bc

ชุดเล่ห์ซ่อนรัก

book_age16+
143
FOLLOW
1K
READ
revenge
sex
kidnap
family
fated
sweet
bxg
first love
addiction
like
intro-logo
Blurb

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า การปล่อยให้ความขมขื่นเกาะกินใจจนกลายเป็นความแค้น นอกจากจะไม่ก่อประโยชน์อันใด ยังนำมาซึ่งความทุกข์เหมือนจะไม่มีวันสุดสิ้น

แต่กว่าจะสำนึก เขาก็ได้ลิ้มรสชาติของการสูญเสียอย่างแท้จริง!

ความรัก ความแค้น ความเกลียด และความปรารถนาที่พุ่งขึ้นมาในสามัญสำนึกของเขาในเสี้ยวนาที ทำให้เขารุกรานในลักษณะเกือบเป็นบุกตะลุย

หน้าผ่องเผือด ทางตามีน้ำตาไหลริน กระชากความรู้สึกเขารุนแรง

“ขิมจ๋า ผมขอโทษ! แต่ขิมน่ารักเหลือเกิน จนผม...”

เขาวนจุมพิตทั่วหน้าที่วางบนหมอน จูบซับน้ำตาให้ ก่อนมาหยุดนิ่งที่ปาก

ร่างของเขายังไม่แนบลงมาชิด มีแขนทั้งสองยันรับน้ำหนักเอาไว้

ขีโรชารับรู้รสเค็มปะแล่มของน้ำตาตัวเอง ก่อนจะเริ่มสัมผัสความหวานดื่มด่ำของรสจุมพิตอย่างตั้งใจปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาของเธอขึ้นมาอีกระลอกอย่างตั้งใจของชายหนุ่ม

ความเจ็บปวดคลายออกทีละน้อยเหมือนวงกระเพื่อมของน้ำที่ค่อยๆจางหาย

ความหวั่นกลัวในความเจ็บแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น

เธอครางเป็นหอบ เมื่อความแข็งแกร่งที่ยังเหลือของชายหนุ่มเริ่มแทรกซอนเข้าสู่เรือนกายสาว กระทั่งเธอรับเขาไว้ทุกเสี้ยวส่วน รับรู้การกดน้ำหนักตัวของเขาดำเนินไปเป็นจังหวะเนิบๆ แต่เธอยังนอนเฉย สุดแต่เขาจะทำ เพราะปฏิบัติตัวไม่ถูก กระทั่งดรัณภพกระซิบบอกเสียงกระเส่า

“อย่านอนเฉยสิครับคนดี ไปกับผมนะ ขยับด้วยกัน”

เธอทำตาม ด้วยการเริ่มเคลื่อนไหวกายรับจังหวะกับการเคลื่อนส่ายของเขา

เขาคราง เธอก็คราง

เขาบอกให้เธอกอด ให้เธอลูบไล้เขา อย่างที่เขาลูบไล้เธอ เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย

ขีโรชาแทบไม่รู้ตัวเลย ว่าเมื่อเธอหายใจแรงรัวขึ้นตามลำดับ ร่างกายเธอก็เคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างต้องการเร่งให้ชายหนุ่มช่วยบรรเทาความรู้สึกที่กำลังทำเอาเธอใจจะขาดอยู่แล้ว

chap-preview
Free preview
Chapter1 /เล่ห์ซ่อนรัก
“โอย...โลกนี้เป็นของเรา แสนสบายอะไรอย่างนี้ แทบจะรู้สึกเลยนะว่าตัวเรานี้บินได้เหมือนนก” เห็นเพื่อนกางแขนท่านกกางปีกแล้วถลาร่อนทำให้ขีโรชาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เธอเองก็รู้สึกเช่นกัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้มาเที่ยว โดยไม่มีผู้ติดตาม ทั้งนี้เห็นจะต้องยกความดีความชอบให้กับบิดามารดาของเพื่อนสนิท ที่อุตส่าห์ไปขออนุญาตผู้ครองของเธอ รับปากรับคำแทบจะเอาเกียรติเป็นประกันว่าจะช่วยดูแลเธอเป็นอย่างดี “ตัวรู้สึกเหมือนเราไหม ขิม พอสอบเสร็จก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกยังไงยังงั้นเลย” “รู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยก็ลุล่วงไปเปลาะหนึ่ง ทีนี้ก็เหลือแต่รอผลคะแนนว่าจะได้เข้าเรียนคณะที่ต้องการในมหา’ลัย ที่ใฝ่ฝันหรือเปล่า” “อย่างตัวไม่น่ากังวล เห็นขยันออก แถมคะแนนสะสมในแต่ละปีที่ทำเอาไว้ก็ดีระดับหนึ่ง เราสิ สงสัยจะมีโอกาสได้เรียนต่อก็แต่คณะที่คนส่วนใหญ่เขาไม่เลือกกันในมหา’ ลัย ที่ไม่ใช่มหา’ ลัย ดังๆ มีชื่อห้าหกอันดับต้นๆ ของประเทศ” “ที่เราขยันก็เพราะรู้ตัวว่าหัวไม่ค่อยดี ก็ต้องอ่านหนังสือหนักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่หวังหรอกนะว่าจะติดคณะคะแนนสูงๆ ที่พวกระดับหัวกะทิทั่วประเทศพากันเลือก” “ยังไง ตัวก็คงติดพยาบาลที่ไหนสักแห่งล่ะน่า” “ได้จริงก็ดี จะได้สมใจคุณพ่อ อันที่จริง คุณพ่ออยากให้เราเข้าแพทย์ด้วยซ้ำ แต่ทีนี้หัวสมองเราขึ้นไม่ถึง พยาบาลนี่ยังพอมีลุ้น ถึงว่าจะไม่ได้วชิระพยาบาล หรือสภากาชาดไทย ได้ของมหา’ ลัย แม่ฟ้าหลวงก็ยังดี ยังไงพื้นฐานภาษาอังกฤษของเราก็พอกล้อมแกล้มไปได้” “ไปเรียนไกลขนาดนั้น คุณพ่อของตัวจะยอมเร้อขนาดว่าแค่มาเที่ยวชายทะเลกับครอบครัวเราแค่นี้ ยังต้องมีคำรับรองจากพ่อแม่เราทั้งสองคน” สุ้มเสียงวรานิชคล้ายจะเยาะนิดๆ หยันหน่อยๆ ในฐานะเพื่อนสนิท วรานิชพอจะรู้เรื่องความห่วงและหวงบุตรสาว ที่เป็นเพียงบุตรบุญธรรม ของดำรงศักดิ์ กันติทัต เป็นอย่างดี ตั้งแต่รู้จักกันมากับขีโรชา นับวันเวลาก็สิบสองปีเต็ม ตั้งแต่เรียนชั้นประถมจนมัธยม จำได้ว่าพ้นเวลาเรียน ขีโรชาก็จะต้องกลับบ้านพร้อมรถที่มารอรับทุกเย็น หลังจากมาส่งในช่วงเช้า เรื่องจะได้ไปเดินเที่ยวเตร่เพื่อหย่อนใจตามห้างเฉกเช่นเพื่อนๆ ไม่มีอยู่ในโปรแกรมชีวิตประจำวันจันทร์ถึงศุกร์ของเพื่อนคนนี้ แม้กระทั่งงานวันเกิดเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน ขีโรชาก็จะได้รับอนุญาตให้ไปร่วมแต่ในภาคกลางวัน และต้องกลับถึงบ้านก่อนหกโมงเย็น อย่างมากไม่เกินหกโมงครึ่ง ชีวิตที่ดูเหมือนจะถูกอัดเข้ากรอบ กระดิกกระเดี้ยไปไหนไม่ได้ เคยทำให้วรานิชรู้สึกอึดอัดแทน และยังเป็นเหตุให้เพื่อนคนอื่นๆ หายหน้าทีละคนสองคน จนในที่สุดหากคิดจะไปเที่ยว หรือหาเรื่องพักผ่อนหย่อนใจตามประสาวัยรุ่น ก็ไม่คิดจะชวนอีกต่อไป วรานิชเคยถาม... “ตัวไม่อึดอัดมั่งเหรอขิม? ทำอะไรก็ต้องเป็นไปตามตารางเวลาที่คุณพ่อของตัวกำหนดเอาไว้เป๊ะๆ อย่างนี้ จะคลาดเคลื่อน แชเชือนไปไหนนอกจากโรงเรียนหน่อยก็ไม่ได้ หรือถ้ามีความจำเป็นต้องไปเพราะเป็นกิจกรรมที่อาจารย์ทางโรงเรียนกำหนดให้ทำ ก็ต้องมีหนังสือขออนุญาตผู้ปกครองเป็นลายอักษรถึงจะไปได้ เป็นเราละ คงอัดใจตายไปตั้งนานแล้ว” “ไม่หรอก” เสียงตอบอ่อนๆ พอกับรอยยิ้มระบายอยู่ทั่วใบหน้าเรียวนวล บอกว่าคนตอบพูดจากใจ “เราไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนั้น อาจเป็นเพราะว่าชินเสียแล้วก็เป็นได้ อีกอย่างนะ เราก็รู้สึกปลอดภัยดี ถ้าจะไปไหนมาไหนมีลุงถนอมช่วยขับรถรับส่ง ไม่ก็มีป้าฝ้ายไปเป็นเพื่อน” “เป็นไปได้ไหมว่าตัวสั่งความรู้สึกตัวเองให้เคยชิน เพราะอยากเอาใจคุณพ่อของตัว ไม่อยากขัดใจท่าน ไม่อยากทำอะไรที่จะทำให้ท่านรู้สึกว่าตัวไม่เชื่อฟัง” วรานิชยังสงสัย “ทำไมเราจะต้องทำอะไรอย่างนั้นด้วยล่ะ ที่สั่งความรู้สึกของตัวเองอย่างที่ตัวว่า” “เพราะตัวรู้สึกอยู่ตลอดเวลาน่ะสิว่าคุณพ่อคนนี้ของตัว ช่วยให้ตัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องทนอดอยากอยู่กับครอบครัวพ่อแม่ที่ก็ไม่ได้รักใคร่ใยดีตัวสักเท่าไหร่” เห็นสีหน้าของเพื่อนสลดวูบ ตากลมโตมีเงาหม่นที่แฝงไว้ด้วยความขมขื่นพาดผ่าน วรานิชก็รีบเอื้อมมือไปกุมมือเรียวบางกว่าไว้ พูดเร็วด้วยเสียงละล่ำละลัก “เราขอโทษ... เราไม่ได้ตั้งใจจะรื้อฟื้นอดีตความเป็นมาของตัว ให้ตัวต้องคิดมากหรอกนะ จริงๆ” “ไม่เป็นไร” เสียงตอบกลับมาค่อนข้างสะท้าน “เราไม่โกรธหรอก จะโกรธได้ยังไง ก็ในเมื่อมันเป็นความจริง” ความจริงดังกล่าว ขีโรชาเคยเล่าให้ฟังนานแล้ว หลังจากสนิทสนมกันพอจะเป็นเพื่อนแท้กันได้ วรานิชจำได้ไม่ลืม ถึงเสียงเล่าอ่อนเศร้า ความเป็นคนละเอียดอ่อนทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความน้อยใจที่มีความขมขื่นระคนอยู่ “เรายังเด็กอยู่มากตอนนั้น...จำอะไรไม่ค่อยจะได้ ทุกอย่างเหมือนฝันที่ลางเลือน มาแน่ใจว่าภาพมัวๆ ที่เคยแวบเข้ามาในความทรงจำไม่ใช่ฝันก็หลังจากคุณพ่อท่านเล่าให้ฟังก่อนเราจะเข้าเรียนประถมหนึ่ง ท่านเล่าก็เพราะอยากให้เราเข้าใจ ไม่ติดใจสงสัยว่าเหตุใดชื่อพ่อแม่ในทะเบียนเกิดจึงไม่ใช่ชื่อท่าน เราก็เลยได้รู้อย่างหมดข้อสงสัย ว่าก่อนจะมาอยู่ที่กานติคาม เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อ มีแม่ฝ้ายคอยดูแล เราเคยมีครอบครัว มีพ่อมีแม่ และยังมีพี่ๆ น้องๆ อีกตั้งแปดคน อาจจะเพราะมีลูกมาก เราเป็นลูกคนกลางๆ เป็นลูกผู้หญิงคนที่สามในจำนวนห้าคน แถมยังขี้โรค สามวันดีสี่วันไข้อีกต่างหาก พ่อแม่ก็เลยไม่ค่อยจะ...รักเราสักเท่าไหร่ อาจเห็นเป็นลูกที่เกิดมาเป็นภาระ ทำความยากลำบากทับถมพ่อแม่ที่ก็ยากจนอยู่แล้วก็เป็นได้ เพราะคุณพ่อเล่าว่าเมื่อไปพบเราเข้าอย่างบังเอิญนั้น เรากำลังนอนร้องครางฮือๆ ตัวขดงอ เพราะหนาวสั่นเนื่องจากไม่สบาย แต่พ่อกับแม่ก็ดูจะไม่สนใจ ท่านเห็นแล้วก็เวทนา แล้วพอเห็นเราลืมตามองท่าน ท่านก็เกิดถูกชะตาอย่างประหลาด เลยขอเรามาเลี้ยง และพ่อแม่ก็ยกให้ง่ายๆ อาจจะดีใจด้วยซ้ำว่าเราทำให้ท่านได้รับลาภลอยอย่างไม่คาดฝัน เมื่อคุณพ่อมอบเงินให้ไปจำนวนหนึ่ง มากพอจะทำให้ลืมตาอ้าปากได้”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.6K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.3K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook