม่ได้ลดความอ้วนค่ะใจดี แม่ขาจะจัดดอกไม้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกินขนม ถึงแม่ขาจะลดความอ้วน ก็ไม่ให้ใจดีกินขนมถึงสามถ้วย เดี๋ยวสามขีดที่ลดลงไปจะดีกลับขึ้นมาเป็นสามกิโลฯ นะคะใจดี” ใจดีได้ยินเหตุผลของพิมพ์ดาว แต่ไม่ถูกใจนัก รีบตอบเสียงใสแบบงอน ๆ “ลูกชื่อใจดี แต่มีแม่ชื่อใจร้าย” แม่หนูบ่นอุบ พิมพ์ดาวยกมือปิดปากอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอสอนให้ลูกพูดจาไพเราะ ใครเห็นจะได้รัก แล้วใจดีไปเอาคำพูดแบบนี้มากไหนกัน “ทำไมพูดแบบนี้คะใจดี ไม่น่ารักเลย” ‘ใจดีติดนิสัยปากร้าย มาจากเขาแน่เลย’ เขาคนนั้นคือคนที่เธอพยายามจะลบออกไปจากหัว แต่เห็นหน้าใจดีทีไร ก็เหมือนเห็นใบหน้าผู้ชายคนนั้นย่อส่วนลง แล้วไว้ผมยาวถักเปีย “ไปให้พ้น” พิมพ์ดาวไล่ภาพในความคิด แต่เด็กตัวอวบสะดุ้ง “แม่ขาไล่ใจดีทำไมคะ” เด็กหญิงทำหน้างอ คิดว่าเพราะคำที่บอกว่าแม่ใจร้าย จึงถูกมารดาไล่ไปให้พ้นหน้า พอคิดแล้วน้ำตาก็คลอหน่วยตาอย่างไม่รู้ตัว พิมพ์ดาวสะดุ้งโหยงกับเสียงของลูก แล้วรีบแก้ตัว “แม่ขาไม่ได้ตั้งใจไล่ใจดีค่ะ แม่ขาขอโทษ” ใจดีชักสีหน้างุนงง ยิ่งเวลานี้ อารมณ์แม่หนูกำลังขุ่นมัวเพราะไม่ได้กินขนมถ้วยที่สาม เลยทำแก้มพองเหมือนปลาทอง ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง อาการที่เรียกว่า ‘งอน’ ของลูกแบบนี้ พิมพ์ดาวพบเห็นเป็นประจำ แต่สมองกลับอดคิดไม่ได้ว่า ‘ช่างเอาแต่ใจเหมือน...ไม่มีผิด’ แต่อย่างไร พิมพ์ดาวก็รักลูกสาวที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจมากกว่ารักตัวเองเสียอีก แม่หนูตัวกลมเป็นเหมือนน้ำฝนชโลมจิตใจเธอมานานหลายปี ใจดีคือความสวยงาม คือสิ่งมีชีวิตที่พูดยากเป็นบางครั้ง มั่นใจตัวเองตั้งแต่เล็ก มีนิสัยออกจะเอาแต่ใจ แต่ก็คือความภาคภูมิใจของเธอ พิมพ์ดาวได้แต่อมยิ้มส่ายหน้า แต่ก็ตั้งใจว่าจะไม่เผลอใจอ่อนให้ใจดีกินขนมหวานที่มีส่วนผสมของ แป้ง น้ำตาล กะทิ เข้มข้นถึงสามถ้วยอย่างแน่นอน เพราะคุณหมอแนะนำว่า ใจดีมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน คุณแม่ควรควบคุมด้านโภชนาการ ผ่านไปพริบตาเดียว หลังจากขนมอินทนินถูกฟาดเรียบไม่เหลือแม้แต่ก้นถ้วย พิมพ์ดาวจึงพาลูกสาวไปอาบน้ำและเตรียมสอนหนังสือ ซึ่งการเรียนการสอนนั้น เธอให้เรียนล่วงหน้า ตั้งแต่ใจดีเข้าโรงเรียนในระดับชั้นอนุบาล หญิงสาวก็สอนหนังสือให้มากพอกับเด็กนักเรียนประถมปีที่หนึ่ง เพราะใจดี หัวไว เรียนรู้เร็ว ผ่านไปได้สักพัก หลังจากพิมพ์ดาวสอนแม่หนูตัวกลมล่วงหน้า เรื่องสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ใจดีมีสีหน้าเข้าใจ แต่คืนนี้กินขนมไปเยอะ พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน ใจดีส่งเสียงเครือๆ “แม่ขาเล่านิทานดีกว่าค่ะ” “แม่ขาจะเล่านิทานให้ใจดีฟังแน่ ถ้าหากใจดีแยกออก ว่าที่แม่ขาสอนไปเมื่อครู่นี้ สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตมีอะไรบ้าง” ใจดีเงยหน้าจากหนังสือเหลือบตามองบนพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะคำถามง่ายเกินไป เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตอบได้แล้ว “สิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช ไงคะ แม่ขาถามง่ายเกินไป” แต่ครู่เดียวเท่านั้น รอยยิ้มเผล่ที่ประดับบนใบหน้าเหมือนตุ๊กตาฝรั่งก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้จ้าจนพิมพ์ดาวตกใจ รีบดึงร่างอวบกลมมากอด “เป็นอะไรคะใจดี หนูร้องไห้ทำไม ตัวอะไรกัดหรือเปล่า” นิ้วเรียวเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลนองแก้ม พิมพ์ดาวงงไปหมดกับอาการของลูก มองที่แขนที่ขาก็ไม่เจอแมลงสักตัวที่เป็นต้นเหตุ “แม่ขาใจร้าย ใจดีมีแม่ใจร้าย” “ทำไมว่าแม่แบบนี้คะ” “ก็แม่ขาสอนใจดีว่า พืชเป็นสิ่งมีชีวิต แล้ววันนี้ แม่ขาฆ่าใบเตยทำไมคะ แม่ขาฆ่าใบเตย แล้วยังเอาไปต้มอีก น้องใบเตยต้องร้อนแน่ๆ” พิมพ์ดาวชักสีหน้างุนงง ก่อนกระจ่างแจ้งแก่ใจว่า เวลานี้ เธอกลายเป็นฆาตกรฆ่าใบเตย...ซึ่งเป็นสิ่งที่มีชีวิตไปแล้ว “โธ่! ใจดี” พิมพ์ดาวกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่ เธอกลายเป็นคนใจร้ายอย่างลูกสาวว่าจริงเสียด้วย ด้วยข้อหา ‘ฆ่าใบเตย’ เพราะพืชคือสิ่งมีชีวิตนั่นเอง “แม่ขาไม่ได้ใจร้ายนะคะ คือว่ามันต่างกันนะลูก...” อาการหัวเราะแบบท้องคัดท้องแข็งมาพร้อมกับกอดปลอบ และกำลังจะอธิบายขยายความให้ใจดีเข้าใจ ไม่เช่นนั้น แม่หนูตัวกลมอาจจะมีปัญหากับอาหารทุกมื้อที่โรงเรียนและที่บ้านได้ “พิมพ์ครับ หนูใจดี อยู่ไหมครับ” ทว่า มีเสียงเรียกชื่อพิมพ์ดาวด้วยน้ำเสียงสุภาพดังมาจากนอกรั้วดังขึ้นแทรกเสียก่อน เพราะกริ่งบ้านของเธอเสียมาหลายวันแล้ว แต่ช่างยังไม่มีเวลาเข้ามาซ่อมให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD