หลังจากวางสายสไมล์ก็นั่งทานโจ๊กจนหมดเพราะกลัวว่าเบนนี่เพื่อนสาวจะเอาไปฟ้องป๋ามินทร์แล้วเธอจะอดได้ไปเดินเล่นที่ห้างหลายเดือนมาแล้วที่เธอไม่ได้ไปที่ไหนเลย
"หมดเลยเหรอ ว้าว .. นี่อยากออกไปเที่ยวข้างนอกขนาดนั้นเลยเหรอไง"
เบนนี่มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างเหลือเชื่อ ไม่คิดว่าสไมล์จอมดื้อไม่ฟังใครจะมาสยบให้กับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง
"แกก็รู้ว่าฉันอุดอู้อยู่แต่ในห้องมานานมาก ขอออกไปสูดอากาศข้างนอกให้หายเบื่อบ้างสิ"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่แกก็ดูดีๆหน่อยแล้วกัน เดินไปดูไปรอบๆเพื่อความปลอดภัยถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลรีบหนีเลยนะ"
"รู้แล้วจ้าเพื่อนจ๋า"
สไมล์ส่งชามโจ๊กไปให้เพื่อนก่อนจะยิ้มตาหยีจนเบนนี่เห็นต้องหลุดขำออกมา ก็น่ารักแบบนี้ไงล่ะผู้ชายที่ไหนเห็นถึงได้ชอบกันหมด
"ฉันจะไปล่ะแกอยู่ได้ใช่มั้ย"
"งื้อออ จะรีบไปไหนเล่าอยู่เป็นเพื่อนกันก่อน"
สไมล์ร้องห้ามเพื่อนสาว ถ้าป๋ามินทร์มาแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนเธอก่อนล่ะ ตอนแรกคิดไว้ว่าจะพาเบนนี่ไปเป็นเพื่อนด้วยแต่ว่าหนีกลับแบบนี้ไม่ดีเลยนะ
"เดี๋ยวเขาก็มาถึงแล้วนี่อยู่คนเดียวไม่นานหรอก ฉันจะต้องไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้แกอีกนะอย่าลืมสิอยู่กันแบบนี้ไม่ได้ทำอะไรพอดี"
"ก็ได้"
สไมล์ยอมแพ้ปล่อยให้เบนนี่จัดการทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ส่วนเธอก็มานั่งมองประตูลุ้นมากว่าคุณป๋าของเธอจะมาจริงมั้ย
แอ๊ดดดดดดดด
สไมล์เงยหน้ามองประตูยิ้มกว้างเมื่อคนที่เดินเข้ามานั้นเป็นคนที่เธอรออยู่ก่อนแล้ว
"คุณป๋ามาจริงด้วย!!"
"มาจริงสิคะใครเขาโกหกกัน"
ป๋ามินทร์เดินตรงมายืนตรงหน้าหญิงสาวพร้อมกับสบสายตาด้วยแววตาที่อ่อนโยนเขายื่นมือมาลูบผมคนตัวเล็กตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามเสียงหวาน
"เป็นยังไงบ้างดีขึ้นมั้ย"
"ดีขึ้นมากแล้วค่ะ เข่าก็ดีขึ้นแล้วเดินได้สบายมากเลยค่ะ"
สไมล์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดชื่นเธอจะต้องทำตัวแข็งแกร่งชายหนุ่มจะได้พาไปเที่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องมากังวลว่าเธอจะเป็นอะไรขึ้นมาอีกรึเปล่า
"กลัวไม่ได้ไปเที่ยวเหรอ หืม"
ชายหนุ่มเอ่ยแซวขำๆสไมล์พยักหน้ารัวยิ้มแห้งไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเพราะเธอกลัวจริงๆกลัวว่าเขาจะไม่มาหาเธอตามที่พูด
"ไปกันเลยมั้ยคะสไมล์เบื่อโรงพยาบาลแล้ว"
"เอาสิเดี๋ยวรอแมนแปปหนึ่งนะกำลังทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้เราอยู่"
"อ่าว เพื่อนสไมล์ไปแล้วนะ"
"ไม่รู้สิไม่เจอกันเหรอไง"
หญิงสาวเกาหัวอย่างงุนงงทำไมจะต้องไปหลายๆคนด้วยล่ะคนเดียวทำก็ได้มั้ย เธอสะบัดหน้าไล่ความขี้สงสัยของตัวเองออกค่อยๆลุกขึ้นโดยมีป๋ามินทร์ช่วยประคองลงจากเตียงอย่างปลอดภัย
"สไมล์จะไปไหนคะ"
"จะไปเปลี่ยนชุดค่ะ คุณป๋ารอสไมล์แปบนะคะ"
"โอเคผมรอตรงนี้นะ"
ป๋ามินทร์เดินไปส่งสไมล์ที่ห้องน้ำแล้วเดินมายืนรอหญิงสาวตรงโซฟา เขาหยิบโทรศัพท์มากดโทรไปหาลูกน้องเพื่อนสอบถามข้อมูลที่เขาต้องการจะทราบ
"ได้เรื่องมั้ยแมน"
(ผมได้ชื่อนามสกุลของคุณสไมล์มาแล้วครับ ดีที่เรามาถึงก่อนเพราะเพื่อนเธอมาพอดีไม่อย่างนั้นผมก็ไม่กล้าขอดูเอกสาร)
"โอเคดีมาก จัดการให้ด้วยนะ"
(ผมจะส่งให้นักสืบจัดการตามที่ป๋าสั่งครับ ว่าแต่จะไปหรือยังครับ)
ป๋ามินทร์มองไปยังประตูหน้าห้องน้ำที่มีสไมล์อยู่ในนั้นก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"อืม สไมล์กำลังเปลี่ยนชุดขึ้นมาก่อนแล้วกัน"
เขากดวางสายก่อนจะกดโทรศัพท์ดูงานของเขาไปพรางๆระหว่างรอเด็กสาวที่อยู่ในห้องน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ
แอ๊ดดดดดดด
เพียงแปบเดียวสไมล์ก็ออกมาพร้อมกับชุดที่เบนนี่หยิบมาให้เมื่อวานตอนเย็น ทั้งสองหันมาสบตากันก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"งั้นรอเพื่อนหนูแปบเนาะ บอกเพื่อนเราก่อนมั้ยออกไปกับผมสองคนเขาจะเป็นห่วงเอาได้"
"สไมล์ชวนเขาแล้วค่ะแต่ว่าเขาติดงาน แต่ถ้าคุณป๋าไม่สะดวกจะไปกันสองคนงั้นเราค่อยไปวันที่เบนนี่ว่างดีมั้ยคะไปกันเยอะๆจะได้สนุก"
สไมล์ยื่นข้อเสนออีกแบบเธอกลัวเขาจะอึดอัดที่ต้องไปกับเธอสองคน พอคิดไปคิดมามันก็มีนิดหน่อยแหละ เธอเป็นผู้หญิงและป๋ามินทร์เป็นผู้ชายเราสองคนเพิ่งจะเจอกันไม่กี่ครั้งการจะออกไปไหนกันสองคนคงเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเขาและก็แปลกสำหรับเธอด้วย
"ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น คือผมอยากไปกับสไมล์สองคนแต่บอกเพื่อนเราหน่อยเขาจะได้รู้ว่าเรากำลังจะไปไหนเขาจะได้ไม่ห่วงไง"
"อ่ออออ"
สไมล์ร้องอ่อออกมาอย่างเข้าใจ ตอนแรกคิดว่าเขาไม่อยากไปกับเธอสองคนซะอีกเล่นเอาซะเสียเซลฟ์หมด
"โอเคค่ะ"
"นั้นไงมาพอดีเลย"
แมนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเบนนี่ที่ถือถุงยาติดมือมาเยอะแยะไปหมด
"ป๋ามินทร์ไม่เห็นต้องจ่ายก็ได้ค่ะยัยสไมล์มันซุ่มซ่ามเอง อีกอย่างเบิกประกันเอาก็ได้ค่ะ"
เบนนี่มาถึงก็บ่นใหญ่สไมล์เธอมีประกันอยู่แล้วเบิกได้สบายมาก แต่พอเธอลงไปถึงผู้ช่วยของเขาก็ชำระเงินสดไปเรียบร้อยหมดแล้ว
"ไม่เป็นอะไรหรอกมันไม่ได้มากมายอะไร ขอแค่สไมล์ดีขึ้นผมก็โอเคแล้ว"
เขาเอ่ยพร้อมกับมองสบตาเด็กสาวที่ยืนยิ้มเหนียมอายอยู่ตรงเตียงคนไข้ สไมล์หลบสายตาของป๋ามินทร์ที่มองมาเพราะเธอไม่อาจจ้องหน้าเขาตรงๆได้เพราะมันเขินหนักมาก
"ยาอะไรเยอะแยะเนี้ยไม่กินหรอกนะ"
สไมล์ทำหน้าตาไม่อยากทานยามากๆและทุกอย่างอยู่ในสายตาของป๋ามินทร์ เขาเท้าคางมองท่าทางของเด็กสาวด้วยความเอ็นดูคนอะไรก็ไม่รู้น่ารักไปหมด
"ต้องกินยะ! ไม่กินเดี๋ยวก็ได้นอนโรงพยาบาลอีกรอบ"
"ก็ตอนนี้นอนไปแล้วหายแล้วไง"
"หายอะไรกัน... โอ๊ยฉันจะบ้าตายนี่มีเพื่อนหรือมีลูกเนี้ย"
ทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มทั้งสองคนทั้งป๋ามินทร์และแมนต่างมองเด็กสาวสองคนแล้วยิ้มออกมาอย่างเพลินๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองผู้ช่วยของเขาที่มองไปยังสองสาวด้วยสายตาที่อ่อนโยนจนเขาแปลกใจ
"แมน.."
"ครับป๋า"
แมนสะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองหน้าเจ้านายเหมือนว่าสายตาของเขาเหมือนไม่ค่อยพอใจอยู่ในที
"มองใคร..."
"ครับ... อ่อ มองทั้งสองคนแหละครับเธอสองคนดูรักกันดีนะครับ"
แมนเอ่ยแก้เขินจริงๆแล้วเขาชอบมองลูกสาวเจ้าของภัตตาคารมากกว่่ารายนั้นทำงานเก่งมากเขาเจอเธอมานานหญิงสาวเป็นคนทำงานเก่งและคุยสนุก
"อืม ก็ดูรักกันดีแต่นายห้ามคิดกับสไมล์มากกว่าอย่างอื่นเข้าใจมั้ย"
ป๋ามินทร์เอ่ยดักคอผู้ช่วยของเขา เขาพยักหน้ารับคำพร้อมกับยิ้มมุมปาก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหนูสไมล์คือคนที่เจ้านายกำลังสนใจถึงขนาดให้นักสืบตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวเธอทุกอย่างและเขาจะไปมองเธอแบบนั้นได้ยังไงแค่คิดก็แพ้แล้ว
"ครับป๋า.."
"อะแฮ่ม! ไปกันได้แล้วครับสาวๆ เดี๋ยวจะค่ำเอาสไมล์จะไม่ได้เที่ยวเล่นนานน้า"
"เบนนี่ฉันจะไปแล้วนะ แล้วแกไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ"
"ไม่อ่ะไปกันเถอะตามสบายขอให้สนุกนะคะ อย่าลืมที่รับปากนะคะป๋ามินทร์"
"ครับ ผมจะดูแลสไมล์อย่างดีที่สุด"
"ฝากดูอีกแรงนะคะคุณแมน เพื่อนหนูมันดื้อ"
"ง่า ดื้อตรงไหนเล่า!"
"เนี้ยแหละเขาเรียกว่าดื้อ!!"
"ไม่ดื้อน้า คุณป๋าสไมล์ไม่ดื้อน้า"
ป๋ามินทร์ยื่นมือไปลูบผมสไมล์อย่างเอ็นดูก่อนจะจับทั้งสองคนแยกกันเพราะไม่อย่างนั้นได้ทะเลาะกันอีกแน่
"ไม่ดื้อค่ะสไมล์น่ารักจะตาย :)"
"จริงนะคะ เห็นมั้ยฉันน่ารักจะตาย แบร่ๆๆ"