“ไม่ได้การละ!” วรานิชกล่าวต่อ สุ้มเสียงจริงจัง ฟังเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ “ตั้งแต่นี้ต่อไป เราจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นได้เข้าถึงตัวได้อีก หรือยังไงเราจะต้องอยู่ด้วยตลอด”
“จะเปลี่ยนจากที่เป็นเพื่อนมาเป็นผู้คุมว่างั้นเถอะ”
ขีโรชาพยายามทำเสียงขันย้อนเพื่อน แต่ลึกลงไป มีความหนักอึ้งถ่วงหัวใจอยู่
“จะเรียกยังไงก็ได้” วรานิชยังตอบเสียงจริงจัง ท่าทางเอาจริง “แต่เราจะไม่มีวันให้คุณพ่อของตัวตำหนิเอาได้เป็นอันขาดว่าพาลูกสาวท่านมาแล้วดูแลไม่ดี”
“คิดมาก”
วรานิชไม่ตอบ แต่ดูเหมือนตั้งใจจริงที่จะทำตามที่ลั่นปากเอาไว้
คืนที่สองสำหรับการมาพักตากอากาศของครอบครัวเวศวิกร ที่มีเพื่อนของลูกสาวพ่วงมาด้วย ผ่านไปโดยไม่มีอะไรพิเศษ
กำหนดกลับคือวันมะรืน วันนี้บิดามารดาของวรานิชตั้งใจจะพากันไปไหว้พระแต่จะออกสายหน่อย
ประมาณแปดโมงเศษ ขีโรชาแต่งตัวลงมานั่งรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวเพื่อนรัก
เมื่อคืนที่ผ่านมาเธอกับวรานิชไม่ได้ลงมาร่วมงานเต้นรำในห้องโถงใหญ่ที่ทางโรงแรมจัดขึ้นเป็นคืนที่สอง
วรานิชบ่นเพลีย เพราะเล่นน้ำมาทั้งวัน ก็เลยไม่ลงมาสนุกทั้งที่ปกติชอบเต้นรำเป็นจิตใจ
ขีโรชาคิดว่าอาจเป็นมาตรการหนึ่ง ที่วรานิชตั้งใจนำมากันเธอไม่ให้เจอกับดรัณภพ
วรานิชคงจะกลัวชายหนุ่มฉวยโอกาสช่วงที่ตัวเองออกไปสนุกสนาน พาตัวเข้ามาใกล้เพื่อนตามลำพัง
ขีโรชารับประทานอาหารเช้าอย่างตั้งใจเป็นพิเศษ พยายามไม่วอกแวก หลังจากเห็นแต่แรกที่ก้าวเข้ามา ว่าที่มุมหนึ่ง ห่างจากโต๊ะที่บิดามารดาของวรานิชเลือกนั่งออกไปเล็กน้อย ชายหนุ่มที่อยู่ในใจเธอ นั่งดื่มกาแฟอยู่ตามลำพัง
เวลาผ่านไป ขีโรชาอดไม่ได้ ชำเลืองมองไป
เขายิ้มให้ คล้ายกับว่ารออยู่
เธอลืมตัวยิ้มตอบ แล้วก็ใจเต้นโครมคราม เมื่อร่างสูงเพรียวลุกจากโต๊ะ เดินตรงเข้ามา ถือถ้วยกาแฟทั้งถ้วย และจานรองติดมือมาด้วย
ดรัณภพยิ้มให้บิดามารดาของวรานิช รวมถึงวรานิชด้วย
“ผมดรัณภพครับ ขอนั่งด้วยคนนะครับ” เขาพูดกับบิดาของวรานิช
“เอาเลย” วรินตอบยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี
“ทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคุณ” นวลวรรณชวน
“ผมเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณ”
ขีโรชาแน่ใจว่าเธอคงแก้มแดง เมื่อสบตาที่มองมาตรงๆ ของชายหนุ่ม ก่อนเขาจะหันไปพูดกับวริน
“คุณอาครับ ผมอยากขออนุญาตพาขีโรชาไปนั่งรถเที่ยวด้วยกันสักวัน”
วรินมองตาภรรยา ตัวเขาเองไม่มีปัญหา ทราบว่าหากชายหนุ่มคนไหนพึงใจหญิงสาว แล้วกล้าเข้าหาผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงแบบนี้ ก็คงไม่กล้าทำอะไรเสื่อมเสีย
แต่เขาก็บังเอิญรับปากผู้ปกครองขีโรชาไว้แล้วว่า จะดูแลเด็กสาวอย่างดี ทราบว่าหากดำรงศักดิ์รู้ว่ามีผู้ชายเข้ามาข้องแวะกับบุตรสาบุญธรรม คงไม่ชอบใจแน่
“คุณจะว่ายังไง”
วรินถามภรรยา ซึ่งก็ดูจะงันไปเหมือนกัน
“ก็...คงต้องแล้วแต่หนูขิมล่ะค่ะ คุณลองถามเจ้าตัวดูสิ”
ดรัณภพกลับมาสบตากลมใหญ่ที่กำลังมองเขาด้วยแววสดใสแกมกระดาก แก้มแดงระเรื่อ เพราะบิดามารดาของเพื่อนรัก รวมทั้งวรานิช ต่างพากันมองมาเป็นตาเดียว เฉพาะวรานิชนั้นนอกจากจะทำหน้านิ่ว สายตายังจิกมาด้วย
“ไปเที่ยวกับผมนะ ขีโรชา” ดรัณภพพูดเสียงนุ่ม
“ขิม...ดิฉัน...”
“ถ้าหนูอยากไป ก็ตอบตกลงไปเลย”
วรินช่วยพูด มองเด็กสาวคราวลูกอย่างเอ็นดู
เขามีความรู้สึกมานานแล้ว ตั้งแต่บุตรสาวเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเพื่อนรักว่า ผู้ปกครองของเด็กสาวออกจะเข้มงวดไปหน่อย
เขาพอจะรู้จักดำรงศักดิ์ เพราะกันติทัตเป็นตระกูลที่เก่าแก่ มีความมั่งคั่งมานาน เขาเสียอีกเพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัวมีฐานะเป็นปึกแผ่นหลังจากแต่งงานแล้วกับแม่ของลูก ที่มาจากครอบครัวดีกว่า พ่อตาเขาเป็นเสี่ยใหญ่ มีโรงสีหลายโรง รวมถึงกิจการค้าอื่นๆ อีกบ้าง
“แต่วันนี้นิชกับขิมตั้งใจจะลงเล่นน้ำด้วยกันนะคะ คุณพ่อ”
วรานิชโพล่งขึ้น รู้สึกว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก
ทำไมนะ...ทำไมพ่อกับแม่ของเธอไม่ปฏิเสธออกไปเลย
วรานิชไม่รู้เหมือนกัน ทำไมถึงได้รู้สึกอยู่ลึกๆ คล้ายจะเป็นลางสังหรณ์บอกเหตุในอนาคต หากปล่อยขีโรชาสนิทสนมกับผู้ชายคนนี้ เรื่องอาจจะไปกันใหญ่เกินความคาดคิด แล้วผลที่สุด เพื่อนรักของเธอนั้นเองที่จะต้องพบกับความผิดหวังเจ็บปวด
“เราต่างหากมั้งที่จะเล่นน้ำทั้งวัน” วรินพูดหัวเราะๆ “พ่อไม่เห็นว่าหนูขิมอยากจะลงเล่นน้ำสักเท่าไหร่ อย่างมากก็เดินท่องน้ำป๊อบแป๊บ แล้วหาที่นั่งอ่านหนังสือเฝ้าเรามากกว่า ว่าไง ขิม หนูจะไปนั่งรถเที่ยวกับคุณดรัณภพ หรือจะอยู่เฝ้าเจ้าเพื่อนคนนี้ลงเล่นน้ำอย่างทุกๆวัน”
“หนู เอ่อ ...เอ่อ...”
“ไปกับผมนะครับ ขีโรชา”
ดรัณภพอ้อนทั้งปาก และตา
ขีโรชาใจอ่อนยวบ เมื่อเขายิ้มด้วย มุมปากขวายกสูงกว่ามุมปากซ้ายนิดหนึ่ง คล้ายจะไม่มั่นใจ
“ค่ะ ไปเที่ยวกับคุณก็ได้ ขอบคุณที่ชวน”
ขีโรชากลับขึ้นห้องพัก เพื่อเตรียมตัว
วรานิชตามไปติดๆ
“คิดดีแล้วหรือหรือขิม จะไปกับเขาน่ะ” วรานิชถาม สีหน้าบอกชัดถึงความไม่สบายใจ
“ก็...ไม่เป็นไรไม่ใช่หรือ แค่ไปเที่ยว”
“แค่นั้นจริงๆ ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เรากลัวว่า...”
“นิชกลัวว่าเราจะหลงรักคุณดรัณภพใช่ไหม”
“ใช่” วรานิชรับตามตรง กล่าวต่อว่า “แต่จะกลัวหรือไม่กลัวก็คงไม่มีความหมายแล้ว”
“หมายความว่าไง?”
“หมายความว่าเวลานี้ ขิมหลงรักผู้ชายคนนั้นเข้าไปแล้วน่ะสิ”
“นิช!”