บทที่2
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
กระสุน4นัดถูกลั่นไกออกไปอย่างแม่นยำ โชคดีเหลือเกินว่าฟาโรห์นั้นยังมึนงงจากฤทธิ์ยาสลบถึงจะเป็นยาสลบของมนุษย์แต่คาดว่าคงแรงมากจริงๆ แมวเช่นมันจึงสลบไปนานกว่าคนไม่พอยังสะลึมสะลืออยู่มากเลยไม่แตกตื่นกับเสียงดังทั้งที่แมวเป็นสัตว์ที่มีประสาทหูดีมากๆ หากเจอเสียงดังมักจะแตกตื่น จนอาจเตลิดหนีไปก็มีมาก
กระสุน4นัดเจาะเข้าขาของพวกคนเลวทั้ง4คนพอจะสกัดไม่ให้พวกมันไล่ติดตามเธอมาได้ วิ่งออกมาจากตึกสูง5ชั้นแล้วเหรินซินก็หันซ้ายแลขวาตัดสินใจว่าตนเองจะไปทางไหนดีสุดท้ายก็เลือกขวาร้ายซ้ายดี วิ่งไปทางซ้ายจนเจอกับถนนสายหนึ่ง เธอเหลียวมองไปด้านหลังก็พบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า20ชีวิตไล่กวดตามมาเป็นพรวน หญิงสาวถึงกับหน้าตาซีดเผือด
"เจ้าฟาโรห์หากเกิดอะไรขึ้นกับฉันแกต้องหนีไปให้ไกลนะ แกต้องหนีไปให้ได้แล้วหานางทาสหรือนายทาสคนใหม่เสียนะ" เมื่อดูแล้วโอกาสรอดริบหรี่เธอจึงบอกกับเจ้าแมวส้มออกไป
"เหมียว!"
หลังจากจบคำพูดของนางทาสสาว เจ้าฟาโรห์ก็ร้องประท้วงขึ้นทันทีว่ามันไม่คิดจะทอดทิ้งเหรินซินที่เก็บมันมาจากข้างถังขยะเมื่อหลายเดือนก่อน แต่หญิงสาวไม่มีเวลาสนใจอะไรอีกแล้ว กลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นกำลังไล่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิดมองไปข้างหน้าก็เห็นว่าเป็นถนนโล่งพร้อมทุ่งนาไม่มีที่ไหนให้หญิงสาวได้หลบซ่อนตัวได้เลยสักที่ หมู่บ้านก็อยู่ไกลเห็นอยู่แค่เพียงหลังคาลิบลับ หนึ่งแมวกับหนึ่งคนจึงมีแต่ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนต่อไปเท่านั้น
"หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้!"
เสียงคนด้านหลังตะโกนตามมาแต่เหรินซินย่อมไม่โง่เขลาถึงขนาดนั้นที่จะหยุดวิ่งรอให้พวกมันมาจับตัวกลับไปดูแล้วน้องสามีของเธอคนนั้นมันก็ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน หากถูกจับกลับไปเธอได้ตายทั้งเป็นแน่นอน เข้าตำราเนื้อก็ไม่ได้กินหนังก็ไม่ได้รองนั่งแท้ๆ เพราะนอกจากเงินจ้าวลู่เฉินก็ไม่เคยให้อะไรเธอเลย ไฉนเธอต้องมาแบกรับความขัดแย้งของพวกเขาพี่น้องแบบนี้ด้วยนะ ไม่ตายสิ เธอนี่แม่มมันโคตรจะซวยฉิบหายวายป่วงเสียจริง!
"จะหยุดหรือไม่หยุด หากไม่หยุดฉันจะยิ่ง!"
เปรี้ยง!
‘บัดซบ!ไหนบอกว่าหยุดแล้วจะไม่ยิงยังไงละไอ้พวกคนชั่ว!’
เหรินซินสบถในใจลั่นเนื่องจากคนด้านหลังที่ตะโกนบอกให้หยุด หากไม่หยุดมันจะยิง เธอหยุดแล้วมันคนนั้นที่ดูเหมือนลูกพี่ก็ยังคงยิงปืนออกมาคมกระสุนนั้นเฉี่ยวใบหูของเธอไปจนร้อนฉ่า ต่อให้จิตใจกล้าแกร่งแค่ไหนก็ไม่ไหวเหมือนกันขามันสั่นหมดแรงจนเหรินซินจำต้องทรุดร่างลงนั่งย่องๆ จากนั้นเธอจึงวางปืนในมือลงกับพื้นพร้อมกับที่ชูมือขึ้นหนึ่งข้างส่วนอีกข้างยังคงกอดแมวส้มเอาไว้แนบอกเพราะกลัวว่ามันจะแตกตื่นกับเสียงปืนและคนแปลกหน้า
"อาซ้อรอง คุณนี้มันสมควรตายจริงๆ!"
จ้าวป๋อจิ้งที่เพิ่งฟื้นจากการถูกเตะก้านคอวิ่งตามออกมาพร้อมกับท่าทางที่ยังคงกุมลำคอของตนเองไว้ใบหน้าโกรธเคืองเกินร้อย เหรินซินคิดว่าตนเองคงหมดหนทางรอดแล้วจริงๆ แน่ในคราวนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้ได้ตายไปจริงๆ อย่าได้ตายทั้งเป็นเพราะถูกข่มเหงเลย
"หนีไปเถอะนะฟาโรห์"
น้ำตาของหญิงสาวหยดลงมาสองสามหยด คนเราเกิดมาย่อมต้องตายเพียงแต่เธออาจจะอาภัพหน่อยที่เกิดใหม่ได้ไม่นานก็คงต้องตายอีกแล้วและที่น่ากลัวว่าตนเองจะตายไปจริงๆ ก็คือการตายทั้งเป็นเพราะเหตุการณ์ตรงหน้ามีแค่สองทางเท่านั้นหากไม่ตายจริงๆ ดูทรงแล้วเธอก็อาจจะต้องตายทั้งเป็นเพราะถูกน้องชายของสามีคนนี้ข่มเหงเธอแล้วอาจจะนำไปขายตัวต่อไปเสียมากกว่าจะส่งคืนไปให้กับจ้าวลู่เฉินแน่นอน ยิ่งในยุคนี้มีทั้งบ่อนมีทั้งซ่องเถื่อนเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายแค้นเคืองอะไรพี่ชายของตนเองแต่คงเกลียดชังกันไม่ธรรมดาเป็นแน่จึงลงมือกับตนเองแบบนี้
"ไปสิฟาโรห์ อยู่ตรงนี้อันตรายมาก หนีไป!"
แต่เจ้าแมวอ้วนสีส้มกลับไม่ยอมขยับไปไหนต่อให้หญิงสาวปล่อยมันลงจากอ้อมแขนไปแล้ว มันเอาแต่เดินวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอ จนจ้าวป๋อจิ้งและคนของมันเดินมาล้อมเธอเอาไว้ฟาโรห์ก็ยิ่งพองขนขู่ฟ่อพร้อมจะสู้ตายเต็มที่!
ผลัวะ!
ใบหน้าของเหรินซินสะบัดไปตามแรงตบ ก่อนที่เธอจะหันกลับไปมองเจ้าคนชั่วช้าที่กล้าลงไม้ลงมือกับผู้หญิงรสชาติของเลือดแทรกซึมอยู่ในปากบอกได้เป็นอย่างดีว่าขณะนี้ปากเธอคงแตกแน่แล้ว
"คราวแรกฉันก็คิดว่าเธอจะฉลาดกว่านี้เสียอีกที่แท้ก็โง่แบบนี้นี่เอง นังผู้หญิงแพศยาบังอาจมาเตะก้านคอคุณชายสามแบบฉัน!"
'ถุย! แม่นายนะสิแพศยา!'
เหรินซินก็แค่คิดภายในใจเท่านั้นใครจะไปกล้ายั่วยุอีกฝ่ายให้มันทำร้ายเธอมากขึ้นกันเล่า เธอยังไม่ได้อยากตายเร็วถึงเพียงนั้นต่อให้คิดว่าตอนนี้ตายไปยังจะดีเสียกว่าก็ตามเถอะ เกิดเป็นลูกสาวตำรวจน้ำดีก็ตายเร็วไปชาติหนึ่งนี้พอเกิดมามีสามีทั้งที่ยังไม่ทันเผชิญหน้ามาตลอดครึ่งปีก็ยังจะต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ไม่รู้ว่า2คนนี้มีเรื่องอะไรกันสุดท้ายความซวยจึงมาตกลงที่เธอแบบนี้ หากไม่เรียกว่าซวยฉิบหายยังจะเรียกว่าอะไรได้อีกเล่า?!
"มานี่เลยนังตัวดี!"
ไอ้น้องสามีคนชั่วมันจิกผมของเธอกระชากจนเหรินซินถึงกับเซถลาลุกตามขึ้นไปตามแรงฉุดกระชากลากถูนั้นอย่างยากจะขัดขืนได้ แต่พอเธอยืนขึ้นยังไม่ทันจะมั่นคงมันก็ต่อยท้องของเธอลงมาหลายมัดจนหญิงสาวทรุดลงไปนอนตัวงอเป็นกุ้งอยู่บนพื้นอีกครั้ง เหรินซินจุกจนน้ำตาไหลพูดไม่ออกร้องให้คนช่วยยิ่งไม่ไหว สุดจบของเธอลอยอยู่ตรงหน้าแล้วจริงๆ วันนี้
"ลากมันกลับไปฉันจะข่มขืนมันให้ยับแล้วส่งไปขายที่บ่อนที่จิ้งไห่สักครึ่งปีค่อยส่งซากกลับไปให้ไอ้ลู่เฉินมันดู! ฉันจะทำให้ไอ้ลูกหมาลู่เฉินมันได้รู้ว่าอย่ามาแตะผู้หญิงของฉัน และไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมายุ่งกับธุรกิจของจ้าวป๋อจิ้งคนนี้!"
เรื่องผู้หญิงนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องแค่ส่วนเดียวเพราะสำหรับจ้าวป๋อจิ้งแล้วคุณหนูเจียงก็แค่ของที่เขายังไม่ได้กินหากว่าเขาได้กินแล้วคนเบื่อง่ายเช่นเขาก็คงไม่รู้สึกอะไรอีก ที่ทำให้จ้าวป๋อจิ้งเป็นเดือดเป็นแค้นอยู่ตอนนี้ก็เพราะเขาเสียหน้าที่สินค้าทั้งยาและเนื้อสดนั้นถูกทางการจับกุมแล้วไหนจะกิจการไนท์คลับ บ่อน ล่าสุดแม้แต่ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มันเพิ่งริเริ่มก็ยังก้าวหน้า เรียกว่าไอ้ลูกหมานั่นหยิบจับอะไรก็รุ่งเรื่องผิดกับเขาที่มีแต่รุ่งริ่งไปเสียทุกสิ่ง!
แต่ที่จ้าวป๋อจิ้งเจ็บใจที่สุดก็เมื่อ3เดือนก่อนสินค้าล็อตใหญ่ของเขากับน้าชายถูกจับและยึดของกลางไปทั้งหมด เสียหายทั้งเงินและชื่อเสียงไปไม่น้อยพอสืบอยู่พักใหญ่จึงพอจะมีเค้ารางว่าน่าจะเป็นจ้าวลู่เฉินที่ส่งข้อมูลของเขาให้กับคนของทางการได้รู้
จนทางการนั้นสามารถเข้าจับกุมสินค้าของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้หุ้นส่วนหลายคนของเขาไม่พอใจเอามากๆ เขาที่คุยฟุ้งเอาไว้ว่าตนเองเป็นลูกนายพลใหญ่ไม่มีคนของทางการกล้าแตะต้องก็พูดอะไรไม่ออกไปเลยในที่ประชุม แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาแค้นจนอยากฆ่ามันได้อย่างไร ทว่าการตายมันง่ายเกินไปเขาจึงมอบของขวัญให้มันด้วยการตายทั้งเป็นของผู้หญิงที่มันซุกซ้อนเอาไว้จึงนับว่าสาสมมากกว่า
ดังนั้นวันนี้หากเขาไม่ได้'เอาคืน'พี่ชายต่างมารดาเช่นจ้าวลู่เฉินด้วยการข่มเหงย่ำยีภรรยาที่มันพยายามซุกซ่อนมานานถึง3ปีจากนั้นก็ส่งไปขายที่ไนต์คลับที่เมืองซีไห่ให้สำเร็จก็อย่ามาเรียกเขาว่าคุณชายสามอีกเลย
โครม!
"อึ๊ก!"