บทที่ 3 ผิดที่ผิดทาง

1757 Words
บทที่ 3 ผิดที่ผิดทาง ห้องทำงาน             ปัง!             “มะ...เมื่อกี้คุณพ่อว่าอะไรนะคะ! ล้มละลายอย่างนั้นเหรอคะ นี่พ่อกำลังโกหกพิมพ์อยู่ใช่ไหมคะ พิมพ์ไม่เชื่อ!! พูดอะไรสักอย่างสิคะคุณแม่!” เป็นพิมพ์พิไลเสียเองที่โวยวายร้องลั่นเมื่อรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอในไม่ช้านี้ หญิงสาวโวยวายเสียงสั่นก่อนจะรีบหันไปหาผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้ช็อกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับความจริงที่ได้รู้             “พ่อก็อยากให้มันเป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนกันลูก แต่โชคร้ายที่มันไม่ใช่! เพราะสามปีที่ผ่านมานี้ธุรกิจค้าพลอยของเรามีคู่แข่งเพิ่มเข้ามามาก พอขาดทุนหนักเข้าพ่อเลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปขอกู้เงินเขาเอามาหมุน แต่จนถึงตอนนี้มันก็ยิ่งขาดทุนหนักขึ้นเรื่อยๆ ดอกเบี้ยจากเงินกู้ก็เพิ่มพูนมากขึ้นทุกวันจนตอนนี้เจ้าหนี้เขาจะมายืดทุกๆ อย่างของเราไปเป็นของตัวเองถ้าหากว่าเราไม่มีเงินไปใช้เขาตามที่กำหนดตกลงกันเอาไว้” เล่ามาถึงตอนนี้สีหน้าของทั้งสามก็ยิ่งเครียดหนักมากขึ้นเข้าไปอีก ไม่มีใครนึกเลยว่าเงินที่เคยใช้กันอยู่อย่างสุขสบายจะแลกมาด้วยหนี้สินอันมากมายถึงเพียงนี้ได้             “แล้วหนี้ที่เราต้องใช้พวกมันเยอะแค่ไหนกันคะคุณ!” แขไขที่เพิ่งจะตั้งสติได้ก่อนใครเพื่อนตัดสินใจเอ่ยถาม แม้ในใจจะไม่อยากรับรู้อะไรเลยสักอย่างก็ตามที             “ถ้ารวมต้นกับดอกในตอนนี้ก็น่าจะสิบกว่าล้านเห็นจะได้” โชคชัยตอบกลับไปตามความเป็นจริงด้วยสีหน้าที่เครียดหนัก แม้ว่ากิจการของเขาจะทำเงินให้ครอบครัวมหาศาลแต่ทว่าเมื่อเจอเข้ากับคู่แข่งขันทางธุรกิจรายได้ที่เคยได้รับสม่ำเสมอมาตลอดหลายปีก็ค่อยๆ ห่างหายไปจนกลายเป็นขาดทุนไปในที่สุด และเมื่อไม่มีเงินมาหมุนเวียนจึงทำให้เขาไม่มีทางเลือกต้องไปกู้เกินเจ้าหนี้มาเพื่อพยุงให้ธุรกิจไปต่อ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอย่างที่เห็น             “สิบล้านบาท!! แล้วนี่เราจะไปหาเงินตั้งมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนกันล่ะคะคุณพ่อ พิมพ์ไม่ยอมนะคะแบบนี้ จู่ๆ คุณพ่อจะมาบอกว่าบ้านเรากำลังจะล้มลลาย นี่ถ้าเพื่อนๆ กับพี่ทินรู้เข้าพิมพ์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะคะ!”นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พิมพ์พิไลคัดค้านเสียงแข็ง เป็นตายร้ายดียังไงเธอก็จะไม่มีวันยอมรับเรื่องบ้าๆ แบบนี้ มันจะต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ ชีวิตของเธอกำลังไปได้สวย เธอมีแฟนที่สาวๆ ต่างก็พากันคลั้งไคล้ มีหน้าตาทางสังคมใครเพื่อนๆ ต่างก็พากันอิจฉา แล้วจู่ๆ จะต้องกลายเป็นคุณหนูตกอับใครเลยจะทำใจยอมรับกับมันได้ลงคอ             “ตอนนี้เห็นทีคงจะมีแค่ทางออกเดียว...”             “ทางออก ทางไหนคะคุณ!!”             “คุณวศินคนที่ปล่อยเงินกู้ให้ผมน่ะสิ เขาบังเอิญไปเห็นรูปยัยพิมพ์ที่โต๊ะทำงานของผมเข้าเมื่อวันก่อน เขาเลยยื่นข้อเสนอมาให้ผม ว่าจะยกหนี้สินทั้งหมดให้แต่ต้องแลกกับให้เราส่งตัวยัยพิมพ์ไปเป็นของขัดดอก” แม้ว่าจะรู้สึกกระดากปากแค่ไหนแต่เพราะมันเป็นหนทางสุดท้ายแล้วจริงๆ โชคชัยจึงตัดสินใจพูดมันออกไปโดยไม่ลังเล             “คุณพ่อ!! นี่คุณพ่อจะส่งพิมพ์ไปเป็นเมียไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้เนี่ยนะคะ ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ เป็นตายร้ายดียังไงพิมพ์ไม่เอา พิมพ์มีแฟนแล้วนะคะคุณพ่อ ไม่เอานะคะคุณแม่!” พิมพ์พิไลตวาดลั่นอย่างหัวเสีย แค่คิดก็รู้สึกขยะแขยงจะแย่ที่จู่ๆ เธอจะต้องกลายไปเป็นนางบำเรอของเจ้าหนี้ที่ไม่รู้ว่าหน้าตาจะน่าเกียจน่ากลัวสักแค่ไหน หญิงสาวยอมตายเสียยังจะดีกว่าต้องทำอะไรที่เสียศักดิ์ศรีทำเรื่องน่าอายแบบนั้น!             “ฉันก็ไม่ยอมนะคะคุณ ยัยพิมพ์แกเป็นลูกสาวของฉัน คุณจะใจดำส่งลูกของเราไปเป็นเมียไอ้เจ้าหนี้หัวงูนั่นได้ลงคอเชียวเหรอคะ”             “คุณคิดว่าผมอยากทำแบบนั้นนักรึไง! ผมก็แค่บอกว่าทางนั้นเขายืนข้อเสนอมาให้มันก็เท่านั้น และถ้าเราไม่รับ เห็นทีทั้งบ้านหลังนี้แล้วก็ทุกๆ อย่างของครอบครัวเราคงต้องถูกฝ่ายนั้นฟ้องร้องเอาไปจนหมด ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วตอนนี้” เมื่อหัวหน้าครอบครัวพูดออกมาแบบนั้นจึงไม่มีใครหล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาอีก จนกระทั่งพิมพ์พิไลนึกถึงใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ขึ้นมาได้จึงได้ตะโกนขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้ม...             “ยัยฟ้ายังไงล่ะคะ!”             “ลูกว่ายังไงนะพิมพ์!”             “ก็ยัยฟ้ายังไงล่ะคะคุณพ่อ ยัยนั่นสวยกว่าพิมพ์ตั้งเยอะ ทำไมพ่อไม่ลองไปคุยกับไอ้เจ้าหนี้ชีกอของพ่อดูอีกทีล่ะค่ะ ลองส่งรูปยัยฟ้าไปให้มันดูก่อนก็ได้ รับรองได้เลยว่าคงถูกใจมันแน่ จริงไหมคะคุณแม่”             “นั่นสิคะ ยัยฟ้าเองก็ยังไม่มีแฟนด้วยคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกล่ะมั้งคะคุณ” แขไขต่อเติมก่อนจะหันไปสบตาลูกสาวอย่างชมเชย ทั้งสองเกือบๆ จะลืมไปแล้วว่ายังมีฟ้าลดาอีกคนที่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆ คนในตอนนี้             “แต่ว่าผม...”             “ไม่รู้แหละค่ะ! ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้คุณส่งตัวยัยพิมพ์ไปให้ใครทั้งนั้น คุณเลือกเอาเองก็แล้วกันนะคะว่าจะทำร้ายพวกเราทุกคนด้วยการมองดูสมบัติตั้งมากมายถูกคนอื่นมาแย่งมันไปต่อหน้าหรือว่าจะยอมยกยัยฟ้าให้มันไป ไปกันเถอะลูกพิมพ์ ปล่อยให้คุณพ่อเขาอยู่กับตัวเองไปสักพักเพื่อว่าจะคิดได้บ้างว่าควรจะยอมเสียส่วนน้อยเพื่อแลกกับคนส่วนมาก!” แขไขตวาดตอบโต้ก่อนจะลุกขึ้นและไม่ลืมที่จะฉุดข้อมือลูกสาวของตัวเองให้เดินตามออกไปด้วยอีกคน แต่ทว่าจุดหมายปลายทางที่ทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าไปอยู่นั้นกลับเป็นสวนหลังบ้านที่ตอนนี้มีร่างบอบบางของหญิงสาวอีกคนกำลังยืนรดน้ำต้นบุหงาส่าหรี ต้นไม้ที่เธอเคยช่วยผู้เป็นแม่ปลูกตั้งแต่ที่มันยังเป็นเพียงต้นกล้าต้นเล็กๆ อย่างตั้งอกตั้งใจทุกๆ คนต่างรู้ดีว่าฟ้าลดารักต้นไม้ต้นนี้มากแค่ไหน หญิงสาวหมั่นรดน้ำพรวนดินจนกระทั่งมันออกดอกเป็นพุ่มๆ ดูสวยให้ได้เห็น แม้จะรู้สึกเสียดายที่แม่ของเธอคงไม่มีโอกาสนี้แต่หญิงสาวก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูแลมันต่อไป             “ทั้งๆ ที่ครอบครัวกำลังจะแย่ แกยังมีหน้ามายืนรดน้ำต้นไม้สบายใจเฉิบอยู่อีกรึไงกันยัยฟ้า!” พิมพ์พิไลไม่รีรอที่จะเอ่ยประชดน้องสาวต่างสายเลือดที่เธอไม่เคยนับอีกฝ่ายเป็นน้องเลยสักครั้งตั้งแต่แรกเห็น             “พี่พิมพ์ว่าอะไรนะคะ”             “ก็จะอะไรซะอีกล่ะย่ะ นี่แกไปมุดหัวอยู่เสียที่ไหนมาถึงได้ไม่รู้ว่าตอนนี้ธุรกิจของพ่อแกกำลังจะล้มลลาย พวกเราทุกคนจะไม่มีแม้แต่ที่ที่จะซุกหัวนอนอยู่แล้วแกรู้ไหม!และถ้าแกไม่เชื่อล่ะก็ ถามพ่อของแกดูเองก็แล้วกัน ไปเถอะลูก” แขไขว่าต่อท้ายก่อนจะฉุดข้อมือพิมพ์พิไลลูกสาวออกไปเมื่อเหลือบไปเห็นสามีที่กำลังเดินตรงมาทางนี้เข้าโดยบังเอิญ ฟ้าลดาไม่รีรอที่จะรีบทิ้งบัวรดน้ำในมือลงพื้นก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อในทันทีที่พบว่าอีกฝ่ายอยู่ไม่ไกลกัน             “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณพ่อ คุณน้าแขไขบอกว่าธุรกิจของพ่อกำลังจะล้มลลายอย่างนั้นเหรอคะ จริงเหรอคะพ่อ!” น้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเป็นใยเอ่ยถามขึ้น       ก่อนจะจ้องมองผู้เป็นพ่อเพื่อรอฟังคำตอบ สีหน้าของลูกสาวคนเล็กนั้นไม่ได้แสดงท่าทีตกใจเหมือนกับคนอื่นๆ หากมันกลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงที่เพียงได้เห็นก็ทำเอาหัวใจของผู้เป็นพ่อเจ็บหนัก..             โชคชัยไม่ได้เอ่ยตอบลูกสาวคนเล็กไปตามตรงแต่กลับเลือกที่จะเดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปยังต้นบุหงาส่าหรี เขายังคงจดจำมันได้ดีถึงวันที่สองแม่ลูกช่วยกันปลูกมันขึ้นมา มือหยาบกระด้างที่บ่งบอกถึงการทำงานหนักมาตลอดทั้งชีวิตค่อยๆ ยกสูงลูบลำต้นที่ตอนนี้แพร่กิ่งก้านใบโตขึ้นตามกาลเวลา ช่างน่าเสียดายที่เดือนแรมภรรยาคนแรกแม่ของฟ้าลดาไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นมันเติบโตมาด้วยกัน             “พ่อจำต้นบุหงาส่าหรีต้นนี้ได้ แม่ของลูกเคยชอบมันมาก แม้กระทั่งวันสุดท้ายเธอก็ยังวานให้พ่อช่วยดูแลมันให้ แต่พ่อก็ทำตามสัญญาที่ได้ให้กับเธอเอาไว้ไม่ได้ พ่อคงเป็นพ่อที่แย่มากแถมยังเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเลยว่าไหม” ฟ้าลดาส่ายหน้าทั้งน้ำตาก่อนจะเดินตรงเข้าไปโอบกอดผู้เป็นพ่อเอาไว้แน่น นานมากจนความทรงจำครั้งสุดท้ายที่ได้กอดผู้ที่ไม่เพียงแต่ให้ชีวิต แต่กลับมอบทุกๆ สิ่งให้ด้วยความเต็มใจไม่เคยปริปากบ่นถึงความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองให้คนในบ้านได้รับรู้ นานมากเสียจนเธออยากจะซึมซับอ้อมกอดนี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะพอทำมันได้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD